Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1095 สังหารอริยะ?

อริยะเมี่ยวหวากรีดร้อง สมบัติถูกทำลายทำให้มุมปากนางมีเลือดไหล
อริยะที่ชมการต่อสู้ในมุมมืดต่างเบิกตากว้าง ในใจล้วนสั่นสะท้าน
ตูม!
สิ่งที่อริยะฝูหยาสำแดงคือวิชาลับจิตวิญญาณอย่างหนึ่ง ล่องหนไร้รูปร่าง น่าอัศจรรย์ไร้ใดเปรียบ เมื่อถูกซัดโจมตี อริยะล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เพียงแต่ไม่รอให้พลังระดับนี้เข้าใกล้ กลางนัยน์ตาหญิงลึกลับพลันสาดสัญลักษณ์ที่ประหนึ่งวิวัฒน์จากกฎระเบียบ ดับทำลายการโจมตีครั้งนี้
พรวด!
อริยะฝูหยาที่เงาร่างพร่ามัวกระอักเลือด ร่างไหวกระเพื่อมรุนแรงกลางห้วงอากาศ
และเวลานี้เอง ก็ได้ยินเสียงดังเคร้งคราหนึ่ง ระฆังสำริดถูกซัดลอยคว้างผ่านอากาศ อริยะอวี่หมิงซวนเซ โงนเงนถอยกรูดไปหลายก้าว
ทั่วลานเงียบกริบ!
บนทะเลหมากดารา เงาร่างงดงามและคลุมเครืออาภรณ์พลิ้วไสว งามสง่าไร้ทัดเทียม!
นี่ก็คือหญิงลึกลับในห้องโถงมรรคาสวรรค์คนนั้น เพิ่งจะลงมือก็สำแดงท่วงท่าสง่างามโดดเด่น ทำลายวงล้อมการโจมตีจากเหล่าอริยะ แถมยังโจมตีกลับจนอีกฝ่ายบาดเจ็บในพริบตา!
“เหล่าอริยะออกโจมตี แต่กลับไม่มีผู้ใดสั่นคลอนได้ หญิงลึกลับคนนั้นเป็นใครกันแน่”
ในมุมมืด สายตามากมายนับไม่ถ้วนต่างผุดความสะทกสะท้านอันปิดไม่มิดออกมา
ประจันบาญคราแรก เพียงการโจมตีเดียวเท่านั้นก็ปรากฏสภาพแหลกสลายเช่นนี้แล้ว ใครจะไม่สะเทือนและใจไหวสั่นได้กัน
นางเป็นใคร
ไกลออกไป หญิงลึกลับยืนตระหง่านกลางห้วงอากาศ ประหนึ่งละทางโลกเป็นเอกเทศ บริสุทธิ์ดั่งจันทรา รุ้งวิเศษเป็นสายๆ ดั่งโซ่ศักดิ์สิทธิ์กฎระเบียบรายล้อมรอบกายนาง ปรากฏภาพอัศจรรย์อันใหญ่ยิ่งและลึกลับ
รุ้งวิเศษแต่ละสายราวกับระเบียบมหามรรค ประหนึ่งสามารถวิวัฒน์กลายเป็นโลกอีกใบ ภายในบรรจุปริศนาไร้ขอบเขต ท่ามกลางความรางเลือน มีเสียงธรรมศักดิ์สิทธิ์แซ่ซ้อง สรรพชีวิตสักการะลอยออกมา
เพียงบรรยากาศสูงส่งเช่นนี้ก็สามารถสะเทือนกาลนิรันดร์ สะท้านปวงสวรรค์แล้ว!
บนชายฝั่งทะเล อริยะทั้งหกอย่างพวกฟางหลิงซู่ล้วนสีหน้าไหววูบไม่คงที่
พวกเขาเป็นใคร
เป็นบุคคลระดับอริยะที่เลื่องชื่อก้องโลกหล้ามานานแล้ว หยัดยืนบนปลายยอดสูงสุดแห่งพลังปราณในดินแดนรกร้างโบราณ ผลลัพธ์กลับเป็นประสบความพ่ายแพ้ที่นี่ เพิ่งเริ่มต่อสู้ก็ถูกโจมตีบาดเจ็บแล้ว
สำหรับคนระดับพวกเขา นี่เป็นครั้งแรก และยิ่งเป็นความอัปยศที่ไม่เคยสัมผัสมานานนม
เพราะพวกเขาไม่เคยถูกคนโจมตีบาดเจ็บมานานมากแล้ว!
“วิถีโลกคงเสื่อมถอยแล้วจริงๆ แม้จะเป็นอริยะเทียมก็ยังห่างไกลจากคนยุคบรรพกาลลิบลับ” เสียงหญิงลึกลับเย็นเยียบ ทอดถอนใจแผ่วเบาคล้ายเศร้าสลดน้อยๆ
“สหายยุทธ์เป็นอริยเทพจากที่ใดถึงกล้าพูดจาใหญ่โตเช่นนี้”
ฟางหลิงซู่สีหน้าอึมครึม ภายในใจเดือดดาล ถูกคนเรียกขานคำก็ ‘อริยะเทียม’ สองคำก็ ‘อริยะเทียม’ พาให้เขารู้สึกต่อต้านหาที่เปรียบไม่ได้
“ข้าเป็นใคร…”
หญิงลึกลับพึมพำกับตัวเอง เนิ่นนานกว่าจะเอ่ยวาจา “พวกเจ้ายังไม่มีคุณสมบัติจะรู้”
ประโยคเดียว เหยียดหยันสุดจะเปรียบ!
นั่นเป็นถึงอริยะหกคน ทว่าแม้แต่คุณสมบัติที่จะรู้ชื่อของนางกลับไม่มี นี่คือความหยิ่งผยองและถือดีขนาดไหน
ผู้แข็งแกร่งที่ชมการต่อสู้ในมุมมืดต่างเกือบคิดว่าหูฝาดไป
“ฮ่าๆๆ บ้าบิ่นนัก! เจ้าคิดว่าพวกข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้อย่างนั้นหรือ”
อริยะเซวี่ยถูระเบิดหัวเราะ นัยน์ตาดั่งจันทร์สีเลือด อึมครึมเขย่าขวัญผู้คน “ทุกท่าน ควรงัดไพ่ตายแท้จริงออกมาใช้ได้แล้ว หาไม่เกรงว่าคงถูกคนเข้าใจผิดคิดว่าพวกเรารังแกได้ง่าย!”
เสียงหญิงลึกลับเยียบเย็น กล่าวว่า “รังแกพวกเจ้าแล้วอย่างไร วันนี้ไม่ว่าใครเข้ามาล้วนยากจะเดินออกจากที่แห่งนี้!”
“เหอะๆ เจ้าคิดว่าที่นี่คือที่ไหน แต่ไรมาไม่มีใครกล้าเพ่งเล็งขุมอำนาจใหญ่อย่างพวกข้าเช่นนี้ ต่อให้เจ้าทรงพลัง แต่หากต้องการทำเรื่องเย้ยฟ้า ก็ยังต้องล่มจม!”
ทุกถ้อยคำของฟางหลิงซู่ดุจกระบี่ ไอสังหารอัดแน่นว่ายเวียนรอบด้าน
“หากพวกนี้คือคำสั่งเสียของพวกเจ้า เช่นนั้นก็ไม่ต้องถ่วงเวลาอีกต่อไป มาตัดสินกันเถอะ”
หญิงลึกลับเยือกเย็นยิ่ง แต่กลิ่นอายในคำพูดกลับพาให้ผู้คนใจสะท้าน
นี่คือ… หมายจะสังหารอริยะ?
แม้แต่หลินสวินในใจก็ยังสั่นไหวไม่สิ้น เขาขอความช่วยเหลือจากหญิงลึกลับ เดิมทีก็แค่อยากหนีเอาตัวรอดเท่านั้น
อย่างไรเสียนั่นก็เป็นถึงอริยะหกคน น่าสะพรึงอย่างที่สิ้นสุด หยัดยืนบนจุดสูงสุดแห่งโลกหล้า ผู้ใดจะสังหารพวกเขาได้
แต่ยามนี้ท่าทีที่หญิงลึกลับแสดงออกมากลับทรงพลังถึงเพียงนั้น เห็นเหล่าอริยะราวกับไร้ตัวตน สิ่งนี้จะให้หลินสวินสงบได้อย่างไร
คราวนี้เขาเพิ่งตระหนักได้ว่า ตั้งแต่แรกเขาก็ประเมินความแข็งแกร่งของหญิงลึกลับผู้นี้ต่ำไปเสียแล้ว!
“ฆ่า!”
อริยะอวี่หมิงตรงไปตรงมายิ่ง เรียกตำหนักอมตะออกมาโดยพลัน
พริบตานั้นตำหนักสีสำริดนี้ก็ระเบิดอานุภาพที่ไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้ เมื่อพุ่งไปกลางอากาศก็พาให้เวิ้งนภาถล่มครืน ทั่วทิศสนั่นหวั่นไหว หินผาต้นไม้ใบหญ้าไม่รู้เท่าไรแหลกกระจุยในชั่วพริบตา ปรากฏภาพน่าสะพรึง
ตำหนักอมตะนี้ เห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่ายามอยู่ในมือสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันมากมายนัก!
และมีเพียงอริยะเท่านั้นที่อาจกระตุ้นอานุภาพแท้จริงของสมบัติอริยะระดับนี้ได้อย่างสมบูรณ์
ตูม!
ตำหนักอมตะเปล่งแสง ฟ้าถล่มดินทลาย ฝุ่นควันหอบม้วนเหินเวหา ทะลวงผ่านชั้นเมฆ พาดผ่านทะเลหมากดารา พิฆาตไปทางหญิงลึกลับ
การโจมตีระดับนี้ เห็นชัดว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว
ควรรู้ว่าในทะเลหมากดารากางค่ายกลวัฏจักรดารา แต่ยามนี้กลับแทบไม่อาจสกัดกั้นสมบัติชิ้นนี้ได้เลย
“ตำหนักอมตะของแดนพิสุทธิ์อมตะ น่าเสียดาย ในยุคบรรพกาลเจ้าของมันก็ถือว่าเป็นนายเหนือหัวแกล้วกล้าคนหนึ่ง ยามนี้กลับตกต่ำถึงขั้นถูกอริยะเทียมควบคุมเสียแล้ว…”
เสียงเย็นใสเลือนรางดังสะท้านฟ้าดิน ก็เห็นหญิงลึกลับยื่นมืองามปานหยกออกมาข้างหนึ่ง ตบลงไปเบาๆ หนึ่งครา
ตึง!
ตำหนักอมตะที่ใหญ่ปานภูผาพลันส่ายไหวโอนเอน ส่งเสียงหวีดหวิวราวกับถูกอสนีฟาดโจมตี
ทั่วตัวมันปลดปล่อยไอขุ่นมัว และมีแสงมงคลพ่นกระเซ็น ตัวตำหนักสีสำรัดอันเก่าแก่นั้นผุดแผนภาพลึกลับมากมายออกมา มีทั้งต้นไม้ใบหญ้ามัจฉาแมลง ปักษาเซียนสัตว์เทพ สุริยันจันทราดาราเป็นต้น ปรากฏอานุภาพเหนือธรรมดาที่ผิดประหลาดกว่าที่ผ่านมา
แต่ต่อให้มันแข็งแกร่งเพียงใด เวลานี้กลับถูกฟาดจนสั่นพล่านดังระงม!
ใช้มือสยบสมบัติอริยะ เสียงโจมตีระดับนั้นพาให้อริยะที่ซ่อนตัวในมุมมืดต่างสะท้านใจ ปากอ้าตาค้าง ยิ่งตระหนักถึงความน่ากลังของหญิงลึกลับคนนี้ขึ้นเรื่อยๆ
“ทุกท่าน พวกเจ้าต้องรอถึงเมื่อไรกว่าจะลงมือ!”
อริยะอวี่หมิงตะโกนลั่น เขาเองก็ถูกทำให้ตกใจ นี่เป็นถึงตำหนักอมตะ สมบัติพิทักษ์สำนักของแดนพิสุทธิ์อมตะเชียว เมื่อใช้งานอย่างน้อยก็ทำให้พลังต่อสู้ของเขาพุ่งพรวดทบทวี
แต่ยามนี้กลับยังคงถูกหญิงลึกลับคนนั้นสยบได้ในการเคลื่อนไหวเดียว!
ชิ้ง!
กระบี่เทียมฟ้าโฉบพุ่งออกมา ฟางหลิงซู่ราวกับกลายร่างเป็นอริยะกระบี่ไร้ทัดเทียมอย่างแท้จริง เจตกระบี่ท่วมท้น ปั่นป่วนเมฆลม ไอสังหารพุ่งออกไป
เกือบจะในเวลาเดียวกัน เมี่ยวหวาเรียกบรรทัดสยบฟ้าออกมา เต้าคุนเรียกร่มรุ้งสมบัติม่วง เซวี่ยถูเรียกประทับนรกโลหิต ฝูหยาเรียกตำราหยกสีทองออกมา…
โครมครืน!
สมบัติอริยะหกชิ้น อริยะหกคน โหมโจมตีสุดกำลังในยามนี้ ศึกอริยะเปิดฉากขึ้นที่นี่ ระเบิดปะทุอย่างสมบูรณ์
ชั่วขณะฟ้าถล่มดินทลาย กลางห้วงอากาศทุกที่ล้วนปรากฏภาพพังทลายมอดไหม้ ทุกที่ล้วนเป็นแสงวิเศษอริยมรรคเจิดจรัสสะท้านโลก เป็นภาพชวนผวาอย่างที่สุด!
นี่เป็นศึกตัดสินแห่งอริยเทพอย่างแท้จริง เจิดจ้าไร้ขอบเขต เพียงพอจะสะเทือนอดีตและปัจจุบัน สั่นคลอนเมฆลมในใต้หล้า
“สวรรค์!”
“ถอยเร็ว!”
ผู้แข็งแกร่งที่ชมการต่อสู้ในมุมมืดล้วนหน้าเปลี่ยนสีทันใด ต่างพากันถอยหลบ
พื้นที่ในรัศมีหมื่นลี้ล้วนแต่เป็นอานุภาพอริยะน่าสะพรึงทั้งสิ้น หากถูกคลื่นพลัง แม้จะเป็นอริยก็ยังสะบักสะบอมสุดทานทน
ส่วนพวกที่ระดับต่ำกว่าอริยะ ย่อมไม่มีทางรอดชีวิตอย่างแน่นอน!
เคราะห์ดีที่สถานที่นี้อยู่ในทะเลหมากกระดานรา เป็นส่วนหนึ่งของเขตหวงห้ามแห่งหนึ่ง หากอยู่ในโลกภายนอก ย่อมสร้างหายนะที่คาดไม่ถึงอย่างแน่นอน
โครมครืน!
เหล่าอริยะโหมโจมตี ต่างไม่เก็บซ่อนอีกต่อไป ใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิต
ใกล้กับทะเลหมากดารา ฟ้าพลิกดินคว่ำ น้ำทะเลม้วนกลับ ปรากฏลักษณ์แห่งการทำลายล้างครั้งใหญ่ หากไม่ใช่เพราะมีค่ายกลวัฏจักรดารากระจายตัวอยู่ในนี้ ที่แห่งนี้เกรงว่าคงถูกซัดระเบิดไปนานแล้ว!
“นิ่งเงียบนานเกินไป ล้วนไม่มีผู้ใดรู้ว่าข้าเป็นใครแล้ว…”
หญิงลึกลับกลับคล้ายไม่สั่นไหว นางสาวเท้าก้าวออกมาหนึ่งก้าว ดาวเคลื่อนดาราคล้อย โซ่วิเศษกฎระเบียบหมื่นพันสายพุ่งปราดออกไป รัดตำหนักอมตะเอาไว้ทันที จองจำไว้กลางห้วงอากาศ
ตูม!
ในเวลาเดียวกันมือหยกของนางยกขึ้น เป็นรุ้งวิเศษสายหนึ่งพุ่งออกมาอีกครั้ง แวววาวเจิดจ้า มาหยุดต่อหน้าอริยะเซวี่ยถูอีกครา
“สยบ!”
อริยะเซวี่ยถูตวาดลั่น ประทับนรกโลหิตกู่ก้อง ถึงกับวิวัฒน์เป็นแดนนรกสีเลือดแห่งหนึ่ง ครอบฟ้าคลุมดิน คล้ายจะหลอมละลายฟ้าดินแถบนี้
แต่เห็นชัดว่ารุ้งวิเศษสายนั้นกร้าวแกร่งน่าสะพรึงถึงที่สุด ประหนึ่งไม่มีสิ่งใดทำลายไม่ได้ พุ่งเข้ากลางแดนนรกสีเลือด ทะลวงอุปสรรคขวางกั้นทั้งปวง!
ครืน!
เบื้องหน้ารุ้งวิเศษนี้ นรกสีเลือดถูกฉีกทึ้งแหวกขาดรุนแรงเหมือนกับภาพวาดม้วนหนึ่ง จากนั้นรุ้งวิเศษก็ม้วนตวัดปานโซ่ศักดิ์สิทธิ์ กักขังประทับนรกโลหิตเอาไว้
และส่วนหางของรุ้งวิเศษนั้นแหลมคมประหนึ่งหอกศึก เสียบทะลุร่างอริยะเซวี่ยถู ตอกขึงเขากลางอากาศทั้งอย่างนั้น!
เร็วเกินไปแล้ว ทุกอย่างล้วนว่องไวไร้ใดเปรียบ
ศึกใหญ่เพิ่งปะทุเต็มรูปแบบ ผู้ทรงพลังดั่งอริยะเซวี่ยถู แม้มีพลังปราณระดับอริยะก็ยังเป็นเหมือนว่าวกระดาษ พลังคุ้มครองร่างถูกเจาะทะลวง ตอกขึงกลางอากาศ เหมือนแมลงวันถูกขึงยึดบนกำแพง ไม่อาจขยับเขยื้อนได้อีกแม้เพียงเศษเสี้ยว!
มีเพียงริมฝีปากที่ส่งเสียงคำรามเจ็บปวดโหยหวนไร้ใดเปรียบ
นี่พาให้ทุกคนสะท้านขวัญนัก ปุบปับเกินไป!
ฟึ่บ!
โซ่รุ้งวิเศษพุ่งปราดออกมาอีกสาย แวววาวสว่างไสว แสงอริยเทพไหลเวียน พุ่งสู่ห้วงอากาศ จองจำบรรทัดสยบฟ้าที่ร่วงลงมาจากเบื้องฟ้าได้ในชั่วแล่น
พรึ่บ!
ในเวลาเดียวกันเงาร่างหญิงลึกลับหายไปจากห้วงอากาศ ยามที่ปรากฏตัวอีกครั้งก็มาถึงตรงหน้าอริยะเมี่ยวหวา ยกมือหยกขึ้นกดเบาๆ
เมี่ยวหวาหลบไม่ทัน ทั้งตัวล้วนถูกสยบกดให้คุกเข่าลงกับพื้น กระดูกทั่วร่างระเบิดกระจุยทีละส่วน ปวกเปียกดั่งโคลนเลน
เพียงแต่ยามนี้ร่มรุ้งสมบัติม่วง ตำราหยกสีทอง และกระบี่เทียมฟ้าล้วนโถมเข้ามา พาให้หญิงลึกลับหลบไม่ทันด้วยซ้ำ
แต่นางยังคงไม่ร้อนรน เห็นได้ชัดว่าหนักแน่นสงบนิ่งผิดธรรมดา
รอบกายนางปลดล่อยรุ้งวิเศษหมื่นพันสายแผ่กว้างออกไป ประหนึ่งโซ่วิเศษร่ายระบำบ้าคลั่ง อานุภาพที่พาให้ฟ้าดินล้วนกริ่งเกรงไหลเวียนออกมา
ปึง!
ร่มรุ้งสมบัติม่วงครวญ ถูกกักขังแน่นหนา
เคร้งๆๆ!
กระบี่เทียมฟ้ากำลังผ่าฟันอย่างบ้าคลั่ง ทุกการโจมตีล้วนเพียงพอจะเชือดเฉือนสุริยันจันทราดาราให้ร่วงโรย พลานุภาพเทียมฟ้า แต่กลับไม่อาจสร้างความเสียหายแก่รุ้งวิเศษเหล่านั้นได้สักนิด ได้แต่ระเบิดเสียงปะทะแน่นขนัดไร้ใดเปรียบออกมา รัศมีแสงศักดิ์สิทธิ์สาดกระเซ็นรอบด้าน
ท้ายที่สุดกระบี่เทียมฟ้าก็ถูกกักขัง ร้องครวญไม่ขาดสาย
สมบัติอัศจรรย์ที่สุดอย่างตำราหยกสีทองถึงกับกลายเป็นหมอกเมฆสีทองแถบหนึ่งทันควัน ทะลวงผ่านเกราะกำบังของรุ้งวิเศษหมื่นพันสาย แผ่ครอบลงมาทางหญิงลึกลับ
“เห ที่แท้ก็เป็นสมบัติชิ้นนี้ มันถึงกับเหลือรอดอยู่บนโลก…”
นัยน์ตาหญิงลึกลับทอประกายประหลาดใจออกมา จากนั้นริมฝีปากของนางก็ส่งเสียงหวีดหวิวแปลกประหลาด ประหนึ่งหงส์เซียนร้องขับขาน
ทันใดนั้นหมอกเมฆสีทองกลุ่มนั้นก็นิ่งงันไป จู่ๆ ถึงกับกลายเป็นปักษาเซียนประหลาดสีทองอร่ามตัวหนึ่ง สยายปีกกลางอากาศ ทั่วร่างไหลเวียนด้วยแสงสีทอง ย้อมฟ้าดินให้เป็นสีเหลืองทองทั้งแถบ
หญิงลึกลับยื่นฝ่ามือออกไป ทันใดนั้นหงส์เซียนสีเหลืองทองตัวนั้นก็ขึ้นไปยืนอย่างว่าง่าย ส่งเสียงร้องด้วยความยินดีคราหนึ่ง
ภาพนี้มหัศจรรย์ไร้ใดเปรียบ พาให้ทุกคนในลานต่างตกตะลึงอึ้งค้าง!
——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

Type: Author: ,
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset