ตอนที่ 472 : เริ่มต้นงานเทศกาล
เมื่อมังกรอสูรล้มลง อลันก็ได้รับเลเวลมาถึง 9 ระดับในคราวเดียว ไม่ใช่เพียงแค่อลัน สัญลักษณ์บวกได้ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเผ่านาคูจัก รวมทั้งสัตว์ปีศาจด้วย พวกเขาต่างได้รับ 9 เลเวลกันทั้งสิ้น ค่าประสบการณ์จากเอ็นพีซีมังกรอสูรเลเวล 950 นับว่ามหาศาลจนเพียงพอให้เพิ่มระดับเผ่านาคูจักทั้งหมดในที่นี้ และสัตว์ปีศาจที่เข้าร่วมการต่อสู้
“เหอะ ถือว่าแข็งแกร่งจริง ๆ”
อลันมองชุดเกราะตัวเองแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องโพล่งโทสะออกมาเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออก แม้จะมีปัญหายากลําบากไปหน่อย แต่ก็นับว่าสมราคากับค่าประสบการณ์และไอเทมหายากที่ดร็อปจากมังกรอสูร สิ่งแรกคือมาซอทิวนําเอาอัญมณีแห่งปีศาจออกมาทําการดูดซับพลังของมังกรอสูร
“นี่เพียงแค่การฟื้นคืนชีพต้นไม้โลกแห่งมิติสเกลเท่านั้น ยังนับว่าอ่อนแอ กับผู้พิทักษ์ต้นไม้โลกในอนาคตถัดจากนี้จะยิ่งยากลําบากมากขึ้น แต่เจ้าก็ไม่ต้องเป็นกังวล พวกมันแข็งแกร่งแต่เจ้าก็จะแข็งแกร่งไม่แพ้กัน แม้ว่าจํานวนพลังของอัญมณีแห่งปีศาจจะสามารถดูดซับได้อย่างจํากัด แต่เจ้าจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นได้หากได้รับแก่นแท้ของผู้พิทักษ์ นี่คือเหตุผลว่าทําไมชายคนนั้นถึงเชื่อใจเจ้า”
“แล้ว… อีกฝังเรียบร้อยดี?”
อลันเอ่ยถามขณะรับอัญมณีแห่งปีศาจกลับคืน มาซอทิวเอียงศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม
“อีกฝั่ง?”
“ชายสีแดง พวกเรามาพร้อมกลุ่มเผ่านาคูจักจํานวนมากยังล้มผู้พิทักษ์อย่างยากลําบาก แต่ชายคนนั้นไปคนเดียวในมิติอื่นไม่ใช่หรือไง? กับต้นไม้โลกต้นอื่น ก็ต้องมีผู้พิทักษ์คอยคุ้มกันหรือไม่ใช่?”
มาซอทิวหัวเราะคิกคักและตอบคําถามของอลัน
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวลไป เจ้าจําไม่ได้หรือว่าคําทํานายที่มังกรอสูรพูดถึงเมื่อครู่คืออะไร? ก่อนที่ดาร์คลอร์ดจะโรยรา เขาได้หลงเห ลือคําทํานายต้องสาปเอาไว้ และเขาก็คือ “ผู้ลงมือ” ที่จะทําให้คําทํานายนั้นเป็นจริง!
ดวงตาของมาซอทิวเป็นประกายทั้งยังเผยความนอบน้อม กับเอ็นพีซีที่ชั่วร้ายคนนี้ถึงกับเชื่อใจชายสีแดง อีกฝ่ายมีตัวตนแท้จริงคืออะไรกันแน่? อลันครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะถามอีกครั้ง
“งั้นแล้วทําไมชายคนนั้นไม่ไปฟื้นคืนชีพให้ต้นไม้โลกต้นอื่นด้วยเลยล่ะ?”
“จนกระทั่งถึงตอนนี้ เขายังไม่สามารถสําเร็จได้เพราะยังไม่ได้รับความสามารถอย่างเต็มรูปแบบมา ทั้งยังมีอีกเหตุผล หากเขามาเยือนที่นี่ตอนนี้ เขาสามารถโค่นล้มผู้พิทักษ์แล้วทําการฟื้นคืนชีพให้ต้นไม้โลกแห่งมิติสเกลได้ ครั้งก่อนหน้าเขาต้องการกิ่งไม้ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทําการฟื้นคืนชีพต้นไม้โลกของซอแทนดาลอย่างยูซเรีย และนั่นก็เป็นวัตถุที่เกิดขึ้นจากต้นไม้โลกอิกดราซิล ชายคนนั้นพยายามฟื้นคืนชีพยซูเรียที่ซับซ้อนที่สุดก่อน”
“ไม่ใช่ว่าอาร์คเป็นคนฟื้นคืนชีพต้นไม้ต้นนั้นหรือไง?”
“นั่นเป็นเพราะชายคนนั้นทําให้มันเกิดขึ้นยังไงล่ะ”
อลันเกิดอาการไปวูบเพราะคําตอบของมาซอทิว อาร์คถูกชายสีแดงหลอกใช้งั้นหรือ? ปัญหาอันซับซ้อนเริ่มปรากฏขึ้นภายในใจของอลัน อาร์คคือคู่แข่งของอลัน อีกฝ่ายเป็นศัตรูที่อลันต้องการก้าวข้ามแล้วย่ํายีในสักวันหนึ่ง! ความโชคร้ายของอาร์คจะทําให้อลันมีสุขได้ ทว่า เขารู้สึกแปลกประหลาดเมื่อคิดว่าอาร์คถูกชายสีแดง หลอกใช้งาน
“คนที่จะผลักให้อาร์คมันตกลงสู่ความสิ้นหวังคือเรา จะไม่ยอมให้คนอื่นทําเด็ดขาด!”
“อย่าได้ห่วงไป ชายคนนั้นทราบถึงเป้าหมายของเจ้าดี หากเจ้าติดตามเขาต่อไป เป้าหมายของเจ้าจะได้กลายเป็นจริงแน่”
มาซอทิวเอ่ยขึ้นเมื่อเดาได้ว่าเจตนาแท้จริงของอลันคืออะไร
“อะไรคือเป้าหมายแท้จริงของชายสีแดงกันแน่?”
อลันถามด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่ายังไม่เข้าใจ เขาคือคนที่รู้ว่ามีความลับใดที่ยังไม่เป็นที่เปิดเผยของนิวเวิลด์! ในตอนแรกอลันคิดว่าเขาจะได้รับการจ้างงานจากทางโกลบอลเอ็กซอร์ทเหมือนอย่างอาร์ค ทว่าเขากลับต้องเกิดความกังวลเข้ามา ในมิติสเกลแห่งนี้ถึงกับมีมอนสเตอร์บางตัวที่เลเวล 700 เดินเพ่นพ่านไปมา ขณะเดียวกัน มอนสเตอร์ที่ซอแทนดาลกลับเลเวลเพียงแค่ 300 และตอนนี้เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นในนิวเวิลด์ก็อยู่ที่ 250-300 เท่านั้นเอง หากพิจารณาจากจุดนั้นแล้ว มันต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าจะถึงเวลาที่สเกลจะผุดขึ้นสู่โลกกลาง มันคือการออกแบบของระบบเกมที่มีความสัมพันธ์ระหว่างเลเวลของผู้เล่นว่าสามารถรับมือกับมอนสเตอร์ของสเกลได้หรือไม่หากมันปรากฏขึ้นในโลกกลาง
ในนิวเวิลด์ มีกรณีตัวอย่างของซอแทนดาลมาแล้ว เพราะแบบนั้นสเกลก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งที่คล้ายกัน กระนั้นแล้วชายสีแดงยังคิดพยายามใช้ทางลัดเร่งทําการฟื้นคืนชีพให้ต้นไม้โลก
เพราะเหตุผลอะไรที่พนักงานของทางโกลบอล เอ็กซอร์ทถึงปล่อยให้เขาทําได้? นอกจากนี้แล้ว เอ็นพีซียังไม่ได้หน้ามืดตามัวทําตามทุกผู้คนอย่างส่งเดช ไม่ช้า มาซอทิวได้เลี่ยงตอบคําถามเหมือนอย่างทุกครั้งที่อลันถาม
“แค่ติดตามเขาไปก็พอ หากเจ้าภักดีต่อเขา เจ้าจะได้รับความรุ่งโรจน์อันไร้ที่สิ้นสุดเกินกว่าจะจินตนาการถึงได้”
“เอาเถอะ หมอนั่นจะเป็นใครก็ไม่สําคัญ
อลันพยักหน้ารับ อย่างไรแล้วตั้งแต่ที่อลันเลือกเปลี่ยนอาชีพเป็นอัศวินแห่งการล่มสลาย เขาได้ลืมเลือนทุกสิ่งอย่างที่ผู้เล่นทั่วไปพึงมี ไม่สิ เขาไม่อยากกลับไปเป็นแบบนั้นแล้วต่างหาก อลันได้เห็นส่วนหนึ่งจากภูมิความรู้ของชายสีแดงรวมถึงความสามารถของเขา ตามที่มาซอทิวกล่าว เขาจะได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดของนิวเวิลด์ หากติดตามชายสีแดงไป นอกจากนี้เป้าหมายของอลันไม่ใช่เพียงแค่เล่นเกมเอาสนุก เขาต้องการล้างแค้นอาร์คต่างหาก! เมื่องานสําเร็จลุล่วงแล้ว อลันจะได้กลายเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนอื่นและรอคอยเพียงแค่การสังหารอาร์คอย่างเลือดเย็น
“ชายสีแดงจะนําพามาทั้งพละกําลังและอํานาจ!”
“โอ้ การเตรียมงานเรียบร้อยดีใช่หรือไม่?”
มาซอทิวคล้ายนึกขึ้นมาได้ก่อนจะถามไถ่
“ใช่ เพื่อนของผมไปจัดการให้อยู่ที่โลกกลาง”
“อย่าหาว่าข้าแทรกแซงเลยนะ แต่พลังอํานาจคือสิ่งจําเป็นและมีประโยชน์ยิ่ง พลังอํานาจที่บอบบางก็ยังดีกว่าไม่มีอะไร”
“ผมรู้”
งานที่อลันกําลังเตรียมการอยู่คือการสร้างกิลด์ที่ชื่อ “อเวนเจอร์” โดยมีอันเดลเป็นคนจัดการ ตอนนี้อันเดลได้จัดตั้งองค์กรที่รวบรวมผู้แนวระดับแนวหน้าห้าร้อยคนโดยเลเวลล้วนสูงกว่า 300 มาไว้แล้ว แม้ว่าอันเดลจะเลเวลยังไม่ถึง 200 เขาก็ยังสามารถรวบ รวมคนมาได้เพราะสิ่งที่เรียกว่า “เงินตรา” เพราะอย่างไรแล้วนี่ก็คือเกม เงินจะยิ่งทวีอํานาจมากยิ่งขึ้น แม้อันเดลจะเลเวลน้อยและอ่อนแอ แต่เขาทราบดีกว่าใครว่าใช้เงินอย่างไรให้มีประโยชน์ อลันที่เผยความเชื่อมั่นจึงทําให้มาซอทิวพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ
“หากเจ้าว่าเช่นนั้นข้าก็เชื่อเจ้า แต่อาจมีปัญหาได้หากเงินทุนขาดแคลน ไอเทมที่ดร็อปจากมังกรอสูรน่าจะพอช่วยได้ไม่มากก็น้อย”
“ขอบคุณ”
“งั้นพวกเราก็ไปกันเลยแล้วกัน ยังมีภูเขาที่พวกเราต้องข้ามไป อีกเพื่อทําการฟื้นคืนชีพต้นไม้โลก พวกเราจะช้ากว่าคนที่ไปทํางานเพียงคนเดียวไม่ได้จริงไหม?”
“ผมรู้น่า”
อลันและมาซอทิวออกคําสั่งกําลังทหารพร้อมเคลื่อนพลไปยังสถานที่ถัดไป อย่างไรแล้วตอนนี้สิ่งที่รบกวนใจอลันไม่ใช่ผู้พิทักษ์
“รอก่อนเถอะอาร์ค! วันของนายใกล้หมดลงแล้ว! ไม่ช้ามิติสเกลจะผุดขึ้น ถึงตอนนั้นเตรียมรับงานเทศกาลที่บังอาจเมินเฉยฉันคนนี้ได้เลย เทศกาลนองเลือด!”
ปัง ปัง ปัง ปัง!
ดอกไม้ไฟที่งดงามระเบิดออกท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ําคืน ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อน เพราะแบบนั้นโบซากะที่เป็นเมืองชายหาดจึงเต็มไปด้วยความครื้นเครงของงานเทศกาลที่กําลังเริ่มขึ้น โบซากะเป็นเมืองที่ติดกับชายฝั่งของบริสทาเนีย เพราะแบบนั้นในละแวกใกล้เคียงจึงไม่มีมอนสเตอร์พิเศษโผล่ออกมา เพราะหาดทรายสุดสายตานี้มีเสน่ห์ยิ่ง นักท่องเที่ยวจํานวนมากจึงไหลหลั่งมาในช่วงฤดูร้อนเช่นนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทําให้โบซากะจัดงานเทศกาลขึ้นมาในช่วงฤดูกาล เมื่องานเทศกาลเข้าถึงจุดขีดสุด โบซากะก็ไม่ต่างอะไรกับหม้อที่มีสิ่งของหลายอย่างอัดแน่นเข้าด้วยกัน ธงจํานวนมากของแต่ละประเทศต่างโบกสะบัดพลิ้วไหวเด่นเป็นสง่าทั่วทั้งเมือง ทั้งนักร้องและนักดนตรีต่างเดินแถวกันตามถนนโชว์ฝีไม้ลายมือกันยกใหญ่ พาหนะของผู้คนมากหน้าหลายตาก็สามารถพบเห็นได้ที่ประตูเมืองและศูนย์กลางของเมือง ทั้งยังมีขบวนพาเหรดที่สีสันสดใสงดงามอย่างที่ยากจะพบเห็นในความเป็นจริง! เพราะเหตุนี้เอง ทั่วทั้งโบซากะจึงเต็มไปด้วยผู้คนจนแทบไม่มีที่ทางให้เดิน
วีด! ตู้ม!
เสียงของดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นสูงในโบซากะก่อนจะระเบิดออกปรากฏเป็นดอกไม้แสงสีสดใสเด่นท่ามกลางท้องฟ้า ไม่ช้า แสงพลันสองวูบที่ยอดหอคอยเสียดฟ้าของสมาคมเวทมนตร์ แสงสว่างนี้เกิดประกายไฟเล็กน้อย มันคือการทํางานของเครื่องเคลื่อนย้ายที่ติดตั้งเอาไว้ในหอคอย แสงนั้นเคลื่อนผ่านมาคล้ายหลอดแก้วขณะเวทมนตร์ทอประกายระยิบระยับ คล้ายทรายเริ่มร่วงหล่นภายในนาฬิกาทราย แสงและทรายเริ่มรวมตัวกันเกิดขึ้นเป็นร่างบุคคล เป็นผู้เล่นที่สวมใส่ชุดเกราะหนังดูแปลกประหลาด อาร์คนั่นเอง
“ยินดีต้อนรับสูงานเทศกาลโบซากะ!”
ทันทีที่ร่างของอาร์คปรากฏ กลุ่มคนที่ถือช่อดอกไม้ก็พลันเข้ามารุมล้อม พวกเขาเหล่านี้เป็นประชากรของเมืองที่มารอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ใช้งานจดหมายเคลื่อนย้าย ทว่า อาร์คเพียงหาทางหลบด้วยสีหน้าหวาดกลัวขณะวิ่งหลบเข้ามุมหนึ่ง
“อะ-ออกไปก่อนครับ! อัก!”
เขาพยายามเอาตัวแนบกําแพงเดินไปขณะคล้ายจะอาเจียนเอาเครื่องในออกมาเพราะผลกระทบจากการเคลื่อนย้าย
“บ้าฉิบ รู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้
เพื่อมายังโบซากะ อาร์คเลือกวิธีการที่รวดเร็วที่สุดจากสมาคมเวทมนตร์สาขาซิเอลมายังโบซากะ ระบบจดหมายเคลื่อนย้ายถูกสร้างขึ้นที่ชายหาดทางตะวันตกเป็นหลัก ตอนนั้นเมืองโบซากะยังไม่ได้รับความนิยม แต่เพราะลอร์ดแห่งโบซากะได้ร้องขออนุญาตทําการติดตั้งระบบจดหมายเคลื่อนย้ายเป็นการชั่วคราวในช่วงเทศกาล เพราะเป็นของที่ใช้งานชั่วคราว มันไม่น่าประหลาดใจนักหากเขาอยากจะอาเจียนออกมา!
“นี่มันแย่กว่าจดหมายเคลื่อนย้ายของแจ็คสันเกือบสิบเท่าเลยนะเนี่ย! อีก!”
เพราะมันเป็นแค่การติดตั้งชั่วคราวเลยไม่สนถึงเรื่องความสะดวกสบายและความปลอดภัยหลังใช้งาน! เพราะเหตุนั้น อาร์คจึงหัวหมุนขึ้นลงไปมากว่าห้านาทีเห็นจะได้
ท่านติดอาการวิงเวียน
ช่างเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจนัก
“จะไม่ขอใช้ไอ้ระบบบ้า ๆ นี่อีก!”
ครั้งนี้ที่เขายอมใช้ก็เพราะต้องการมาถึงโบซากะเป็นการเร่งด่วน เพราะวิธีการเดินทางด้วยจดหมายเคลื่อนย้าย เขาจึงสามารถมาถึงโบซากะได้ภายในเวลาเพียงแค่ห้านาที หลังกล้ํากลืนอาการอยากอาเจียนจนหายดีแล้ว อาร์คก็โพล่งเสียงขึ้น
“ราดัน เอาดวงตาของบุคซิลมา!”
ชื่อ ชื่อ ชื่อ ชื่อ!
หลังจากราดันพ่นดวงตาของบุคซิลออกมา อาร์คก็ตะโกนใส่
“บุคซิล ได้ยินไหม? บุคซิล ตอบด้วย!”
“ครับ เอ? อะ-อาร์คนิม!”
หลังจากเขย่าไปมาหลายครั้ง ดวงตานั้นก็คล้ายเพิ่งปรับสภาพการมองเห็นได้ ดวงตานั้นมองอาร์คด้วยอาการโง่งมผ่านทางสายตาก่อนจะเริ่มแก้ตัว
“อาร์คนิมอยู่ที่นี่… เอ้ย! คะ คือว่าตอนนี้ อุ้บ!”
“ฉันรู้เรื่องแล้ว! อย่าพูดมากความแล้วตอบมา! นายอยู่ที่ไหน?”