บทที่ 37 การหยั่งรู้
เมื่อจางเหวินเหยาเข้าไปในลิฟต์ เธอก็สังเกตเห็นว่าลิฟต์ตัวนี้สามารถเข้าถึงชั้นต่างๆในอาณาเขตอัจฉริยะได้ทั้งหมด 25 ชั้น
อย่างไรก็ตาม มันก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอสงสัย ถังเส้าหยางเคยพูดถึงเรื่องพรสวรรค์ก่อนหน้านี้ ดังนั้นเธอจึงถาม
“ พรสวรรค์? พรสวรรค์อะไร?” จางเหมิงเหยาถามด้วยความสงสัย
ถังเส้าหยางแตะจมูกของเธอและตอบว่า “ เธอจะรู้ในไม่ช้านี้!”
ติ้ง!
ลิฟต์เปิดออกและฐานที่กว้างขวางก็ปรากฎขึ้นในสายตาคนทั้งสองคน จางเหมิงเหยาหลุดพ้นจากอ้อมกอดของถังเส้าหยางและก้าวออกจากลิฟต์
เธอสำรวจบริเวณโดยรอบด้วยความสงสัย แต่เธอก็ไม่พบอะไรนอกจากประตูสองบาน ประตูสีเขียวและประตูสีน้ำเงิน
จางเหวินเหยาเดินเข้าไปใกล้ประตูพร้อยๆกับถังเส้าหยาง ในไม่ช้า เธอก็เห็นข้อความที่เขียนอยู่ตรงประตู ประตูสีเขียวเขียนว่า “ พรสวรรค์ ” และประตูสีน้ำเงินก็เขียนว่า “ คลาส ”
เมื่อมองดูสิ่งนี้ จางเหมิงเหยาก็ตระหนักได้ว่าจุดหมายของเธอก็คือประตูสีเขียว เธอตรวจสอบประตูด้วยตา แต่เธอก็พบว่ามันคล้ายกับประตูไม้ธรรมดา
ถังเส้าหยางเปิดประตูและกล่าวว่า “ เข้าไป ออริจิ้นจะคอยช่วยเหลือเธอภายในนั้น”
เขาคิดว่ามันมีเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปในห้องได้ แต่ออริจิ้นก็กลับไม่ได้พูดเช่นนั้น “ มาสเตอร์ คุณก็สามารถเข้าไปด้วยได้!”
“ ฉัน?” ถังเส้าหยางถาม คำถามของเขาถูกส่งไปที่เหมิงเหยาไม่ใช่ออริจิ้น เรื่องนี้มันเกี่ยวกับพรสวรรค์ของบุคคล ดังนั้นหากไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าตัว เขาก็จะไม่ควรเข้าไป
“ แน่นอน นายทำได้~” จางเหมิงเหยาตอบในเชิงบวกขณะที่เธอดึงถังเส้าหยางไปกับเธอ
เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้อง ออริจิ้นก็เริ่มต้นด้วยคำอธิบาย มันกำลังอธิบายสิ่งเดียวกับที่มันเคยบอกลู่อัน แต่ต่างกันที่น้ำเสียง ในตอนนี้น้ำเสียงของมันอ่อนนุ่มและดูน่าฟังมากว่า
“ เพราะฉะนั้นแล้ว แม้ว่าคุณจะโชคร้ายและได้พรสวรรค์ระดับ E แต่คุณก็ยังจะสามารถรวบรวม 10 ล้าน GC เพื่อเสี่ยงโชคครั้งที่สองได้ ถึงอย่างงั้นมันก็มีพรสวรรค์บางอย่างที่สามารถอัพเกรดได้”
“ คุณสามารถอัพเกรดพรสวรรค์ได้ด้วยหนังสือแห่งพรสวรรค์! แน่นอน อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ มันมีค่างพรสวรรค์เท่านั้นที่สามารถอัพเกรดได้ คุณจะรู้ว่าพรสวรรค์ของคุณสามารถอัพเกรดได้หรือไม่หลังจากที่คุณมีหนังสือแห่งพรสวรรค์แล้วเท่านั้น ดังนั้นก็จงอย่าท้อแท้แม้ว่าคุณจะได้พรสวรรค์ระดับ E ก็ตาม!”
ออริจิ้นจบการอธิบาย มันไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครมาก่อนแม้กระทั่งกับถังเส้าหยางเองก็ตาม
“ อย่าบอกนะว่านายยังได้บอกเรื่องนี้กับลู่อัน!” ถังเส้าหยางกล่าวด้วยการขมวดคิ้ว
ลู่อันเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องพรสวรรค์ให้เขาฟัง และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยกับกระบวนการนี้อยู่พอสมควร อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากลู่อันมาก่อน
“ ขออภัยด้วยมาสเตอร์! แต่ฉันจงใจที่จะซ่อนสิ่งนี้จากลู่อัน แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่เชื่อถือได้ของคุณ แต่ฉันก็ยังไม่สามารถไว้วางใจเขาได้ในเวลานั้น” ออริจิ้นอธิบายเหตุผล
“ ใครคือลู่อัน?” เหมิงเหยาถามอีกครั้ง เธอยังไม่เคยพบกับลู่อันเลย และในตอนนี้ ลู่อันก็ได้แตกต่างจากลู่อันคนก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง เขายุ่งอยู่กับการล่าซอมบี้ข้างนอก และใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในอาณาเขตอัจฉริยะ
“ ฮิฮิ เธอจะได้รู้จักเขาแน่ เขาจะทำงานร่วมกับเธอเพื่อสร้างระบบทหารของจักรวรรดิถัง! เอาไล่ ไปเอาพรสวรรค์ของเธอมาได้เล้ว!” ถังเส้าหยางผลักหญิงสาวไปข้างหน้า
สำหรับแม่ทัพ เธอก็จำเป็นจะต้องมีพรสวรรค์ที่ดี อย่างน้อยๆพรสวรรค์นั้นก็จะต้องอยู่ระดับ B เช่นเดียวกับลู่อัน ถ้าแม่ทัพอ่อนแอ มันก็มีสิทธิที่พวกลูกน้องจะไม่เขื่อฟังเธอ
แม้ว่าจางเหมิงเหยาจะยังไม่เข้าใจเรื่องพรสวรรค์มากนัก แต่เมื่อดูจากคำพูดของถังเส้าหยาง เธอก็สามารถบอกได้ว่าพรสวรรค์นี้จะต้องมีความสำคัญมากแน่ๆในอนาคต
เธอเริ่มประหม่าโดยไม่รู้ตัวเมื่อเข้าไปใกล้หน้าจอ เมื่อมาถึงหน้าจอ เธอก็ยังไม่ได้กด “พรสวรรค์แบบสุ่ม” ในทันที
จางเหมิงเหยาลังเลในตอนแรก จากนั้นเธอก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อทำหน้าที่ของเธอ หน้าที่ของเธอในการปกป้องเพื่อนร่วมชาติที่รอดชีวิตจากเกมนรก
จางแหมิงเหยาหายใจเข้าลึกๆ เธอขจัดความขุ่นมัวและความประมาทในใจของเธอ และเมื่อเธอลมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาจริงก็ปรากฎออกมา
‘ ไม่ว่าฉันจะได้พรสวรรค์อะไร มันก็จะไม่เปลี่ยนหน้าที่ของฉัน! ไม่ว่าฉันจะได้ระดับอะไร ฉันก็จะทำงานให้สำเร็จในฐานะทหาร!’
จางเหมิงเหยากดปุ่มและห้องก็มืดลงในทันที ผ่านไปครู่หนึ่ง คำพูดก็ปรากฏขึ้นบนผนัง และทำให้ห้องมืดสว่างขึ้น
มันกินเวลาสามสิบวินาทีก่อนที่มันจะหยุดและคำหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ
[ การหยั่งรู้ – พรสวรรค์ระดับ A ]
“ นั่นแหละ!!!” จางเหมิงเหยากระโดดออกมาด้วยความตื่นเต้นในทันทีที่เธอได้รับพรสวรรค์ระดับ A
ถังเส้าหยางรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็รู้สึกดีใจในเวลาเดียวกัน ในทางกลับกัน ฝั่งออริจิ้นเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นนี้ นี่เป็นพรสวรรค์ระดับ A พรสวรรค์แรกที่มันเคยเห็น
“ คุณผู้หญิงนี่โชคดีจัง~”
ผลลัพธ์คงอยู่เป็นเวลาหนึ่งนาทีก่อนที่ห้องจะกลับสู่สภาวะปกติ ถังเส้าหยางลากหญิงสาวที่ตื่นเต้นออกมาจากห้อง
“ แม่ทัพคนงามของฉัน เธอจะทำอย่างนั้นต่อหน้าลูกน้องไม่ได้นะ เธอจะต้องรักษาภาพลักษณ์ของเธอในฐานะแม่ทัพ!” ถังเส้าหยางตำหนิหญิงสาวที่ยังคงตื่นเต้นอยู่
“ ฉันรู้! ฉันรู้! ฉันจะทำแบบนี้แค่ต่อหน้านายเท่านั้นแหละ!” หญิงสาวกลอกตาและพูดต่อ “ แล้วพรสวรรค์นี้มันมีประโยชน์ยังไงนะ?”
“ คุณสามารถเปิดหน้าจอค่าสถานะเพื่อตรวจสอบได้ ปกติแล้วพรสวรรค์ก็จะช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติของเธอ ในขณะที่พรสวรรค์ที่หายากและดีบางอย่างก็จะให้สกิลแก่เธอ!” ถังเส้าหยางอธิบาย
“ ว่าแต่ เธอมีเลเวลเท่าไหร่กัน?” เขาอยากรู้เลเวลของเธอ
เขาได้ยินมาว่าเธอได้ฆ่าซอมบี้ระยะที่ 1 ไปหลายตัวระหว่างทาง แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ทราบเลเวลของเธอ
“ เลเวล 5!” จางเหมิงเหยาตอบอย่างตรงไปตรงมาในขณะที่เธอเปิดหน้าจอค่าสถานะของเธอ
—————————————–
ชื่อ: จางเหมิงเหยา
อายุ: 25
สังกัด: ไม่มี
เลเวล: 5
พรสวรรค์: การหยั่งรู้
คะแนนค่าคุณสมบัติ: 0
ความแข็งแกร่ง: 27
ความว่องไว: 15
พลังชีวิต: 17
สตามิน่า: 20
พลังเวทย์: 10
ประสาทสัมผัส: 9
สกิล: [การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน], [การคาดการณ์]
————————————–
“ ว้าว ค่าคุณสมบัติทั้งหมดของฉันยกเว้นพลังเวทย์เพิ่มขึ้นสี่ และฉันก็ได้รับสกิลใหม่มาด้วย [การคาดการณ์]” จางเหมิงเหยาบอกพัฒนาการของเธอหลังจากที่ได้รับพรสวรรค์มา
ทันทีที่เธอพูดอย่างนั้น จางเหมิงเหยาที่อยากรู้อยากเห็นก็ได้เปิดใช้งานสกิลใหม่ของเธอในทันที
มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นในตอนแรก แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงของถังเส้าหยาง “ เธอบอกฉันได้ไหม?”
เช่นเดียวกับที่เธอกำลังจะตอบ ถังเส้าหยางก็พูดซ้ำสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้
“ เธอบอกฉันได้ไหม?” ถังเส้าหยางถาม
ราวกับว่าเธอได้สัมผัสกับเดจาวู อย่างไรก็ตาม เธอก็รู้ว่าเธอไม่ได้กำลังประสบกับเดจาวู เธอพยายามใช้ [การคาดการณ์] อีกครั้ง แต่เธอก็ทำไม่ได้
[ คุณต้องรออีก 51 วินาทีก่อนจึงจะสามารถใช้ [การคาดการ์] ได้อีกครั้ง]
เธอได้รับการแจ้งเตือนแทน อย่างไรก็ตาม การแจ้งเตือนดังกล่าวก็ทำให้เธอเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อกี้นั้นเป็นความจริง เธอสามารถเห็นอนาคตในช่วงไม่กี่วินาทีข้างหน้าได้
“ ฮัลโหล เธอเป็นอะไรรึเปล่า” ถังเส้าหยางโบกมือไปที่ใบหน้าของจางเหมิงเหยาขณะที่เขาพบว่าหญิงสาวกำลังมีท่าทีงุนงง
“ ฉันได้พรสวรรค์ที่ทรงพลังมากมา! และแน่นอนว่า มันไม่เป็นไรที่จะแบ่งปันเรื่องคุณสมบัติของฉันกับนาย เนื่องจากนายเป็นคนเดียวที่ฉันสามารถแบ่งปันด้วยได้…” ในขณะที่เธอพูด ดวงตาของเธอมองไปที่ประตูสีฟ้า
“ แล้วห้องนั้นคืออะไรล่ะ? ฉันต้องเข้าห้องนี้ด้วยไหม”
“ ไม่! เธอจะต้องไปถึงเลเวล 30 ก่อน นี่คือห้องขั้นสูง เธอจะเข้าห้องนี้เพื่อเปลี่ยนคลาสของเธอ!” ถังเส้าหยางส่ายหัวและดึงมือของเธอ “ เพราะฉะนั้นแล้ว สำหรับตอนนี้ เราก็จะต้องเพิ่มเลเวลของเธอก่อนที่เราจะก่อตั้งระบบทหารอย่างเป็นทางการ”
“ ฉันรู้จักสถานที่เก็บเลเวลที่ดี แต่ก่อนหน้านั้น ฉันก็จะแนะนำลู่อันให้เธอได้รู้จักก่อน พรุ่งนี้เราจะไปอัพเลเวลกัน!” ถังเส้าหยางดึงจากเหมิงเหยาไปที่ลิฟต์
“ ออริจิ้น! แจ้งฉันด้วยเมื่อลู่อันกลับมาแล้ว! เด็กคนนั้นกำลังออกล่าอย่างบ้าคลั่ง…”
เมื่อลิฟต์ปิดลง เสียงของถังเส้าหยางก็ออกมาจากลิฟต์
*** ***
นอกอาณาเขต
ลู่อันกวาดดาบของเขาออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ฆ่าซอมบี้ระยะที่ 1 ไปสามตัวในคราวเดียว
ซอมบี้ทั้งสามเป็นซอมบี้ตัวสุดท้ายในกลุ่มนี้ ในขณะที่มันก็มีศพมากมายเรียงรายล้อมรอบเขา
ในตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาก็ได้ออกล่าซอมบี้อย่างบ้าคลั่ง เขารู้สึกได้ว่าเขากำลังถูกคุกคามด้วยการมีอยู่ของผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ
และลู่อันก็ไม่ต้องการให้บอสของเขาทอดทิ้งเขาไป ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงออกไปอัพเลเวลอย่างบ้าคลั่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขารู้ว่าบอสของเขานั้นไม่ต้องการคนที่ไร้ประโยชน์ และเขาก็จะต้องแข็งแกร่ให้มากๆเพื่อที่จะสามารถมีส่วนร่วมในแผนการของบอสของเขาในอนาคตได้
“ หน้าจอค่าสถานะ!”
—————————————–
ชื่อ: ลู่อัน
อายุ: 18
สังกัด: จักรวรรดิถัง
เลเวล: 27
พรสวรรค์: ความคล่องแคล่ว
คะแนนค่าคุณสมบัติ: 0
ความแข็งแกร่ง: 21
ความว่องไว: 126
พลังชีวิต: 10
สตามิน่า: 20
พลังเวทย์: 3
ปรระสาทสัมผัส: 7
สกิล: การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน
————————————–
เลเวล 27 ความพยายามทั้งหมดของเขาในการล่าได้รับผลตอบแทนแล้ว
“ อีกสามเลเวลฉันก็จะได้คลาสของฉันแล้ว! อย่างไรก็ตาม ฉันก็ยังไม่มีเหรียญมากพอสำหรับคลาสยูนิต! ฉันจะต้องขออนุญาตจากบอส ฉันได้ยินมาจากออริจิ้นว่ามันมีมินิเกมที่ให้เหรียญมามากมาย!” ลู่อันพึมพำและเงยหน้าขึ้นมอง
พระจันทร์สว่างไสวปรากฎอยู่ในสายตาของเขาและเขาก็ถอนหายใจ
“ ฉันไม่พบผู้รอดชีวิตเลย แต่ฉันก็สามารถหาเสบียงมาได้มากพอสมควรแล้ว! ดังนั้นก็จบการล่าในวันนี้เลยก็แล้วกัน…” ลู่อันพึมพำขณะที่เขาเดินกลับไปยังที่พักพิงพร้อมกระเป๋าเป้ที่ปูดโปน
ในขณะที่เขาเดินกลับ ทันใดนั้นมันก็มีคนเก้าคนพุ่งออกมาจากอาคารและล้อมรอบลู่อัน
“ โย่ว… โย่ว… โย่ว… ดูซินี่ใคร? แกคือลู่อัน ลูกน้องคนสนิทของไอ้อันธพาลเวรนั่นใช่ไหม?” เสียงหนึ่งดังก้องในคืนอันเงียบสงบ
ลู่อันหันไปทางต้นเสียงและพบกับใบหน้าที่คุ้นเคย ฉีจางเฉิง ลูกชายคนเดียวของนายกเทศมนตรีเมือง SH มันคือคนที่ถังเส้าหยางใช้เป็นตัวอย่างเพื่อเตือนคนอื่นๆ