Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2002 สังหารเต็มกำลัง

ตอนที่ 2002 สังหารเต็มกำลัง
หน้าประตูทลาย หลินสวินคนเดียวเผชิญหน้ากับบุคคลแห่งยุคในระดับเดียวกันมากมาย

เขาสีหน้าหยิ่งผยอง ผมยาวดำขลับหนาแผ่สยาย พลังทั่วร่างดั่งเหวลึกที่ว่างเปล่า มีอานุภาพเหมือนหนึ่งคนเฝ้าด่าน หมื่นทหารมิอาจกราย

วู้ม…

เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดส่งเสียงกัมปนาท กำราบกาลเวลา แสงประกายมากมายขับเน้นให้ทั้งตัวหลินสวินเป็นดั่งเทพองค์หนึ่ง หว่างคิ้วเต็มไปด้วยไอสังหารดุดัน

แท่นมรรคนี้ เขาหลินสวินจับจองไว้แล้ว!

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ในที่นั้นพลันเงียบสงัดไปชั่วขณะ เสียงเยาะหยันดังตามมาติดๆ

“ฮ่าๆๆ ช่างกล้านัก!”

“เจ้าหลินสวินแม้จะพลังต่อสู้เย้ยฟ้า อยู่บนยอดเหนือสุดของระดับนี้ แต่เจ้าแค่ตัวคนเดียว ยังกล้าเอ็ดตะโรเช่นนี้อีกหรือ”

“เจ้าเศษเดนแห่งคีรีดวงกมลนี่ บ้าระห่ำเสียจริง!”

“พี่หลิน ถ้าเจ้าสละแท่นมรรคตอนนี้ก็จะเลี่ยงอันตรายจากเหล่าศัตรูได้ จากนั้นค่อยลงมือยามสบโอกาสอีกครั้งก็พอ ทำไมต้องสู้สุดชีวิตกับพวกเขาด้วย”

หลิงเคอจื่ออดกล่าวไม่ได้

นี่คือความคิดของพวกถังซู ฮว่าซิงหลีเช่นกัน ทั้งตกตะลึงในความกล้าของหลินสวิน ทั้งเป็นห่วงแทนเขาอย่างห้ามไม่อยู่

แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีกำลังมาก แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่พวกเดียวกัน การล้อมโจมตีหลินสวินก่อนหน้านี้ก็แค่ไม่อยากให้แท่นมรรคนั้นถูกยึดครองไปเท่านั้น

ตอนนี้ขอแค่สละแท่นมรรคและเก็บงำประกายคม พวกที่รวมกลุ่มอยากชิงแท่นมรรคพวกนั้น ใครจะกล้าไปสู้สุดชีวิตกับหลินสวินอีก

ทว่าหลินสวินกลับส่ายหัว ไม่ได้อธิบาย

ใช่ว่าเขาไม่อยากทำเช่นนั้น แต่ด้วยพลังประทับที่ศิษย์พี่จวินหวนเหลือไว้ ทำให้เขาเชื่อมต่อกับแท่นมรรคนี่โดยเฉพาะ ทำให้สลัดแท่นมรรคนั้นทิ้งไปไม่ได้เหมือนเงาตามตัว!

“ถ้าไม่อยากตายก็หลีกไป!”

สีหน้าหลินสวินสุขุมและเฉยชา สายตากวาดมองทุกคนในที่นั้นทีละคน ริมฝีปากเอ่ยประโยคหนึ่งเบาๆ

สันโดษโดดเดี่ยว แต่กล้ามองข้ามอริราชศัตรู!

ยังไม่ทันสิ้นเสียง หลินสวินออกจู่โจม พุ่งไปทางประตูทลาย

ใต้ฝ่าเท้าเขาแท่นมรรคครวญคร่ำ ตามติดเหมือนเงาตามตัว

เมื่อเห็นภาพนี้ทุกคนต่างหน้าเปลี่ยนสีอย่างอดไม่อยู่ รู้สึกยากจะเชื่อ

หลายวันก่อนก็เคยมีคนชิงแท่นมรรคไปได้ วางแผนจะฝ่าวงล้อมเพื่อพุ่งเข้าไปในประตูทลายนั่น

แต่แท่นมรรคนั้นกลับลอยคว้างไม่ฟังคำสั่ง ไม่อาจควบคุมได้ ชะงักค้างอยู่กลางอากาศ ทำให้คนผู้นั้นทำไม่สำเร็จ

นี่ทำให้ผู้คนเชื่อว่าแท่นมรรคนี้ไม่อาจควบคุมได้ ได้แต่รอให้มันกลับไปเองถึงจะตามมันเข้าไปในประตูทลายได้

แต่ตอนนี้ภาพประหลาดได้เกิดขึ้นแล้ว แท่นมรรคนี้เหมือนพาหนะที่ถูกฝึก เคลื่อนที่ตามหลินสวินไป

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เท่ากับทำให้หลินสวินมีโอกาสเข้าไปในประตูทลายนั่นได้เอง!

เหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นฉับพลันนี้ ทำให้เหล่าผู้กล้าในที่นั้นไม่อาจสงบใจได้เช่นกัน

แม้แต่พวกหมีอู๋หยา หลิงหงจวงก็ยังนัยน์ตาหดรัด

“ลงมือ!”

“ฆ่า!”

“อย่าให้เขาบรรลุเป้าหมายได้เด็ดขาด!”

ท่ามกลางเสียงตวาด ผู้แข็งแกร่งในที่นั้นต่างพุ่งโจมตีเข้าไปโดยไม่ลังเล

ไม่มีใครยอมปล่อยให้หลินสวินพาแท่นมรรคนั้นพุ่งเข้าไปในประตูทลาย!

“ตาย!”

เบื้องหน้าหลินสวิน ชายชุดทองคนหนึ่งชิงแหวกอากาศพุ่งปราดเข้ามาก่อน ดาบเซียนในมือที่พันด้วยอสนีม่วงฟันลงมาทันที

ฟุ่บ!

คมดาบส่องประกาย คล้ายธารดาราสายฟ้าโน้มลงมา ตามมาด้วยอานุภาพบ้าระห่ำไร้เทียมทาน กำราบสังหารมาทางหลินสวิน!

ฟึ่บ!

หลินสวินรวบนิ้วกวาด ปราณกระบี่ที่เปล่งประกายเนืองแน่นพุ่งทะยานออกมา รับแสงดาบสายนั้นไว้ในชั่วพริบตา

การเจอกันของทั้งคู่เหมือนดาวดวงโตระเบิดออก ห้วงอากาศพลิกเลิกคลื่นคลั่งโหมกระหน่ำ

เคราะห์ดีที่อยู่ในเขาปู้โจวซึ่งปกคลุมด้วยพลังระเบียบมหามรรคน่ากลัว มิฉะนั้นอานุภาพของการโจมตีนี้คงทำลายภูผาธาราที่ยิ่งใหญ่สง่างามแถบนี้ไปแล้ว

ชายชุดทองคนนั้นสีหน้าขรึมลงทันที เจ้าปีศาจนี่ใช้แค่มือเปล่าเท่านั้น แต่กลับต้านดาบจักรพรรดิของเขาได้!

ตูม!

เวลานี้หลินสวินก้าวเข้ามา ในพื้นผิวทุกอณูรอบตัวมีปราณกระบี่ไหลวน ราวกับผันตัวเป็นมหาสมุทรกระบี่ผืนหนึ่ง น่าตื่นตะลึงยิ่ง

“ฟัน!”

ชายชุดทองลงมืออีกครั้ง ดาบศึกที่เหมือนที่พันรอบด้วยอสนีม่วงคลั่งระห่ำ กลายเป็นน้ำตกพายุสายฟ้ามากมาย โจมตีเข้ามาด้วยอานุภาพเคลื่อนกวาดหมื่นทัพ

ผู้แข็งแกร่งคนอื่นก็จู่โจมเข้ามา ปิดเส้นทางข้างหน้าหลินสวินเหมือนด่านทบเป็นชั้นๆ โจมตีหลินสวินจากต่างทิศทาง

ทันทีที่ถูกปิดล้อมหลินสวินต้องตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ รับศึกรอบด้านเหมือนเมื่อครู่แน่

“ตาย!”

หลินสวินเรียกประทับไร้ชีพออกมาทันใด ลักษณ์ประหลาดชวนประหวั่นปานทลายฟ้ามลายดินปรากฏ เหมือนดวงตะวันเจิดจ้ามากมายทะยานสู่ฟากฟ้า สาดแสงมรรคนับหมื่นแสนกดอัดออกไป

ตูม!

น้ำตกแสงดาบอสนีม่วงของชายชุดทองถูกประทับไร้ชีพบดขยี้อย่างง่ายดาย ไม่ทันได้สกัดก็แตกซ่านไปอย่างรวดเร็ว

ชายชุดทองนัยน์ตาหดรัด รับมือไม่ทันอยู่บ้าง

ฟุ่บ!

ยังไม่รอให้เขาตอบสนอง ปราณกระบี่ไท่เสวียนนับไม่ถ้วนฉีกห้วงอากาศ พุ่งยิงออกมาเหมือนพายุฝนกระหน่ำ ปกคลุมทั่วสารทิศ บิดขยี้ฟ้าดินแถบนั้นจนสิ้น กลายเป็นเขตปราณกระบี่ที่อลหม่านแถบหนึ่ง

ส่วนชายชุดทองก็ถูกล้อมอยู่กลางเขตปราณกระบี่นั้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

แย่แล้ว!

สีหน้าของชายชุดทองเปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายถึงชีวิตที่ท่วมท้นทั่วสรรพางค์กาย

ตึง!

ในช่วงวิกฤติ ในมือชายชุดทองพลันปรากฏกระดองเต่าสีดำกระดองหนึ่ง แผ่แสงดำร้อนแรงหาใดเปรียบคลุมตัวเขาไว้ ช่วยเขาขวางฝนกระบี่ที่โหมกระหน่ำทั่วฟ้านั้นได้อย่างฉิวเฉียด

ทว่าที่มาพร้อมกันคือเสียงกึกก้องคราหนึ่ง ประทับไร้ชีพสังหารลงมา กระดองเต่าสีดำนั้นเผยรอยร้าวทันที สั่นสะเทือนรุนแรง จากนั้นก็ระเบิดกระจุยดังสนั่น

ร่างของชายชุดทองระเบิดตามไปติดๆ ฝนโลหิตซัดสาด

คนมากมายใจสั่นระรัว ชายชุดทองเป็นบุคคลร้ายกาจที่มาจากโลกฟ้าดาราอื่น พลังต่อสู้ก็เรียกได้ว่าแข็งแกร่งหาใดเปรียบ

แต่แค่ชั่วขณะก็ถูกสังหารกระจุยคาที่!

ฟึ่บ!

แววตาหลินสวินสยบผู้คน ก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่ไม่อาจพูดได้ว่าไม่เร็ว

เพียงแต่ศัตรูที่ขวางอยู่บนหนทางข้างหน้ามีมากเกินไป ใช้สมบัติอัศจรรย์นานัปการ สำแดงยอดวิชาเทียมฟ้า พุ่งโจมตีใส่หลินสวินจากทั่วสารทิศพร้อมกัน

ชั่วขณะเดียวฟ้าดินแถบนี้บังเกิดสายลมโหมกระหน่ำ ลมทมิฬคำรามพิโรธ ฟ้าแลบฟ้าคำราม กลางฟ้าดินเกิดลักษณ์ประหลาดหลากรูปแบบ

ระดับมกุฎราชันอริยะที่สามารถสะท้านฟ้าดารามากมายลงมือพร้อมกัน ชักนำให้เกิดภาพชวนประหวั่นนานัปการที่สะเทือนใต้หล้าได้

“ไม่ประมาณตน!”

หลินสวินนัยน์ตาเยียบเย็นดุจอสนี พุ่งขึ้นไปรับ

ครั้งนี้เขาไม่ถอยแม้แต่ครึ่งก้าว

ตูม…

เขตแดนมรรคแรกกำเนิดกึกก้อง บางคราแปลงเป็นเตาหลอม บางคราวสะท้อนหมื่นลักษณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้

เมื่อหลินสวินโคจรเต็มกำลัง วิชามรรคที่พุ่งโจมตีมาจากทั่วสารทิศนั้น ล้วนถูกดูดกลืนเข้าไปในไอขุ่นมัวเหมือนวัวดินจมสมุทร

มองจากไกลๆ เขาเหมือนหมื่นวิชาไม่อาจกล้ำกราย!

ด้านเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดก็พรั่งพรูแสงมรรคทองนิลกาฬลงมาเป็นสายๆ ราวกับรุ้งเทพมากมาย ปลดปล่อยอานุภาพไพศาลที่สามารถกำราบอดีตปัจจุบันและอนาคตออกมา เข้าปะทะสมบัติจักรพรรดิที่ถล่มโจมตีมาอย่างต่อเนื่อง

คลื่นพลังที่เกิดขึ้นทำเอาฟ้าดินสั่นสะเทือน!

เวลานี้หลินสวินแค่ตัวคนเดียวเท่านั้น แต่กลับต้านการโจมตีขนาบของเหล่าผู้กล้า กวาดขวางฟาดฟัน ไม่เพียงไม่ถูกกำราบ กลับเป็นว่ามีแววสูสีและพอฟัดพอเหวี่ยงอยู่รางๆ!

นี่ทำให้ทุกคนในที่นั้นตื่นตระหนกกันไปหมด เห็นแล้วอึ้งค้าง จิตวิญญาณสั่นระรัว ไม่ว่าใครต่างไม่อาจจินตนาการ ว่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขามีพลังเย้ยฟ้าเช่นนี้ได้อย่างไร

นี่พาให้คนตกตะลึงเกินไปแล้ว สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ น่าเหลือเชื่อจริงๆ!

“สยบ!”

บนผืนฟ้ากว้าง ชายชุดขาวที่ผมหนวดแผ่สยายคนหนึ่งคำรามราวกับเทพวารีองค์หนึ่ง ควบคุมขวดหยกสีน้ำเงินเข้มให้หลั่งวารีทมิฬเร้นลับนับหมื่นแสนลงมา คล้ายธารดาราแห่งจักรวาลม้วนกลืน หมายกำราบสังหารหลินสวิน

“หึ อาศัยคนอย่างเจ้าก็คู่ควรให้พูดจาใหญ่โตเช่นนี้รึ”

ร่างหลินสวินส่องประกาย บุกฝ่าการโจมตีอื่น สายตาจ้องไปที่ชายชุดขาวคนนี้ก่อนกดนิ้วลงมาทันใด

ไปไร้หวน!

ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกมาทันที ฟ้าดินเปลี่ยนสี เทพผีล้วนตระหนก

ตูม!

ปราณกระบี่ทำลายสรรพสิ่ง รวดเร็วรุนแรง พุ่งตรงไปฟันแขนขวาของชายชุดขาวนั่นดังฟุ่บ!

แสงโลหิตเจิดจ้าทะลวงขึ้นเหนือเมฆ ชายชุดขาวคำรามเสียงอู้อี้ สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง คล้ายคิดไม่ถึงว่าในการล้อมโจมตี ตนกลับไม่ใช่ศัตรูที่ต้านการโจมตีของหลินสวินได้!

ผู้แข็งแกร่งคนอื่นที่กำลังล้อมโจมตีหลินสวินต่างตะลึงงัน สีหน้าอึมครึมเปลี่ยนเป็นจริงจัง

หลังจากประมือกัน พวกเขาต่างรู้ดีว่าแม้หลินสวินจะตัวคนเดียว และแม้พวกเขามีกำลังคนมาก แต่หากไม่บุกโจมตีเต็มกำลังก็ยากจะจัดการเขาให้พินาศ!

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ศักยภาพของหลินสวินในตอนนี้มีพลังน่ากลัวที่ดูเหิมเกริม ไร้คู่ต่อกรในระดับเดียวกันอยู่รางๆ นี่จะให้พวกเขาชะล่าใจได้อย่างไร

“ฆ่า! ไม่ว่าอย่างไร วันนี้ก็อย่าให้เขาเข้าไปในประตูทลายนั่นได้เด็ดขาด!”

“ฆ่า!”

เสียงคำรามดังก้อง เหล่าผู้กล้าต่างสำแดงพลังเต็มที่

พวกเขาไม่กล้าเก็บงำอีก พากันใช้วิชาก้นหีบล้อมสังหารหลินสวินเต็มกำลัง การโจมตีดุดันยิ่งกว่าเดิม ทำให้ฟ้าดินแถบนี้ตกอยู่ในความวุ่นวายครั้งใหญ่ เสมือนจะพังพินาศ

ชั่วขณะเดียวสมบัติเซียนสะท้านสะเทือน ปั่นป่วนจักรวาล แสงสมบัติวาบผ่าน เปล่งประกายดั่งดวงตะวันเจิดจ้ามากมาย คลื่นการต่อสู้อันน่าสะพรึงประหนึ่งมรสุมเก้าชั้นฟ้า โหมทำลายไปทั่วสารทิศ ฉีกกระชากห้วงอากาศ หอบม้วนแปดทิศ!

‘เฒ่าชราตระกูลเสวียนพวกนั้นล้วนพูดว่า ปีนั้นบิดาข้ามีอานุภาพซัดกวาดคนระดับเดียวกัน แข็งแกร่งจนน่ากลัว อัดผู้กล้าแห่งยุคพวกนั้นเหมือนของเล่น… แต่ทำไมข้ากลับรู้สึกว่าเจ้าหลินสวินนี่ป่าเถื่อนกว่าบิดาข้าในปีนั้นเสียอีก’

เสวียนจิ่วอิ้นพึมพำในใจ สีหน้าก็ตกตะลึงต่อเนื่อง แทบอยากจะโห่ร้องให้กำลังใจหลินสวิน

“เจ้า… จะไปช่วยไหม”

หลิงเคอจื่ออดถามไม่ได้

เสวียนจิ่วอิ้นกลอกตาใส่ “ช่วยกับผีสิ ข้าเป็นคนดู หากปรากฏตัวไปแล้วเด่นเกินหลินสวินจะทำอย่างไร”

‘ไม่กล้าก็คือไม่กล้า ยังจะมาเด่นเกินอะไร คนของตระกูลเสวียนแม้จะแข็งแกร่ง แต่เหมือนว่าจะไม่มีสักคนที่ไม่ชอบคุยโว…’ หลิงเคอจื่อแอบค่อนขอดอยู่ในใจ

เขาก็มองออกเช่นกัน สถานการณ์ตอนนี้ของหลินสวินแม้จะอันตราย แต่ไม่ได้ถูกกดดันถึงชีวิตอะไร

สิ่งเดียวที่น่าเป็นห่วงคือ ยามนี้บุคคลน่ากลัวยิ่งยวดอย่างพวกหมีอู๋หยา หลิงหงจวง จิ่งเทียนหนาน เวินอวี๋ยังไม่ออกโจมตี

นี่สิถึงเป็นภัยคุกคามที่แท้จริง!

แรงกดดันในการต่อสู้ของหลินสวินเพิ่มขึ้นมาก แต่กลับไม่ได้เกรงกลัว ตรงกันข้ามเขายิ่งสู้ยิ่งหาญกล้า สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณภายในร่างส่งเสียงกัมปนาทพลุ่งพล่าน ในใจราวกับมีเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ ลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ นานเข้าฝีมือต่อสู้ก็ยิ่งดุดันและบ้าระห่ำ

หลายปีนี้ตั้งแต่ก้าวสู่ระดับมกุฎราชันอริยะ หลินสวินเคยเข้าร่วมการประลองถกมรรคแคว้นเมฆา และเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรคที่รวมผู้กล้าในใต้หล้าไว้ด้วยกันมาก่อน เจอคู่ต่อสู้ที่ฝีมือล้ำเลิศมานับไม่ถ้วน ผ่านการห้ำหั่นและต่อสู้มาไม่รู้เท่าไหร่

แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยมีใครเอาชนะเขาได้ ทั้งไม่เคยถูกคนกดดันจนตกอยู่ในสภาพสิ้นหวังยากแค้นมาก่อน!

นี่จึงทำให้เขาไม่เคยมีโอกาสได้ทุ่มสุดตัวหรือสู้ตายอย่างแท้จริง!

แต่ตอนนี้ตรงหน้าประตูทลายนี่ สิ่งที่หลินสวินเผชิญหน้านั้น เรียกได้ว่าเป็นเคราะห์สังหารที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่ฝึกปราณมาจนถึงตอนนี้

แต่ก็ทำให้เขามีโอกาสปลดปล่อยพลังอย่างเต็มที่ ได้สังหารเต็มกำลังครั้งหนึ่งเช่นกัน!

………………..

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset