Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1951 เมฆลมไหวเคลื่อน

ตอนที่ 1951 เมฆลมไหวเคลื่อน
พลังกลืนกินที่ไร้รูปสายหนึ่งพลันแผ่ออกไปยังทั่วทิศ โดยมีเงาร่างหลินสวินเป็นศูนย์กลาง

ภูเขาก้อนหินต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ เปลี่ยนเป็นฝุ่นผงโดยพลัน อากาศยุบตัวเป็นวังวนขนาดใหญ่ แผ่กระจายไปรอบๆ

“สมควรตาย นี่มันพลังอะไรกัน เหตุใดจึงไม่อาจต้านได้”

มีเสียงร้องแหลมดังขึ้น

ผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ที่หนีไปยังสี่ทิศแปดด้าน ล้วนรู้สึกเหมือนถูกมือข้างใหญ่คว้าไว้จากด้านหลัง ลากไปอย่างรุนแรง เงาร่างที่หนีอยู่พลันชะงักไป

ตูมโครม!

สิบทิศล้วนสะเทือน อากาศเปลี่ยนเป็นวังวนพายุ พลังกลืนกินที่น่าพรั่นพรึงทำให้จุดที่หลินสวินยืนอยู่ราวกับเปลี่ยนเป็นหลุมดำฟ้าดารา

พวกซินหรูเจี่ยดิ้นรนสุดชีวิต แต่กลับเหมือนตกอยู่ในดินโคลน เดินทวนกระแส สีหน้าเต็มไปความกินแรงและตื่นตระหนก

นี่มันพลังมหามรรคระดับใดกัน

ตอนนี้เองหลินสวินขยับตัว สำแดงวิชามรรคอย่างปราณกระบี่ไท่เสวียน หนึ่งกระบวนวัฏจักรฟ้า หนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์ มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร ดรรชนีมหาอุดมสลายมายาออกมาในคราเดียว

แยกกันพุ่งใส่พวกซินหรูเจี่ย!

ชั่วขณะหนึ่งพื้นที่แถบนี้ล้วนปั่นป่วน ตกอยู่ท่ามกลางความสั่นไหว ฝุ่นควันคละคลุ้ง ประกายศักดิ์สิทธิ์เจิดจ้าปกคลุม

มีคนถูกปราณกระบี่ไร้ขอบเขตกวาดใส่ โหยหวนโอดครวญ

มีคนถูกพลังหมัดกระแทกร่าง กระเด็นออกไป

มีคนถูกดาบหักฟันสมบัติแหลก เลือดออกเจ็ดทวาร

มีคน…

ภาพคาวเลือดแต่ละภาพนี้เกิดขึ้นแทบจะในชั่วพริบตาเดียว

พอหมอกควันสลาย เศษฝุ่นสงบลง

ในสนามรบนอกจากยันต์ชีวิตเต็มพื้น ก็เหลือเพียงซินหรูเจี่ยคนเดียว คนอื่นๆ ล้วนถูกคัดออกหมดแล้ว!

ในใจจินเทียนเสวียนเยวี่ยสะท้านสะเทือนขึ้นมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ คุณชายเขา… แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!

ซินหรูเจี่ยราวกับถูกกระตุ้นจนขวัญเตลิด สีหน้าซีดเซียว สองตาล่องลอย

ริมฝีปากเขาพึมพำ “ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้… คนผู้เดียวจะทำได้ถึงขนาดนี้ได้อย่างไร เจ้าจะต้องโกงแน่ เจ้าจะต้องใช้วิชาลับต้องห้ามแน่!”

พูดถึงสุดท้ายสีหน้าของเขาพลันเหี้ยมเกรียม ท่าทางราวกับบ้าคลั่ง คำรามเสียงดัง

หลินสวินเอ่ยเรียบๆ “โลกภายนอกมีผู้ยิ่งใหญ่มากมายขนาดนั้นมองดู หากข้าโกง จะสามารถยืนอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัยได้อย่างไร”

“ไม่ เจ้าจะต้องโกงแน่!”

ซินหรูเจี่ยตะคอก ขอบตาแดงระเรื่อ เขาไม่สามารถรับทั้งหมดนี้ได้

พวกเขาทั้งกลุ่มสิบกว่าคน ล้วนเป็นผู้สืบทอดแกนหลักของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ เลือกใครออกมาลวกๆ แม้อยู่ในแคว้นอื่นของโลกใหญ่หงเหมิงยังเรียกได้ว่าเป็นบุคคลชั้นยอด สะดุดตาอย่างที่สุด

แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกคนผู้เดียวโจมตีจนเสียกระบวน ยับเยินไม่เหลือสภาพ ปรากฏสถานการณ์พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์

นี่ทำให้ในใจซินหรูเจี่ยหลั่งเลือด จะรับได้อย่างไร

หลินสวินคร้านจะพูดมากแล้ว

ฉัวะ!

ดาบหักโฉบออกมา วาบประกายเย็นเยียบคราหนึ่ง เพียงไม่กี่อึกใจสั้นๆ ก็โจมตีซินหรูเจี่ยจนพ่ายแพ้และถูกคัดออก

ก่อนจะถูกคัดออก ซินหรูเจี่ยยังส่งเสียงตะโกนอย่างไม่จำยอมและขึ้งโกรธ “โกง เจ้าชั้นต่ำนี่จะต้องโกงอย่างแน่นอน!”

โลกภายนอก ผู้ยิ่งใหญ่ระดับจักรพรรดิมากมายต่างเงียบอย่างยากจะได้เห็น ด้วยนิสัยและประสบการณ์ของพวกเขา หลังได้เห็นการต่อสู้ที่หลินสวินใช้กำลังตัวคนเดียวสู้กับคนหมู่มาก และกำราบได้อย่างราบคาบนี้ ในใจยังกระเพื่อมไหวอย่างควบคุมไม่อยู่ ไม่สามารถสงบได้

โกงหรือ

เป็นไปไม่ได้!

เฒ่าชรามากมายอย่างพวกเขาจับจ้องอยู่ จะปล่อยให้เกิดการโกงได้อย่างไร

ก็เพราะเช่นนี้ ทำให้พวกเขายิ่งรู้สึกถึงความน่ากลัวของจินตู๋อีคนนี้

คนผู้หนึ่ง อานุภาพดุจผ่าลำไผ่ กำราบถ้วนทั่ว ตั้งแต่ต้นจนจบผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ทั้งกลุ่มไม่มีพลังหลบเลี่ยงด้วยซ้ำ นี่ดูน่าทึ่งเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย!

ครู่ใหญ่ไท่ซูหงจึงเอ่ยทอดถอนใจ “ทอดสายตามองผู้แข็งแกร่งระดับราชันอริยะทั่วหล้า จินตู๋อีคนนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ไม่เป็นสองรองใคร และในแดนลับโลกาสวรรค์แห่งนี้ คนที่สามารถเทียบเขาได้ก็น้อยมากอย่างแน่นอน”

ชั่วขณะนี้พวกจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิง จักรพรรดิมารผลาญนภาต่างพูดไม่ออกเช่นกัน

เผชิญกับความจริงอย่างไร้ข้อกังขานี้ แม้เป็นพวกเขายังต้องยอมรับว่า เริ่มแรกพวกเขาประมาณเจ้าหนุ่มนามว่าจินตู๋อีคนนี้ต่ำไปจริงๆ!

ซย่าสิงเลี่ยดื่มเหล้าจอกหนึ่ง ขยิบตากล่าวกับซย่าเสี่ยวฉง “นางหนู เจ้าคิดว่าจินตู๋อีนี่เป็นอย่างไร”

“หากเขาคือพี่หลินสวิน ย่อมยอดเยี่ยมเป็นที่สุดทั่วทั้งเหนือฟ้าใต้ดิน แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถือซะว่าข้าไม่ได้พูด”

ซย่าเสี่ยวฉงเสียงกังวานชัดเจน

ซย่าสิงเลี่ยอดหัวเราะไม่ได้

……

“ไป พาเจ้าไปทำแผล”

หลังโจมตีพวกซินหรูเจี่ยจนยับเยิน หลินสวินพาจินเทียนเสวียนเยวี่ยออกจากสนามรบแห่งนี้ไปด้วยกัน

ก่อนหน้านี้ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม เขาโจมตีพวกอู่หวงจนพ่ายแพ้ก่อน จากนั้นใช้กระบวนค่ายกลใหญ่ขังพวกถูเชียนเจวี๋ยไว้

แม้สุดท้ายถูกจู่เฟยอวี่ เยียนอวี่โหรว ถูเชียนเจวี๋ยปิดล้อมโจมตี ก็ทลายการปิดล้อมออกมาอย่างหวุดหวิด

จนกระทั่งหลังจากกำราบพวกซินหรูเจี่ยอย่างรวดเร็วด้วยความโกรธ แม้หลินสวินไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ก็รู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมา

ในใจเขามีลางสังหรณ์หนึ่ง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในแดนลับโลกาสวรรค์แห่งนี้คงจะมีสายตามากมายจับจ้องมาที่ตน!

ตามคาด ในวันนั้นผลงานการต่อสู้ของเขาก็เหมือนพายุลูกหนึ่ง พัดม้วนในแดนลับโลกาสวรรค์

ทำให้เกิดเสียงประหลาดใจและฮือฮาไม่รู้เท่าไหร่

ใครก็คิดไม่ถึงว่าอันดับหนึ่งศึกถกมรรคแคว้นเมฆาจะดุร้ายถึงขนาดนี้ ใช้พลังของตนเพียงคนเดียว ก็สามารถทลายการปิดล้อมโจมตีของขุมอำนาจหกเรือนมรรคใหญ่ได้!

“จินตู๋อีหรือ”

ตอนที่หลิงหงจวงได้ยินข่าวนี้ เพิ่งจะโจมตีคู่ต่อสู้กลุ่มหนึ่งจนพ่ายแพ้ ช่วงชิงยันต์ชีวิตสิบกว่าชิ้น รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง

“ดูท่าในหมู่พวกที่เป็นคู่ต่อสู้ได้ จะมีเพิ่มอีกคนแล้ว”

ในดวงตานางวาบประกาย

……

“ศิษย์น้องถูเชียนเจวี๋ยพาคนกลุ่มหนึ่งไปโจมตีก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา… เช่นนี้ดูท่าความแข็งแกร่งในพลังต่อสู้ของคนผู้นี้ น่าจะสามารถไปชิงสามอันดับแรกของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ได้แล้ว…”

หวงฝู่เซ่าหนงคล้ายใคร่ครวญ

เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เขารู้ดีว่าในแดนลับโลกาสวรรค์นี้มีพวกปีศาจที่ไม่เปิดเผยตัวมากมาย

เช่นเยวี่ยหรูหั่ว หรือจือไป๋

แต่คิดไม่ถึงว่าในสถานที่อย่างแคว้นเมฆา กลับมีพวกร้ายกาจที่เรียกได้ว่าน่าทึ่งคนหนึ่งโผล่มา

“หากข้าเจอเข้า ก็อยากทดสอบตื้นลึกหนาบางของเจ้าหมอนั่นสักหน่อย”

เงาร่างของหวงฝู่เซ่าหนงสูงใหญ่ราวกับเทพ ในสายตาเต็มไปด้วยประกายศักดิ์สิทธิ์

……

“พี่ชายคนนี้ยังคงดุดันเหมือนเมื่อก่อน…”

เด็กหนุ่มชุดป่านเสวียนจิ่วอิ้นถอนหายใจ ตอนแรกเขายังคิดอยู่ว่าหากได้เจอหลินสวินในงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ก็อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันสักครา ตัดสินสูงต่ำ

แต่สุดท้ายเขาก็ยังข่มกลั้นความคิดนี้ไว้

……

“เจ้าสารเลวสมควรตาย!”

ตอนที่ข่งเจาแห่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์รู้เรื่องนี้ สีหน้าพลันเย็นเยียบอย่างที่สุด

เขาไม่อาจลืม ว่าตนถูกหลินสวินโจมตีจนบาดเจ็บในคราเดียวที่หน้าประตูภูเขาเรือนมรรคโลกาสวรรค์ ก่อนงานชุมนุมถกมรรคจะเริ่มขึ้น

นี่ถูกเขามองว่าเป็นความอับอาย!

สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ ตอนนี้ศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนักอย่างพวกซินหรูเจี่ย กลับล้วนถูกคนผู้นี้ทำร้ายไปหมดแล้ว!

“หากไม่กำราบเจ้า ผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ของข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

ไอสังหารพลุ่งพล่านขึ้นในใจของข่งเจา

ในเวลาเดียวกันจู่เฟยอวี่กับถูเชียนเจวี๋ยเริ่มเคลื่อนไหว กำลังติดต่อศิษย์พี่ศิษย์ศิษย์น้องร่วมสำนัก หมายจะลงมือพร้อมกัน เคลื่อนไหวโดยพุ่งเป้าไปที่หลินสวิน

“พี่จินเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว…”

ลู่ตู๋ปู้ถอนหายใจยาว สีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้

ข้างกายเขา เซี่ยอวี่ฮวา หวังถู ซูมู่หาน เหลิ่งซิวเจียต่างมีสีหน้าแตกต่างกันไป

พวกเขาล้วนมาจากแคว้นเมฆา และเคยเห็นฝีมือของหลินสวินในศึกถกมรรคแคว้นเมฆา กลับไม่คิดว่าเจ้าคนที่เคยกำราบพวกเขา พลังต่อสู้ที่แท้จริงกลับแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!

“ตอนนี้ผู้สืบทอดของเรือนมรรคจักรวาล เรือนมรรคดึกดำบรรพ์ เรือนมรรคเหล่ามารคงคิดแค้นพี่จินอยู่ในใจ นี่เพียงแค่ที่พวกเรารู้ จะยังมีคนอื่นจับจ้องพี่จินอีกหรือไม่ก็ไม่สามารถยืนยันได้เลย”

ลู่ตู๋ปู้พึมพำ “ทุกท่านคิดว่าพวกเราควรไปช่วยพี่จินหรือไม่”

ประโยคเดียวทำให้พวกเซี่ยอวี่ฮวาต่างเงียบ ในใจลังเล

“ช่วยหรือ ข้าว่าไปรนหาที่ตายมากกว่า เจ้าหมอนี่เป็นเป้าหมายของแทบทุกคนไปแล้ว พวกเราจะเอาอะไรไปสู้กับพวกน่ากลัวเหล่านั้น”

หวังถูพูดอย่างไม่ลังเล “จากที่ข้าดู ให้เขาจัดการเองดีที่สุด”

“ตอนแรกพี่ลู่เองก็เคยเชิญจินตู๋อีและจินเทียนเสวียนเยวี่ยเคลื่อนไหวด้วยกันไม่ใช่หรือ แต่พวกเขาไม่ได้ให้คำตอบอย่างแน่ชัด”

ซูมู่หานสูดหายใจลึกคราหนึ่ง กล่าวว่า “ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยพลังของเรา ไม่มีทางไปสู้ผู้สืบทอดแกนหลักของขุมอำนาจใหญ่เหล่านั้นได้ หากไปช่วยจินตู๋อี ก็เป็นไปได้สูงมากที่จะทำให้พวกเราประสบเคราะห์ไปด้วย เป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเลย”

“ดูเหมือนว่าทุกคนต่างคิดเช่นนี้”

ลู่ตู๋ปู้พูดเสียงขรึม “เช่นนั้นก็เอาตามนี้เถอะ”

เดิมทีเซี่ยอวี่ฮวาอยากจะพูดอะไรสักหน่อย แต่เห็นเช่นนี้ก็ได้แต่ถอนหายใจในใจ ไม่มีความคิดจะพูดอีกทันที

แต่ก็ตอนนี้เอง จู่ๆ เหลิ่งซิวเจียที่เงียบมาตลอดพลันหมุนกายเดินมุ่งหน้าออกไป

“พี่เหลิ่ง เจ้าจะไปไหน”

ลู่ตู๋ปู้อดพูดไม่ได้

“ข้าได้ยินว่าจินตู๋อีถูกขุมอำนาจใหญ่เหล่านั้นจับจ้องเพราะช่วยเถิงอี๋เฉินและกุยซานสิง ตอนนี้เขาพบเจอความยากลำบาก ข้าจะไปทำสิ่งที่ควรทำ”

เหลิ่งซิวเจียไม่หันหลังกลับด้วยซ้ำ เงาร่างค่อยๆ ไกลออกไป

เห็นเช่นนี้ สีหน้าของพวกลู่ตู๋ปู้อึมครึมไม่สามารถสงบได้

“เจ้าหมอนี่ใช้อารมณ์จริงๆ ตอนที่เขาติดร่างแห โดนคัดออกเพราะจินตู๋อี ข้าจะดูซิว่าเขาจะเสียใจภายหลังหรือไม่!”

หวังถูแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นเยียบ

“ทุกคนต่างมีปณิธานไม่เหมือนกัน เราทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีต่างหากที่สำคัญ”

ลู่ตู๋ปู้ถอนหายใจคราหนึ่ง

เขารู้ว่าการไม่ไปช่วยจินตู๋อีเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด เพียงแต่ถึงอย่างไรในใจก็ไม่มีความสุขนัก

เหมือนว่า… หลังจากเลือกทางนี้ จะสูญเสียอะไรบางอย่างไปอย่างไรอย่างนั้น

“หวังเพียงว่า พี่จินเขาเป็นคนดี สวรรค์จะช่วยเหลือ สามารถยืนหยัดได้ถึงที่สุด…”

เซี่ยอวี่ฮวาเองก็ถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง

ตอนที่ในแดนลับโลกาสวรรค์คลื่นลมแปรเปลี่ยน ในส่วนลึกของโกรกธารขนาดใหญ่ที่แม้แต่หญ้ายังไม่อาจขึ้นถูกแหวกออกเป็นถ้ำใต้ดิน

นอกถ้ำ มีกระบวนผนึกลายมรรคที่ปกปิดกลิ่นอายคลุมอยู่

ภายในถ้ำ จินเทียนเสวียนเยวี่ยกำลังกลืนโอสถเทพรักษาแผล ส่วนหลินสวินปรับลมปราณฟื้นฟูพลังกาย พลางศึกษาม้วนหยกที่ศิษย์พี่เสวียนคงทิ้งไว้

บรรยากาศเงียบสงัด ราวกับตัดขาดจากโลกภายนอก

โลกภายนอกวุ่นวายอลม่าน ทั้งสองก็ไม่รู้เลยสักนิด

“หากสามารถซ่อนอยู่ที่นี่ตลอดจนจบการถกมรรคครั้งนี้คงจะดี…”

จู่ๆ จินเทียนเสวียนเยวี่ยที่กำลังรักษาแผลก็พูดเสียงเบา

หลินสวินอดยิ้มไม่ได้ ดวงตาดำลึกล้ำ “ผู้ร่วมมรรคที่มีความคิดเช่นเดียวกับเจ้าไม่น้อยแน่ แต่ซ่อนตัวอยู่เช่นนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะดี แดนลับโลกาสวรรค์กว้างใหญ่ขนาดนี้ และไม่มีจำกัดเรื่องเวลา หากไม่มีผู้แข็งแกร่งถูกคัดออกไป การถกมรรคครั้งนี้ก็ไม่จบหรอกนะ”

…………………………….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset