กลุ่มกลับไปที่โรงแรมพร้อมกับอาหารมากมาย นี่ควรจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้รอดชีวิตที่เหลือ อย่างไรก็ตาม ผู้รอดชีวิตที่อยู่ในโรงแรมก็สังเกตเห็นว่าบรรยากาศนั้นดูหม่นลงเล็กน้อยและมันก็มีบรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อยล้อมรอบกลุ่มที่กลับมา
พวกเขากลับมาเหมือนตอนจากไป มันไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้มันก็ยังมีอาหารเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย แต่ทำไมบรรยากาศถึงกลับกลายเป็นแบบนี้?
จากนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นว่ามันมีบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากเดิม นอกจากเว่ยเผิงและเยาวชนอายุสิบแปดปีที่ชื่อลู่อันแล้ว คนอื่นๆก็ล้วนแล้วแต่เว้นระยะห่างจากถังเส้าหยาง
มันแปลกมาก ในตอนที่พวกเขาจากไป ทุกคนก็ดูใกล้ชิดสนิทสนมกับถังเส้าหยางราวกับว่าพวกเขากำลังประจบประแจงถังเส้าหยาง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้พวกเขาก็กลับพยายามรักษาระยะห่างจากถังเส้าหยาง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ทุกคนในโรงแรมต่างก็สงสัย
ช่างแปลกเหลือเกินที่ลู่อันเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ดูจะใกล้ชิดกับถังเส้าหยางเป็นพิเศษ เขากำลังสนทนา… ไม่สิ เขากำลังพูดกับถังเส้าหยางอย่างต่อเนื่องแม้จะได้รับคำตอบเพียงเล็กน้อยจากถังเส้าหยางก็ตาม
นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นจากมุมมองของพวกเขาเท่านั้น และแน่นอนว่ามันก็ไม่ใช่แค่คนที่อยู่ในโรงแรมเท่านั้นที่สังเกตเห็นปัญหานี้ ถังเส้าหยางเองก็ทราบด้วยเช่นกันว่าคนเหล่านี้นั้นเริ่มที่จะรักษาระยะห่างจากเขา
แต่เขาก็ไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้เพราะเขารู้เหตุผลอยู่แล้ว คนพวกนี้ไม่เห็นด้วยกับความโหดร้ายของเขา และหลังจากที่ได้เห็นการสังหารหมู่ คนเหล่านี้ก็กลัวเขา พวกเขารักษาระยะห่างเพราะลัวว่าพวกเขาจะเผลอมาทำให้เขาโกรธและฆ่าพวกเขาทิ้งเหมือนกับกลุ่มของลู่กัง
กลุ่มมุ่งหน้าไปที่ล็อบบี้ภายใต้การนำของถังเส้าหยาง ทันทีที่พวกเขามาถึงล็อบบี้ ถังเส้าหยางก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาและพูดกับลู่อัน “ ไปเอาน้ำร้อนและผ้าเช็ดตัวมาให้ฉันที!”
“ ครับผม!” ลู่อันตอบอย่างตื่นเต้นและรีบวิ่งเข้าไปในโรงแรมเพื่อไปเอาน้ำร้อนมาในทันที ในขณะเดียวกัน เว่ยเผิงที่ยืนอยู่ข้างหลังถังเส้าหยางและทั้งล็อบบี้ก็ตกอยู่ในความเงียบสงัดขณะที่ลู่อันหายไป
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ถังเส้าหยางก็ส่ายหัวด้วยความผิดหวัง เขาคิดว่าเขาจะสามารถรับคนพวกนี้มาเป็ลูกน้องได้ แต่ตอนนี้มันก็ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเปลี่ยนแผนแล้ว
“ ทำไมพวกนายถึงยังอยู่ที่นี่อีก ไปแบ่งอาหารให้กับสาวๆและเด็กๆซะสิ!” ในขณะที่เขาพูดอย่างนั้น ถังเส้าหยางก็ได้โยนกระเป๋าเป้เปล่าสองใบให้กับเว่ยเผิง “ เติมกระเป๋าของฉันด้วย!”
หลังจากพูดเสร็จ เว่ยเผิงก็ได้นำพวกที่เหลือไปจัดสรรเสบียง มันไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากของเขา และนั่นก็ยิ่งทำให้ผู้รอดชีวิตที่อยู่ในโรงแรมเริ่มสับสนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อคำพูดเข้ามาในหูของพวกเขา ผู้รอดชีวิตก็ตามพวกเขาไปในทันที พวกเขาปล่อยให้ถังเส้าหยางอยู่คนเดียวในล็อบบี้
“ หมดหวังแล้วสินะ…” ถังเส้าหยางพึมพำด้วยเสียงต่ำ แม้จะประสบกับการกดขี่ข่มเหงของลู่กัง แต่คนเหล่านี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง คนเหล่านี้ยังคงไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันได้
“ เจ้านายครับ ผ้าเช็ดตัวกับน้ำร้อนมาแล้ว!” หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เสียงที่ฟังดูตื่นเต้นของลู่อันก็ดังขึ้น เขานำกะละมังที่มีน้ำร้อนและผ้าเช็ดตัวสองผืนมาวางบนบ่าของเขา เขาวางมันลงและวางผ้าเช็ดตัวไว้ข้างหน้าถังเส้าหยาง
“ คนอื่นๆไปไหนกันแล้ว?” ลู่อันถามขณะที่เขามองบริเวณโดยรอบ
“ พวกเขาไปจัดการเรื่องอาหาร นายก็ไปช่วยพวกเขาด้วยสิ!” ถังเส้าหยางโบกมือให้ลู่อัน
“ รับทราบ~” จากนั้นลู่อันก็หันหลังกลับและเดินออกไป
ในกลุ่มนี้ มันมีเพียงลู่อันเท่านั้นที่ไม่กลัวเขา อย่างไรก็ตาม ลู่อันก็อ่อนแอที่สุดในกลุ่มเช่นกัน “ เอาเถอะ ไม่ว่าผู้ชายคนนี้จะอ่อนแอสักแค่ไหน แต่เขาก็สามารถเลเวลอัพได้ตราบเท่าที่เขาฆ่าซอมบี้ และถ้าเขาต้องการติดตามฉัน ฉันก็สามารถช่วยเขาได้นิดหน่อยในเรื่องนั้น… “
ถังเส้าหยางพึมพำในขณะที่มือของเขาเอื้อมมือไปที่ผ้าเช็ดตัว เขาเอาผ้าขนหนูจุ่มลงในน้ำร้อน จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อสีดำของเขาออก ที่ไหล่ขวาของเขามีบาดแผลและรอยคราบเลือด
ใช่แล้ว ถังเส้าหยางเส้าหยางได้รับบาดเจ็บมาจากลูกน้องของลู่กังที่ยิงปืนมาที่เขา และตอนนี้แผลก็ใกล้จะปิดสนิทแล้ว
ถังเส้าหยางรู้สึกประหลดใจเล็กน้อย เวลาผ่านไปยังมึ่งวัน แต่บาดแผลของเขาก็เกิแบจะปิดสนิทแล้ว พูดตามความจริง นี่ก็ควรจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี เติดก็ตรงที่ว่าลูกกระสุนมันยังคงฝังอยู่ในบาดแผลของเขา
หลังจากตรวจสอบบาดแผลเสร็จเขาก็ถ่างบาดแผลที่เกือบจะหายสนิทของเขาด้วยมือข้างซ้ายขณะที่สองนิ้วของเขาเจาะเข้าไปในกล้ามเนื้อของเขาทีละน้อย เขาขุดกระสุนออกจากร่างกายของเขา โชคดีที่กระสุนไม่ได้ฝังเข้าไปลึกมาก ดังนั้นเขาจึงสามารถดึงมันออกมาได้อย่างง่าย
ในระหว่างกระบวนการ ถังเส้าหยางก็ทำแค่เพียงขมวดคิ้วเท่านั้น เขาโยนลูกกระสุนลงในอ่างแล้วเช็ดคราบเลือดบนไหล่ของเขาด้วยผ้าร้อน จากนั้นไม่ถึงนาทีเลือดก็หยุดไหล
“ นี่คือเอฟเฟ็คของค่าพลังชีวิตสินะ… ” เขารู้สึกประหลาดใจกับร่างกายของเขาเมื่อนึกถึงคำอธิบายของค่าคุณสมบัติพลังชีวิต มันเป็นการเพิ่มความสามารถในการรักษาอย่างแท้จริง “ ฉันควรจะจัดสรรคะแนนค่าคุณสมบัติไปที่ค่าคุณสมบัติพลังชีวติเพิ่มอีกดีไหมนะ?”
***
หลังจากที่กลุ่มกลับมา บรรยากาศก็ดูแปลกไปจริงๆ อย่างไรก็ตาม ถังเส้าหยางก็ไม่ได้กังวลกับมันในขณะที่เขาเลือกห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน
วันรุ่งขึ้น ถังเส้าหยางและผู้รอดชีวิตมารวมตัวกันที่ล็อบบี้อีกครั้ง
“ ฉันจะออกเดินทางต่อ!” ถังเส้าหยางประกาศอำลาเหล่าผู้รอดชีวิต ผู้รอดชีวิตที่มารวมตัวกันที่ล็อบบี้ส่วนใหญ่คนหนุ่มสาว
เมื่อมาถึงตอนนี้ ผู้รอดชีวิตทุกคนก็รู้ดีถึง ‘เหตุการณ์’ ของเมื่อวานแล้ว ถังเส้าหยางสามารถรู้ไดจากแววตาของผู้หญิง ความกังวลและความกลัวนั้นชัดเจนเพราะพวกเธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขาเลย เขาเข้าใจว่าความกลัวเขานี้คงจะผสานเข้ากับความกลัวที่มีต่อลู่กังก่อนหน้านี้ไปแล้ว
หลังจากประสบกับการปกครองแบบเผด็จการของลู่กัง พวกเขาก็กลัวว่าเขาจะทำแบบเดียวกัน ปกครองพวกเขาด้วยกำลังเหมือนที่ลู่กังเคยทำมาก่อน ซึ่งคนพวกนี้ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก
แน่นอนว่าเขานั้นแตกต่างจากลู่กัง เขามีความคิดที่จะปกครองคนโดบชอบธรรม อย่างไรก็ตาม ผลมันก็ออกมาแล้ว และเขาก็คงจะไม่สามารถไปเปลี่ยนความคิดของพวกเขาได้
“ ถ้าใครจะตามฉันมาก็ไปเก็บของซะ ฉันจะจากไปหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง!” ถังเส้าหยางกล่าวเสริมอย่างไม่ใส่ใจ
เนื่องจากคนเหล่านี้กลัวเขาแล้ว ดังนั้นเขาก็จึงเลือกที่จะจากไป ตอนแรกเขาต้องการที่จะพาคนเหล่านี้ไปด้วย แต่เขาก็ต้องเปลี่ยนใจหลังจากเห็นปฏิกิริยาของคนเหล่านี้หลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน
เขาต้องการที่จะทำให้พวกเขาติดตามเขาด้วยความเต็มใจ แต่ตอนนี้มันก็คงจะยากแล้ว เขาและคนเหล่านี้มีมุมมองที่แตกต่างกัน พวกเขายังคงไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่โหดร้ายนี้ได้ ฆ่าหรือถูกฆ่า นี่เป็นแนวคิดเดียวที่เหลืออยู่บนโลก
ความเงียบตามมาหลังจากการประกาศของถังเส้าหยาง ความลังเลปรากฎขึ้นในแววตาของคนทุกคน ไม่ต้องสงสัยเลย พวกเขาต้องการใครสักคนเช่นถังเส้าหยาง แต่ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ยังคงกลัวพลังที่ถังเส้าหยางครอบครอง
“ ทะ ท่านถัง… คะ- คุณอยากไปไหนหรอ คะ- คุณจะไปที่ศูนย์พักพิงรึเปล่า” หลังจากนั้นไม่นาน เว่ยเผิงก็รวบรวมความกล้าแล้วถามออกไปอย่างประหม่า
เว่ยเผิงและคนอื่นๆคิดว่าทางการนั้นอาจจะตั้งศูนย์พักพิงไว้ที่ใดที่หนึ่ง และพวกเขาก็หวังว่าถังเส้าหยางจะพาพวกเขาไปที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้ การอยู่ภายใต้การปกครองนั้นย่อมดีกว่าการติดตามกลุ่มอันธพาลอย่างลู่กังหรือถังเส้าหยาง
เว่ยเผิงกล่าวกับถังเส้าหยางด้วยความเคารพมากกว่าเมื่อวาน เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำตัวให้เป็นมิตร
“ อืม!” ถังเส้าหยางพ่นลมหายใจออกมาเมื่อเขาได้ยินเว่ยเผิงเรียกเขาว่า “ ท่าน ”
เว่ยเผิงสะดุ้งด้วยความกลัวในขณะที่ผู้คนที่เห็นความโหดร้ายของถังเส้าหยางก็ตกใจกลัวเช่นกัน
“ ฉันจะไม่ไปที่ศูนย์พักพิงใดๆทั้งนั้น จุดหมายของฉันคือโรงเเรม ฉันจะเข้าครอบครองโรงเเรมฉางโจวและสร้างที่พักพิงที่นั่น” ถังเส้าหยางบอกแผนของเขา
ใช่ แผนของเขาคือการเข้าครอบครองโรงแรมฉางโจว โรงแรมสุดหรูแห่งนี้จะเป็นปราสาทของเขา มันคือก้าวแรกในการสร้างจักรวรรดิของเขา มันอาจฟังดูโง่ที่จะเดินทางไกลเพียงเพื่อไปครอบครองโรงแรมที่เต็มไปด้วยซอมบี้ แต่ถึงอย่างงั้นถังเส้าหยางก็คิดว่ามันคุ้มค่า
แต่ก่อนที่ซอมบี้จะปรากฏตัว เขาก็อาศัยอยู่ในห้องพักเล็กๆแคบๆเหม็นๆ แต่ตอนนี้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว พวกซอมบี้ได้ก่อให้เกิดความโกลาหลทุกที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับเขา การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ถือเป็นโอกาส โอกาสที่จะได้เปลี่ยนชีวิตของเขา
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีโอกาสได้พักในโรงแรมหรูมาก่อนเลย แต่ตอนนี้เขาก็สามารถทำทุกอย่างที่เขาต้องการได้แล้ว เมื่อกฎระเบียบของโลกได้พังทลายลง มันก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะสร้างกฎระเบียบใหม่ให้กับโลกใบใหม่นี้
ยิ่งไปกว่านั้น ซอมบี้ก็เริ่มที่จะอ่อนแอเกินไปสำหรับเขา ดังนั้นการออกล่าพวกมันที่นี่จะทำให้เขาได้กำไรช้าลงไป
เมื่อผู้คนได้ยินสถานที่ที่ถังเส้าหยางพูด พวกเขาก็อ้าปากค้าง
ผู่ตงนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่นที่สุดในเมือง SH แล้วมันหมายความว่าอะไร? มันก็หมายความว่ามันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยซอมบี้ยังไงล่ะ คนเหล่านี้รู้สึกปลอดภัยเมื่อถังเส้าหยางทำความสะอาดซอมบี้รอบๆที่นี่ แต่ตอนนี้ถังเส้าหยางก็กลับต้องการพาพวกเขาไปยังที่ที่เต็มไปด้วยซอมบี้
ความเงียบอันน่าขนลุกปรากฎขึ้นทั่วทั้งล็อบบี้ขณะที่เว่ยเผิงเองก็ไม่แน่ใจว่าจะตอบสนองต่อคำประกาศที่กล้าหาญนี้อย่างไรดี เขาต้องการปฏิเสธ แต่เขาก็กลัวว่าถังเส้าหยางจะโกรธเอาถ้าเขาปฏิเสธที่จะทำตาม
ในเวลานี้ เด็กหนุ่มลู่อันก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดเสียงดัง “ บอสถัง ให้ผมได้ตามคุณไปด้วยเถอะ!”
ในบรรดาผู้รอดชีวิต มันก็มีเพียงลู่อันเท่านั้นที่ไม่เปลี่ยนแปลง เขายังคงเหมือนเดิมแม้หลังจากที่ได้เห็นถังเส้าหยางฆ่าลู่กังและคนของมัน
“ ดี ไปเตรียมตัวและเตรียมอาหารเช้าให้ฉันด้วย ฉันจะไปล้างตัวสีกหน่อย! หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว เราก็จะไปกัน” ถังเส้าหยางลุกขึ้นจากโซฟาขณะที่เขาสั่งลู่อัน
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปหลังจากการประชุมที่ล็อบบี้จบลง ถังเส้าหยางและลู่อันเดินทางออกไปจากโรงแรม เขาไม่ได้ของให้พวกเขาติดตามเขาไป
พวกเขาเดินขึ้นไปทางเซ็นทรัลปาร์คทางตอนเหนือ โรงแรมฉางโจว ตั้งอยู่ด้านหลังเซ็นทรัลปาร์ค ดังนั้นเพื่อไปให้ถึงโรงแรมฉางโจว พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องผ่านเซ็นทรัลปาร์คขนาด 1,400,000 ตารางเมตรซะก่อน