Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2014 โฉมหน้าแท้จริงของมหาสมบัติแรกกำเนิด!

ในประตูทลาย พลังระเบียบที่หนาใหญ่ราวกับรุ้งยาวสลับทับซ้อน ปกคลุมอยู่กลางฟ้าดิน กลิ่นอายปานทำลายล้างพลุ่งพล่านดุจกระแสน้ำ

นี่คือภาพที่สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิสิ้นหวัง

พูดอย่างไม่เกินจริง หากไม่มีแท่นมรรคนี้คุ้มครอง บุคคลที่แข็งแกร่งอย่างระดับจักรพรรดิบุกเข้าไปโดยพลการก็ต้องตายไม่เหลือรอด!

ปีนั้นยามจวินหวนมาเยือน ก็ต้องจากไปด้วยรู้ถึงความยากลำบากนี้

ส่วนจี้เสวียนที่ไม่ยอมแพ้ กลับต้องพบเจอการเข่นฆ่าอันน่ากลัว ถูกกำราบจนถึงวันนี้ สติรับรู้เลอะเลือนเกือบจะชะตาขาด

ฮูม…

แท่นมรรคนั่นแบกรับตัวของหลินสวิน ดั่งเรือเล็กไหลผ่านบนแม่น้ำที่แปลงมาจากระเบียบมหามรรค สลายพลังระเบียบมากมายที่สามารถสังหารระดับจักรพรรดิได้

ตลอดทางไร้อันตราย

เดินหน้าไม่รู้นานเท่าไหร่ จู่ๆ เบื้องหน้าก็ปรากฏกำแพงหินสูงเสียดฟ้า ขวางอยู่ตรงหน้า

กำแพงหินนี้เงางาม พื้นผิวมีพลังมหามรรคที่ลึกลับและคลุมเครือไหลพล่านอยู่ แปลงเป็นลักษณ์และกฎเกณฑ์ประหลาดต่างๆ อุบัติขึ้นบนกำแพงอย่างไม่รางเลือน

และที่มุมหนึ่งของกำแพงหิน กลับปรากฏหลุมหนึ่ง

เดิมทีกำแพงหินนี้ให้ความรู้สึกเหมือนสมบูรณ์แบบไร้บกพร่อง แต่การปรากฏของหลุมนี้กลับทำลายท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์สมบูรณ์นั่น เผยภาพ ‘มหามรรคบกพร่อง’ ออกมา

แท่นมรรคนั่นหยุดอยู่ตรงนี้แล้วไม่ขยับอีก

บนแท่นมรรค หลินสวินที่หลับใหลอยู่ก็ไม่ขยับเช่นกัน

มีเพียงพลังระเบียบทั่วฟ้านั่นที่โผบินทะยานอยู่กลางฟ้าดินอันเร้นลับนี้ บรรยากาศคลุมเครือและเงียบสงบ

หลายวันผ่านไป

แท่นมรรคไม่ขยับสักนิด หลินสวินเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตื่นจากการหลับใหล

แม้แต่จี้เสวียนที่ซ่อนตัวอยู่ในยันต์บังฟ้า และวิญญาณกระบี่เย่จื่อที่จำศีลอยู่ในเส้นผมของหลินสวิน หลังจากเข้าสู่ประตูทลายยังจมสู่ความเงียบงัน

พลังของพวกเขาถูกกักขังโดยสมบูรณ์ ไม่สามารถสัมผัสทุกสิ่งในนี้ได้!

และในประตูทลายก็ประหนึ่งไม่รู้สึกถึงการผันผ่านของเวลาสักนิด กระทั่งครึ่งเดือนให้หลัง

บนท้องฟ้าจู่ๆ ก็ปรากฏกลิ่นอายด่านเคราะห์ปานต้องห้ามสายหนึ่ง

นี่หากอยู่ในโลกภายนอก เกรงว่าคงดึงดูดความสนใจของคนน่ากลัวนับไม่ถ้วนแล้ว เพราะกลิ่นอายนั่นต้องห้ามและน่ากลัวเกินไป ประหนึ่งวันสิ้นโลกมาเยือน ชวนให้คนสิ้นหวัง

แต่ในโลกของประตูทลายนี้ เมื่อกลิ่นอายด่านเคราะห์ปานต้องห้ามนี้ปรากฏ พลังระเบียบมหามรรคที่ปกคลุมอยู่ในความว่างเปล่าโดยรอบประหนึ่งถูกกระตุ้น ทะยานฟ้าออกไปโดยพลัน

ตูมโครม!

เสียงกัมปนาททึบหนักดังก้องในส่วนลึกของเวิ้งฟ้า

สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าพลังด่านเคราะห์ปานต้องห้ามนั่นปรากฏเค้าลางพังทลายแทบจะในทันที ถูกพลังระเบียบมหามรรคที่ปกคุลมอยู่บนโลกฝั่งนี้ทำลาย!

ในเวลาเดียวกัน หลินสวินที่นิ่งไม่ขยับมาครึ่งเดือน ปลายนิ้วสั่นเบาๆ คราหนึ่ง

จากนั้นร่างที่บาดเจ็บสาหัสและเปื้อนคราบเลือดมานานของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงของพลังที่น่าตกใจ

ราวกับต้นไม้แห้งเหี่ยวกลับฟื้นคืน!

และในร่างของหลินสวิน พลังปราณที่เหือดแห้งไปนานแล้ว สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณที่ว่างเปล่า ตอนนี้ก็มีพลังชีวิตมหัศจรรย์อย่างที่ถาโถมออกมา ราวกับสายธารเชี่ยวกราก ไหลพุ่งทุกส่วนทั่วร่างอย่างต่อเนื่อง

แขนขา เส้นเลือด เส้นปราณ อวัยวะภายใน จุดชีพจร กระดูก ผิวหนัง… ล้วนราวกับพื้นดินที่แห้งไปนานแล้ว กำลังถูกฝนฤดูใบไม้ผลิรินรด เปล่งประกายพลังชีวิตรูปแบบใหม่

การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ดำเนินไปเจ็ดวันต่อเนื่อง

เจ็ดวันหลังจากนั้น

บาดแผลภายนอกของหลินสวินฟื้นตัวนานแล้ว ผิวพรรณแวววาวเป็นประกาย ทุกอณูรูขุมขนล้วนมีท่วงทำนองมรรคอัศจรรย์ไหลพล่าน ราวกับเกิดใหม่

ส่วนภายในร่าง กึกก้องดั่งฟ้าร้อง!

นั่นเป็นพลังเทพที่กำลังเดือดพล่าน ราวกับแม่น้ำใหญ่ยาวทะลวงไปตามอวัยวะตันห้ากลวงหกและแขนขาทุกส่วนของหลินสวิน

เมื่อมองอย่างละเอียด เส้นปราณของเขาแวววาวราวกับทำมาจากหยกเทพ ประทับกฎเกณฑ์มหามรรคเป็นกลุ่มๆ ราวกับลวดลายแน่นขนัด แผ่แสงประกาย กระดูกทุกท่อนล้วนขาวสว่างประหนึ่งหลอมจากเหล็กเทพ ดูราวกับอาวุธเทพศาสตราคม ฟูมฟักลายกระดูกมหามรรคที่ลึกลับออกมา…

ลายกระดูกเร้นมรรค!

ที่อวัยวะตันห้าของเขา ร่างแยกมหามรรคห้าที่อยู่ภายใน แต่ละร่างดุจดั่งเทพไท้ อาบแสงเทพสีเขียว ขาว เหลือง ดำ แดงห้าชนิด แต่ละชนิดล้วนแฝงไว้ด้วยอานุภาพยิ่งยง

ส่วนถ้ำผสานที่เสมือนต้นแบบโลกหล้าของเขาได้กลายเป็นโลกหนึ่งนานแล้ว พลังวิญญาณอันพลุ่งพล่านไร้จำกัดกลายเป็นภูผาธาราสรรพสิ่ง วัฏจักรหมื่นลักษณ์ประดับอยู่ภายใน!

โลกแปลงถ้ำผสาน!

นอกจากนี้ห้วงนิมิตและพลังจิตของเขาก็กลายเป็นรูปจำลองเทพองค์หนึ่ง รูปร่างเหมือนเขาไม่มีผิดเพี้ยน ยืนตระหง่านกลางอากาศ รอบๆ มีกฎเกณฑ์มหามรรคมากมายคอยพิทักษ์ ท่าทางเคร่งขรึม เปล่งแสงสว่างไสว ราวกับห่วงนิมิตใหญ่ส่องสว่าง!

ควบรวมจิตรับรู้ รูปจำลองถือกำเนิด

นี่ก็คือ ‘ลักษณ์เทพจิตวิญญาณ’!

ไม่ว่าจะเป็นลายกระดูกเร้นมรรค โลกแปลงถ้ำผสาน หรือลักษณ์เทพจิตวิญญาณที่ควบรวมออกมา นี่ล้วนเป็นลักษณะเฉพาะที่ระดับกึ่งจักรพรรดิเท่านั้นจึงจะมี

เห็นได้ชัดว่าในการหลับใหลอันเงียบสงบนี้ หลินสวินได้ทะลวงระดับแล้ว ก้าวเข้าสู่ระดับกึ่งจักรพรรดิ!

และก็เป็นตอนนี้เอง สติของหลินสวินค่อยๆ ฟื้นคืนจากความขุ่นมัว ราวกับตื่นจากฝัน และสังเกตเห็นทันทีว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงที่พลิกฟ้าพลิกดินกับตน

เขารู้สึกถึงพลังที่ไม่คุ้นเคยทั้งยังน่าสะพรึงยิ่งยวดในร่าง ทำเอาตัวเองยังอดอึ้งงันไม่ได้ ตะลึงอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะตระหนักได้ว่า ตนถึงกับบรรลุระดับโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งแล้ว!

แต่หลินสวินกลับไม่อาจดีใจ ในใจมีเพียงความกังวล

การทะลวงระดับครั้งนี้ ได้ก้าวสู่มกุฎมรรคาหรือไม่

มกุฎกึ่งจักรพรรดิ ต่างจากกึ่งจักรพรรดิทั่วไปราวกับฟ้ากับดิน!

เขาไตร่ตรอง หวนคิดถึงเรื่องในอดีต

ภาพที่ไม่ปะติดปะต่อและพร่าเบลอคล้ายถูกล้วงจากห้วงความจำ แต่ละเหตุการณ์เมื่อเจ็ดวันก่อนเริ่มวาบขึ้นในหัว

วันนั้นด่านเคราะห์ต้องห้ามปรากฏในส่วนลึกของเวิ้งฟ้า กลับถูกพลังระเบียบมหามรรคในประตูทลายสลายไป…

‘นี่ น่าจะเป็นเคราะห์ทะลวงระดับของข้า!’

ในใจหลินสวินสะท้าน ในที่สุดก็เข้าใจแล้ว

เจ็ดวันก่อนเคยมีมหาเคราะห์แห่งยุคปรากฏในส่วนลึกของเวิ้งฟ้า หมายจะสังหารตน แต่กลับถูกระเบียบมหามรรคที่ปกคลุมที่แห่งนี้โจมตีสลายไปอย่างไร้รูป

ส่วนตนซึ่งอยู่ในสภาวะงงงวยกลับก้าวผ่านพิบัติเคราะห์น่ากลัวนี้ ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าพลิกดิน และทำให้ตนก้าวสู่ระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิในคราเดียว!

หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง สัมผัสพลังที่ไม่คุ้นเคยโดยสิ้นเชิงในร่างเงียบๆ

สุดท้ายเขาถอนหายใจราวกับยกภูเขาออกจากอก

เขาตัดสินได้แล้วว่ามรรควิถีที่ตนครอบครอง ไม่ใช่สิ่งที่กึ่งจักรพรรดิทั่วไปจะเทียบได้อย่างแน่นอน!

ควรรู้ว่าหลินสวินเคยต่อสู้กับระดับกึ่งจักรพรรดิตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว ระดับกึ่งจักรพรรดิที่ตายในมือสิบนิ้วยังไม่พอนับ

และก่อนมาร่วมงานชุมนุมถกมรรค เขาก็เคยต่อสู้กับระดับกึ่งจักรพรรดิสำนักยุทธ์เสวียนจีหลายคนด้วยพลังของตนคนเดียวมาแล้ว

นี่ทำให้เขารู้ถึงพลังที่ระดับกึ่งจักรพรรดิทั่วไปครอบครองเป็นอย่างดี

อย่างมรรควิถีที่เขามีตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นระดับความหนาแน่นหรือคุณลักษณะสูงต่ำ ล้วนไม่ใช่สิ่งที่กึ่งจักรพรรดิทั่วไปจะเทียบได้

หากเปรียบเทียบพลังของระดับกึ่งจักรพรรดิทั่วไปเป็นทะเลสาบ เช่นนั้นพลังที่มกุฎกึ่งจักรพรรดิครอบครองก็เหมือนดั่งมหาสมุทรอันกว้างใหญ่!

‘ข้าปลดปล่อยมรรควิถีแห่งตนในการต่อสู้สูงสุด เผชิญมหาเคราะห์ภายใต้สติเลือนรางว่างเปล่า… เช่นนี้ ก็นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงและนิพพานเกิดใหม่ถึงที่สุดแล้ว…’

หลินสวินพึมพำในใจ

ความรู้สึกพึงพอใจที่ไม่เคยมีมาก่อนพวยพุ่งขึ้นในใจเขา

หากเพียงเพื่อเข้าสู่ประตูทลายนี้ เขาไม่จำเป็นต้องใช้วิธีอื่นจริงๆ แค่สำแดงอภินิหารหยุดเวลาก็ไม่มีใครสามารถขวางได้แล้ว

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่หลินสวินต้องการ!

เขาในตอนนั้นเป็นผู้ฝึกปราณระดับมกุฎราชันอริยะขั้นสมบูรณ์แล้ว แต่กลับไม่เคยมีใครสามารถกดดันเขาจนต้องปลดปล่อยถึงขีดสุดได้อย่างแท้จริง

นี่ทำให้ในใจเขามักมีความรู้สึกเสียดายอยยู่บ้าง

แต่ในศึกนองเลือดอันเป็นประวัติการณ์นั้น กลับทำให้เขาสมปรารถนา ต่อสู้เต็มที่ พิสูจน์ตนเอง

‘ทั่วหล้าบนล่าง คนในรุ่นเดียวกันล้วนไม่ใช่ศัตรูของข้า อย่างน้อยบนเส้นทางระดับอริยะ มรรคข้า… เรียกได้ว่าไร้ศัตรู!’

‘ก็ไม่รู้ว่าเมื่อเทียบกับศิษย์พี่เสวียนคงในตอนนั้น จะเป็นอย่างไร…’

หลินสวินคล้ายขบคิด

ไม่นานเขาลืมตาขึ้น สิ่งที่เห็นคือพลังระเบียบมหามรรคเป็นสายๆ ที่ร่ายระบำเต็มฟ้าดุจรุ้งเทพอันพร่างพราว

นี่คือในประตูทลาย!

ถึงตอนนี้หลินสวินได้สติอย่างสิ้นเชิงแล้ว มองเห็นแท่นมรรคที่อยู่ใต้ร่างตน และเห็นกำแพงหินที่สูงเสียดฟ้า

เขานั่งขัดสมาธิทอดสายตามองไปทั่วทิศ

มหาสมบัติแรกกำเนิดที่ทุกคนในใต้หล้าให้ความสนใจ… ซ่อนอยู่ที่นี่หรือ

หลินสวินสังเกตอย่างละเอียด ระมัดระวัง ไม่กล้าไปจากแท่นมรรค และไม่กล้าปล่อยจิตรับรู้ออกมา กลัวแต่ว่าจะสัมผัสกับพลังระเบียบมหามรรคที่อยู่ใกล้ๆ ชักนำเคราะห์สังหารมาสู่ตน

ครู่ใหญ่คิ้วของหลินสวินค่อยๆ ขมวดขึ้น

ที่นี่มีมหาสมบัติแรกกำเนิดที่ไหน นอกจากพลังระเบียบที่แน่นขนัดดุจสายฝนนับไม่ถ้วนแล้ว ก็เป็นกำแพงหินที่อยู่ข้างหน้า กับแท่นมรรคที่นั่งอยู่…

แท่นมรรคหรือ

ทันใดนั้นหลินสวินคล้ายตระหนักได้ถึงบางอย่าง เปลี่ยนจากนั่งขัดสมาธิเป็นลุกขึ้นยืน ก้มหน้าพินิจแท่นมรรคที่อยู่ใต้เท้า

แท่นมรรคนี้มหัศจรรย์อย่างที่สุด ไม่เห็นพลังระเบียบกลางฟ้าดินในสายตา สามารถโลดแล่นในประตูทลายได้อย่างอิสระ

ก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็เพราะพลังประทับที่ศิษย์พี่จวินหวนทิ้งไว้ ทำให้หลินสวินกับแท่นมรรคนี้เกิดการตอบสนองอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่อาจแยกจากได้ ส่งผลให้เกิดการปิดล้อมโจมตีของเหล่าผู้กล้า

แต่ก็เพราะแท่นมรรคนี้ ทำให้หลินสวินมีโอกาสเข้าสู่ประตูทลายแห่งนี้!

เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือพวกหมีอู๋หยา ล้วนไม่เคยคิดว่าแท่นมรรคนี้จะเป็นมหาสมบัติแรกกำเนิดชิ้นนั้นหรือเปล่า!

เป็นแท่นมรรคนี้จริงๆ หรือ

หลินสวินใช้จิตรับรู้เข้าสัมผัส

ครู่ใหญ่หลังจากนั้น พลังเจตจำนงอันคลุมเครือสายหนึ่งส่งคลื่นระลอกหนึ่งออกมาเงียบๆ

“ข้าคือวิญญาณเขาปู้โจว แปลงจากพลังเจตจำนงแห่งเขาปู้โจว เมื่อนานมาแล้วเคยมีหญิงผู้หนึ่งใช้วิชาลับบอกข้าว่า หลังจากนี้จะมีคนพาข้าจากไป ดูท่า… จะเป็นเจ้า”

วิญญาณเขาปู้โจว!

ในใจหลินสวินสะท้านไหว ขณะเดียวกันก็เดาออก ว่าหญิงที่วิญญาณเขาปู้โจวพูดถึงจะต้องเป็นศิษย์พี่จวินหวนแน่

“มิน่า…”

หลินสวินพึมพำ พลันตระหนักได้ถึงบางอย่างจึงพูดว่า “คงไม่ใช่ว่า… เจ้าก็คือมหาสมบัติแรกกำเนิดชิ้นนั้นหรอกนะ”

แสงอันคลุมเครือไหลพล่านแท่นมรรค ส่งคลื่นออกมา “ไม่ ข้าเป็นเพียงพลังแห่งเจตจำนงสายหนึ่ง มหาสมบัติแรกกำเนิดที่แท้จริงคือเขาปู้โจวลูกนี้”

หลินสวินเบิกตาโพลงทันที ราวกับถูกฟ้าผ่า เผยสีหน้ายากจะเชื่อ

เขาปู้โจว?

มหาสมบัติแรกกำเนิด?

ก่อนหน้านี้แทบจะทุกคนล้วนรู้จักเขาปู้โจว แต่ใครจะคิดว่าเขาปู้โจวจะเป็นมหาสมบัติแรกกำเนิดที่พวกเขาปรารถนา

“ไม่รู้ถึงโฉมหน้าแท้จริงของภูเขาเทพ เพียงเพราะอยู่ในเขาแท้ๆ…”

หลินสวินหัวใจกระเพื่อมไหว

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset