บทที่ 41 มินิลอร์ด 3
เช้าวันรุ่งขึ้น ถังเส้าหยางพยายามเปิดเปลือกตาของเขา
เป็นเวลาสามวันแล้วที่พวกเขาโจมตีสวนสาธารณะที่มีหมอกหนา ในแต่ละวัน กลุ่มสามคนก็ยังคงต่อสู้กันจนถึงดึกดื่น และราวกับว่ามันมีวานรเมฆาไม่มีที่สิ้นสุด พวกมันยังคงมาเรื่อยๆแม้จะถูกฆ่าอยู่ตลอดเวลา
ถังเส้าหยางยังคงเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้เมื่อวาน และในขณะที่เขากำลังจะตื่น เขาก็รู้สึกได้ว่ามันมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อยบน “เกียร์” ของเขา
เมื่อเขามองลงมา เขาก็พบกับมือที่ละเอียดอ่อนสีขาวนวลที่ขยับไปมาบน “เกียร์” ของเขา เขาพยายามเอามือของเธออกดดยไม่ปลุกให้เธอตื่น
หลังจากเอามือออกไปได้แล้ว เขาก็ลุกออกจากเตียง อย่าไรก็ตาม คืนนี้เขก็ได้นอนทั้งๆที่ยังใส่เสื้อผ้า
แม้ว่าเขาจะมีความอยากในฐานะผู้ชาย แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเก็บแรงเอาไว้ต่อสู้กับลิงซะมากกว่า ท้ายที่สุดแล้วการอัพเลเวลก็มีความสำคัญมากกว่าสิ่งเร้าภายในของเขา
เขาต้องจัดลำดับความสำคัญให้ถูก ในไม่ช้าเมื่อมีผู้คนมารวมตัวกันมากขึ้น เขาก็จะต้องตั้งกฎเกณฑ์และกองทัพก่อนที่สถานการณ์จะเกินควบคุม
กุญแจของปัญหานี้ก็คือหญิงสาวที่กำลังนอนสบายบนเตียง การแสดงออกที่ไร้เดียงสาของเธอในขณะนอนหลับนั้นค่อนข้างน่าทึ่ง
“ อืม ดูเหมือนฉันจะได้เทพธิดามาแล้วสิ” เขาชมผู้หญิงของเขาและจุมพิตที่แก้มของเธอ
เขาออกจากห้องไปล้างหน้า และเมื่อเขาไปถึงครัว ลู่อันก็กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเช้า
“ หือ วันนี้นามตื่นแต่เช้าเลยนะ” ถังเส้าหยางกล่าวขณะเปิดตู้เย็นและหยิบน้ำส้มกล่องหนึ่งออกมาดื่ม
“ ฮี่ฮี่” ลู่อันหัวเราะเบาๆในขณะที่เกาหัวด้วยความเขินอาย
“ ฉันอายที่ต้องให้บอสมาทำอาหารเช้าให้ทุกวัน ดังนั้นวันนี้ฉันเลยตื่นเร็ว”
หลังจากดื่มน้ำส้มหนึ่งแก้ว เขาก็หยิบกล่องนมออกมาแล้วเดินไปที่ไมโครเวฟ
เขาใส่นมเข้าไปในไมโครเวฟและพูดอะไรบางอย่างที่ลู่อันไม่เข้าใจ
“ มันแปลกใช่มั้ย?”
ลู่อันแสดงสีหน้าสับสนและมองไปที่บอสของเขา
“ ฉันหมายถึงน้ำและไฟฟ้าทำงานได้ดี นายไม่รู้สึกแปลกบ้างหรอ?” ถังเส้าหยางชี้นิ้วไปที่ก๊อกน้ำและโคมไฟ
“ ประมาณหนึ่งเดือนแล้วหรือน้อยกว่านั้น ฉันลืมเวลาไปแล้ว แต่ฉันก็แน่ใจว่ามันเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนแล้วที่โลกของเรากลับหัวกลับหางแบบนี้ ซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์ปรากฎตัวขึ้นทุกที่ แต่ทุกอย่างก็กลับยังเรียบร้อยดีนายไม่รู้สึกแปลกบ้างหรอ?”
ใช่แล้ว น้ำยังคงสะอาดและพร้อมใช้งานแม้ว่าจะมีความโกลาหลเกิดขึ้นั่วทุกที่ เช่นเดียวกัน ไฟฟ้าก็ยังคงทำงานได้อยู่
“ อืม…” ลู่อันพยักหน้าด้วยสีหน้าครุ่นคิด เขามีบางอย่างในใจ
“ ในเมือ่เราพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ฉันก็เห็นว่ามันยังมีบางอย่างที่แปลกไปกว่านั้น”
ติ้ง!
ทันใดนั้นเสียงไมโครเวฟก็ดังขึ้น ถังเส้าหยางหยิบนมออกมาแล้วเทลงในแก้ว นี่คือนมสำหรับจางเหมิงเหยา เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนี้ชอบดื่มนมอุ่นในตอนเช้า
“ มันคืออะไร?” เขาถามขณะรินนม
“ มันเกี่ยวกับโทรศัพท์! ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันก็กำลังมองหาโทรศัพท์ แต่มันก็แปลกมาก ฉันหาโทรศัพท์ข้างนอกไม่เจอเลย ฉันถามผู้รอดชีวิตคนอื่นๆด้วย แต่พวกเขาก็บอกกับฉันว่าโทรศัพท์ของพวกเขาเองก็ได้หายไปด้วยเช่นกัน”
ลู่อันตอบขณะที่มือของเขากำลังกวนโจ๊กในหม้อ เขานำกระดูกลิงจากของเหลือเมื่อคืนไปทำโจ๊ก
“ แปลกจริงๆ” ถังเส้าหยางพยักหน้าเห็นด้วย แต่เขาก็ไม่ได้จริงจังกับมันมากนัก
มันมีเรื่องแปลกมากมายเกิดขึ้น แต่เขาก็ไม่มีเวลาคิดมาก สำหรับตอนนี้ เขาก็มีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น ซึ่งมันก็คือการสร้างจักรวรรดิของเขา ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนในใจ เขาก็จะไม่เสียเวลาไปกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ
เขาใช้การสนทนานี้เป็นการพูดคุยเล็กๆน้อยๆกับลู่อัน ลู่อันเองก็คิดเช่นเดียวกัน สิ่งที่อยู่ในใจของเขานั้นคือการแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งพอที่จะยืนเคียงข้างบอส
หลังจากอิ่มท้องด้วยอาหารเช้าแสนอร่อยแล้ว กลุ่มถังเส้าหยางก็มุ่งหน้าไปยังป่าหมอก
รผหว่างทางกลับไปยังสวนสาธารณะที่มีหมอกหนา พวกเขาก็ผ่านถนนที่เต็มไปด้วยซากลิง จางเหมิงเหยาต้องบีบจมูกของเธอขณะที่ศพเริ่มเน่า
“ อันที่จริง พวกนายก็ควรจะทำอะไรสักอย่างกับศพเหล่านี้ได้แล้วนะ ไม่งั้นมันก็จะเป็นการสูญเสียอาหารอันโอชะจากสวรรค์ไป” จางเหมิงเหยากล่าวขณะที่เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแท้จริงเล้วถังเส้าหยางต้องการที่จะทำอะไรกับพวกมัน
“ เดี๋ยวคุณก็รู้เอง” ลู่อันยิ้มตอบอย่างลึกลับในขณะที่ถังเส้าหยางเดินต่อไปโดยไม่ตอบ
หลังจากต่อสู้กันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสามวัน จางเหมิงเหยาและลู่อันก็สนิทสนมกันขึ้นมาก ทั้งสองสนทนากันต่อไปจนกระทั่งได้รับเสียงเรียกจากถังเส้าหยาง
“ พวกเรามาถึงแล้ว เตรียมตัว!” ถังเส้าหยางหยุดอยู่ตรงหน้าสวนสาธารณะที่มีหมอกหนา
จางเหมิงเหยาดึงดาบของเธอออกมาแล้ววางโล่ไว้บนหลังของเธอ เธอยืนอยู่ที่นั่นและมองไปทางหมอกด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม เธอเห็นดวงตาสีแดงที่จ้องมาที่เธอ
ดูเหมือนลิงพวกนี้จะกำลังรอพวกเขาอยู่ อย่างไรก็ตาม จางเหมิงเหยาก็ยังคงสงบเสงี่ยม การเก็บเกี่ยวของเธอในช่วงสามวันที่ผ่านมานั้นทำให้เธอมาถึงเลเวล 21 ภายในระยะเวลาสามวันในขณะที่ลู่อันก็ได้รับคลาสเรียบร้อยแล้ว
“ หน้าจอค่าสถานะ!” เธอพูดเสียงต่ำ
———————
ชื่อ: จางเหมิงเหยา
อายุ: 25
สังกัด: ไม่มี
เลเวล: 21
พรสวรรค์: การหยั่งรู้
คะแนนค่าคุณสมบัติ: 0
ความแข็งแกร่ง: 59
ความว่องไว: 47
พลังชีวิต: 33
สตามิน่า: 36
พลังเวทย์: 10
ประสาทสัมผัส: 21
สกิล: [การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน], [การคาดการณ์]
———————
ค่าคุณสมบัติของเธอมีความสมดุลสูงมาก ทุกครั้งที่เธอเลเวลอัพ แต่ละค่าคุณสมบัติก็จะเพิ่มขึ้นยกเว้นพลังเวทย์ สำหรับคะแนนค่าคุณสมบัติที่ได้รับมาจาการเลเวลอัพ เธอก็จะจัดสรรมันไปที่ค่าความแข็งแกร่งกับคาความว่องไว
เมื่อมองดูค่าคุณสมบัติที่สูงและสมดุลของเธอ มันก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเธอในการเข้าไปในป่าหมอก นอกจากนี้…
จางเหมิงเหยามองไปที่แผ่นหลังอันกว้างใหฦญ่ของถังเส้าหยาง ผู้ชายของเธอจะอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อปกป้องเธอ และตราบใดที่ชายคนนั้นอยู่ใกล้เธอ เธอก็จะรู้สึกปลอดภัยเสมอ
“ ฉันพร้อมแล้ว!” เธอประกาศด้วยความมั่นใจ ลู่อันก็เช่นกัน “ พร้อมทุกเวลาครับบอส!”
“ งั้นก็ไปกันเถอะ!” ถังเส้าหยางพยักหน้าและก้าวเข้าไปในสวนที่มีหมอกหนา
ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในสวนสาธารณะ วานรเมฆาก็กรีดร้องและเข้าโจมตีผู้บุกรุกในทันที จากนั้นการต่อสู้ระหว่างวานรเมฆากับกลุ่มมนุษย์ทั้งสามคนได้เริ่มต้นขึ้น
*** ***
สามชั่วโมงนับตั้งแต่ที่กลุ่มกลับเข้าไปในป่าหมอก
จางเหมิงเหยาสำรวจบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง เมื่อสองชั่วโมงก่อน กลุ่มก็สังเกตเห็นว่าจำนวนลิงที่โผล่มาโจมตีพวกเขานั้นลดลงอย่างมาก
ตั้งแต่นั้นมา ลิงก็จะโจมตีพวกเขาเป็นบางครั้งแทนที่จะพุ่งเข้าหาพวกมันอย่างบ้าคลั่ง ศัตรูได้เปลี่ยนกลยุทธ์หรอ…
“ มันไม่มีลิงเหลืออยู่มากแล้วล่ะมั้ง…” จางเหมิงเหยาพึมพำด้วยเสียงต่ำ
ว้าว!
เงาพุ่งเข้าหาเธอจากด้านหลัง มันคือวานรเมฆาที่พยายามจะโจมตีหญิงสาวจากจุดบอดของเธอ
แต่จางเหมิงเหยาก็รับรู้ได้ถึงการโจมตีที่เข้ามา เธอหมุนตัวและฟันดาบของเธอออกไปในแนวนอน ดาบของเธอพุ่งขึ้นไปในอากาศและฟันหัวของลิง
ร่างของลิงตกลงมาต่อหน้าเธอ ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เธอก็หยิบศพของลิงตัวนั้นแล้วโยนออกไปนอกสวนสาธารณะ
ในเวลาเดียวกัน เสียงหุ่นยนต์ก็ดังก้องอยู่ในใจของเธอ
[ คุณได้เลเวลอัพแล้ว! ]
[ คุณได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติ 2 คะแนน! ]
[ คุณสามารถจัดสรรคะแนนค่าคุณสมบัติได้โดยการเปิดหน้าจอค่าสถานะ! ]
รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของจางเหมิงเหยา เธอเลเวลอัพอีกครั้งหนึ่งนับตั้งแต่ตอนเช้า และตอนนี้เธอก็เลเวล 23 แล้ว เธอค่อยๆไล่ตมเลเวลของคนอื่นทันแล้ว
การต่อสู้แบบลับๆล่อๆแบบนี้ยังคงดำเนินต่อไปในตลอดชั่วโมง
จนกระทั่งถึงตอนหนึ่ง จางแหมิงเหยาก็สังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว “ หมอกเริ่มจางลงแล้ว!”
เธอไม่รู้ว่านี่เป็นลางดีหรือไม่ดี
จากนั้นถังเส้าหยางก็สังเกตเห็นว่าหมอกกำลังบางลงจริงๆ ตอนนี้สายตาของเขาสามารถไปถึงข้างหน้าได้ยี่สิบเมตร มันทวีคูณมากกว่าเดิม
“ อ่า ดูนั่นสิ หมอกก่อตัวเป็นเส้นทาง!” ลู่อันชี้ไปที่ทิศทางข้างหน้า
อย่างที่ลู่อันบอก หมอกนั้นหายไปแล้ว และมันก็สร้างเส้นทางขนาดสี่เมตรขึ้นมา ราวกับว่าหมอกพวกนี้กำลังจะพาพวกเขาไปยังที่แห่งหนึ่ง
“ ตามฉันมา!” ถังเส้าหยางเดินไปตามเส้นทาง มันไม่มีลิงโจมตีพวกเขาเลย ดังนั้นเขาจึงเดินต่อไปตามทาง
แน่นอน เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวัง และคอยตรวจสอบว่ามันเป็นกับดักหรือไม่
จางเหมิงเหยาและลู่อันติดตามถังเส้าหยางไปอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบพวกเขา
มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งพวกเขามาถึงจุดที่หมอกพาพวกเขาไป มันเป็นพื้นที่เปิดโล่ง สนามหญ้าประมาณห้าสิบเมตร มันไม่มีหมอกมาบดบังทัศนวิสัยของพวกเขาแล้ว และร่างสี่ร่างก็กำลังรอการมาถึงของพวกเขา
มันคือลิงยักษ์ 4 ตัว ลิงตัวที่ใหญ่ที่สุดสูงประมาณ 7 เมตร ส่วนที่เหลือก็สูง 4-5 เมตร
ถังเส้าหยาวใช้ [การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน] กับลิงที่ตัวใหญ่ที่สุดในทันที ในไม่ช้า ข้อมูลของคู่ต่อสู้ที่เขาต้องเผชิญก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
———————
[ สัตว์ร้าย – ราชาวานรเมฆา ]
สังกัด : เผ่าวานรเมฆา
ระดับลอร์ด: มินิลอร์ด
วิวัฒนาการ: ระยะที่ 5
เลเวล: 48
สกิล:???