ตอนที่ 2124 วิญญาณกระบี่ที่ถูกสาป
ซ่า!
เลือดแดงสดสาดกระเซ็น การตายของจักรพรรดิอสูรมารกิเลน ทำให้วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิมากมายรู้สึกใจสั่น
พวกเขาล้วนไม่กล้าเชื่อว่าภายใต้การปิดล้อมเช่นนี้ มกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งไม่เพียงแต่ไม่ถูกกำราบ กลับเป็นยังสามารถฆ่าคนได้ด้วย!
และนับตั้งแต่เวลานี้ไป หลินสวินก็เริ่มโจมตีกลับ
ร่างแยกทั้งห้าติดตามข้างกายร่างต้น ออกเคลื่อนพลพร้อมกัน ไม่ต่างคนต่างสู้เหมือนก่อนหน้านี้อีก เมื่อเป็นเช่นนี้อานุภาพที่เกิดขึ้นจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
ห้วงอากาศระเบิดกึกก้อง ลูกประคำที่หลอมจากโครงกระดูกขาวเส้นหนึ่งทะยานเข้ามา แผ่แสงธรรมแปลกประหลาดสีเทาออกมาปกคลุมฟ้าดินแถบนี้
นี่คือสมบัติน่าสะพรึงซึ่งมุ่งเป้าไปที่จิตวิญญาณชิ้นหนึ่ง แสงธรรมสีเทาที่สร้างขึ้นก่อพลังราวกับจะม้วนกลืน สามารถทำให้จิตวิญญาณของผู้คนถูกกัดกร่อนกลายเป็นเถ้าถ่าน
ตูม!
กายมรรคเพลิงแดงของหลินสวินสำแดงเนตรผลาญเผา เปลวไฟโฉบผ่านอากาศ ซัดลูกประคำเส้นนี้ลอยออกไปอย่างหนักหน่วง โครงกระดูกขาวพวกนั้นล้วนถูกเผาจนร้องโหยหวนสั่นระรัว
ขณะเดียวกันร่างต้นของหลินสวินก็ออกโจมตี ซัดหมัดหนึ่งออกไป กระแทกจนหน้าอกของภิกษุที่กลิ่นอายชั่วร้ายซัดโหมไปทั่วร่างนั้นยุบทลาย กระเด็นลอยออกไปทั้งตัว
ฟุ่บ!
กายมรรคทองขาวที่อยู่อีกด้านหนึ่งเตรียมตัวไว้นานแล้ว ใช้หนามเเสงคมทะลวงศีรษะของภิกษุนั่นโดยไม่ลังเล
การเคลื่อนไหวทั้งมวลแทบจะเกิดขึ้นในพริบตา
เมื่อทุกอย่างนี้ปิดฉาก วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่ท่าทางเหมือนภิกษุนั้นก็ถูกฆ่าอย่างสมบูรณ์!
ขณะเดียวกันร่างต้นของหลินสวินและกายมรรคทั้งสามอย่างวารีดำ ดินเหลือง ไม้เขียวก็จับจ้องคู่ต่อสู้อีกคนไว้นานแล้ว
ไม่เหมือนการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้แข็งแกร่งคนอื่น ระหว่างร่างต้นของหลินสวินและกายมรรคทั้งห้า จิตวิญญาณรวมเป็นหนึ่ง ความคิดเชื่อมต่อกัน ยามร่วมมือกันจึงเรียกได้ว่าแนบสนิทไร้ช่องโหว่ ไม่เปิดช่องให้โจมตี
นี่ก็คือสิ่งที่ทำให้พลังสังหารที่หลินสวินสร้างขึ้นยามต่อสู้น่าหวาดกลัวไร้ขอบเขต
เคร้ง!
ไม่ทันไรประทับไร้ชีพก็ปะทะกับขวานยักษ์กระดูกขาวเล่มหนึ่ง ส่งเสียงอึกทึกสนั่นหู
ส่วนผู้ที่ควบคุมขวานยักษ์กระดูกขาวก็คือหญิงสาวที่ร่างเป็นคนศีรษะเป็นงู ท่าทางอ่อนช้อยนั่น ขณะที่สมบัติของนางถูกสกัดกั้น ตัวนางก็ถูกกายมรรควารีดำและกายมรรคไม้เขียวประกบ
“ช่วยข้าด้วย…!”
นางส่งเสียงหวีดร้อง ใกล้จะยืนหยัดไม่อยู่
อันที่จริงวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนอื่นที่อยู่ใกล้ก็กำลังสู้สุดกำลัง แต่ล้วนถูกร่างต้นของหลินสวินและกายมรรคร่างอื่นต้านทานและสลายพลัง
ไม่นานหญิงสาวที่ร่างเป็นคนศีรษะเป็นงูก็กรีดร้องโหยหวนด้วยความไม่ยินยอม ถูกธงไร้ระเบียบที่กายมรรคไม้เขียวครอบครองฆ่าตายคาที่
และการตายของหญิงสาวคนนี้ ก็ห่างจากการตายของภิกษุนั่นไม่เท่าไร!
ภาพความตายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ กระตุ้นจนวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิพวกนั้นแทบคลั่ง
ร่างต้นและร่างแยกของหลินสวินที่รวมตัวกัน เรียกได้ว่าไร้คู่ต่อกรจริงๆ ทั้งโจมตีและป้องกัน ทั้งครอบครองศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนนานัปการ วิชามรรคที่สำแดงก็ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ใช่คัมภีร์ซึ่งเรียกได้ว่าชั้นยอดบนโลก
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การต่อสู้กับเขาก็เหมือนกำลังต้านภูเขาสูงตระหง่านเทียมฟ้าลูกหนึ่ง ไม่ว่าพวกเขาจะพุ่งสังหารอย่างไรก็ยากสั่นคลอน!
ไม่ทันไรชายไร้หัวที่ทั้งตัวปกคลุมด้วยเกราะพลันถูกดาบหนึ่งของหลินสวินฟันเกราะบนตัวแตก เกือบจะเวลาเดียวกัน กายมรรคดินเหลืองพุ่งเข้ามา ควบรวมประทับแห่งสรรพชีวิตมาพิฆาต
ตูม!
ร่างของชายไร้หัวถูกซัดระเบิด เลือดสีสดสาดกระเซ็นขึ้นไป
ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ หลังจากอสูรเฒ่าไม้ไผ่ จักรพรรดิอสูรมารกิเลน ภิกษุ หญิงสาวที่ร่างเป็นคนศีรษะเป็นงูนั่น นี่เป็นวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนที่ห้าที่ถูกฆ่าแล้ว!
ต้นสำริดเฒ่าก็ถูกกำราบเข้าไปในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด
ส่วนเวลาก็เพิ่งผ่านไปไม่ถึงครึ่งเค่อ ในเวลาสั้นๆ นี้อย่าว่าแต่หลินสวินถูกกำราบ แม้แต่ได้รับบาดเจ็บยังไม่มี
“เป็นไปได้อย่างไร!” มีคนตะโกนอย่างขุ่นเคือง
“ฆ่า! ใครไม่สู้สุดกำลัง มันผู้นั้นต้องตาย!” มีคนแผดเสียงคำราม
ผู้คนมากมายสีหน้าจริงจังคล้ำเขียว ไม่กล่าวอันใดอีก แต่ความจริงในใจกลับปั่นป่วนเต้นระส่ำ เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและกระสับกระส่าย
หากคู่ต่อสู้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิคนหนึ่งก็พอยอมรับได้
แต่ที่สำคัญคือคู่ต่อสู้เป็นแค่มกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง นี่ก็คือสิ่งที่ทำให้พวกเขายากจะยอมรับที่สุด
ถึงอย่างไรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ล้วนไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน!
ตูม…
การต่อสู้ดุเดือดยิ่งกว่าเดิมแล้ว ฟ้าดินปั่นป่วนอลหม่าน กลิ่นคาวเลือดแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง แสงมรรคและไอชั่วร้ายไร้สิ้นสุดม้วนกลืน ทำให้นรกอำพรางชั้นที่หกนี้ตกอยู่ในความโกลาหลอย่างสมบูรณ์
ผ่านไปหนึ่งเค่อ
ทยอยมีวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิอีกสี่ตนหลั่งเลือด ณ ที่นั้น สภาพการตายล้วนต่างกันออกไป แต่ล้วนตายอย่างอนาถโดยไม่มีข้อยกเว้น!
และตอนนี้วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่ล้อมโจมตีหลินสวินพวกนั้นก็เหลือแค่เจ็ดตน!
พอมองหลินสวินอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นร่างต้นหรือร่างแยกทั้งห้านั้นล้วนไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด อานุภาพดุจสายรุ้ง ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง บุกโจมตีตามอำเภอใจ ผงาดผยองราวกับไร้คู่ต่อกร
นี่สามารถเทียบได้กับการกวาดล้างคู่ต่อสู้ ทรงพลังไร้เทียมทาน!
ฟุ่บ!
ยามที่หลินสวินกำลังคิดจะไปจัดการนกยักษ์กระดูกขาวที่ปีกขาดวิ่นเพลิงลุกโชนนั้น ฝ่ายหลังพลันกระพือปีกแหวกผ่านห้วงอากาศแล้วพุ่งตัวไปทันที
ถึงกับหนีแล้ว!
ตั้งแต่เริ่มสู้ถึงตอนนี้ นี่เป็นวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนแรกที่ถูกทำให้ตกใจจนหนีหัวซุกหัวซุน
หลินสวินไม่ได้ไล่ตาม เปลี่ยนเป้าหมายไปสังหารวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนอื่น
แต่ในเวลาต่อมา จิตต่อสู้ของวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิพวกนั้นประหนึ่งถูกสั่นคลอน เพียงถูกหลินสวินจับจ้องหมายจะต่อสู้เต็มกำลัง ก็เลือกหลบหนีโดยไม่ลังเล
บ้างทำสำเร็จ โชคดีหอบชีวิตกลับมาได้ บ้างต่อให้วิ่งหนีก็ถูกขัดขวาง ถูกฆ่าตายคาที่ทั้งอย่างนั้น
“ไป!”
“เจ้าหมอนี่ไม่ใช่คนที่พวกเราต่อกรได้!”
“รีบหนีเร็ว!”
ไม่นานจิตต่อสู้ของวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่เหลืออยู่นั้นก็พังทลาย แต่ละตนตะโกนก้องฟ้าดิน หนีกระเจิงไปคนละทาง
ไม่มีใครกล้าปะทะกับหลินสวินซึ่งหน้าอีก
หรือกล่าวได้ว่าพลังต่อสู้ที่หลินสวินเผยให้เห็น ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตระหนกและสิ้นหวังแล้ว!
หลินสวินต่อสู้ราวเพลิงลุกโหม ไอสังหารกำลังเข้มข้น มีหรือจะหยุดมือแค่นี้ เขาสูดหายใจลึก ร่างแยกมหามรรคที่เดิมรวมตัวอยู่ข้างกายเคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่แตกต่างกัน ตามล่าศัตรูที่หนีตายพวกนั้นไป
ร่างต้นของเขากลับจับจ้องชายชุดดำที่ทั่วร่างราวรวมตัวจากหมอกควันคนหนึ่ง เริ่มไล่ล่าเต็มกำลัง
และนับตั้งแต่เวลานี้ไป หลินสวินก็เป็นฝ่ายจู่โจมโดยสมบูรณ์ เปิดฉากโจมตีกลับในนรกอำพรางชั้นที่หกนี้!
…
หนึ่งเค่อผ่านไป
ใกล้หุบเขาที่รกร้างว่างเปล่าแถบหนึ่ง กายมรรคไม้เขียวกวาดสายตามองโดยรอบ ธงไร้ระเบียบในมือโบกสะบัดเบาๆ
ตูม!
แสงเทพดุดันหาใดเปรียบนับไม่ถ้วนหวือแหวกออกมา ราวกับรุ้งเทพหลายสายที่พุ่งลงมาจากฟากฟ้า ปกคลุมหุบเขาที่ห่างออกไปไว้ภายใน
หุบเขานั้นถูกสะบั้นแหลก พื้นดินยุบทลาย เกิดหลุมบ่อมหึมาแน่นขนัดมากมาย ลึกล้ำยากหยั่งถึง
ในหลุมบ่อหนึ่งในนั้น วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนหนึ่งพุ่งออกมาอย่างล้มลุกคลุกฝุ่น ร่างกายชุ่มเลือด เลือดเนื้อปะปน ท่าทางอนาถ
มันเพิ่งคิดหลบหนีก็ถูกกายมรรคไม้เขียวขวางไว้
“หนีพ้นรึ”
ท่ามกลางเสียงราบเรียบ กายมรรคไม้เขียวสะบัดธงไร้ระเบียบ ครู่ต่อมาวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดินั้นก็ถูกแสงเทพที่ดุดันหาใดเปรียบฝังกลบ
…
ทิศตะวันตกเฉียงใต้
กายมรรคทองขาวอยู่ในชุดคลุมขาว กำลังใช้ดาบหักห้ำหั่นกับวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่รูปร่างคล้ายช้างยักษ์ตนหนึ่งอย่างดุเดือด
นี่คือคู่ต่อสู้ที่ถูกเขาตามล่า
อีกทั้งคู่ต่อสู้ก็ใกล้จะยืนหยัดไม่อยู่แล้ว
แต่เวลานี้เอง ในที่ลับนั้นพลันมีเงามืดที่ราวกับอากาศสายหนึ่งพุ่งออกมา ควบคุมกระบี่บินกระดูกขาวเล่มหนึ่ง พุ่งสังหารกายมรรคทองขาวจากด้านหลัง
ตั้งแต่ต้นจนจบไร้สุ้มเสียง ถึงขั้นไม่มีคลื่นพลังแผ่ออกมาเพียงเสี้ยว ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่เหมือนช้างยักษ์นั้นเห็นภาพนี้ ในดวงตาที่แดงก่ำดั่งโคมไฟพลันฉายแววปิติยินดี
แต่เพียงพริบตาเท่านั้น ความปิติยินดีนี้ก็ถูกความตื่นตะลึงและหวาดผวาเข้ามาแทนที
พลันเห็น…
กายมรรคเพลิงแดงของหลินสวินเคลื่อนผ่านอากาศมาอย่างไม่คาดฝัน โบกทวนมหามรรคไร้สวรรค์ครึ่งท่อน แทงใส่เงามืดที่เหมือนห้วงอากาศสายนั้น
ตูม!
เงามืดนั้นไม่ทันตั้งตัว ถูกฟันจนซวนเซกระเด็นลอยออกไป ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด
เกือบจะเวลาเดียวกัน ฝั่งกายมรรคทองขาวเงื้อดาบผ่าแหวก สังหารวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่เหมือนช้างยักษ์นั่นซึ่งเดิมทีก็ใกล้จะยืนหยัดไม่อยู่
ฉัวะ!
ศีรษะของมันกระเด็นขึ้นเหนือฟ้า เลือดอาบท้องนภา
กายมรรคทองขาวหันหลังกลับ ก้าวไปทางคู่ต่อสู้ที่กำลังห้ำหั่นกับกายมรรคเพลิงแดง
…
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้…
ก็กำลังเปิดฉากเหตุการณ์แบบเดียวกัน คู่ต่อสู้หนีหัวซุกหัวซุน แต่ร่างต้นและร่างแยกมหามรรคของหลินสวินก็แยกกันไล่ล่าเช่นเดียวกัน เปิดฉากการเข่นฆ่านองเลือดขึ้นมากมาย
ระหว่างนี้วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่ซ่อนตัวไม่ลงมือมาตลอดบางส่วน หลังจากเห็นร่างต้นและร่างแยกของหลินสวินกระจายกันออกไปก็อดลงมือไม่ได้แล้ว
เพียงชั่วขณะก็ทำให้กลางฟ้าดินของนรกอำพรางชั้นที่หกนี้ ทุกหนแห่งล้วนเป็นภาพห้ำหั่นอลหม่าน โกลาหลหาใดเปรียบ
หลังผ่านไปหนึ่งก้านธูป
จำนวนระดับจักรพรรดิที่ตายในมือร่างต้นและร่างแยกทั้งห้าของหลินสวิน รวมกันแล้วมีมากถึงยี่สิบเอ็ดตนอย่างน่าตกใจ!
เวลานี้แม้ว่าหลินสวินจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับรู้สึกอ่อนเพลีย
สุดท้ายเขาก็เป็นแค่ระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิ การใช้ร่างแยกทั้งห้าพร้อมกัน วิชามรรคที่สำแดงออกมา ศาสตราจักรพรรดิที่ควบคุมทั้งหมด แม้อานุภาพจะยิ่งใหญ่มหัศจรรย์หาใดเปรียบ แต่ก็ใช้พลังไปอย่างน่าตะลึงเช่นกัน
หากไม่ใช่ว่ามรรควิถีทั้งตัวเขาแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ก็ไม่มีทางยืนหยัดได้ถึงหนึ่งก้านธูปแต่แรก
‘วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิในที่นี้แม้จะมาก แต่ส่วนใหญ่ล้วนเทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่ง ไม่สามารถชักนำภัยคุกคามถึงชีวิตที่แท้จริงมาให้ข้าได้’
‘แต่การฝึกอยู่ที่นี่ช่วงหนึ่งก็ไม่เลว’
ขณะที่ร่างต้นของหลินสวินใคร่ครวญ ก็คิดเรียกร่างแยกทั้งห้ากลับมาแล้ว หยุดมือชั่วคราว พักผ่อนครู่หนึ่ง
แต่เวลานี้เอง…
ฟุ่บ!
กระบี่หักเปื้อนเลือดเล่มหนึ่งกรีดแหวกห้วงอากาศ ฟันเฉือนเข้ามา ปราณกระบี่ที่อำมหิตหาใดเปรียบทำให้ฟ้าดินแถบนี้มืดสลัว น่าสะพรึงอย่างที่สุด
เคร้ง!
ดาบไร้วิชาแผ่ปราณดาบเจิดจ้า ขวางการจู่โจมกะทันหันของกระบี่หักเล่มนี้ไว้
จากนั้นเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น กระบี่หักเล่มนั้นไหววูบเบาๆ กลางอากาศ กลายเป็นเด็กหนุ่มผมสีโลหิตที่ทั้งตัวดำสนิท หน้าตาอำมหิตคนหนึ่ง เขาสูงแค่สองฉื่อ แสงโลหิตไหลวนไปทั้งตัว ความโกรธแค้นทะลวงเหนือเมฆา
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นวิญญาณกระบี่ที่ควบรวมสติปัญญาออกมาได้ตนหนึ่ง!
“วิญญาณของกระบี่หักที่รายล้อมด้วยคำสาปและความคั่งแค้นนั้นปรากฏตัวอีกแล้ว…”
ในที่ลับวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนหนึ่งที่สังเกตเห็นภาพนี้ใจกระตุกวูบ คล้ายยากจะเชื่อ ด้วยวิญญาณของกระบี่หักนี้ไม่ได้ปรากฏตัวมานานมากแล้ว
กลับเห็นเด็กหนุ่มผมสีโลหิตที่สูงสองฉื่อนั่นจ้องมองหลินสวิน แววตาเหี้ยมโหดเยียบเย็นกล่าว “ทิ้งกล่องกระบี่ที่อยู่ด้านหลังเจ้าไว้ ข้ารับรองว่าจะไม่มีใครกล้าขวางเจ้า”
หลินสวินเลิกคิ้ว วิญญาณกระบี่นี้น่าจะเป็นวิญญาณร้ายเช่นกัน ทั้งยังควบรวมปัญญาออกมาแล้ว รู้ว่ากล่องกระบี่สำริดที่อยู่ด้านหลังตนนั้นไม่ธรรมดา!