ปัง ปัง ปัง
ลู่เหวินเหนี่ยวไกปืนด้วยความตื่นตระหนก มันยิงออกไปสามครั้ง และด้วยระยะทางที่สั้น ถังเส้าหยางจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทัน อย่างไรก็ตาม มือของเขาก็ยังคงจับชายร่างใหญ่เอาไว้อยู่ ดังนั้นเขาจึงยื่นศพไปข้างหน้าเพื่อป้องกันเขาจากกระสุน
ในเวลาเดียวกัน ลู่เหวินก็ถอยหลังหลังจากเหนี่ยวไก กระสุนนัดหนึ่งพลาดและกระสุนสองนัดก็ยิงถูกเข้าไปที่ท้องของชายร่างใหญ่ ถังเส้าหยางโยนชายร่างใหญ่ไปทางลู่เหวินที่ล้มลงในขณะที่เขาพุ่งออกไปข้างหน้า
ลู่เหวินสูญเสียความสุขุมไปจนทำปืนหล่นขณะที่มันล้มลง มันพยายามจะจับปืนขึ้นมาอีกครั้งด้วยมือที่สั่นเทา แต่ร่างๆหนึ่งก้ได้ตกลงมาที่มันฮึก!
มันตะโกนด้วยความเจ็บปวดเมื่อชายร่างใหญ่ทับลงมาที่ร่างกายของมัน แม้มันจะเจ็บปวด แต่ลู่เหวินก็ยังคงพยายามผลักไสชายร่างใหญ่ออกไป กระนั้นมันก็ล้มเหลว และในวินาทีถัดมามันก็รู้สึกได้ว่ามันมีคนจับเท้าซ้ายของมันและดึงมันออกจากร่างของชายร่างใหญ่
ลู่เหวินได้รับการช่วยเหลือจากร่างของชายร่างใหญ่ อย่างไรก็ตาม มันก็ได้พบกับปีศาจแทน ปีศาจตนนี้ยิ้มให้มันจนเห็นฟันขาว ความเจ็บปวดที่มันรู้สึกบนร่างกายของมันหายไปในทันทีเมื่อความกลัวและความหวาดระแวงปรากฏขึ้นในตัวมัน
มันหันกลับโดยตั้งใจว่าจะหนีจากปีศาจ อย่างไรก็ตาม มือของปีศาจที่จับเท้าซ้ายของมันเอานั้นก็ทรงพลังเกินไป ความพยายามในการวิ่งของมันสูญเปล่าเพราะมันไม่สามารถหลุดพ้นจากการจับกุมนี้ได้
“ จะไปไหน นายน้อยลู่!?” เสียงขี้เล่นของปีศาจดังเข้ามาในหูของลู่เหวินอย่างน่าสะพรึงกลัว
“ ไม่ อย่าฆ่าฉัน ฉันขอโทษ พี่ถัง! ฉันเสียใจ! ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน! อย่าฆ่าฉัน ได้โปรด~” ลู่เหวินร้องขอชีวิตอย่างบ้าคลั่ง ฉากก่อนหน้านี้ทำให้มันหวาดกลัวอย่างแท้จริง ตัวมันเองไม่เคยฆ่าใคร และจนถึงตอนนี้ มันก็เพิ่งเคยใช้ปืนที่ลุงของมันมันมาเป็นครั้งแรก
“ ฮี่ฮี่ฮี่… เป็นอะไรไป นายน้อยลู่ลู่ ในฐานะผู้ชาย ฉันก็จะต้องรักษาคำพูด! ฉันสัญญาเอาไว้แล้วว่าครั้งหน้าที่เราเจอกัน มันก็จะเป็นวันตายขงนายไง! และฉันก็แค่มาเพื่อทำตามสัญญานั้นก็เท่านั้น!” ถังเส้าหยางหัวเราะคิกคักขณะที่เขาหยิบปืนที่อยู่ไม่ไกลจากเขาขึ้นมา
สิ่งนี้ยิ่งทำให้ลู่เหวินรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก มันพยายามหนีจากถังเส้าหยางอย่างคลุ้มคลั่งและตะโกนด้วยความกลัวว่า “ อย่าฆ่าฉัน! ลุงของฉันคือลู่กังนะ เขาเป็นเจ้านายแห่งเมือง SH!”
ลู่เหวินหยุดคร่ำครวญในทันที ความกลัวถูกชะล้างออกจากใบหน้าของมัน เป็นเพราะชื่อเดียว ลู่กัง มันตระหนักได้ว่าปีศาจที่อยู่ข้างหน้ามันนั้นเป็นลูกน้องของลุงของมัน
” ฮ่าฮ่า! ไอ้สารเลว! ลุงของฉันจะล่าแกแน่ถ้าแกฆ่าฉัน! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ฆ่าฉันซะสิ! ฆ่าฉันซะ!” ทันใดนั้น ลู่เหวินก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง มันไม่กลัวปีศาจที่อยู่ตรงหน้ามันอีกต่อไป
“ โฮ่โฮ่… ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะส่งแกไปที่บ้านลุงของแก เพื่อที่แกจะได้บอกลุงของแกว่าฉันเป็นคนส่งแกมาหามัน!” ไม่เพียงแต่ถังเส้าหยางจะไม่กลัวเท่านั้นแต่เขายังยิ้มใหม้มันก่อนที่เขาจะยิงไปที่มัน
ปัง
เสียงหัวเราะหยุดลงทันทีเมื่อเกิดรูลึกปรากฎขึ้นบนหัวของลู่เหวิน มันเสียชีวิตลงด้วยใบหน้าที่กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากฆ่าลู่เหวินเสร็จ รอยยิ้มของถังเส้าหยางก็หายไป เขาถอนหายใจและพึมพำด้วยเสียงต่ำ “ ฉันได้แก้แค้นเธอแล้ว!” เขากำลังพูดถึงอดีตแฟนสาวของเขาที่ฆ่าตัวตายหลังเหตุการณ์นั้น
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วหันกลับมา ว่านจิงยี่และเว่ยซีมองไปที่ถังเส้าหยางด้วยความตกใจ ผู้ชายที่พวกเขาคิดว่าเป็นคนดีกลับกลายเป็นฆาตกรที่บ้าคลั่ง ใช่แล้ว ภาพของถังเส้าหยางนั้นคล้ายกับฆาตกรที่บ้าคลั่งสำหรับพวกเขา
พี่น้องเหมากอดกันด้วยความหวาดกลัว เหงื่อเย็นไหลออกจากใบหน้าของพวกเขา และเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นถังเส้าหยางหันกลับมา พวกเขาก็มองไปทางอื่นในทันที พี่น้องทั้งสองไม่กล้าสบตากับถังเส้าหยาง
สำหรับหลี่อัน เธอก็นั่งอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าที่งุนงง เธอกระพริบตาสองสามครั้ง เธอพยายามทำความเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์นั้นเร็วเกินไป เธอยังไม่รู้สาเหตุของการต่อสู้ด้วยซ้ำ
เมื่อดวงตาของเธอสบกับตาของถังเส้าหยาง หญิงสาวก็สะดุ้งด้วยความกลัวเล็กน้อย สายตาของหบี่อันสั่นคลอน แต่เธอก็ไม่ได้มองไปทางอื่น เธอเผชิญหน้ากับดวงตาที่สงบเสงี่ยมของถังเส้าหยาง
“ เธอไม่ได้กลับมาหาแม่และน้องสาวของเธอรึไง เธอกำลังทำอะไรอยู่?” ถังเส้าหยางเปิดปากของเขาและหันกลับไปดึงขวานศึก
“ ทำไม ทำไมคุณถึงฆ่าตงปิงและกู่เหวิน” เว่ยซีรั้งตัวเองและตะโกนใส่ถังเส้าหยางโดยถามถึงการกระทำของเขา เขายังไม่ได้ถามรวมถึงซูเฉิง ลู่เหวิน หรือแม้แต่ชายฉกรรจ์สองคนที่เป็นปัญหาด้วย
“ ยังไม่ชัดเจนอีกหรอ สองคนนั้นเป็นคนของลู่เหวิน ทำไมฉันถึงจะต้องยอมปล่อยให้พวกมันรอดไปด้วย” ถังเส้าหยางยักไหล่อย่างไม่เป็นทางการ เขาไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อยหลังจากฆ่าคนไปหกคน การแสดงออกของเขายังคงสบายๆ
“ แต่พวกเขาไม่สมควรที่จะถูกฆ่าแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนของลู่เหวิน ถูกไหม?” เว่ยซีไม่เห็นด้วยกับการกระทำของถังเส้าหยาง
“ หืม นายรู้ได้ยังไงว่าพวกมันไม่สมควรถูกฆ่า? ในสายตาของฉัน พวกมันทุกคนต่างก็สมควรที่จะถูกฆ่า นั่นก็เพราะพวกมันเป็นลูกน้องของไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวนี้ยังไงล่ะ! แล้วก็ระวังคำพูดของนายเอาไว้ด้วย! ไม่ว่านายจะพูดอะไร มันก็จะไม่มีเปลี่ยนแปลง!”
เมื่อกล่าวเสร็จ ถังเส้าหยางก็เข้าไปในบ้าน การออกแบบบ้านนั้นก็ไม่ต่างจากคฤหาสน์ที่เขาเคยพักกับลู่อันมากนัก ทันทีที่เขาเข้ามา เขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีโคมระย้าขนาดใหญ่แขวนอยู่ตรงกลาง
กระสุนปืนก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจของผู้คนภายใน เขาเห็นว่ามีคนแปดคนบนชั้นสอง พวกเขากำลังยืนอยู่ข้างราวเหล็กและมองดูเขา มันมีเด็กผู้หญิงหนึ่งคน ผู้หญิงสามคนและผู้ชายสี่คน
คนโตทั้งเจ็ดมองมาที่เขาอย่างกังวลใจในขณะที่เขาถือขวานศึกในมือขวาและปืนในมือซ้าย และขณะที่เด็กหญิงตัวเล็กๆดูเหมือนจะสงสัย หลี่อันที่ตามเขาไปก็รีบไปที่ชั้นสองในทันที เธอรีบวิ่งไปหาหญิงวัยกลางคนที่จับมือเด็กหญิงตัวเล็กๆ
เธอกอดหญิงวัยกลางคนในขณะที่ถังเส้าหยางก็เดินตามเธอไป เขาตรวจสอบชายทั้งสี่คนที่อายุต่างกันด้วยสายตา คนที่เด็กที่สุดดูเหมือนจะอายุยี่สิบต้นๆในขณะที่คนโตที่สุดก็อยู่ในวัยสี่สิบต้นๆ
ในเวลานี้ เว่ยซีและว่านจิงยี่ก็เข้ามาในบ้านหลังใหญ่เช่นกัน ชายคนหนึ่งที่ดูอายุสามสิบถามทั้งคู่ว่า “ เว่ยซี มันเกิดอะไรขึ้น ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน?”
เว่ยซีเพียงแค่ส่ายหัวในขณะที่เขามองถังเส้าหยางอย่างซับซ้อน
“ หลี่อัน! พาฉันไปที่ห้องของลู่เหวิน!” ถังเส้าหยางสั่งหลี่อัน ชายคนนั้นน่าจะเก็บของมีค่าไว้ในห้องของมัน และในห้องของมันก็อาจจะมีปืนอีกกระบอกหนึ่งที่อาจมีประโยชน์ในอนาคต
หลี่อันยืนขึ้นในทันทีและพยักหน้า เธอพาเขาไปที่โถงทางเดิน ขณะที่หญิงวัยกลางคนและเด็กหญิงตัวเล็กก็เดินตามพ่วงมา เด็กหญิงตัวเล็กๆกึ่งสงสัยและกึ่งๆกลัวเมื่อมองไปที่ขวานศึกขนาดใหญ่
ระหว่างทาง หญิงวัยกลางคนก็พยายามเกลี้ยกล่อมหลี่อันไม่ให้ไปที่ห้องของลู่เหวิน แต่หลี่อันก็ส่ายหัวและโน้มน้าวให้แม่ของเธอตามเธอไป เธอไม่ได้บอกแม่ว่าลู่เหวินนั้นไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าประตู นี่น่าจะเป็นห้องของลู่เหวิน และในขณะที่หลี่อันต้องการจะเปิดประตู ถังเส้าหยางก็ขัดขวางเธอไว้
“ อย่าเพิ่งเปิดประตู!”
มือของหลี่อันหยุดลงครึ่งทางเมื่อเธอได้ยินแบบนั้น ด้วยรูปลักษณ์ที่สับสน เธอมองไปที่ถังเส้าหยาง
ถังเส้าหยางเพียงส่ายหัวและยืนอยู่หน้าประตู เขากล่าวว่า “ เธอไม่ควรพาแม่และน้องสาวของเธอเข้าไปข้างใน!”
“ ทำไม?” หลี่อันเริ่มสับสนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เธอก็เชื่อฟังคำพูดของถังเส้าหยางและขอให้แม่และน้องสาวของเธอรอเธออยู่ข้างนอก
“ หึ อีกไม่นานเธอก็จะได้รู้!” เมื่อพูดจบเขาก็เปิดประตู
หลี่อันตกใจเมื่อเห็นห้อง ข้างในนั้นมีผู้หญิงสามคนถูกมัดอยู่บนเตียง และปากของพวกเธอก็เต็มไปด้วยเสื้อผ้า สิ่งที่ทำให้เธอตกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าเธอจำสามสาวได้
พวกเธอก็เหมือนกับเธอ พวกเธอคือผู้รอดชีวิตที่มาหลบภัยภายใต้ปีกของลู่เหวิน อย่างไรก็ตาม เธอก็ได้ยินมาว่าผู้หญิงทั้งสามคนนี้ได้ถูกซอมบี้ฆ่าตายไปแล้วเมื่อตอนที่พวกเธอพยายามจะหาอาหารมาให้ภายใต้คำสั่งของลู่เหวิน เธอไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะเห็นผู้หญิงทั้งสามคนยังมีชีวิตอยู่
“ คิคิ… ถ้าเธอไปดูห้องของผู้ชายคนอื่น เธอก็จะเจอผู้หญิงมากกว่านี้อีก…”
ถังเส้าหยางไม่สนใจผู้หญิงในขณะที่เขาค้นห้องของลู่เหวิน นอกจากอาหารสำรอง เขาก็ไม่พบสิ่งอื่นใด
*** ***
หลังจากเหตุการณ์ต่างๆในที่พักพิง ผู้รอดชีวิตที่เหลือก็ได้ตัดสินใจติดตามถังเส้าหยางไป ในบรรดาผู้รอดชีวิต มันก็มีคนที่มีประโยชน์คนหนึ่ง ต้องขอบคุณผู้ชายคนนี้ที่ทำให้พวกเขาไม่ต้องเดิน
ที่หลบภัยของอาณาเขตของถังเส้าหยางนั้นอยู่ค่อนข้างไกล พวกเขาใช้รถยนต์ที่หาได้บนท้องถนนและสามารถไปถึงอาณาเขตก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ไม่เพียงแค่นั้น ถังเส้าหยางยังนำอาหารกลับมาด้วย
เมื่อพวกเขาไปถึงอาณาเขตของถังเส้าหยาง ผู้คนที่ติดตามเขามาก็รู้สึกตกใจ ถังเส้าหยางเคยกล่าวว่าที่พักพิงของเขานั้นปลอดภัยและสะดวกสบายมาก แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่าที่พักพิงที่เขาพูดถึงนั้นจะเป็นโรงแรมหรูห้าดาวแบบนี้
หลี่เยว่น้องสาวคนเล็กของหลี่อันมองไปที่โรงแรมด้วยความตกใจ “ พี่ใหญ่ ที่นี่คือของคุณหรอ?”
“ ใช่แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเธอก็จะได้อยู่ที่นี่!” ถังเส้าหยางตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
ปัจจุบัน หลี่เยว่ก็กำลังนั่งอยู่บนไหล่ของถังเส้าหยาง ความจริงที่ว่าถังเส้าหยางรักเด็กนั้นทำให้คู่แต่งงานหนุ่มสาวว่านจิงยี่และเว่ยซีประหลาดใจ
พวกเขาได้เห็นความโหดเหี้ยมของถังเส้าหยางมาแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับพวกเขาที่ถึงแม้ถังเส้าหยางจะมีลักษณะที่โหดเหี้ยม แต่เขาก็ยังรักเด็ก
เมื่อพวกเขาเข้าไปในโรงแรม ถังเส้าหยางก็สังเกตเห็นลู่อันที่กลับมาแล้ว เขาไม่ได้กลับมาแค่คนเดียวแต่เขายังพาผู้ชายอีกหกคนมาด้วย
เขายกนิ้วโป้งและชมว่า “ ทำได้ดีมาก!”
หลังจากนั้น เขาก็เรียกรวมพลที่ล็อบบี้และประกาศด้วยเสียงอันดังก้อง “ ฟังนะ ฉันเป็นผู้นำของที่แห่งนี้! ถ้าพวกคุณอยากจะอยู่ที่นี่ พวกคุณก็จะต้องทำตามที่ฉันสั่ง…”
ถังเส้าหยางไม่สามารถพูดจบได้เพราะชายอายุประมาณ 22 ปีได้ยกมือขึ้น “ ขอคัดค้าน! ประชาชนควรได้เลือกผู้นำ คุณจะต้องปล่อยให้เราได้ตัดสินใจ! เรามี 27 คนที่นี่ ดังนั้นเรามาลงคะแนนแทนกันเถอะ!”
“ ฮิฮิ… ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องมีผู้ชายแบบนาย และฉันก็ต้องการคนแบบนายจริงๆ”