Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2049 เขาผ่านที่แห่งนี้ ระดับจักรพรรดิไม่รู้ตัว

ตอนที่ 2049 เขาผ่านที่แห่งนี้ ระดับจักรพรรดิไม่รู้ตัว

บริเวณที่ห่างจากเมืองนครเยี่ยนไม่กี่หมื่นลี้ ก็คืออาณาเขตของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์

ในฐานะผู้สืบทอดของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ และเป็นทายาทเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ตระกูลซวี แม้บุคคลระดับจักรพรรดิมา ซวีหลิงเจินก็ไม่กลัว

ทั่วหล้าบนล่าง ระดับจักรพรรดิคนใดกล้าเล่นงานผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ใกล้ๆ อาณาเขตของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์บ้าง

นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ

ยิ่งไปกว่านั้นคนที่อยู่ตรงหน้า วิชาสะกดรอยไม่เอาไหนขนาดนั้น ทำให้ซวีหลิงเจิน… ไม่มีความคิดจะสนใจจริงๆ

ที่น่าเสียดายคือซวีหลิงเจินลืมเรื่องหนึ่งไป

ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว ในการประชันหมากครั้งใหญ่นี้ ในบรรดาขุมอำนาจใหญ่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดก็มีเรือนมรรคดึกดำบรรพ์อยู่ด้วย ระดับจักรพรรดิและบรรพจารย์จักรพรรดิตายไปไม่รู้เท่าไหร่

แม้แต่เผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ตระกูลซวีก็เสียหายอย่างหนัก

แน่นอนว่าอูฐที่ผอมตายยังใหญ่กว่าม้า สำหรับผู้ฝึกปราณทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรือนมรรคดึกดำบรรพ์หรือเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ตระกูลซวี ก็ยังคงแข็งแกร่งจนทำให้ใจสั่น

แต่เห็นได้ชัดมากว่าหลินสวินเป็นข้อยกเว้น

ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับความดูถูกและไอสังหารที่ไม่ปกปิดของซวีหลิงเจิน คำตอบของหลินสวินง่ายมาก ยื่นมือคว้ากลางอากาศ

ครู่ต่อมาซวีหลิงเจินถูกบีบราวกับมด กระดูกทั่วร่างแตกหักไปไม่รู้กี่ท่อนในพริบตา พลังขับเคลื่อนรอบตัวพังทลายทันที

เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นพลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดและหวาดกลัวไร้ขอบเขตทันที อยากจะตะโกนแต่กลับไม่สามารถส่งเสียงได้แม้แต่น้อย

ตอนที่มองหลินสวินอีกครั้ง สายตาของเขาได้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวแล้ว

“ผู้สืบทอดคีรีดวงกมล เป็นคนที่คนอย่างเจ้าสามารถใส่ร้ายและดูถูกได้หรือ”

หลินสวินพูดอย่างเฉยชา

ประโยคเดียวซวีหลิงเจินราวกับถูกฟ้าผ่า เบิกตาโพลง ตระหนักได้ทันทีว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร

แต่หลินสวินคร้านจะเอ่ยปากแล้ว

ก็เห็นร่างของซวีหลิงเจินราวกับไม้เหี่ยวแห้งที่สูญเสียพลังชีวิต กลายเป็นฝุ่นผงสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

นี่ก็คือพลังพรสวรรค์ของกายมรรคไม้เขียว ควบคุมความรุ่งโรจน์โรยร่วง!

ครู่ต่อมาหลินสวินก็แผ่วพลิ้วจากไป

ไม่กี่ชั่วยามหลังจากนั้น

รุ้งสายหนึ่งทะลวงห้วงอากาศมา กลายเป็นเฒ่าชราชุดขาวคนหนึ่ง สายตาของเขามองไปรอบๆ สุดท้ายคว้าฝุ่นกำหนึ่งขึ้นมา

“ซวีหลิงเจินเจ้าเด็กนี่… จิตสิ้นวิญญาณสลายไปแล้ว…”

เฒ่าชราชุดขาวโกรธจนหน้าเขียว ในดวงตาเผยไอสังหารท่วมฟ้า

ไม่นานเงาร่างของเฒ่าชราชุดขาวปรากฏในเมืองนครเยี่ยน มาถึงหอสุราที่ซวีหลิงเจินเคยปรากฏตัว

ด้วยฝีมือของเขา ไม่นานก็สืบข่าวที่มีค่าได้ส่วนหนึ่งแล้ว

อย่างเช่น คำพูดที่ซวีหลิงเจินเคยพูด รวมถึงความชิงชังและดูถูกผู้สืบทอดคีรีดวงกมลอย่างไม่มีปกปิด

อย่างเช่น ซวีหลิงเจินเคยประกาศกร้าวว่า อีกไม่นานหลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลจะประสบเคราะห์สังหารอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

อย่างเช่น ตอนที่ซวีหลิงเจินจากไป มีใครคนหนึ่งตามไป…

เบาะแสทั้งหมดนี้ทำให้เฒ่าชราชุดขาวคาดเดาได้ว่า

คนที่ฆ่าซวีหลิงเจิน เป็นไปได้สูงมากว่าจะเป็นหลินสวินนั่น!

ควรรู้ว่าอาณาเขตของเมืองนครเยี่ยน เดิมก็เป็นอาณาเขตที่อิทธิพลของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์แผ่ตัวมาถึง และทอดสายตามองไปทั่วหล้า ใครจะกล้าฆ่าผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์

‘จะต้องเป็นเศษเดนคีรีดวงกมลคนนี้อย่างแน่นอน!’

เฒ่าชราชุดขาวสายตาวาววาบ ‘กำลังกังวลไม่รู้ว่าจะไปตามหาสวะอย่างเจ้าที่ไหน เจ้ากลับปรากฏตัวเสียเอง ช่างไม่รู้จักเป็นตาย ไม่มีผู้สืบทอดคีรีดวงกมลเหล่านั้นคุ้มครอง หนอนน้อยอย่างเจ้าจะยืนหยัดได้แค่ไหน’

ในวันนี้

ทั้งบนล่างของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เดือดดาล เจ้าสำนักออกคำสั่ง…

ค้นหาจับกุมหลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลเต็มกำลัง พบเจอให้ฆ่าทันที!

จากนั้นเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ก็เหมือนสัตว์ปีศาจดึกดำบรรพ์ที่ถูกยั่วให้โมโห ขุมกำลังต่างๆ ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของพวกเขาล้วนเริ่มเคลื่อนไหว

ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนเข้าร่วม สายสืบที่ประหนึ่งกระแสน้ำถูกเคลื่อนขบวน พลังกลุ่มตระกูลต่างๆ ภายใต้เรือนมรรคดึกดำบรรพ์ก็ถูกระดมพล…

วันนี้ในแคว้นกลางมรรค เกิดความปั่นป่วนโกลาหลอย่างสิ้นเชิง

ในฐานะหนึ่งในหกเรือนมรรคใหญ่ เรือนมรรคดึกดำบรรพ์คงอยู่จนถึงตอนนี้มาเนิ่นนานแล้ว แม้ในการประชันหมากครั้งใหญ่นั้น พลังดั้งเดิมเสียหายหนักหน่วง แต่พลังที่มีก็ยังคงสามารถทำให้ทั่วหล้าสั่นสะเทือน

ดังนั้นเมื่อเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เปิดฉากไล่ฆ่าหลินสวินโดยเฉพาะ จึงดึงดูดความสนใจจากทั่วหล้า ทำให้ผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ตกตะลึง

แต่ทุกอย่างยังไม่จบ

หลังจากนั้นเรือนมรรคจักรวาล เรือนมรรคยุทธจักร เรือนมรรคเหล่ามาร เผ่านักรบเถาอู้ เผ่านักรบวารีดำ เผ่านักรบผีสวรรค์…

ขุมอำนาจใหญ่แต่ละแห่งต่างบอกกับโลกภายนอกว่า ทั้งทางเดินโบราณฟ้าดารามีขุมอำนาจมากมายต้องการตามจับหลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมล!

ทั้งยังตั้งรางวัลไว้มหาศาล มูลค่าของรางวัลนั้น สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทุกคนตาวาวและหมายปอง!

ชั่วขณะเดียวทั้งแคว้นกลางมรรคคลื่นลมแปรเปลี่ยน ในพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขตนั้น ในเมืองมากมายที่กระจัดกระจายล้วนติดประกาศนำจับหลินสวินไว้ทั่วทุกที่

ไอเข่นฆ่าทะลวงฟ้าโดยตรง!

“หลินสวินนี่โง่เขลาเพียงใด เหตุใดต้องเลือกรั้งอยู่เพียงลำพัง คราวนี้… เขาคงจบสิ้นแล้ว!”

ผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไหร่ต่างฮือฮา ตกใจกับเรื่องนี้

ผู้คนในโลกเพิ่งจะรู้ตอนนี้ ว่าที่แท้หลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลยังอยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดาราจริงๆ ไม่ได้มุ่งหน้าไปฟากฝั่งฟ้าดารา

“ขุมอำนาจใหญ่ที่เคยถูกคีรีดวงกมลเข่นฆ่าเหล่านั้น ในที่สุดก็เจอเป้าหมายระบายความโกรธแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไป หลินสวินจะกลายเป็นตัวน่ารังเกียจที่ใครๆ ต่างเล่นงาน”

มีคนคึกคัก

“หึ หากผู้สืบทอดคีรีดวงกมลเหล่านั้นยังอยู่ บนโลกนี้สำนักใดจะกล้าทำเช่นนี้ ใช้รากฐานพลังของขุมอำนาจใหญ่อย่างเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ จักรวาล ยุทธจักร ร่วมกันหมายหัวเล่นงานหลินสวินที่ตัวคนเดียว ช่าง… น่าอับอายนัก!”

มีคนไม่ชอบใจ แต่ก็ทำได้เพียงแอบไม่พอใจ ไม่กล้าปริปากส่งเสียง

ว่ากันถึงที่สุดแล้ว ทั่วหล้านี้ขุมอำนาจของหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่ก็ยังคงแข็งแกร่งที่สุด!

“หลินสวินในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนนานแล้ว เขาเป็นมกุฎกึ่งจักรพรรดิแล้ว ทอดสายตามองทั่วฟ้า บุคคลพลิกฟ้าอย่างเขาจะมีสักกี่คน”

“คงมีเพียงแค่ระดับจักรพรรดิลงมือ ถึงจะสามารถกำราบเขาได้ ทว่าประเด็นคือ หลินสวินจะโง่รอถูกกำราบหรือ”

……

“ด้วยพลังของเหล่าผู้สืบทอดคีรีดวงกมล หากจะแก้แค้นจริงๆ บนโลกนี้ขุมอำนาจใดจะสามารถต้านการเข่นฆ่าของพวกเขาได้ ตอนนี้พวกเขาจากไปแล้ว ยังไม่คิดจะหยุดมือ ช่าง… บ้าคลั่งจริงๆ”

ตอนที่รู้ข่าวนี้ หมีอู๋หยาถอนหายใจยาวคราหนึ่ง

ในใจเขาจู่ๆ ก็มีความผิดหวังที่พูดไม่ออกกับเรือนมรรคยุทธจักรที่ตนอยู่

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หมีอู๋หยาปิดด่าน ไม่สนใจเรื่องราวภายนอกอีก เมื่อบรรลุระดับมกุฎจักรพรรดิ เขาก็จะจากไปอย่างสิ้นเชิง

……

“เจ้าสำนัก ในโลกตอนนี้คนที่สามารถคุ้มครองหลินสวินได้ คงมีแค่เรือนมรรคโลกาสวรรค์ของพวกเราแล้ว”

ที่เรือนมรรคโลกาสวรรค์ หลิงหงจวงไปหาเจ้าสำนักไท่ซูหง

หลังจากรู้ข่าวที่หลินสวินถูกประกาศจับ ในใจนางรู้สึกเดือดดาลอย่างบอกไม่ถูก

นางเคยเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินก็จริง แต่นางไม่ชอบใจการกระทำของขุมอำนาจต่างๆ ทั่วหล้ามากกว่า ต่ำช้าและไร้ยางอายเกินไป ไม่มีขอบเขตโดยสิ้นเชิง!

“เจ้าจะให้เรือนมรรคโลกาสวรรค์ของพวกเราไปช่วยเจ้าหนุ่มนั่นหรือ”

ไท่ซูหงมุ่นคิ้ว

หลิงหงจวงพยักหน้า

“หงจวง เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดขุมอำนาจอย่างเรือนมรรคจักรวาล ดึกดำบรรพ์ ยุทธจักร จึงเล่นงานหลินสวินโดยไม่สนสิ่งใด”

ไท่ซูหงเอ่ยต่อ “ง่ายมาก หากเจ้าหนุ่มนี่มีชีวิตอยู่ ก็เหมือนเข็มที่ทิ่มแทงในใจขุมอำนาจเหล่านี้ ทำให้พวกเขากินไม่ได้นอนไม่หลับ”

“แต่เขาเป็นเพียงมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง”

หลิงหงจวงอดพูดไม่ได้

ไท่ซูหงส่ายหน้า “ผิดแล้ว เขาไม่ใช่แค่มกุฎกึ่งจักรพรรดิ เขายังเป็นผู้สืบทอดคีรีดวงกมลด้วย เป็นบุคคลเย้ยฟ้าที่เคยไร้ศัตรูในระดับอริยะ และมีรากฐานพลังที่น่ากลัวคนหนึ่ง หากให้เวลาเขาเติบโต… ต่อไปไม่แน่ว่าจะกลายเป็นจักรพรรดิยุทธ์คนที่สอง!”

“และนี่ก็คือสิ่งที่ขุมอำนาจใหญ่เหล่านั้นกังวลที่สุด”

ในใจหลิงหงจวงหวาดหวั่นขึ้นมาระลอกหนึ่ง จักรพรรดิยุทธ์แข็งแกร่งถึงขั้นสามารถโจมตีจอมจักรพรรดิไร้นามได้ หากต่อไปหลินสวินเองก็ครอบครองอานุภาพเช่นนั้น จะต้องทำให้ขุมอำนาจที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับคีรีดวงกมลกินไม่ได้นอนไม่หลับแน่!

“หงจวง หลังจากการประชันหมากครั้งใหญ่คราวนี้สิ้นสุดลง ก็เพราะเรือนมรรคโลกาสวรรค์ของพวกเรารักษาความเป็นกลาง ไม่ได้เข้าร่วม จึงสามารถรักษาตัวไว้ได้ ครั้งนี้พวกเราก็จะไม่เข้าร่วมเช่นกัน”

ไท่ซูหงพูดเสียงขรึม เผยความเด็ดขาดที่ไม่ยอมให้ปฏิเสธ

แม้หลิงหงจวงจะคาดเดาไว้แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ในใจก็ยังอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้

สิ่งที่ดูเหมือนเป็นธรรมนี้ อันที่จริงกลับเป็นความเป็นกลางที่วางเฉยไม่ทำอะไรเลย จะเป็นเช่นนี้ได้ตลอดไปจริงๆ หรือ

หลิงหงจวงถอนหายใจในใจคราหนึ่ง

……

นอกเมืองขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

หลินสวินมองประกาศจับบนกำแพงที่สามารถเห็นได้ทุกที่นั่น ในใจอดยิ้มหยันไม่ได้

ในอดีตเขาเคยพบเจอการไล่ฆ่าหลายครั้ง ทุกครั้งล้วนต้องหลบหนีสะบักสะบอม ผ่านคาวเลือดและอันตรายยิ่งยวด

ทว่าเขาในตอนนี้สนใจเรื่องพวกนี้เสียที่ไหน

ยามอยู่ที่เรือนมรรคโลกาสวรรค์ ภายใต้สายตาเหล่าระดับจักรพรรดิอย่างพวกจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิง ยังไม่มีใครสามารถมองทะลุฐานะของตนได้ นับประสาอะไรกับเขาในตอนนี้ที่แตกต่างจากเมื่อก่อนแล้ว

ทว่าหลินสวินก็ยังรู้สึกประหลาดใจ เพราะบนหอกำแพงเมืองกลับมีระดับจักรพรรดิแท้คนหนึ่งควบคุมดูแล!

จากคำพูดของผู้คนที่ถกกัน ทำให้เขารู้อย่างรวดเร็วว่านี่คือ ‘จักรพรรดิสงครามตะวันมงคล’ ที่มาจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ เพิ่งมาถึงไม่นานก็นั่งควบคุมสถานการณ์ที่นี่ เป้าหมายก็เพื่อค้นหาจับกุมและสังหารหลินสวิน

และไม่เพียงแค่ในเมืองแห่งนี้ ในเมืองอื่นๆ ของแคว้นกลางมรรคก็มีระดับจักรพรรดิเช่นเดียวกับจักรพรรดิสงครามตะวันมงคลควบคุมดูแลเช่นกัน!

นี่ก็เหมือนถักแหขนาดใหญ่หมายจับปลาอย่างหลินสวิน

‘ช่างให้ความสำคัญกับข้าคนแซ่หลินจริงๆ…’

ในใจหลินสวินถอนหายใจ เข้าเมืองไปอย่างสงบนิ่งไม่ลังเล

ชั่วขณะที่เข้าเมือง พลังเจตจำนงระดับจักรพรรดิที่น่ากลัวกวาดมายังตัวเขา แต่ไม่นานก็หายไป

หลินสวินท่าทางไม่รู้สึกตัว เดินปะปนท่ามกลางผู้คน

ในหอกำแพงเมือง จักรพรรดิสงครามตะวันมงคลสีหน้านิ่งสงบ กำลังดื่มชา ไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ปลาที่ทั่วหล้ากำลังตามจับ เมื่อครู่นี้ได้เดินผ่านไปอย่างผ่าเผยภายใต้สายตาของเขาแล้ว

ใจกลางเมืองนี้มีค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณแห่งหนึ่ง หลังจากหลินสวินมาถึง จ่ายผลึกมรรคจำนวนมหาศาลแล้วก็เดินเข้าไป

เขาจะไปสำนักเร้นฤทธิ์เทพที่ครองอาณาเขตใน ‘แคว้นวิญญาณหมอก’ ห่างจากแคว้นกลางมรรคถึงเก้าแคว้น

หากใช้การทะยานผ่านห้วงอากาศ อย่างน้อยต้องใช้เวลาสามถึงห้าเดือน

หลินสวินไม่มีเวลามาสิ้นเปลืองมากขนาดนั้น ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณเร่งเดินทาง ย่อมกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของเขา

———————

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset