Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1959 ที่มาเป็นปริศนา

ตอนที่ 1959 ที่มาเป็นปริศนา
ประโยคเดียวเหมือนฟ้าผ่า!

หวังถูแข็งทื่อไปทั้งตัว บนร่างที่ราวกับเด็กปรากฏงูเหลือมขนาดใหญ่ตัวหนึ่งกะทันหัน เกล็ดปกคลุม ศีรษะมีเขาเดี่ยว ร่างกายคดเคี้ยวราวกับเทือกเขา แผ่กลิ่นอายน่ากลัวปานผลาญสวรรค์

นี่คือการควบรวมที่วิวัฒน์มาจากพลังเขตแดนมรรค สะท้อนให้เห็นมรรควิถีทั้งชีวิตของหวังถู

งูเพลิงทะยานฟ้า ร้องคำรามคราหนึ่ง ฝนเพลิงนับไม่ถ้วนไหลพุ่งออกมา ภูเขาหินรอบๆ ล้วนถูกหลอมละลาย กลายเป็นของเหลวเดือดพล่าน

“หึ ก็แค่ตั๊กแตนตำข้าวขวางรถ”

เงาร่างสง่าของจินเทียนเสวียนเยวี่ยปรากฏ กวาดนิ้วมือเรียวยาวขาวกระจ่างคราหนึ่ง กระบี่วิญญาณสีทองสะดุดตาพลันฟันออกมา

ชั่วพริบตาศีรษะใหญ่ของงูเพลิงก็ถูกฟันขาด!

ตูม!

เพลิงพิรุณทั่วฟ้าแตกกระจาย

สีหน้าของหวังถูเปลี่ยนไป ในศึกถกมรรคแคว้นเมฆา จินเทียนเสวียนเยวี่ยพึ่งการจับฉลากโชคดีผ่านด่านครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายได้อยู่ในอันดับเจ็ด

เดิมทีหวังถูยังไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะมีพลังแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาคิดผิดแล้ว

ผิดอย่างมหันต์!

“แม่นางเสวียนเยวี่ย พวกเราตัดขาดกันไปแล้ว เหตุใดเจ้ากลับตามข้ามา”

หวังถูกตะโกน

“รอเจ้าเจอพี่จินค่อยถามก็ยังไม่สาย”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยว่าแล้วเปิดฉากโจมตีอีกครั้ง

“น่าชังนัก! เหตุใดพวกเจ้าถึงเจาะจงเล่นงานข้าคนเดียว”

ดวงหน้าเล็กของหวังถูบิดเบี้ยวหน้าเขียว สู้กับจินเทียนเสวียนเยวี่ยราวกับบ้าคลั่ง

แต่แค่ครู่เดียวเท่านั้นเขาก็ถูกจินเทียนเสวียนเยวี่ยกำราบ ตีจนจมูกปากหลั่งเลือด ทรุดลงพื้น

ถ้าไม่ใช่เพราะจินเทียนเสวียนเยวี่ยไม่ได้ลงมือเด็ดขาด เขาคงถูกคัดออกไปนานแล้ว

“แม่นางเสวียนเยวี่ย ขอร้องเถอะ ปล่อยข้าไปสักครั้ง ข้ารับรองว่าต่อไป…”

หวังถูโอดครวญอ้อนวอน เพียงแต่ไม่รอพูดจบก็ถูกจินเทียนเสวียนเยวี่ยคว้าคอเสื้อด้านหลังขึ้น ทะยานไกลออกไป

……

ยามเห็นจินเทียนเสวียนเยวี่ยหิ้วหวังถูที่ราวกับหมาตายทะยานมาจากไกลๆ พวกลู่ตู๋ปู้อึ้งไปก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นต่างรู้สึกสะใจมาก

คนที่ทรยศเช่นนี้ ก็จะต้องโดนลงโทษ!

พลั่ก!

หวังถูถูกทิ้งลงไป กลิ้งอยู่ตรงหน้าหลินสวิน หน้าเขียวบวมเป่ง สะบักสะบอมอย่างที่สุด

แต่เขาไม่ได้ห่วงเรื่องพวกนี้ รีบอ้อนวอน “พี่จิน พี่จินขอร้องล่ะ เห็นแก่ที่มาจากแคว้นเมฆาเหมือนกัน ให้อภัยข้าสักครั้งเถอะ!”

“ให้อภัยเจ้าหรือ เป็นไปไม่ได้!”

ซูมู่หานสีหน้ามืดทะมึน กัดฟันพูด “เจ้าปฏิเสธและต่อต้านพี่จินสามารถเข้าใจได้ แต่เจ้าไม่ควรหักหลังพี่จิน ข้าบอกเจ้าแล้วว่าวิธีที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายของเจ้า จะต้องทำให้ชื่อเสียงเจ้าฉาวโฉ่!”

“ข้า… ข้า…”

หวังถูสีหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาว ลนลานอย่างสิ้นเชิง

“เวลาไม่มากแล้ว ข้าให้โอกาสเจ้าครั้งหนึ่ง เจ้าจะจัดการตัวเองหรือให้ข้าช่วย ไม่ต้องห่วง แดนลับโลกาสวรรค์นี่ไม่มีการตาย ผลลัพธ์สุดท้ายของเจ้าก็แค่ถูกคัดออกเท่านั้น”

หลินสวินสีหน้าเย็นชา เป็นอย่างที่ซูมู่หานพูด หวังถูต่อต้านและปฏิเสธตน สามารถเข้าใจได้ แต่มีเพียงเรื่องที่หักหลังตนที่ไม่สามารถให้อภัยได้เด็ดขาด!

“พี่จิน นี่เจ้าจะบีบข้าไปตายนะ”

หวังถูกคำราม

หลินสวินเหมือนไม่ได้ยิน กล่าวว่า “ข้านับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง”

“สอง”

ชั่วขณะนี้หวังถูตาแดงก่ำแล้ว มองไปยังพวกลู่ตู๋ปู้ หวังว่าพวกเขาจะอ้อนวอนให้ตน แต่สิ่งที่เขาเห็นกลับเป็นใบหน้าที่ไม่ปกปิดความรังเกียจและเหยียดหยาม

“สาม”

ยามหลินสวินนับถึงสาม จู่ๆ หวังถูก็ส่งเสียงตะโกนด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด “จินตู๋อี เจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว ข้า…”

เขาเพิ่งหมายจะพูดทิ้งท้ายอย่างเหี้ยมโหด เพื่อระบายความเดือดดาลและเคียดแค้นในใจ ก็เห็นหลินสวินกดฝ่ามือออกมา

ตูม!

พลังฝ่ามือดุจบดบังฟ้าดิน กดทับร่างกายทุกกระเบียดของเขา กล้ามเนื้อแตก เอ็นกระดูกระเบิด เลือดอาบไปทั้งตัว ในปากส่งเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

สภาพน่าอนาถนั่นทำเอาพวกลู่ตู๋ปู้สั่นเทิ้มไปทั้งตัว นี่ก็คือจุดจบที่จะต้องเผชิญเพราะหักหลังจินตู๋อีหรือ

สุดท้ายคำพูดเหี้ยมโหดของหวังถูยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกคัดออกไปแล้ว

“พวกเราก็รีบออกจากที่นี่เถอะ”

หลินสวินเหมือนทำเรื่องเล็กที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร เงยมองรอบๆ และพาทุกคนออกไปจากตรงนั้น

“เยวี่ยหรูหั่ว เจ้าพูดไม่ผิด จินตู๋อีนี่เป็นพวกร้ายกาจที่แข็งแกร่งจนสามารถทำให้พวกเราให้ความสำคัญอย่างจริงจัง”

พวกหลินสวินเพิ่งจะจากไป ชายที่อาบอยู่ในแสงสว่าง ยามก้าวเดินใต้เท้ากลับเผยลายมรรคปรากฏตัวในที่นั้น

เขาอยู่ในชุดดำ ผมขาวราวกับหิมะ ทั่วร่างเปล่งแสงสว่างแต่ก้าวเดินในความมืด

เป็นจือไป๋

ข้างๆ เขาเยวี่ยหรูหั่วที่กลิ่นอายดุดันราวกับกระบี่เทพจากฟ้าเอ่ยเสียงขรึม “เจ้าคิดว่าเขากับหมีอู๋หยา เทียบกันแล้วใครแข็งแกร่งกว่ากัน”

“หมีอู๋หยานั่นเก็บตัวเป็นที่สุด ตั้งแต่เข้าสู่แดนลับโลกาสวรรค์ก็แทบไม่ปรากฏตัว ถ้าเป็นเมื่อก่อนข้ายังพอจะสามารถคาดเดาเบาะแสบางอย่างได้ แต่ตอนนี้แม้แต่ข้าก็ดูเขาไม่ออกแล้ว”

จือไป๋คิดๆ แล้วเอ่ยว่า “จินตู๋อีนี่เหนือความคาดหมายมาก เห็นได้ชัดว่ากำลังแสวงหามรรคาแห่งมกุฎสูงสุดเช่นกัน หากสิ่งที่เขาสำแดงออกมาเมื่อครู่คือพลังขีดจำกัดของเขา เช่นนั้นข้าก็ยังมีความมั่นใจว่าจะประชันสูงต่ำกับเขาได้”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยต่อว่า “แต่ถ้าเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้เปิดเผยขีดจำกัดของตน นั่นก็… พูดยากแล้ว”

เยวี่ยหรูหั่วหรี่ตาเล็กน้อย พยักหน้าพูด “ไม่ว่าอย่างไร เพื่อสิทธิ์การเข้าสู่เขตต้องห้ามเซียนโบราณ ในแดนลับโลกาสวรรค์แห่งนี้ พวกเราไม่ควรจะลงมือกับคนแบบนี้อีก”

จือไป๋ยิ้มน้อยๆ เอ่ยเสียงทอดถอนใจ “หมีอู๋หยา หวงฝู่เซ่าหนง หลิงหงจวง ซางจื่อเหยี่ยน เฟิงเป่ยหลิงที่มาจากหกเรือนมรรคใหญ่และสิบเผ่านักรบใหญ่… รวมถึงจิ่งเทียนหนาน เวินอวี๋ที่มาจากโลกฟ้าดาราอื่น ล้วนเป็นพวกเย้ยฟ้า…”

“แค่เท่าที่ข้ารู้ พวกร้ายกาจที่ประชันสูงต่ำกับพวกเราได้ก็มีเกือบยี่สิบคนแล้ว”

“ถ้ารวมกับพวกที่ยังไม่เปิดเผยตัวตน… ยามเข้าสู่เขตต้องห้ามเซียนโบราณต้องไม่มีทางเงียบเหงาแน่”

เยวี่ยหรูหั่วบิดขี้เกียจ กล่าวว่า “การต่อสู้มหามรรคเดิมก็เป็นเช่นนี้ มีคู่ต่อสู้จึงจะสนุก จริงสิ เจ้าอย่าลืมว่าพวกที่คิดแต่จะแสวงมรรค ไม่สนโลกอย่างเจ้ากับข้า มีอีกไม่น้อยเลย”

“เหอะ แน่นอนว่าข้าไม่มีทางลืมพวกเขา”

จือไป๋หัวเราะขึ้นมา

จู่ๆ เยวี่ยหรูหั่วก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ กล่าวว่า “เมื่อครู่นี้พวกเราซ่อนอยู่ในที่มืด คล้ายจะถูกจินตู๋อีสังเกตเห็นแล้ว เขาจึงไม่ได้ไปตามฆ่าพวกจู่เฟยอวี่ เจ้าว่าจินตู๋อีนี่จะผูกแค้นพวกเราเพราะเรื่องนี้หรือไม่”

จือไป๋อึ้งไป กล่าวเสียงแหบพร่า “ข้าว่าจินตู๋อีคงไม่ใช่คนใจแคบขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น จู่เฟยอวี่มีชีวิตอยู่ย่อมดีกว่าไม่ใช่หรือ รอเข้าสู่เขตต้องห้ามเซียนโบราณ หากเขาเจอจินตู๋อีอีก นั่นไม่ใช่แค่ถูกคัดออกแล้ว…

ทั้งสองพูดคุยและออกจากบริเวณนั้นไปด้วยกัน

……

โลกภายนอก บนยอดเขาหลักโลกาสวรรค์

หลังจากเห็นการต่อสู้น่าตะลึงที่หลินสวินใช้พลังของตนเพียงคนเดียว ทยอยโจมตีพวกถูเชียนเจวี๋ย จู่เฟยอวี่จนพ่ายแพ้ ระดับจักรพรรดิทั้งกลุ่มไม่อาจสงบได้นัก

“ทั้งเชี่ยวชาญศาสตร์สลักวิญญาณ ทั้งมีพลังต่อสู้น่ากลัวในการแสวงมหามรรค จินตู๋อีคนนี้มีที่มาอย่างไรกันแน่”

มีคนถาม

“ทุกคนเห็นหรือไม่ว่ามรดกและวิชาที่เจ้าหมอนี่ใช้ในการต่อสู้ ก็ไม่สามารถดูเบาะแสใดๆ ออกได้”

และมีคนสายตาวูบไหว รู้สึกว่าบนตัวหลินสวินมีความลับมากมาย

“เรื่องนี้อาจต้องถามพี่ชย่าสักหน่อย”

สายตาของไท่ซูหงมองไปยังซย่าสิงเลี่ย

หลายคนต่างอึ้งงัน ตั้งแต่แรกซย่าสิงเลี่ยก็ชื่นชมหลินสวิน ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ถึงขั้นที่ไม่เกี่ยงว่าจะขัดแย้งกับจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงและจักรพรรดิมารผลาญนภาเพื่อเจ้าหมอนี่

เช่นนี้ยากจะเลี่ยงไม่ให้ทุกคนรู้สึกว่า ซย่าสิงเลี่ยรู้ที่มาที่ไปของหลินสวินตั้งแต่แรกแล้ว

“ไม่ปิดบังทุกท่าน ข้ารู้จักเจ้าหนุ่มนี่จริงๆ เพียงแต่ที่มาของเขาเขา ข้าพูดอะไรมากไม่ได้”

คิดๆ แล้วซย่าสิงเลี่ยก็เอ่ยอย่างคลุมเครือ

ประโยคเดียวทำให้ระดับจักรพรรดิทั้งหมดเผยสีหน้าครุ่นคิด คนรุ่นเยาว์ที่แม้แต่จักรพรรดิกระบี่ยอดมารซย่าสิงเลี่ยยังรู้จัก แต่กลับไม่ยอมเผยที่มาเช่นนี้ จากเรื่องนี้สามารถดูออกว่าที่มาของจินตู๋อีจะต้องไม่ธรรมดาแน่!

และตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่มีใครสงสัยว่าที่มาของหลินสวินเกี่ยวข้องกับคีรีดวงกมล

เป็นเพราะตั้งแต่ต้นจนจบเขาสวมชุดนักพรตสมประสงค์ ปิดบังร่องรอยบนร่างทั้งหมด จึงเลี่ยงการตรวจสอบของระดับจักรพรรดิได้

ศิษย์พี่หลี่เสวียนเวยก็เคยพูดว่า ขอแค่ไม่ใช้สมบัติจักรพรรดิอย่างขวดมหามรรคไร้ขอบเขต เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด แม้เป็นระดับจักรพรรดิก็ไม่สามารถมองทะลุการปิดบังของชุดนักพรตสมประสงค์ได้

ซย่าสิงเลี่ยพึมพำในใจ หลินสวินหนอหลินสวิน ข้าใช้ทุกวิธีช่วยเจ้าปิดบังฐานะแล้ว ต่อไปหากเจ้ากล้าทำผิดต่อลูกสาวข้า ข้าจะจัดการเจ้าให้สาสม…

ระหว่างที่พูดคุยกัน สีหน้าของจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงแห่งเรือนมรรคจักรวาล และจักรพรรดิมารผลาญนภาแห่งเรือนมรรคเหล่ามารปรากฏความอึมครึม

ผู้สืบทอดแกนหลักของสองเรือนมรรคใหญ่ร่วมมือกัน กลับถูกหลินสวินคนเดียวจัดการจนพินาศ จบลงด้วยความพ่ายแพ้ นี่ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดมาก

อยากโกรธก็ทำไม่ได้

ด้วยฐานะของพวกเขา หากไปถือสาคนรุ่นเยาว์คนหนึ่ง จะต้องกลายเป็นเรื่องตลกในสายตาระดับจักรพรรดิทุกคนที่นั่งอยู่แน่นอน

“เอ๋ ทุกคนดูนั่น ซางจื่อเหยี่ยนอันดับสิบในกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ กลับเผยพลังต่อสู้ที่พลิกฟ้าอย่างที่สุดออกมา ดูจากอานุภาพของเขา ไม่ด้อยไปกว่าหลิงหงจวงและหวงฝู่เซ่าหนงเลย!”

“น่าสนใจ ดูท่าหลายปีมานี้ซางจื่อเหยี่ยนจะอดกลั้นมาตลอด”

“ไม่เพียงแค่ซางจื่อเหยี่ยน พวกเจ้าดูเฟิงเป่ยหลิง ข้าจำได้ว่าอยู่อันดับหกของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ แต่ศักยภาพที่เขาเผยออกมาตอนนี้ก็น่าทึ่งมากเช่นกัน”

ไม่นานความสนใจของระดับจักรพรรดิทั้งกลุ่มก็ถูกสถานการณ์การต่อสู้ในพื้นที่อื่นๆ ของแดนลับโลกาสวรรค์ดึงดูด

แดนลับโลกาสวรรค์ไม่ได้ใหญ่ แต่ผู้แข็งแกร่งที่กระจายอยู่ภายในล้วนเป็นระดับมกุฎราชันอริยะชั้นหนึ่งของโลก

ในนั้นไม่ขาดปีศาจชั้นยอดที่ฝีมือไม่ด้อยไปกว่าหลินสวิน อย่างเช่นศักยภาพที่ซางจื่อเหยี่ยนและเฟิงเป่ยหลิงเผยออกมา ก็ทำให้ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

บางคนเก็บซ่อนเขี้ยวเล็บ อดทนมานานปี ไม่ลงมือยังไม่เท่าไร แต่เมื่อลงมือย่อมน่าตกใจ

เห็นได้ชัดว่าซางจื่อเหยี่ยนและเฟิงเป่ยหลิงก็อยู่ในกลุ่มนี้

เพียงแต่เมื่อเทียบกันแล้ว ก็ยังสร้างความประหลาดใจและตกตะลึงให้กับผู้ยิ่งใหญ่ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นได้ไม่มากเท่าหลินสวิน

เหตุเพราะซางจื่อเหยี่ยนและเฟิงเป่ยหลิงเป็นบุคคลชั้นยอดที่ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วหล้านานแล้ว ตอนนี้พวกเขาจะเผยพลังพลิกฟ้าแค่ไหน ก็ไม่ทำให้ตกใจขนาดนั้นแล้ว

มีเพียงหลินสวินที่เหมือนดาวหางทะลวงฟ้า ก่อนงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ น้อยนักที่จะมีคนสังเกตเห็นเขา

และเพราะเหตุนี้ ยามเขาเปิดเผยความสามารถจึงทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset