Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2137 ไม่ใช่ศัตรูไม่พบหน้า

ตอนที่ 2137 ไม่ใช่ศัตรูไม่พบหน้า

ฟุ่บ!

ชั่วพริบตา ต้นทองแดงเฒ่าก็ถูกทวนศึกอสนีนั้นโจมตีทะลุลำตัว เจ็บปวดจนมันร้องโอดโอย

หลินสวินฉวยโอกาสออกโจมตี เรียกประทับไร้ชีพออกมากำราบ

ประกายสำริดทะยาน ประทับไร้ชีพซัดกลิ่นอายทำลายล้างเข้ากำราบทั่วฟ้า กดข่มทวนศึกอสนีนั่นไว้มั่น

ต้นทองแดงเฒ่าไม่อาจสนใจความเจ็บปวด โบกสะบัดกิ่งก้านแน่นขนัด เริ่มหลอมทวนศึกอสนีที่เหมือนถูกผนึกไว้เล่มนั้นอย่างบ้าคลั่ง

ต้นกำเนิดของมันคือรากท่อนหนึ่งของต้นไม้เทพคุนอู๋ เปรียบดั่งภาชนะ ร่างสามารถบรรจุเพลิงอสนีคุนอู๋ที่อยู่ในทวนศึกอสนีนั้นได้

ชั่วเวลาสั้นๆ ทวนศึกอสนีแหลกกระจุย ถูกกิ่งก้านแน่นขนัดราวกับรยางค์ของต้นทองแดงเฒ่านั้นดูดซับและหล่อหลอมอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเสียงระเบิดลั่นสะท้านฟ้า…

ไม่ทันไรไม่เพียงแต่บาดแผลบนร่างต้นทองแดงเฒ่าฟื้นตัว อานุภาพของมันยังแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อครู่สามส่วน เปลี่ยนเป็นกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวา

เห็นได้ชัดว่าการหลอมทวนศึกอสนีนี้ได้ประโยชน์ใหญ่ยิ่ง

“สหายยุทธ์ นี่คือน้ำอสนีคุนอู๋สามหยด” ต้นทองแดงเฒ่าแบ่งทรัพย์หลังศึกให้หลินสวินอย่างว่องไว

“สามหยดหรือ” หลินสวินปรายตามองเขาครั้งหนึ่ง

ต้นทองแดงเฒ่าตัวสั่น รีบอธิบายว่า “สหายยุทธ์ แก่นอสนีที่อยู่ในทวนศึกนั้นหลอมน้ำอสนีคุนอู๋ได้แค่หกหยดเท่านั้น ข้าใช้ไปแล้วสามหยด เหลือให้สหายยุทธ์สามหยด”

หลินสวินร้องอ้อแล้วเอ่ยว่า “ต่อไปสิ่งที่ได้จากการต่อสู้ ข้าเอาแปด เจ้าเอาสอง”

ต้นทองแดงเฒ่าอึ้งไป ใจเจ็บปวดไปหมด แต่กลับไม่กล้าโต้แย้ง เพราะถ้าไม่มีหลินสวินลงมือ เพียงอาศัยพลังของมันก็ไม่อาจต้านทานกฎเกณฑ์อสนีที่แปลงเป็นรูปร่างต่างๆ เหล่านั้นได้

เช่นเดียวกัน ถ้าไม่มีต้นทองแดงเฒ่านำทาง แค่พลังน่ากลัวที่มีอยู่ทั่วเขตต้องห้ามอสนีก็ทำให้หลินสวินเคลื่อนไหวลำบากแล้ว

พูดง่ายๆ ก็คือ ตอนนี้ทั้งสองทำได้เพียงร่วมมือกัน และแน่นอนว่าหลินสวินได้ยิ่งกว่า

ระหว่างทางหลังจากนั้นก็มีการจู่โจมมากมายอุบัติขึ้นอีก เตาหลอมอสนี ทวนยาวอสนี ดาบศึกอสนี น้ำเต้าอสนี… ล้วนมีสีแดงสดดั่งไฟ โอบล้อมไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้างอันน่ากลัว

ต้นทองแดงเฒ่าต้องชิงออกโจมตีก่อนทุกครั้ง ใช้พลังของตนดึงดูดคู่ต่อสู้ ส่วนหลินสวินก็ถือโอกาสกำราบ แล้วค่อยผลัดให้ต้นทองแดงเฒ่าไปหลอมอีกฝ่าย

แม้ระหว่างทางจะเกิดสถานการณ์ไม่น้อย แต่ต่างถูกพวกเขาคลี่คลายไปทุกครั้ง ไม่เพียงเก็บเกี่ยวน้ำอสนีคุนอู๋จำนวนหนึ่งอย่างต่อเนื่อง พอเวลาผ่านไป ทั้งสองก็ร่วมมือกันได้อย่างเข้าขามากยิ่งขึ้น

ครึ่งวันผ่านไป

หลินสวินกับต้นทองแดงเฒ่ามาถึงส่วนลึกของเขตต้องห้ามอสนีแห่งนี้ อันตรายที่ประสบก็ยิ่งน่ากลัว สุริยันจันทราดาราที่แปลงมาจากสายฟ้าโปรยปรายลงมาถล่มสังหารเป็นพักๆ

เพียงแค่อานุภาพเช่นนั้นก็สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทั่วไปสิ้นหวัง

เมื่อได้เผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ต้นทองแดงเฒ่าแม้จะรู้สึกอันตรายแต่ก็มีความสุข แม้ว่าพลังของเขาไม่อาจต่อกรกับการโจมตีเหล่านี้ แต่กลับทำประโยชน์ได้

เปรียบดั่งเปลวเพลิงดึงดูดแมงเม่า

ดังนั้นแต่ละครั้งมันจึงทำได้เพียงฝืนฝ่าเข้าไป แต่ละครั้งจะถูกสายฟ้าถล่มจนควันเขียวผุดขึ้นทั้งตัว กิ่งก้านแหลกสลาย น่าสลดใจไม่ว่างเว้น

ยังดีที่หลินสวินไม่ได้ทำให้มันผิดหวัง แต่ละครั้งพอมันประสบเคราะห์ หลินสวินก็จะโจมตีเต็มกำลัง กำราบคู่ต่อสู้ที่แปลงมาจากกฎเกณฑ์อสนีเหล่านั้นไป

แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ เมื่อมาถึงส่วนลึกของเขตต้องห้ามอสนีแห่งนี้เข้า ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรือต้นทองแดงเฒ่ายังรู้สึกกดดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

คู่ต่อสู้ที่แปลงมาจากกฎเกณฑ์อสนียิ่งน่ากลัวขึ้น…

“พักเสียหน่อย”

หลินสวินพลันเอ่ยปาก เขาเคลื่อนไหวมาถึงตอนนี้ ใช้พลังกายไปเกินครึ่งแล้ว ถ้าไม่ฟื้นฟูอีก เกรงว่าตอนหาต้นไม้เทพคุนอู๋นั่นพบจริงๆ จะไม่มีพลังไปพิชิตเท่าไรแล้ว

ขณะที่พูดหลินสวินก็นั่งขัดสมาธิ เอาผลึกต้นกำเนิดมหามรรคจำนวนหนึ่งออกมาเริ่มฟื้นฟูพลังกาย

ต้นทองแดงเฒ่าทำได้เพียงคุ้มครองอยู่ด้านหนึ่ง บังพลังสายฟ้าจากสี่ด้านแปดทิศนั้นให้หลินสวิน

แต่มันก็ไม่ต้องฟื้นฟู น้ำอสนีคุนอู๋ที่ดูดซับและหล่อหลอมตลอดทางนี้ทำให้พลังดั้งเดิมของมันเต็มเปี่ยมนานแล้ว พลังปราณยังได้รับการขัดเกลาอย่างรวดเร็ว

มันดูหลินสวินที่นั่งหลับตาอยู่อีกด้านหนึ่ง สีหน้าแปรผันไปหลายครั้ง ในที่สุดก็ทอดถอนใจในใจ ขจัดความคิดน่ากลัวในใจนั้นไป

หนึ่งก้านธูปผ่านไป หลินสวินลืมตาตื่นขึ้นจากการนั่งสมาธิแล้วลุกยืนขึ้น

ต้นทองแดงเฒ่ารีบเอ่ยว่า “สหายยุทธ์ ออกเดินทางต่อได้แล้วหรือยัง”

หลินสวินพยักหน้า

แต่ระหว่างที่ออกเดินทางจู่ๆ หลินสวินก็เอ่ยว่า “เจ้านี่รู้ความนะ”

คำพูดพิกลประโยคเดียวกลับทำให้ต้นทองแดงเฒ่าสั่นไปทั้งตัว ฝืนพูดว่า “ไม่ถึงกับรู้ความ ข้ากระจ่างชัดว่าเรื่องใดควรทำเรื่องใดไม่ควรทำ”

หลินสวินไม่พูดอะไรอีก

สภาวะจิตกับเจตจำนงของเขาบรรลุถึงขั้นสุดยอดอย่างไม่เคยมีมาก่อนนานแล้ว ในตอนที่ฟื้นฟูพลังเมื่อครู่ ในสภาวะจิตสังเกตได้ว่าต้นทองแดงเฒ่าที่อยู่ข้างกายเกิดไอสังหารหลายครั้ง

แต่สุดท้ายต้นทองแดงเฒ่าก็ไม่ได้ลงมือ

“เอ๊ะ!”

เพิ่งเดินหน้าได้ไม่นานต้นทองแดงเฒ่าก็ส่งเสียงตกใจ เอ่ยอย่างทำใจเชื่อได้ยากว่า “สหายยุทธ์ ข้ารู้สึกได้ถึงเจตจำนงขอความช่วยเหลือ คล้ายมาจากต้นไม้เทพคุนอู๋!”

“ขอความช่วยเหลือหรือ”

หลินสวินยังประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ ที่นี่เป็นถึงเขตต้องห้ามอสนีที่ต้นไม้เทพคุนอู๋ควบคุม ทั้งยังมีพลังเพลิงอสนีคุนอู๋กระจายอยู่ ในที่แบบนี้ต้นไม้เทพคุนอู๋ก็เปรียบเหมือนนายเหนือหัว ใครจะคุกคามมันได้

“เป็นเรื่องจริง!”

ไม่นานนักต้นทองแดงเฒ่าก็เผยสีหน้าตกตะลึง “ต้นกำเนิดจิตวิญญาณของต้นไม้เทพคุนอู๋กำลังถูกพลังน่ากลัวกัดเซาะ”

“รู้ไหมว่าใครทำ” หลินสวินถามอย่างรวดเร็ว

ต้นทองแดงเฒ่าพยายามสัมผัส แต่พบว่าการติดต่ออันลึกลับนั้นขาดลง อึ้งไปอย่างห้ามไม่อยู่ “สหายยุทธ์ เป็นไปได้สูงยิ่งที่ต้นไม้เทพคุนอู๋จะประสบเคราะห์ไปแล้ว… เจตจำนงขอความช่วยเหลือของมันหายไปแล้ว…”

“ไป!”

หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วตัดสินใจ ไม่ว่าใครทำ เขาก็ต้องไปดูเสียหน่อย ถ้าพลาดโอกาสไปเช่นนี้ นั่นก็น่าเสียดายเกินไปแล้ว

“สหายยุทธ์ ต้นไม้เทพคุนอู๋ยังประสบเคราะห์ แค่คิดก็รู้ว่าคนร้ายคราวนี้น่ากลัวปานไหน พวกเรา…” ต้นทองแดงเฒ่าลังเลเสียแล้ว

“เช่นนั้นข้าก็จะไปเอง” หลินสวินพูดพลางจะออกเคลื่อนไหว

“ไปด้วยกัน” ต้นทองแดงเฒ่ากัดฟันชิงนำทางไปก่อน

ทั้งสองเดินหน้าได้ไม่นาน ก็เห็นว่าในที่ไกลลิบมีบึงอสนีสีชาดมหึมาแห่งหนึ่งปรากฏขึ้น มีขอบเขตถึงร้อยจั้ง น้ำอสนีคุนอู๋ถั่งโถมกำลังปั่นป่วนอยู่ในนั้นราวกับน้ำขึ้นน้ำลง

ตรงกลางบึงอสนีมีต้นไม้เล็กสูงสามฉื่อ ทั้งต้นราวกับหล่อขึ้นจากน้ำทองแดงสีเพลิง ลำต้นแข็งแรง กิ่งก้านดุจดาบดั่งกระบี่ หยั่งรากอยู่กลางบึงอสนี อาบชโลมกฎเกณฑ์อสนี ดูอัศจรรย์หาใดเทียบ

ต้นไม้เทพคุนอู๋!

ไม่ต้องสงสัย นั่นก็คือหนึ่งในสี่ต้นไม้เทพที่ถือกำเนิดในบ่อเกิดแรกกำเนิด!

เพียงแต่พอได้เห็นภาพนี้เข้า หลินสวินกลับนัยน์ตาหดรัด เผยสีหน้างุนงงประหลาดใจ

เพราะในบึงอสนีสีแดงเพลิงดุจเปลวไฟนั้น มีกาสำริดที่อบอวลไปด้วยไอแรกกำเนิดใบหนึ่งปรากฏอยู่ ยุงโลหิตตัวหนึ่งเกาะบนกาสำริด มุ่งหน้าไปยังหน้าต้นไม้เทพคุนอู๋นั้นราวกับโดยสารอยู่บนเรือ หลบเลี่ยงการถล่มโจมตีจากพลังบึงอสนี

ร่างของมันแดงฉานดั่งโลหิต เหมือนถูกหล่อด้วยทองเทพ แผ่ไอหนาวเหน็บชวนสะพรึง

ดวงตาทั้งสองของมันเหมือนโคมสีเลือด หลังมีปีกสิบหกคู่ บนปีกแต่ละคู่ต่างประทับอักษรนรกแน่นขนัดอัศจรรย์ พิสดารน่ากลัว

มองจากไกลๆ ก็มีกลิ่นอายชั่วร้ายจนทำให้คนสะท้านใจปะทะหน้า ราวกับเห็นเทพร้ายไร้เทียมทาน อำมหิตทะลุฟ้า!

ปากแหลมเหมือนดาบคมของมันแทงเข้าไปในรากต้นไม้เทพคุนอู๋ ปีกทั้งสิบหกคู่สั่นไหวเบาๆ คล้ายดูดซับพลังอะไรบางอย่าง ดูพิสดารถึงที่สุด

บุตรนรกหรือ

นัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัด แทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

ในแดนเก้าบนของแดนมกุฎตอนนั้น สัตว์ประหลาดยุคโบราณที่เก็บตัวเงียบอยู่ในแม่น้ำนรกอย่างบุตรนรกผู้นี้ พอตื่นขึ้นก็ปั่นป่วนคลื่นลม สำแดงอานุภาพโดดเด่นเหนือผู้ใด

หลินสวินเคยประมือกับอีกฝ่ายหลายครั้ง รู้ดีว่าร่างต้นของเจ้าหมอนี่คือ ‘ยุงโลหิตแปดปีก’ อันร้ายกาจยิ่งยวดที่ถือกำเนิดในแม่น้ำนรก!

พวกร้ายกาจเช่นนี้ ฟ้าให้กำเนิดแผ่นดินบ่มเพาะ มีพรสวรรค์ร้ายกาจน่าเหลือเชื่อ

อีกทั้งพลังชีวิตของเขาก็แข็งแกร่งแทบเป็นอมตะ หลินสวินสู้กับเขาสองสามครั้ง และสังหารอย่างสิ้นซากทุกครั้ง

แต่บุตรนรกก็อาศัย ‘กาหลอมจิตจักรพรรดินรก’ คืนชีพขึ้นมาทุกครั้งไป

กระทั่งพบกันครั้งสุดท้ายที่กำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ ตอนนั้นบุตรนรกยังอาศัยฐานะทายาทสายตรงของ ‘จักรพรรดินรกเลือดทมิฬ’ ชักนำความวุ่นวายมาให้หลินสวินไม่น้อย

เพียงแต่หลินสวินคิดไม่ถึงว่าผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว จะพบอีกฝ่ายอีกครั้งในนรกอำพรางชั้นเก้าแห่งนี้!

เรื่องนี้ดูน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

ควรรู้ว่าทางเข้านรกอำพรางแห่งนี้ถูกหอวิหคทองแดงควบคุมอยู่ตลอด คนทั่วไปไม่มีโอกาสเข้ามาข้างในอยู่แล้ว

เช่นนั้นบุตรนรกเข้ามาได้อย่างไร

ความสงสัยอย่างแล้วอย่างเล่าผุดขึ้นในใจหลินสวิน

แต่ฉับพลันทันใด ใจหลินสวินก็ผ่อนคลายลงไปครู่หนึ่ง สัมผัสได้ว่ากลิ่นอายบนตัวบุตรนรกยังไม่ได้แจ้งมรรคเป็นจักรพรรดิ ไม่ถึงกับเป็นภัยคุกคามร้ายแรงอะไร

แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้หลินสวินสงสัย ว่า ‘เด็กแจกทรัพย์’ ที่ไม่ได้เจอมานานคนนี้แทรกซึมเข้ามาในเขตต้องห้ามอสนีแห่งนี้ แล้วกำราบพลังต้นไม้เทพคุนอู๋ไว้ได้อย่างไร

“ใคร”

แทบจะในขณะเดียวกัน ยุงโลหิตที่กำลังหมอบดูดซับพลังบนต้นไม้เทพคุนอู๋ตัวนั้นหันหน้ามา จากนั้นก็เห็นหลินสวินที่อยู่ไกลออกไป

ทันใดนั้นดวงตาคล้ายโคมที่จ้องอยู่นั้นของยุงโลหิตก็งุอึ้งงันอยู่อย่างนั้นเหมือนทำใจเชื่อได้ยาก ครู่หนึ่งถึงร้องว่า “หลิน… สวินหรือ”

“ไม่ได้เจอกันนานเลย เด็กแจกทรัพย์”

หลินสวินโบกมือยิ้มแฉ่ง พอนึกถึงเรื่องในอดีตต่างๆ เขายังอดทอดถอนใจไม่ได้ ในความเหนือคาดมีฟ้าลิขิตหรือ หรือเพราะไม่ใช่ศัตรูไม่อาจพบหน้า

“เป็นสวะอย่างเจ้าจริงๆ ด้วย!”

ยุงโลหิตเงาร่างไหววูบ พลันแปลงกายเป็นชายหนุ่มชุดดำที่หล่อเหล่ามีเสน่ห์อย่างร้ายกาจคนหนึ่ง ความแค้นต่างๆ ในอดีตที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจเขาผุดออกมาอย่างกับภูเขาถล่มสมุทรคำราม

ทันใดนั้นเขาแหงนหน้าหัวเราะร่า “ฮ่าๆๆ ฟ้ามีตา ถึงกับให้ข้ามาเจอเจ้าในที่สุด! หลินสวินเอ๋ยหลินสวิน เจ้ารู้ไหมว่าหลายปีนี้ข้าคิดถึงเจ้ามากขนาดไหน”

ในเสียงเปี่ยมด้วยความแค้นอันโหดเหี้ยม เย็นชา บ้าระห่ำ

หลินสวินเป็นคู่ต่อสู้คนแรกที่นำความอัปยศอดสูมาให้เขา ทั้งยังชิงเอาสมบัติไปจากเขาครั้งแล้วครั้งเล่า!

หลายปีนี้พอนึกถึงเรื่องเหล่านี้ เขาก็จะควบคุมความโทสะและความเคียดแค้นในใจไว้ไม่ได้ แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าจะดันมาเจออีกฝ่ายที่นี่

บังเอิญเกินไปแล้วจริงๆ!

ขณะนี้บุตรนรกก็เกิดความคิดเช่นเดียวกับหลินสวินอย่างอดไม่ได้ หรือในความไม่คาดฝันได้ถูกลิขิตไว้นานแล้วว่าสมควรให้เขาหลินสวินตายด้วยน้ำมือเขาในวันนี้

และขณะนี้ต้นทองแดงเฒ่ายังอึ้งไปแล้ว เขาจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าหลินสวินกับบุตรนรกเหมือนศัตรูเก่าที่สั่งสมความแค้นมานานปีคู่หนึ่ง

นี่… ก็คือสิ่งที่เรียกว่าศัตรูที่ไม่อยากพบหน้ามักยากจะเลี่ยงกระมัง

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset