ลู่อันถูกจับโยนโดยไม่ทันได้เตรียมตัว เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าบอสถังจะโยนเขาออกไปแบบนี้ เขาหลับตาลงโดยไม่รู้ตัวและเอาแขนปิดหน้าเอาไว้ เขาไม่ต้องการลงจอดโดยให้ใบหน้าของเขากระแทกกับพื้น
ในขณะที่เขาร่อนลงบนพื้นแข็ง เขาก็พยายามจะม้วนตัว อย่างไรก็ตาม เขาก็ล้มเหลวและลงกับพื้นด้วยแขนที่แข็งกระด้าง เขารู้สึกเจ็บแสบร้อน แต่เขาก็ลุกขึ้นมาในทันที
ลู่อันลืมตาขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าฉากโดยรอบนั้นแตกต่างออกไป เขาไม่ได้อยู่ในสวนสาธารณะที่มีหมอกหนาอีกต่อไปแล้ว แต่สภาพแวดล้อมโดยรอบนั้นกลับปลอดโปร่งไร้หมอก และเขาก็เห็นถนนใหญ่ที่ว่างเปล่า
ด้านข้างก็มีอาคารว่างเปล่าขนาดใหญ่มากมายเรียงราย เมื่อฉากนี้ปรากฏต่อหน้าเขา เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้ออกมาจากสวนสาธารณะที่มีหมอกหนาแล้ว ความตกใจนี้กลายเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ เขาหันกลับมาทันทีเพื่อแจ้งให้ถังเส้าหยางทราบว่าทางออกนั้นอยู่ทางนี้
เขาหันกลับมา แต่เขาก็ไม่พบถังเส้าหยาง มันมีหมอกหนาบดบังสายตาของเขาอยู่ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังเห็นเงาร่างสูงอยู่ในหมอก เขาจำร่างสูงได้ว่านั่นคือบอสของเขา อย่างไรก็ตามมันก็มีเงาอื่นๆอีกมากมายล้อมรอบร่างสูง
“ บอส!!!ทางนี้! ทางนี้!” ลู่อันตะโกนออกมาอย่างสุดลม เขาหวังว่าถังเส้าหยางจะได้ยินเขาและมุ่งหน้ามาหาเขา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ลู่อันเห็นนั้นก็ไม่ใช่ภาพที่ถังเส้าหยางกำลังวิ่งเข้ามาหาเขา แต่มันเป็นภาพของถังเส้าหยางที่กำลังกวัดแกว่งอาวุธขาดใหญ่ของเขาไปมาอย่างบ้าคลั่ง
“ บอส! ฉันออกมาจากสวนแล้ว! มานี่สิ! มานี่!” เขายังไม่ยอมแพ้และตะโกนอีกครั้ง ลู่อันคิดว่าถังเส้าหยางไม่ได้ยินเขาในขณะที่เขาตะโกนต่อไป
ถังเส้าหยางไม่ได้ยินเสียงของลู่อันหรอ? ไม่เลย ที่จริงแล้วถังเส้าหยางนั้นได้ยินเสียงตะโกนอย่างชัดเจน แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ออกไปจากสวน เขาได้ยินแล้วว่าลู่อันนั้นออกจากสวนได้สำเร็จแล้ว และเขาก็เห็นแล้วว่าพวกลิงเองก็หยุดไล่ตามู่อันไปแล้วเช่นกัน
และทันใดนั้นเอง เขาก็นึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง ลิงจะไม่ไล่ตามเขาออกจากสวน นั่นหมายความว่าลู่อันปลอดภัยจากลิงกลายพันธุ์ที่วิวัฒนาการพวกนี้แล้ว และตอนแรกเขาก็วิ่งหนีเพราะลู่อัน แต่ตอนนี้ลู่อันปลอดภัยแล้ว ดังนั้นมันจึงถึงเวลาแสดงความสามารถในต่อสู้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอบข้าง
เช่นเดียวกับซอมบี้ เขาถือว่าลิงเป็นแหล่งที่มาของความแข็งแกร่งของเขา เขาสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยการฆ่าพวกมัน แม้ว่าลิงที่วิวัฒนาการแล้วจะแข็งแกร่งกว่าซอมบี้ข้างนอกนั่น แต่ลิงพวกนี้ก็ยังอยู่ขอบเขตที่เขาสามารถจัดการได้ไหว
เดสทรอยเยอร์อาจไม่ใช่อาวุธที่เหมาะสมในการต่อสู้กับลิงที่ว่องไว แต่การเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์แต่ละครั้งนั้นก็จะบดขยี้ลิงไปประมาณสามถึงหกตัว
ว้าว!
ร่างของลิงที่วิวัฒนาการแล้วทั้งห้าตัวกระจายออกไป จากนั้นเขาก็ก้มตัวลงเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากด้านหลังในขณะที่เขาปล่อยมือจากเดสทรอยเยอร์ เมื่อไม่มีเดสทรอยเยอร์อยู่ในมือ เขาก็สามารถขยับร่างกายได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้น
เขากระโดดหมุนตัวแล้วเตะไปที่หลังของลิงและส่งผลให้มันกระเด็นออกไป ถังเส้าหยางไม่ได้หยุดเคลื่อนไหวและหยิบขวานศึกของเขาออกมาอีกครั้งก่อนที่จะฟาดมันใส่ลิงที่กำลังมุ่งหน้ามาทางเขา
การต่อสู้กับลิงและซอมบี้นั้นง่ายกว่าการต่อสู้กับคน วิธีที่พวกมันต่อสู้เป็นเพียงการพุ่งเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง ดังนั้นเขาจึงคิดการเคาน์เตอร์ขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อไม่ต้องปกป้องลู่อัน ถังเส้าหยางก็ระเบิดการโจมตีที่บ้าคลั่งยิ่งกว่าสัตว์ป่าออกมา แน่นอนว่าเมื่อเขาระเบิดความสามารถที่แท้จริงของเขาออกมา ลิงพวกนี้ก็ไม่สามารถนับเป็นอะไรได้สำหรับเขา เขาต่อสู้กับพวกมันอย่างสมขื่อเบอร์เซิร์ก
ถังเส้าหยางไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียดเลยแม้แต่น้อย เขายิ้มอย่างบ้าคลั่งโดยที่เขาไม่รู้ตัว สิบนาทีผ่านไป และแล้วเสียงที่เขารอคอยก็ดังขึ้น
[ คุณได้เลเวลอัพแล้ว! ]
[ คุณได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติ 2 คะแนน! ]
[คุณสามารถจัดสรรคะแนนค่าคุณสมบัติได้โดยการเปิดหน้าจอค่าสถานะ! ]
รอยยิ้มกว้างปรากฎออกมาเมื่อได้ยินเสียงที่ไร้อารมณ์ เสียงนั้นเหมือนกับเพลงที่ติดหูสำหรับถังเส้าหยาง มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินมัน
ในทางกลับกัน ลู่อันก็กำลงรู้สึกกังวล เขาไม่สามารถอยู่นิ่งๆได้ เขาต้องการที่จะกระโดดกลับเข้าไปที่สวนสาธารณะที่มีหมอกหนา อย่างไรก็ตาม เขาก็ลังเล เขากลัวว่าเขาจะกลับไปเป็นภาระของถังเส้าหยาง
ลู่อันจ้องไปที่เงาในม่านหมอก เขาพบว่าถังเส้าหยางกำลังต่อสู้กับลิงอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าเขาจะถูกห้อมล้อมและถูกโจมตีโดยลิงจากทุกทิศทาง แต่บอสถังก็ยังสามารถดต้กลับพวกมันได้เป็นอย่างดี
ใช่ เขาพบว่าบอสของเขากำลังต่อสู้กับสัตว์ร้ายได้ค่อนข้างดี จากความตื่นตระหนกไปจนถึงความกระวนกระวายใจ จากความกระวนกระวายใจไปจนถึงความตกใจ จากความตกใจไปสู่ความสงบ เขากำลังมองดูบอสถังของเขาสู้กับวานรเมฆาอย่างโกลาหลด้วยความวงบ
ไม่ว่าลิงจะพุ่งเข้าใส่ถังเส้าหยางกี่ตัว ลู่อันก็จะเห็นว่าบอสของเขาจะฉีกพวกมันออกเป็นชิ้นๆด้วยมือเปล่าและขวานศึกอันน่าสะพรึงกลัว มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่ลู่อันจะตระหนักได้ว่าบอสของเขานั้นเป็นนักฆ่าผู้มากประสบการณ์
ต่างจากถังเส้าหยาง ลู่อันก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้เลย อย่างไรก็ตาม เขาก็พอจะเข้าใจพื้นฐานพลังของถังเส้าหยาง พลังของถังเส้าหยางนั้นมาจากเลเวลของเขา
“บอสไปถึงเลเวลไหนแล้วนะเขาถึงได้แข็งแกร่งมากขนาดนั้น?” ลู่อันพึมพำด้วยเสียงต่ำในขณะที่เขาดูหน้าจอค่าสถานะของเขา
—————————————–
ชื่อ: ลู่อัน
อายุ: 18
สังกัด: ไม่มี
เลเวล: 5
พรสวรรค์: –
คะแนค่าคุณสมบัติ: 0
ความแข็งแกร่ง: 11
ความว่องไว: 12
พลังชีวิต: 4
สต่มิน่า: 4
พลังเวทย์: 3
ประสาทสัมผัส: 5
ทักษะ: การตรวจจับขั้นพื้นฐาน
————————————–
แตกต่างจากถังเส้าหยาง ที่จัดสรรจุดคะแนนค่าคุณสมบัติทั้งหมดของเขาไปที่ค่าความแข็งแกร่งและพลังชีวิต ลู่อันเลือกที่จะใช้คะแนนค่าคุณสมบัติของเขาไปที่ความแข็งแกร่งและความเร็วสำหรับตอนแรก
เขาต้องการเพิ่มพละกำลังให้มากพอที่จะสามารถฆ่าซอมบี้ได้ และเขาก็ต้องการความว่องไวเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในช่วงแรก ความคิดของเขาได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้อง ตอนนี้เขาสามารถฆ่าซอมบี้ได้อย่างง่ายดาย และเขาก็สามารถหลบหนีจากลิงได้อย่างปลอดภัย ทั้งหมดนี่ก้เป็นเพราะเขาได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มความว่องไวของเขา
พลังเวทย์นั้นค่อนข้างไร้ประโยชน์เพราะเขาไม่รู้วิธีใช้เวทย์มนตร์ สตามิน่าสามารถฟื้นฟูได้ด้วยการพักผ่อน และสุดท้ายก็ค่าพลังชีวิต ตราบใดที่เขามีการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว เขาก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บได้
ก้วยเหตุนี้เอง สำหรับลู่อันแลว เขาจึงคิดว่าค่าคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับเขาก็คือค่าความแข็งแกร่งและค่าความว่องไว
เมื่อมองไปที่หน้าจอค่าสถานะ จากนั้นก็มองดูเงาของถังเส้าหยางที่กำลังต่อสู้กับลิงที่วิวัฒนาการ ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าก็ได้ฉายแววในดวงตาของลู่อัน
การต่อสู้ระหว่างถังเส้าหยาวและฝูงลิงนั้นกินเวลาหนึ่งชั่วโมง หลังจากชมการแสดงเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มแล้ว ลู่อันก็เห็นถังเส้าหยางเดินออกมาจากหมอกอย่างรีบร้อน
ดูเหมือนลิงจะมีมาไม่มีที่สิ้นสุด พวกมันมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และถังเส้าหยางก็มาถึงขีดจำกัดของเขาแล้วหลังจากการต่อสู้มานานกว่าหนึ่งชั่วโมง เมื่อสังเกตเห็นว่าจำนวนลิงที่ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจหนีในทันที
ร่างกายของถังเส้าหยางเต็มไปด้วยเลือด เสื้อผ้าสีเทากลายเป็นสีแดงเลือด และแม้แต่ใบหน้าและผมของเขาเองก็ยังเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อออกมาจากหมอก ถังเส้าหยางก็สังเกตเห็นว่าลู่อันยังคงอยู่ที่นี่แทนที่จะเข้าไปในที่ปลอดภัย
“ ทำไมนายถึงยังอยู่ที่นี่ วิ่งไปสิ!” ถังเส้าหยางตะโกนขณะที่เขาวิ่งไปพร้อมกับเดสทรอยเยอร์ในมือขวาของเขา ลิงยังคงติดตามเขามาอย่างใกล้ชิด แทนที่จะหลบหนี ลู่อันก็ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
ในขณะเดียวกันกับที่ถังเส้าหยางต้องการจะดึงลู่อันที่ยืนโง่อยู่ เขาก็ได้ยินเสียงที่สงบของลู่อัน “ บอสไม่จำเป็นต้องวิ่งแล้ว ลิงออกมาจากสวนหมอกนั่นไม่ได้ เราปลอดภัยที่นี่!”
“ ห้ะ!?” ถังเส้าหยางหันกลับไปมองและพบว่าลิงไม่ได้ตามเขามาหลังจากที่เขาออกมาจากหมอก เขาเห็นเงาจำนวนมากที่อยู่เหนือหมอกซึ่งเป็นของลิง
ลิงยืนอยู่ที่สุดขอบหมอก ดวงตาสีแดงของสัตว์ร้ายกำลังจ้องไปที่ลู่อันและถังเส้าหยาง แต่พวกมันก็ไม่ได้ติดตามพวกเขาอีกต่อไป
ถังเส้าหยางรู้สึกโล่งใจกับการค้นพบในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม การอยู่ใกล้สวนสาธารณะที่มีหมอกปกคลุมก็ไม่ปลอดภัยจริงๆ
“ ไปกันเถอะ! ฉันต้องการล้างเลือดนี่ออก…”
เลือดที่ปกคลุมไปทั่วร่างทำให้ถังเส้าหยางรู้สึกไม่สบายใจ เขาต้องการล้างเลือดออกโดยเร็วที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างหลบหนี พวกเขาก็สูญเสียเสบียงไป ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมองหาเสบียงเพิ่มเติมเพื่อเติมเต็มท้องของพวกเขา
พวกเขาเดินทางต่อไปโดยไม่หันหลังกลับ ไม่นานถังเส้าหยางก็สังเกตเห็นสิ่งแปลกๆรอบตัว สถานที่แห่งนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตเลย
ด้านหลังของพวกเขาคือเซ็นทรัลปาร์คที่มีชื่อเสียง และข้างหน้าก็เป็นถนนใหญ่ ทางด้านซ้ายของเขา เขาก็มองเห็นร้านอาหารว่างสามร้านเรียงแถวกัน ข้างหน้ามีคฤหาสน์ใหญ่โตและหรูหรามากมายตั้งเรียงราย
ถังเส้าหยางเดินไปอย่างระมัดระวังในขณะที่เขาสำรวจบริเวณโดยรอบ สถานที่นี้ค่อนข้างรก แต่เขาก็ยังไม่พบศพหรือซอมบี้แถวนี้
เขาไปถึงร้านอาหารแห่งแรกและหยุดเดิน วเขาพบว่าร้านอาหารแห่งแรกเป็นร้านอาหารทะเล เขาพุ่งทะลุเข้าไปในร้านอาหารผ่านหน้าต่างที่แตก หลังจากการตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เขาก็พบว่ามันไม่มีอะไรอยู่ข้างใน
ถังเส้าหยางทำแบบเดียวกันกับร้านอาหารอีกสองร้านที่เหลือ แต่มันก็รกร้างว่างเปล่า เขาเดินต่อไปและหยุดอยู่ตรงหน้าคฤหาสน์หรูหลังแรก
คฤหาสนี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีโดยมีประตูใหญ่และรั้วเหล็กล้อมรอบคฤหาสน์ ถังเส้าหยางเลือกคฤหาสน์นี้เพื่อใช้พักผ่อนหลังจากการต่อสู้ที่ยาวนาน
“ เราจะได้พักผ่อนที่นี่” ถังเส้าหยางกล่าวกับลู่อันในขณะที่เขาเดินไปที่ประตูใหญ่ ในขณะที่เขาต้องการจะพังประตู เขาก็หยุดลงครึ่งทางขณะที่เขาจำบางอย่างขึ้นมาได้
“ หยุดก่อน”
ลู่อันสับสนอย่างแน่นอนเมื่อมองไปที่ใบหน้าที่เคร่งขรึมของถังเส้าหยาง เขาไม่ได้ถามออกไปทั้งๆที่อยากรู้ มันดูแปลกมาก คฤหาสน์หรูหราอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว แต่ถังเส้าหยางก็ตัดสินใจที่จะพักผ่อนข้างนอกอย่างรวดเร็ว
ถังเส้าหยางมีเหตุผลเป็นของตัวเอง มันเกี่ยวกับมินิเกม ครั้งแรกที่เขาเข้าไปในคฤหาสน์ เขาก๋ถูกบังคับให้ต้องต่อสู้กับซอมบี้ที่วิวัฒนาการและ และเขาก็กังวลว่าเมื่อเขาเข้าไปในคฤหาสน์แล้ว เขาก็จะต้องเจอกับมินิเกมอีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงพักผ่อนก่อนเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของเขา
สิบห้านาทีผ่านไป ถังเส้าหยางลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
“ ปีนรั้วกันเถอะ!”
ลู่อันพยักหน้าในขณะที่เขายังคงสับสนกับทุกสิ่ง
ถังเส้าหยางลงจอดที่สนาม จากนั้นเขาก็หยุดการเคลื่อนไหวชั่วคราว กระนั้นเขาก็ไม่ได้ยินอะไรเลยซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาไม่ได้ไปเปิดมินิเกม แน่นอน มันไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะเรียกใช้มินิเกมหลังจากที่เขาเข้าไปในคฤหาสน์จริงๆเท่านั้น
ถังเส้าหยางยืนอยู่หน้าประตูสูงสามเมตร จากนั้นเขาก็เอามือไปจับที่ตรงประตู เขาหลับตาและสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ลืมตาขึ้นและผลักประตูออกไป