Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2133 โลกเจตจำนง

สามเดือน!

เอาชนะพลังเจตจำนงที่ยอดบุคคลดึกดำบรรพ์สามสิบห้าทิ้งเอาไว้!

ตอนได้รู้ข่าว ชิงอิง ชายผีสุรา และต้าหวงที่ยืนรอข่าวอยู่นอกนรกอำพรางมาตลอดล้วนอึ้งงัน

“นี่ไม่ได้ฝันไปกระมัง ไม่ก็เจ้าหลิงอู่กำลังต้มพวกเราอยู่”

ต้าหวงแหกปากขึ้นมา ตอนนี้มันแทบอยากกระโจนเข้าไปดูในนรกอำพรางนั่นใจจะขาด

สามเดือนมานี้ ชายชุดเทาหรือก็คือจักรพรรดิสงครามหลิงอู่ จะส่งข่าวการทะลวงแดนผนึกมรรคของหลินสวินมาทุกๆ สิบวัน

แต่ละครั้งล้วนทำให้ต้าหวงรู้สึกแตกตื่นตกใจ อ้าปากตาค้าง

จนกระทั่งบัดนี้ เมื่อได้ยินว่าอีกแค่ก้าวเดียวหลินสวินก็จะทะลวงผ่านแดนผนึกมรรคนั่นได้ ก็เหมือนมีร้อยกรงเล็บขยุ้มใจ ร้อนลนอย่างบอกไม่ถูก อยากรู้ความเป็นไปในนั้นยิ่ง

“หลิงอู่ไม่กล้าพูดปดเรื่องเช่นนี้หรอก อย่าลืมว่าข่าวพวกนี้ต้องส่งให้นายท่านอ่านทั้งหมด เขาจะกล้าปลอมแปลงได้อย่างไร”

ผีสุราสูดหายใจลึกกล่าวเสียงขรึม “ไม่ว่าอย่างไร ที่คาดการณ์ได้คือสำหรับเจ้าหลินสวินคนนี้ แพ้ชนะก็อยู่ที่จุดนี้!”

ชิงอิงเริ่มเครียดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

นางเคยอ่านบันทึกโบราณมากมาย เคยทำความเข้าใจว่าพลังเจตจำนงที่แปรสภาพเป็นกระถางใหญ่ในแดนผนึกมรรคนั่นเป็นพวกน่ากลัวเหลือแสน

ปีนั้นเจ้าหอวิหคทองแดงก็เคยประสบการกำราบจากกระถางใหญ่นี้เช่นกัน แต่สุดท้ายไม่รู้ใช้วิธีอะไรจึงออกจากแดนผนึกมรรคได้สำเร็จ

แน่นอน ชิงอิงย่อมหวังว่าหลินสวินจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นเหมือนกับศิษย์พี่รองคนนั้นของเขา แต่สุดท้ายในใจก็ยังไม่มั่นใจ

“เช่นนั้นก็มีแต่ต้องรออยู่ที่นี่แล้ว…”

ต้าหวงคร่ำครวญ มันอยากไปดูสักหน่อยจริงๆ น่าเสียดายความแข็งแกร่งที่มันมีในตอนนี้ไม่สามารถเข้าสู่ชั้นนั้นได้

ในโลกลับแห่งหนึ่ง

จ้งชิวอ่านข่าวล่าสุดแล้วอดอึ้งไปไม่ได้ สามเดือนหรือ

อึดใจนี้จิตใจเขาเกิดความแปลกใจล้นปรี่ นี่เหนือการคาดเดาของเขาอย่างสิ้นเชิง

หรือก็คือ เขาคิดไม่ถึงว่าศิษย์น้องเล็กอย่างหลินสวิน ที่แท้ก็มีฝีมือโดดเด่นกว่าที่ตนจินตนาการไว้!

“เรื่องราวต่างไปแล้ว คนรุ่นใหม่มาแทนคนเก่า หากเป็นเจ้าในปีนั้น เกรงว่าอยู่ต่อหน้าหลินสวินก็คงภูมิใจไม่ขึ้นสักนิด”

ซีนั่งอยู่ด้านข้างเอ่ยพูดเรียบเรื่อย เงาร่างอ้อนแอ้นรายล้อมด้วยละอองแสงลึกลับ ราวฝันมายา ไร้มลทินและผ่องแผ้วศักดิ์สิทธิ์

ประโยคนี้ของนางกระเทือนจ้งชิวอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย

ก็เห็นจ้งชิวหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ กล่าวว่า “หากเขามีฝีมือแค่เหมือนข้าในปีนั้น จะมีคุณสมบัติเป็นผู้สืบทอดคนสุดท้ายของคีรีดวงกมลได้อย่างไร”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งค่อยกล่าวต่อ “อีกอย่าง ยิ่งเขาฝีมือโดดเด่นเท่าไหร่ ก็ยิ่งสมควรให้ข้าภูมิใจ อย่างไรเสียตามศักดิ์แล้ว ข้าก็เป็นศิษย์พี่รองของเขา”

น้ำเสียงราบเรียบเจือแววภาคภูมิใจ

ซีเหลือบมองเขาปราดหนึ่ง กล่าวว่า “นี่หมายความว่าเจ้ายอมรับเขาแล้วหรือ”

จ้งชิวเลี่ยงไม่ตอบ แค่กล่าวว่า “ปีนั้นในแดนผนึกมรรค ข้าเคยจัดการเจตจำนงกระถางใหญ่ใบหนึ่ง ค่าตอบแทนที่จ่ายไปหนักหนาสาหัสนัก สุดท้ายถึงได้รับแค่การยอมรับจากอีกฝ่าย และยอมให้ข้าจากไป ข้าหวังว่าเขาจะโค่นเจตจำนงกระถางใหญ่ใบนั้นได้”

“ล้างความอัปยศให้เจ้าหรือ” คำพูดของซีคมกริบยิ่ง

จ้งชิวยังอดอึ้งไปครู่หนึ่งไม่ได้ กล่าวว่า “นี่เป็นเพียงบททดสอบหนึ่งเท่านั้น”

ซียิ้มบางๆ “เขาต้องช่วยเจ้ากู้หน้าระบายแค้นได้แน่”

“อะไรที่เรียกว่าช่วยข้ากู้หน้าระบายแค้น” จ้งชิวรู้สึกว่าความภาคภูมิใจของตนถูกท้าทาย “นี่เป็นเรื่องที่เขาในฐานะศิษย์น้องควรทำแต่เดิมอยู่แล้ว”

ซีอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

เจ้าจอมหยิ่งนี่ช่างปากแข็งจริงๆ เชียว

แดนผนึกมรรค

หลินสวินที่นั่งสมาธิจู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น จากนั้นก็มองเห็นคู่ต่อสู้ตนสุดท้าย…

กระถางใหญ่ใบหนึ่ง

สามขาสองหู ประกายแสงสำริดไหลเวียน ปากกระถางพ่นไอขุ่นมัว ลอยเด่นอยู่ตรงนั้น มีอานุภาพพาดขวางทั่วหล้า กำราบหมื่นกาล!

พริบตาเดียวลมหายใจหลินสวินยังติดขัด

นี่จะเป็นพลังเจตจำนงซึ่งยอดบุคคลดึกดำบรรพ์เหลือทิ้งไว้ที่น่ากลัวปานใด

น่าสะพรึงจนทำให้คนเพียงมองปราดเดียวก็รู้สึกสิ้นหวัง จิตใจถูกสะเทือน เจตจำนงถูกกดกำราบ!

“ข้าจะให้เวลาเจ้าฟื้นฟูสภาพสมบูรณ์สูงสุดต่อ” เสียงไร้คลื่นอารมณ์ใดๆ สายหนึ่งลอยออกมาจากเจตจำนงกระถางใหญ่ใบนั้น

นี่ก็เป็นพลังเจตจำนงแรกซึ่งมีสติปัญญาที่หลินสวินได้พบ และยังมีรูปร่างเป็นกระถางใบหนึ่ง!

หลินสวินนิ่งเงียบครู่หนึ่งแล้วหยัดตัวขึ้นจากพื้น กล่าวว่า “ไม่ต้องแล้ว เอาชนะเจ้าแล้ว ข้ายังต้องมุ่งหน้าไปชั้นเก้า”

กระถางใหญ่ลอยกลางอากาศ หลั่งรินรัศมีแสงพร่ามัวมหาศาล ดุจประกาศิตสวรรค์สูงสุด อานุภาพแข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการ

“ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดนี้ไม่มีใครเอาชนะข้าได้” มันเอ่ยปาก เสียงราบเรียบราวอธิบายข้อเท็จจริงที่แสนธรรมดาทั่วไป

“แต่นี่เพิ่งแค่ชั้นแปดเท่านั้น เท่าที่ข้ารู้ นรกอำพรางมีถึงสิบแปดชั้น” หลินสวินสีหน้าเรียบเฉยไม่หวั่นไหว ไม่ทุกข์ไม่สุข

“ขอเพียงมีปราณระดับจักรพรรดิ ล้วนสามารถมุ่งหน้าไปชั้นเก้าตรงๆ ได้ และที่ผ่านมาคนที่อยากผ่านที่นี่ไป ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของข้าสักคน”

เจตจำนงกระถางใหญ่คล้ายไม่รีบร้อน เสียงเรียบเฉยเหมือนกำลังคุยเล่น

นี่เป็นท่าทีหยิ่งผยองสุดขีดอย่างไม่ต้องสงสัย

“สมัยดึกดำบรรพ์ไม่ใช่มีอยู่คนหนึ่งหรือ” หลินสวินพูดส่งๆ คนที่เขาเอ่ยถึงคือศิษย์พี่รองจ้งชิว

เจตจำนงกระถางใหญ่กล่าว “คนผู้นั้นแค่ได้รับการยอมรับจากข้า ไม่ถึงขั้นเอาชนะข้าได้”

หลินสวินนิ่งเงียบอย่างหาได้ยาก

ที่แท้… ปีนั้นศิษย์พี่รองก็ไม่ได้เอาชนะกระถางใบนี้หรือ

“เช่นนั้น…”

จู่ๆ หลินสวินก็เงยหน้าขึ้น เผยรอยยิ้มราบเรียบ “ข้าจะเป็นคนแรกที่เอาชนะเจ้าในหมื่นกาลเป็นอย่างไร”

ประโยคเดียวทำเอาเจตจำนงกระถางใหญ่นั่นนิ่งไปครู่หนึ่งกว่าจะส่งเสียงพูด “นับแต่บัดนี้ ข้าจะให้โอกาสเจ้าประมือกับข้า”

หลินสวินยิ้ม “ไม่ใช่เจ้าเป็นคนให้ แต่ข้าเป็นฝ่ายฉกชิงมาต่างหาก จุดนี้เจ้าต้องเข้าใจให้ชัด”

ในใจเขารู้ดียิ่ง ตั้งแต่กระถางใหญ่เอ่ยปากจนตอนนี้ แต่ละประโยคล้วนเหมือนการกำราบอย่างไร้รูป!

หากตนตอบตกลง ฟื้นฟูพลังถึงจุดสูงสุดค่อยต่อสู้ นั่นเท่ากับตั้งข้อสงสัยต่อพลังต่อสู้ของตน คิดว่าตนในยามนี้ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของเจตจำนงกระถางใหญ่ได้!

ขอเพียงความคิดนี้ปรากฏขึ้น และทำไปตามนั้น เช่นนั้นต่อให้ฟื้นฟูพลังกายสู่สภาพสูงสุด สภาวะจิตและเจตจำนงก็ไม่มีทางแน่วแน่มั่นคงเด็ดขาด

บทสนทนาทุกครั้งหลังจากนั้นล้วนเป็นเช่นนี้

เจตจำนงกระถางใหญ่ดูเหมือนไม่ได้ลงมือ แต่ขอเพียงตนแสดงความหวาดกลัว ลังเล ถอยร่น หรือหวังโชคช่วยใดๆ ในระหว่างสนทนา ก็จะกระทบต่อสภาวะจิตของตนอย่างไร้รูป!

ดังนั้นหลินสวินถึงได้แสดงออกอย่างแข็งกร้าวเช่นนั้น นี่เป็นอานุภาพอย่างหนึ่ง และยิ่งเป็นการประลองเงียบๆ ในด้านเจตจำนงและสภาวะจิตด้วย

ถึงขั้นที่ว่าหากเทียบกับการเข่นฆ่าและต่อสู้เฉยๆ ยังอันตรายยิ่งกว่า รับมือไม่ทันยิ่งกว่า!

ดังนั้นหลินสวินจึงไม่คิดให้โอกาสเจตจำนงกระถางใหญ่นั่นปริปากอีก ออกโจมตีตรงๆ

ตูม!

เขาสาวเท้าก้าวย่าง ท่วงท่าดุจเทพมารเคลื่อนทัพ สภาวะจิตและเจตจำนงจดจ่อ มีสมาธิอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เผยท่วงทำนองที่จันทร์เพ็ญเด่นฟ้า เต็มสมบูรณ์ดั่งใจนึกอยู่รำไร

“เจ้าไม่เลวยิ่ง สภาวะจิตและเจตจำนงล้วนเรียกได้ว่าแน่วแน่มั่นคง แต่เจ้าไม่เข้าใจสักนิด ว่าอะไรที่เรียกว่าเจตจำนง”

ขณะที่เสียงเจตจำนงกระถางใหญ่ดังขึ้น เบื้องหน้าหลินสวินพลันเปลี่ยนไป

เขารู้สึกว่าตนเสมือนถูกกักขังในหุบเหวไร้ก้น รอบทิศเคว้งคว้างไม่มีขอบเขต ไม่มีฟ้าดิน ว่างเปล่าโปร่งโล่ง ไร้ซึ่งสรรพสิ่ง!

“นี่ก็คือพลังเจตจำนง ในความเงียบงันสามารถกำราบและส่งผลต่อสภาวะจิตของเจ้า ทำให้เจ้าตกสู่โลกเจตจำนงของข้า”

ในโลกเวิ้งว้างดั่งว่างเปล่า เสียงของเจตจำนงกระถางใหญ่ดังขึ้น คลุมเครือแผ่วลอย ปราศจากคลื่นอารมณ์ ดั่งผู้สร้างโลกออกคำสั่งคนใต้อาณัติ

หลินสวินมองไปรอบบริเวณ สัมผัสอย่างใจเย็น กลับพบว่านี่น่าจะเป็นฟ้าดินที่รังสรรค์จากมายา ไม่สามารถมองช่องโหว่ใดๆ ออก

และทำให้สีหน้าเขาเคร่งขรึมยิ่งในอึดใจ รับรู้ถึงภัยคุกคามร้ายแรง

โลกเจตจำนง?

หลินสวินไม่เข้าใจสักนิดจริงๆ

และสิ่งนี้ก็ทำให้เขาตระหนักถึงความน่ากลัวของเจตจำนงกระถางใหญ่แล้ว!

ในเวลานี้เอง เสียงของเจตจำนงกระถางใหญ่ดังขึ้นอีกครั้ง

“ในสายตาข้า เจ้าก็คือมดปลวก”

จากนั้นหลินสวินก็พบว่าตนกลายเป็นมดแมลงตัวเล็กจ้อยไร้ที่เปรียบตัวหนึ่งจริงๆ ยืนลำพังอยู่ในฟ้าดินเวิ้งว้างแห่งนี้ เห็นชัดว่าอ่อนกำลังเป็นพิเศษ

หากไม่ใช่เพราะหลินสวินเตรียมตัวไว้แต่แรก ลำพังแค่ภาพนี้ก็สามารถโจมตีเขาจนรับมือไม่ทัน สภาวะจิตเริ่มสั่นคลอนได้แล้ว

มือใหญ่ข้างหนึ่งปรากฏขึ้น หนีบหลินสวินที่กลายร่างเป็นมดไว้ตรงปลายนิ้ว พริบตาเดียวหลินสวินจะหายใจยังลำบาก ทั่วสรรพางค์กายถูกบีบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนจะถูกบี้ตายได้ทุกเมื่อ!

แต่เเม้จะอยู่ในสภาพอันตรายไร้ใดเปรียบเช่นนี้ หลินสวินยังคงรักษาความผ่องแผ้วของสภาวะจิตและเจตจำนง จิตมรรคดุจมีด เจตจำนงดั่งหินแกร่ง!

‘มายา ทั้งหมดนี่ล้วนเป็นภาพลวงตา เป็นมายาที่เกิดขึ้นจากสภาวะจิตถูกจู่โจม…’

หลินสวินเตือนตัวเองและยืนหยัดเช่นนี้ สภาวะจิตที่ประดุจมีดขจัดความตระหนก ลนลาน สิ้นหวังในซอกลึกภายในใจ

แต่ร่างที่กลายเป็นมดแมลงของเขายังคงถูกมือใหญ่หนีบไว้ ทั้งร่างเริ่มส่อแววพังทลาย ดุจใกล้จมทะเลลึกตายไม่มีผิด

นี่เป็นการกำราบทางเจตจำนงและสภาวะจิตอย่างถึงที่สุด!

“เมื่อสภาวะจิตถูกบดบัง มายาทั้งปวงล้วนเป็นจริง”

เสียงของเจตจำนงกระถางใหญ่ดังขึ้นอีกครั้ง “ในโลกเจตจำนงนี้ ข้าแค่นึกคิดคราเดียวก็สามารถแปลงสรรพสิ่ง ควบคุมความเป็นความตายได้ เจ้า… ยังจะเอาอะไรมาโค่นข้า”

ประโยคเดียวก้องสะท้อนอยู่กลางฟ้าดินแถบนี้ เจืออานุภาพสูงสุด ไม่อาจคลางแคลง ไม่อาจดูหมิ่น

แต่เมื่อฟังประโยคนี้จบ นัยน์ตาหลินสวินกลับวาววับขึ้นทันที

มายาทั้งปวงล้วนเป็นจริง?

ไม่!

เมื่อเท็จกลายเป็นจริง จริงย่อมเท็จ เมื่อไร้กลายเป็นมี มีย่อมไม่มี!

ตูม!

พริบตาเดียวสภาวะจิตและเจตจำนงของหลินสวินราวบังเกิดพลังล้นทะลักยากควบคุม มายาทั้งปวงในครรลองสายตาล้วนเหมือนหยาดฝนหิมะละลาย หายเกลี้ยงไร้ร่องรอย

มือใหญ่ประดุจเทพางนั้นหายไปแล้ว และเขาได้คืนสภาพของตนจากที่เหมือนมดแมลง กลับมายืนนิ่งในโลกเวิ้งว้างที่ประดุจไร้ขอบเขต ปราศจากพรมแดน ไร้สรรพสิ่งนี้ใหม่อีกครั้ง

นัยน์ตาดำของเขาใสกระจ่าง สีหน้าไร้โลกีย์ ยืนมือไพล่หลัง ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายสันโดษ เอ่ยพูดเรียบเรื่อย

“จริงเท็จถูกผิด มายาลวงตา ข้ารู้เพียงตัวข้าอยู่ที่นี่เป็นเรื่องจริง วิธีนี้ของเจ้าก็บดบังใจข้าไม่ได้!”

เจตจำนงกระถางใหญ่นิ่งเงียบไป เหมือนรู้สึกแปลกใจและตกตะลึง เนิ่นนานก็ยังไม่ปริปาก

ทั้งหมดนี้เหนือความคาดหมายของมันจริงๆ

หลังจากเคราะห์จ่อมจมครั้งแรกปิดฉากลง ในกาลเวลานับไม่ถ้วนจนถึงบัดนี้ หลินสวินเป็นคู่ต่อสู้คนแรกที่สามารถต้านทาน ‘โลกเจตจำนง’ ของมันได้!

ฟ้าดินแถบนี้ยิ่งเงียบสงัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีเสียงใดอีก

สภาวะจิตของหลินสวินกลับไม่หนักอึ้งเหมือนอย่างคราแรกสุดแล้ว

เขายืนสันโดษ ในหัวกลับผุดความทรงจำมหัศจรรย์ส่วนหนึ่งในอดีตขึ้น สภาวะจิตผ่อนคลายเป็นอิสระ

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset