Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1086 กำราบสมบัติอริยะ

โม่เจินร้องโหยหวน คิดไม่ถึงว่าตนจะต้านไม่ได้แม้แต่หมัดเดียวของหลินสวิน!
นี่สั่นสะท้านใจคนเกินไป
ตูม!
ประกายดาวเจิดจรัสผสานรวมหน้ากำปั้น ออกทะลวงสังหารอีกครา
ด้านหลังหมัดคือใบหน้าเยียบเย็นและเฉยเมยของหลินสวิน
ในช่วงวิกฤติหาใดเปรียบนี้ ริมฝีปากโม่เจินพลันเปล่งเสียงหวีดแหลมอย่างที่สุดออกมา
เหนือศีรษะนางควบรวมเป็นแมวยักษ์ขนดำสนิท นัยน์ตาเขียวมรกตตัวหนึ่ง กางกรงเล็บทะยานฟ้าพุ่งตะครุบหมัดหลินสวินเต็มแรง
นี่ก็คือพลังดั้งเดิมของโม่เจิน เดิมตัวนางคือทายาทเผ่าแมวเก้าหาง ขณะนี้เพื่อรักษาชีวิตได้ใช้พลังสายเลือดโดยไม่เสียดาย
แต่ทว่าเปล่าประโยชน์ ภายใต้การบุกสังหารของหมัดหลินสวิน เงามายาแมวยักษ์นั่นก็ถูกพิฆาตในชั่วพริบตา ระเบิดแหลกกลายเป็นฝนโลหิตทั่วฟ้า
เพียงแต่โม่เจินกลับฉวยโอกาสนี้เคลื่อนหลบห่างไกล
ใบหน้างามของนางซีดเผือด เส้นผมดำปรากฏสีขาวเทาชั้นหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความตระหนกขุ่นเคืองและยากจะเชื่อ
ทุกอย่างดูเหมือนช้า แต่ความจริงล้วนสิ้นสุดชั่วพริบตา
เมื่อเห็นภาพหลินสวินสยบโม่เจินกับตาก็ทำให้ราชันคนอื่นตระหนกจนหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ รู้ว่าสถานการณ์อันตราย
คนหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกพวกเขาเห็นเป็นปลวกมด บัดนี้กลับสำแดงพลังน่าหวาดกลัวถึงขีดสุดเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจไม่ไหวหวั่น
“เร็วเข้า ลงมือพร้อมกัน! เด็กนี่สามารถยืมพลังต้องห้ามทะเลหมากดารา หากไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน พวกเราใครก็อย่าได้คิดรอดจากไป!”
โม่เจินเปล่งเสียงตะโกนอาฆาต
ขณะกล่าวหลินสวินกลับไม่ชักช้าแม้แต่น้อย รุกไล่ต่อเนื่องหมายจัดการโม่เจินก่อน
ตูม!
ทว่ากระบี่เทียมฟ้าพาดขวางเข้ามา เปล่งแสงอริยมรรคราวไม่อาจทัดเทียม คมกริบสะท้านฟ้าดินประหนึ่งไม่อาจต้านทาน
เงาร่างหลินสวินพลันชะงักไป เหวี่ยงหมัดเข้าปะทะ
กระบี่นี้มาจากจงเหวินหย่วนแห่งสำนักกระบี่เทียมฟ้า พร้อมๆ กับที่เขาบัญชากระบี่ขวางหลินสวินไว้ ก็ส่งเสียงตะโกนไปด้วย
“สหายยุทธ์โม่เจินกล่าวไม่ผิด พวกเราพกสมบัติอริยะติดตัวมา หากครั้งนี้ไม่สังหารเจ้าเดรัจฉานนี่ได้ ยังจะมีหน้ายืนหยัดในดินแดนรกร้างโบราณได้อย่างไร”
เสียงสะเทือนเลือนลั่นปั่นป่วนโดยรอบ
โม่เจินเรียกตำหนักอมตะออกมาผสานการโจมตีของจงเหวินหย่วน พุ่งสังหารหลินสวินจากอีกฝั่ง
“เด็กนี่ผงาดขึ้นเร็วเกินไป หากเขากลายเป็นราชัน ในระดับราชันใครยังจะเป็นคู่ต่อสู้เขาได้ วันนี้หากไม่กำจัดเขาให้สิ้นซาก วันหน้าก็คือตัวหายนะ!”
“ไม่ผิด เด็กนี่ครองสมบัติอริยะมีศุภโชคใหญ่ ครั้งนี้หากสามารถสังหารเขาได้ ข้ายินดีแบ่งปันสมบัติอริยะและวาสนาติดตัวเขา!”
ขณะต่อสู้จงเหวินหย่วนและโม่เจินต่างเอ่ยเชื้อเชิญราชันคนอื่นลงมือพร้อมกันไม่ว่างเว้น
ราชันคนอื่นๆ อีกสี่คนเห็นดังนี้แววตาวูบไหวไม่หยุด แต่สุดท้ายพลันกัดฟันกรอดเข้าร่วมศึก
หลินสวินอาจแข็งแกร่ง สามารถยืมพลังต้องห้ามของทะเลหมากดารา แต่พวกเขาเองก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน แต่ละคนต่างก้าวสู่ระดับราชันและครอบครองสมบัติอริยะ!
อีกทั้งก้นบึ้งของหัวใจพวกเขายังไม่อาจยอมรับ ว่าคนหนุ่มระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่งจะสามารถต่อกรกับพวกเขาเหล่าราชันได้
ต่อให้พึ่งพาพลังต้องห้ามของทะเลหมากดารา แต่ก็ไม่มีทางยืนหยัดได้นานแน่!
ถึงอย่างไรสมบัติอริยะก็เหมือนกระบวนค่ายกลอริยะ หากไร้พลังและระดับขั้นที่คู่ควรกับมัน แม้สามารถใช้ประโยชน์ได้ แต่อานุภาพที่สำแดงออกมาก็มีจำกัด
กระทั่งยิ่งนานไปกลับ จะนำมาซึ่งความเสียหายมหาศาลไม่อาจคาดเดาแก่ตัวเอง!
หลินสวินมีปราณระดับกระบวนแปรจุติ นี่คือสิ่งที่แน่ใจได้ และเขายังอาศัยพลังต้องห้ามของทะเลหมากดาราต่อกรศัตรู ตัวเขาเองจะยืนหยัดได้นานเท่าไหร่กัน
ด้วยความเข้าใจนี้ เหล่าราชันจึงล้วนลงมือแล้ว!

พูดแล้วเหมือนช้า แต่ความจริงการต่อสู้ปะทุขึ้นนานแล้ว
ก็เห็นราชันหกคนควบคุมสมบัติอริยะนานัปการพุ่งสังหาร แต่หลินสวินไม่ตระหนกกลับยินดี!
ตูม!
ในห้วงนิมิตของหลินสวิน แผนภาพวัฏจักรดารากึกก้อง นัยเร้นลับในนั้นไม่ถึงหนึ่งในพันถูกหลินสวินควบคุมโดยสมบูรณ์ จากนั้นจึงถูกเขาใช้บนค่ายกลใหญ่วัฏจักรดาราในทะเลหมากดารา
แค่ชั่วพริบตาประกายดาวบนเวิ้งฟ้าหลั่งรินดั่งน้ำตกปกคลุมทั่วร่างหลินสวิน ทำให้อานุภาพพลังเขาเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น…
เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
เพราะนี่ไม่ใช่พลังที่เป็นของเขา แต่เป็นอานุภาพของคลื่นผนึกต้องห้าม เพียงแต่ถูกเขาใช้กระบวนค่ายกลควบคุมเท่านั้น
“ฆ่า!”
เงาร่างหลินสวินราววิวัฒน์จากแสงดารา ส่องประกายถึงขีดสุดและเปล่งแสงเจิดจ้าเหลือประมาณ ทั่วทั้งตัวเอ่อล้นด้วยคลื่นผนึกต้องห้ามเร้นลับน่าหวาดกลัว
ตัวคนเดียวเผชิญหน้าราชันหกคนที่ต่างถือสมบัติอริยะ ไม่ถอยร่นแต่กลับบุกเข้าไปสังหารด้วยตัวเอง หากแพร่ออกไปคงสั่นสะเทือนไปทั้งใต้หล้า
ใครจะกล้าอาจหาญเช่นนี้
ผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติคนไหนกล้าแข็งกร้าวเช่นนี้เล่า
ตูม!
ทันใดนั้นอาณาเขตทะเลแถบนี้มีแสงดาราโถมกระหน่ำ พลังหมัดปะทุพล่านทั่วสารทิศเป็นพันหมื่นทบ
พลังหมัดหลากสายนั่นประหนึ่งไม่มีสิ่งใดทำลายไม่ได้ เปี่ยมพลานุภาพไร้เทียมทาน ซัดกระบี่เทียมฟ้าออก ทะลวงการปกคลุมของบรรทัดสยบฟ้า ทำลายประกายศักดิ์สิทธิ์ของตำหนักอมตะ…
หลินสวินปล่อยตัวไปตามหมัด ตัดขวางอหังการ
ฟ้าดินแถบนี้ต่างกำลังปั่นป่วนรุนแรง สมบัติอริยะลอยล่อง หมอกแสงดั่งพิรุณ คลื่นต่อสู้ชวนประหวั่นม้วนแผ่คลุมเก้าชั้นฟ้า สับสนอลหม่านถึงขีดสุด
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังต่อเนื่อง
เสียงกัมปนาทของสมบัติที่เข้าปะทะดังลั่น
สถานการณ์การต่อสู้ดั่งเพลิงโหมเติมเชื้อไฟ รุนแรงถึงขั้นไม่มีอะไรยิ่งกว่า!
แต่เหนือความคาดหมายทุกคน ราชันหกคนใช้สมบัติอริยะหกอย่าง อาศัยสถานการณ์ล้อมโจมตีจัดการหลินสวินคนเดียว แต่กลับไม่ได้เปรียบอะไร
กระทั่งล้วนไม่อาจสกัดการโจมตีของหลินสวินได้
นี่ทำให้พวกโม่เจิน จงเหวินหย่วนต่างสะท้านในใจ สีหน้าเคร่งครัดขึ้นเรื่อยๆ ประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย
แม้แต่อานุภาพแห่งสมบัติอริยะก็ไม่อาจกำราบเจ้าหนุ่มระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่ง ใครเล่าจะกล้าเชื่อ
ที่ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกที่สุดคือ พลังต้องห้ามของทะเลหมากดารานั่นแม้แต่อริยะล้วนไม่กล้าล่วงล้ำเพียงก้าว เหตุใดกลับถูกหลินสวินใช้ประโยชน์
ปึง!
เวลานี้หลินสวินเหวี่ยงหมัดซัดตำหนักอมตะกระเด็นอย่างแข็งกร้าว โม่เจินโชคร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง จมูกปากกบเลือด
เวลาต่อมาหลินสวินพลันพุ่งแหวกอากาศ ใช้มือใหญ่ประกายดาราข้างหนึ่งที่วิวัฒน์มาจากคลื่นผนึกต้องห้ามบีบร่างโม่เจินไว้แน่น จากนั้นออกแรงเต็มกำลัง
โพละ!
โม่เจินเป็นถึงราชันที่ก้าวสู่อมตะเคราะห์ขั้นหนึ่ง แต่บัดนี้กลับประหนึ่งมดปลวกที่ถูกบีบกลางฝ่ามือ ไม่มีแม้แต่พลังจะดิ้นรนก็ถูกมือใหญ่บีบแหลก!
ร่างกายนางระเบิดออกกลายเป็นน้ำเลือด จิตสิ้นวิญญาณสลาย
นี่คือราชันคนแรกที่ตายลงนับแต่เปิดศึก!
ถึงแม้ก่อนหน้านี้โม่เจินถูกหลินสวินโจมตีจนบาดเจ็บหนัก แต่ตอนนี้เมื่อเห็นภาพตายอนาถหาใดเปรียบนั่นของนางก็ทำให้ราชันคนอื่นสูดหายใจเย็น จิตใจสั่นสะเทือนรุนแรง
ตำหนักอมตะล้วนไม่อาจปกป้องนางไว้ได้หรือ
นี่เป็นไปได้อย่างไร!?
การตายของโม่เจินเหมือนน้ำเย็นถังหนึ่งสาดใส่ศีรษะเหล่าราชัน ทำเอาพวกเขาใจสั่น สัมผัสได้ถึงแรงกดดันถึงชีวิต!
ยามมองไปทางหลินสวินอีกครั้ง นอกจากความตระหนกขุ่นเคืองและยากจะเชื่อแล้ว สีหน้าพวกเขายังเจือความหวาดหวั่นและกริ่งเกรงสุดขั้ว
กระทั่งพวกเขาต่างมั่นใจว่าราชันแปดคนที่มาสังหารหลินสวินเป็นกลุ่มแรก เกรงว่าคงเหมือนที่หลินสวินกล่าวไว้ ถูกฝังกลบในทะเลนี้นานแล้ว!
ตูม!
ตำหนักอมตะส่องสว่าง ประกายอริยะไหลบ่า กลายเป็นแสงเคลื่อนสายหนึ่งหมายหลบหนี
นี่ก็คือสมบัติอริยะ มีจิตวิญญาณอยู่ก่อนแล้ว เมื่อไร้คนควบคุมเจตจำนงในสมบัติจะโคจรด้วยตัวเอง หวนกลับสู่มือเจ้าของเดิม
ก่อนหน้านี้ตอนสังหารอวี่หลิงคงครั้งแรกที่เทศกาลโคมกถามรรค หลินสวินก็เคยเจอครั้งหนึ่ง ตอนนั้นก็เป็นตำหนักอมตะนี่ที่ทำให้อวี่หลิงคงรักษาชีวิตไว้ได้
บัดนี้เหตุการณ์คล้ายคลึงกันดูเหมือนจะเปิดฉากอีกครั้ง
“สยบ!”
แน่นอนว่าหลินสวินไม่มีทางยอมเห็นภาพนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง เขาตวาดลั่นก้าวสู่ห้วงอากาศ คลื่นผนึกต้องห้ามไร้สิ้นสุดกลายเป็นรุ้งดาราหลากสาย ทะลวงเมฆาพุ่งไปกำราบตำหนักอมตะ
ปึงๆๆๆ
เสียงปะทะน่าหวาดกลัวดังขึ้น ตำหนักอมตะมีพลังกฎระเบียบอริยมรรคไหลเวียน สลายพลังต้องห้ามที่พุ่งซัดมาจากทั่วสารทิศไม่หยุด
แต่เห็นชัดว่าสุดท้ายมันก็ไม่สามารถต้านทาน ถูกอัดเข้าสู่ส่วนลึกของน้ำทะเลสีเงินที่ม้วนซัดรุนแรงนั่น
จากนั้นก็เงียบสงบลง
ไม่ทะยานออกมาอีก!
ราชันคนอื่นเห็นดังนี้ต่างหยุดการจู่โจมในมือ ถูกทำให้ตระหนกจนขนพองสยองเกล้า ทั่วร่างแข็งทื่อดั่งตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง
นั่นเป็นถึงสมบัติอริยะ!
คือสมบัติพิทักษ์สำนักที่เลื่องชื่อลือนามที่สุดของแดนพิสุทธิ์อมตะ!
ถูกกำราบลงเช่นนี้ได้อย่างไร
นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว ควรรู้ว่าสมบัติอริยะแต่ละชิ้นต่างประทับกฎเกณฑ์อริยมรรค ภายในแฝงวิญญาณอาวุธ มีอานุภาพพอทัดเทียมอริยะ
หากสมบัติอริยะคิดหนีก็แทบไม่อาจขวาง!
แต่ทว่าตอนนี้ตำหนักอมตะกลับถูกกำราบสู่ก้นทะเลสีเงินนั่นไม่เห็นร่องรอย นี่จะไม่ให้ราชันคนอื่นตกใจได้อย่างไร
และตอนนี้เงาร่างหลินสวินพลันส่องประกาย ฉวยโอกาสนี้พุ่งสังหารจงเหวินหย่วน
ไม่มีใครนั่งรอความตาย โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งที่สามารถกลายเป็นราชัน ไม่มีสักคนไม่ใช่บุคคลที่ฝีมืออำมหิต อุดมไปด้วยประสบการณ์ต่อสู้
เมื่อเห็นหลินสวินพุ่งเข้ามา จงเหวินหย่วนกระตุ้นกระบี่เทียมฟ้าโดยไม่ลังเล ซัดประกายกระบี่เจิดจรัสราวฉีกกระชากเวิ้งฟ้าสายหนึ่งออกมา
ปึง!
ดาบสวรรค์ที่แปรมาจากผนึกต้องห้ามโฉบสะบั้นทุกอย่างแหลกละเอียดง่ายดาย และหลินสวินก็ใช้หนึ่งหมัดซัดใส่จงเหวินหย่วน
ฝ่ายหลังกระโจนถอย กระบี่เทียมฟ้าส่งเสียงบางเบา ระเบิดเจตกระบี่แรงกล้าแหวกสังหารเต็มกำลัง
ทว่าการโจมตีที่สามารถสังหารระดับราชันเช่นนี้ ขณะนี้กลับทำลายแม้แต่พลังหมัดของหลินสวินไม่ได้ ถูกกำราบจนคร่ำครวญไม่หยุด
ตูม!
สุดท้ายกระบี่เทียมฟ้ากระเด็นหลุดจากมือ พลังหมัดหลินสวินรุกเข้าไปเหมือนผ่าลำไผ่ ปกคลุมตัวจงเหวินหย่วน
“ไม่…!” จงเหวินหย่วนตกใจตะโกนลั่น ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่สุดท้ายเขาก็ถูกพลังหมัดส่องประกายนั่นระเบิดร่าง
พลังจิตของเขาทะยานออกลุกลี้ลุกลนหมายหลบหนี แต่กลับถูกหลินสวินคว้าขยี้เต็มแรง
ละอองแสงพลังจิตโปรยปราย งามตระการดุจภาพฝัน ขับเน้นจนหลินสวินประหนึ่งเทพมารไม่อาจทัดเทียมตนหนึ่ง น่าหวาดกลัวไร้ขีดจำกัด
ปึง!
แต่เวลาเดียวกันด้านหลังหลินสวินก็เจอการโจมตีน่าสะพรึง ถูกบรรทัดสยบฟ้าเขียวอร่ามฟาดลงแผ่นหลังเต็มแรง
เป็นราชันของแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ที่ทำการลอบโจมตี อาศัยช่องว่างช่วงจงเหวินหย่วนถูกสังหาร ฟาดโดนหลินสวินในคราเดียวเต็มมือ
แต่ยังไม่รอให้ราชันผู้นี้ยินดี ก็เห็นบนแผ่นหลังหลินสวินพลันปรากฏสัตว์เทพฟู่ซี่ตัวหนึ่ง ทั้งตัวห้อมล้อมด้วยคลื่นผนึกต้องห้ามชวนปะหวั่น กรงเล็บเหยียดซัดบรรทัดสยบฟ้ากระเด็นไปยังฟ้าสูงนอกระยะหลายพันจั้ง
ราชันคนนั้นแผดร้องกระอักเลือดราวถูกสายฟ้าฟาด โดนพลังสะท้อนกลับ
เขาตื่นตระหนกหาใดเปรียบ ลุกลี้ลุกลนถอยหลบ
ทว่าหลินสวินไม่สนใจเขา หลังถูกลอบโจมตีเช่นนี้หลินสวินยังไม่หันมามองด้วยซ้ำ แต่กลับกำลังกำราบกระบี่เทียมฟ้า!
ครืนๆ
ระหว่างผืนทะเลและท้องฟ้า คลื่นผนึกต้องห้ามชวนประหวั่นกลายเป็นรุ้งเทพประกายดาวปกคลุมฟ้าดิน
กระบี่เทียมฟ้าถือเป็นสมบัติพิทักษ์สำนักของสำนักกระบี่เทียมฟ้า เทียบพลังสังหารกับตำหนักอมตะแล้วยังแกร่งกว่าอยู่บ้าง
แต่เพียงชั่วพริบตา กระบี่เทียมฟ้าก็ต้านไม่อยู่ถูกสยบลงทะเลนั่น ส่งเสียงคร่ำครวญราวไม่พอใจ
จากนั้นก็เหมือนตำหนักอมตะ ไม่มีการเคลื่อนไหวอีก
สมบัติอริยะชิ้นที่สองถูกกำราบแล้ว!
………………………

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

Type: Author: ,
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset