Armipotent – จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ
บทที่ 52 ภารกิจ
ผู้คนมากกว่าครึ่งออกมาจากฐานเมื่อถึงเส้าหยางกล่าวว่าพวกเขาสามารถออกไปได้ สําหรับคําพูดของเขาที่ไม่ยอมให้พวกเขากลับมา พวกเขาก็ไม่ได้โง่พอที่จะเชื่อคําพูดของเขา
หากพวกเขาออกจากฐาน โอกาสที่ฐานจะรอดจากฝูงซอมนั้นก็แทบจะเป็นศูนย์
แม้แต่สามคนในผู้ใต้บังคับบัญชาของจางเหมิงเหยาก็ยังชักชวนให้หัวหน้าของพวกเธอออกไปกับพวกเธอ
“ ออกจากฐานในขณะที่เรายังทําได้เถอะหัวหน้า!” 1ปานหยานหยูพยายามดึงตัวหัวหน้าของเธอออกจากอาคาร
“ใช่ ออกจากฐานกันเถอะ มันไม่มีความหวังที่ฐานจะรอดจากฝูงซอมบี้ได้เลย! ไปกันเถอะหัวหน้า!” เฉิงเหม่ยกระตุ้นจางเหมิงเหยา
อย่างไรก็ตาม จางเหมิงเหยาก็ไม่ได้อ่อนไหวต่อการชักชวนของผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ ถ้าพูดตามหลักของเหตุและผลเธอก็คงจะออกไปกับพวกเธอ อย่างรก็ตามเมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ร่างของถังเส้าหยางก็ปรากฏขึ้นมาในใจเธอ
“ ไม่ ฉันจะอยู่ที่นี่! ถ้าเธออยากไป ฉันก็จะไม่โทษเธอ เธอ สามารถออกไปได้เลย!” จางเหมิงเหยายิ้มให้กับลูกทีมเก่า
ของเธอ
คําตอบของเธอหนักแน่น และในฐานะลูกน้องของเธอพวกเธอก็รู้ว่าหัวหน้าของพวกเธอจะไม่เปลี่ยนใจอย่างแน่นอน
“ หัวหน้า ฉะ-ฉันขอโทษ ฉันยังมีครอบครัวอยู่ในเมืองWฉันไม่สามารถอยู่กับคุณได้…” ตันเสี่ยวหลี่ร้องไห้เมื่อเธอรู้ว่าเธอจะต้องแยกทางกับหัวหน้าของเธอ
“ ฉันเข้าใจ! เธอออกไปได้แล้ว” จางเหมิงเหยากอดตันเสี่ยวหลี่
หลังจากตันเสี่ยวหลี่ เธอก็ไปกอดป่านหยานหยูและเฉิงเหม่ยด้วย มันเป็นการอําลาระหว่างพวกเธอ และนี่ก็อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเธอจะได้พบกัน
หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ก้าวออกปพร้อมกับอุปกรณ์ที่พวกเธอซื้อมาจากร้านค้าทั่วไป
เมื่อพวกเธอออกไป มันก็เหลือเพียงแค่ จางเหมิงเหยา,ไต่เหวินเฉียนและฝูตันตัน
พวกเธอไม่จําเป็นจะต้องมาเสี่ยงชีวิตเพื่อฉันหรอกนะ รู้ไหม?” จางเหมิงเหยาหันกลับมาและยิ้มให้ทั้งสองสาว
ไต่เหวินเฉียนถอนหายใจและตอบว่า “ คุณเป็นครอบครัวเดียวที่ฉันมีในโลกใบนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะทิ้งคุณไว้ที่นี่”
“ อย่าเข้าใจฉันผิดนะหัวหน้า! แต่ฉันอยู่ที่นี่ก็เพราะเขา!”ฝูตันตันที่ร่าเริงชี้นิ้วไปที่ลู่อันซึ่งกําลังสนทนากับถังเส้าหยางอยู่
จางเหมิงเหยาส่ายหัวและยิ้ม “ อ่า ไม่ว่าเหตุผลของพวกเธอคืออะไร แต่ฉันก็ดีใจที่พวกเธอยังอยากอยู่กับฉันที่นี่ เอาล่ะ ที่นี้ก็ย้ายก้นของพวกเธอไปทํางานได้แล้ว!”
หลังจากพูดคุยกันเสณ์จ ลู่อันก็ออกไปจากฐานเพียงลําพัง
“ เขาตัดสินใจจะออกไปด้วยหรอ” จาเงหมิงเหยาถามด้วยน้ําเสียงเป็นกังวล
ลู่อันเป็นคนที่ติดตามถึงเส้าหยามมานานที่สุด ดังนั้นหากขาออกไปจากฐาน มันก็อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของถังเส้าหยางได้
“ ไม่ ฉันให้ภารกิจเขาไปทํา!” ถังเส้าหยางส่ายหัว “ ออริจิ้น! เราเหลืออยู่กี่คน?”
“ 1,037 คน!” ออริจิ้นตอบกลับในทันที มันมีผู้คนมากกว่า 2,200 คนที่หนีออกไปจากฐาน
“ มีกี่คนที่สามารถต่อสู้?”
* 257 คน!”
“ ฉะ ฉันก็สู้ได้เหมือนกัน” หลังจากคําตอบของออริจิ้นจบลงมันก็มีเสียงที่ดูขี้อายดังขึ้น
ทุกคนมองไปที่ต้นเสียง มันคือเสียงของหลี่อัน เสมียนคนนี้กําลังสวมชุดเกราะหนัง ธนูยาว กระบอง และหอก แม้จะดูประหม่าและขี้ขลาด แต่เธอก็พร้อมที่จะเป็นอาสาสมัคร
อย่างไรก็ตาม มันก็ดูเหมือนว่าการกระทําของเธอจะไม่ได้
ส่งผลอะไร
“ ฮ่าฮ่า… สาวน้อย เธออยู่ใน 257 คนที่ต่อสู้ได้อยู่แล้ว! ดังนั้นต่อให้เธอไม่สมัครใจ เธอก็ต้องสู้!” เสียงล้อเล่นของออริจิ้นดังขึ้นที่ล็อบบี้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของหลี่อันก็แดงขึ้นจากความอับอาย เธอกําลังทําสิ่งที่ไม่จําเป็น
ถังเส้าหยางชื่นชมในความกล้าหาญของหญิงสาวเขาวางมือลงบนไหล่ของเธอแล้วพูดว่า “ งั้นก็ไปเตรียมตัวสู้ได้แล้ว!”
รับทราบ!” หลี่อันตอบอย่างหนักแน่น
“ นะ หนูก็ด้วย… ให้หนูสู้ด้วยเถอะ!” เสียงเด็กดังมาจากด้านหลังของหลี่อัน
ถังเส้าหยางมองลงมาและพบน้องสาวคนเล็กของหลี่อันหลี่ เยว่กําลังยืนตัวตรงและอาสาที่จะต่อสู้ แม้แต่เด็กหญิงอายุ 6 ขวบก็ยังกล้าหาญกว่านักสู้
ถังเส้าหยางย่อตัวลงและขยี้ผมบนหัวของหลี่เยว่ “ พลทหารหลี่เยว่ เธอมีงานของเธอแล้ว! ซึ่งมันก็คือการเตรียมงานเลี้ยงสําหรับทหารหลังการพวกเขาต่อสู้เสร็จ! ถ้าเธอออกจากตําแหน่งไป อย่างงั้นใครจะเป็นคนเสิร์ฟอาหารล่ะ?”
ดวงตากลมโตสีดําของเยว่น้อยเบิกกว้างขึ้น ดูเหมือนเธอจะเพิ่งตระหนักได้ถึงปัญหานี้ เช่นเดียวกับที่ตั้งเส้าหยางพูดเด็กน้อยคนนี้เป็นผู้ช่วยในครัว เธอคอยช่วยเสิร์ฟอาหาร และถ้าเธอออกไปต่อสู้ อย่างงั้นแล้วใครจะมาแทนที่เธอล่ะ?
ถังเส้าหยางยิ้มกว้างขึ้น “ พลทหารหลี่เยว่ หน้าที่ของเธอคืออยู่ในครัวและเธอก็จะต้องรับผิดชอบในการจัดการเรื่องของกินเข้าใจไหม!?
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ยืนตัวตรงและยกมือเล็ก ๆ ของเธอไปที่หน้าผากของเธอ
เธอโต้งคํานับถังเส้าหยางและตอบเสียงดัง “ รับทราบค่ะ
บอส!”
หลังจากนั้นเธอก็วิ่งกลับไปที่ลิฟต์ จุดหมายปลายทางของเธอนั้นชัดเจน ชั้นสองของโรงอาหาร
การสนทนาระหว่างถึงเส้าหยางและหลีเยวนั้นทําให้สถานการณ์ความตึงเครียดในล็อบบี้เบาบางลง
“ เราก็ยังสู้ได้!” กลุ่มชายชราและหญิงชราเดินออกมาพวกเขาเองก็ต้องการที่จะเข้าร่วมการต่อสู้
กลุ่มคนชราต้องการที่จะทําประโยชน์ให้กับฐานพวกเขายอมที่จะเป็นโล่เนื้อในด่านเหน้าเพื่อตรึงกําลังของฝูงซอมบี้อย่างไรก็ตาม ถังเส้าหยางก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดเหล่านั้น
“ อย่ากังวลไปเลย ท่านผู้เฒ่า! คุณยังมีงานให้ทําในภายหลังสําหรับตอนนี้ ให้พวกเราต่อสู้เพื่อคุณเถอะ!” ถังเส้าหยางตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขา
จากนั้นยังเส้าหยางก็ขอให้ออริจิ้นพูดคําของเขาให้กับคนทั้ง 257 คนเพื่อมารวมตัวกันที่ด้านหน้าของอาคาร หลักร้อยต่อหลักพัน จากจํานวนนั้น อัตราต่อรองต่อพวกเขาก็นับว่าเป็นต่อมาก อย่างไรก็ตาม มันก็ใช่ว่าพวกเขาจะเอาชนะไม่ได้
“ แล้วแผนของเราคืออะไรล่ะ!?” จางเหมิงเหยาถาม
ใช่แล้ว พวกเขาต้องการกลยุทธ์ที่ดีในการเอาชนะด้วยจํานวนคนที่น่าสมเพชนี้
ก่อนที่ถังเส้าหยางจะพูดความคิดของเขาออกมา จางเหมิงเหยาก็ได้กล่าวต่อว่า “ จากถนนสายหลักมายังฐานของเราฝูงซอมบี้ก็จะต้องผ่านถนนทั้งหกเส้นนี้!”
เธอหยิบแผนที่ออกมา เธอชี้ให้เห็นถนนหกสายซึ่งเป็นถนนที่ใกล้ที่สุดหลังจากข้ามสะพานเพื่อมาถึงฐาน
“ แบ่งคนออกเป็นแปดทีม หกทีมหลักปกป้องถนนทั้งหกนี้และอีกสองทีมเล็กๆอยู่คอยปกป้องถนนสองสายนี้!” จงเหมิงเหยาชี้ให้เห็นถนนสองสายที่มีความเป็นไปได้น้อยที่สุดที่ซอมบี้จะใช้เดินทางมา
“เราสามารถใช้รถที่ถูกทิ้งร้างขวางทางของพวกมันได้เช่นกัน และแต่ละทีมก็ควรที่จะติดอาวุธด้วยหอกและธนู…”
แผนจะสมบูรณ์แบบถ้าศัตรูของพวกเขาเป็นเพียงซอมบี้ระยะที่ 1 แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น
“ เรามีปัญหาอยู่สองอย่าง หนึ่ง เรามีลูกธนูจํากัด และสองมันมีซอมบี้ระยะที่ 2 หรือ 3 อยู่ด้วย” จางเหมิงเหยาแสดงความกังวล
“ ลูกธนูไม่น่าจะเป็นปัญหา! จักรวรรดิสามารถจัดหาลูกธนูให้ได้อย่างเต็มที่! แต่ซอมบี้ระยะที่ 2” ถังเส้าหยางไม่รู้ว่ามันมีพวกเขากี่คนที่จะสามารถต่อกรกับซอมบี้ระยะที่ 2 ได้
“ ออริจิ้น! มันมีกี่คนที่สามารถต่อสู้กับซอมบี้ระยะที่ 2 ได้จากการประเมินของนาย!”
ออริจิ้นมีข้อมูลของคนทั้งหมด ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่จะถามข้อมูลในส่วนนี้
“ 44 คนรวมทั้งคุณด้วย!” ออริจิ้นให้คําตอบในทันที
เมื่อได้ยินตัวเลขแล้ว ถังเส้าหยางก็รู้สึกโล่งใจ “ แค่นั้นก็พอแล้ว แบ่งพวกเขาออกเป็นหกทีมหลัก!”
ถังเส้าหยางมุ่งหน้าออกไปข้างนอกที่ซึ่งผู้คนของเขากําลังรอต่อสู้
ตามที่จางเหมิงเหยาวางแผนไว้ พวกเขาแบ่งคนออกเป็นหกทีมหลักและสองทีมเล็ก
“ เตรียมการป้องกันไว้ให้พร้อม!” ถึงเส้าหยางให้จางเหมิงเหยารับผิดชอบในขณะที่เขามุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ
* นายกําลังจะไปไหน?” จางเหมิงเหยาถามออกมา
“ ฉันจะไปซื้อเวลาให้พวกเราทุกคนได้เตรียมการป้องกัน!”ถังเส้าหยางยิ้มให้กับหญิงสาว
“ นาย” ก่อนที่จางเหมิงเหยาจะพูดจบ ถังเส้าหยางก็จูบ เธอมันเป็นฉากจูบ 30 วินาทีที่แทบจะทําให้คนหยุดหายใจ
“ ฉันจะไม่เป็นอะไร! งานของเธอคือปกป้องคนของเราหรืออย่างน้อยก็ในตอนนี้!”
จากนั้นยังเส้าหยางก็ทิ้งหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังไปและมุ่งหน้าไปที่สะพาน
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาไปถึงสะพาน เขาก็ไม่ได้อยู่คนเดียวคู่รักเว่ยซีกับว่างจิงยี่และจ้าวจงก็กําลังรอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว
“ ฉันคิดว่านายจะหนีไปซะอีก” ถังเส้ารยเว่ยซี
“ ฮิฮิ…. ภรรยาของฉันพยายามเกลี้ยกล่อมฉันแล้วยังไงก็ตามในครั้งนี้ฉันก็อยากที่จะเชื่อมั่นในความกล้าของฉันและติดตามคุณไป!” เว่ยซียิ้ม รอยยิ้มของเราเริ่มมีความคล้ายคลีงกันกับรอยยิ้มของถังเส้าหยาง
“ แล้วนายล่ะ?” คําถามถูกส่งไปยังจ้าวจง
“ ฮ่าฮ่า… ฉันหรอ… เบอร์เซิร์กแห่งหยุหยูหลิวคุน ฉันต้องการที่จะเห็นปาฏิหาริย์ของเขาอีกครั้ง!” จ้าวจงตอบด้วยเสียงหัวเราะจากใจจริง
“ ดี ฉันจะทําให้ความปรารถนาของนายเป็นจริง แต่ไม่ใช่ในฐานะของเบอร์เซิร์กแห่งหมูหยูหลิวคุน แค่เป็นในฐานะของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิถัง!” เมื่อพูดจบแล้ว ยังเส้าหยางก็ก้าวไปข้างหน้า เขาก้าวไปหาฝูงซอมบี้ที่ตรงสะพาน
ขณะที่เขาก้าวเข้าไปยังสะพาน เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัวของเขา
ภารกิจผู้พิชิต
ตัวหลัก: จักรวรรดิถัง
วัตถุประสงค์: เอาชนะฝูงซอมบี้ / ทําลายฝูงซอมบี้
รางวัล : +1 เลเวล , +10 คะแนนสกิล, 1,000,000 GC (มอบให้แก่ผู้เข้าร่วมทั้งหมด/จักรวรรดิถัง)
รางวัล: +1 เลเวลอาณาเขตอัจฉริยะ, 10,000,000 GC (รางวัลกลุ่ม)
บทลงโทษสําหรับความล้มเหลว: 5 เลเวล (ผู้เข้าร่วมทั้งหมด) และอาณาเขตอัจฉริยะถูกทําลาย
“ ตอนนี้เราก็มีเหตุผลให้ต้องสู้เพิ่มมาอีกหนึ่งแล้ว!” ถังเส้าหยางยิ้มออกมาอย่างบ้าคลั่งในขณะที่เขามุ่งหน้าเข้าหาฝูงซอมบี้