Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1098 ย่างเหยียบเขามายาทมิฬ

ต้อนอริยะ!
เหล่าอริยะที่ชมการต่อสู้ในมุมมืดต่างสูดหายใจเฮือก ไอเย็นวูบแล่นผ่านกระดูกสันหลังทะลักสู่กลางกระหม่อม แผ่สะท้านทั่วร่างประหนึ่งจมสู่ถ้ำน้ำแข็ง
ในฐานะอริยะแห่งโลกหล้า ถูกเสกให้เป็นเดรัจฉานก็อัปยศอดสูมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
แต่ยามนี้หญิงลึกลับคนนั้นยังตั้งใจจะต้อนอริยะเหมือนต้อนสัตว์ก็ไม่ปานอีก นี่… เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของอริยะเหล่านี้ถึงขีดสุดแล้ว!
จากนี้แม้พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ ชื่อเสียงก็ย่อมเสียหาย เชิดหน้าไม่ขึ้นอย่างแน่นอน!
นางเป็นใครกันแน่
เหล่าอริยะที่ชมการต่อสู้ในมุมมืดยิ่งรู้สึกกริ่งเกรงอยู่ในใจมากขึ้นเรื่อยๆ
และเวลานี้เอง พวกเขาพลันสังเกตเห็นว่าหญิงลึกลับที่อยู่ไกลๆ คนนั้นหมุนตัวพรึ่บ กวาดสายตามองเข้ามา พาให้อริยะเหล่านี้พากันแข็งทื่อไปทั้งร่าง
“วันนี้ข้าขอประกาศแก่ใต้หล้า จากนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนกล้าใช้วิธีผู้ใหญ่รังแกผู้น้อย ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะไปเยือนสำนักโบราณพวกเจ้าด้วยเช่นกัน”
เสียงของนางเยียบเย็นชวนสยอง พาให้สีหน้าอริยะเหล่านั้นต่างวูบไหวไม่นิ่ง
“แต่หากเป็นการต่อสู้ของคนรุ่นเดียวกัน ข้าจะไม่ยื่นมือเข้าแทรกเด็ดขาด”
ประโยคต่อมานี้ทำให้ทุกคนล้วนอึ้งค้างอย่างยิ่ง ต่างเข้าใจในทันที
การต่อสู้แย่งชิงของคนรุ่นหลัง หญิงผู้นี้คร้านจะแยแสสิ้นเชิง แต่หากใครกล้าใช้อิทธิพลขุมอำนาจสำนักโบราณของตน ไม่สนฐานะ พุ่งเป้าเล่นงานหลินสวิน เช่นนั้นนางก็จะไปเยือนด้วยตัวเอง มอบการแก้แค้นให้!
ผู้หญิงที่ลึกลับน่าหวาดกลัวไร้สิ้นสุดเช่นนี้ หากคิดแก้แค้น ไม่ว่าเป็นขุมอำนาจใด เกรงว่าล้วนต้องชั่งน้ำหนักถึงผลร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นตามมาให้ดี!
“ไปเถอะ”
หญิงลึกลับสาวเท้าก้าวออกไป ภูเขาใหญ่ธารากว้างสั่นสะเทือน เมฆลมผันเปลี่ยน แสงมงคลซ่านเซ็น ก่อให้เกิดปรากฏการณ์อันงดงามและอลังการ
และยามที่นางย่ำเท้า ก็มีรุ้งวิเศษสีทองอร่ามสายหนึ่งแผ่กว้างใต้เท้าของนาง พุ่งตัดห้วงอากาศเป็นทางยาว กางแผ่สู่ส่วนลึกของห้วงอากาศอันไร้ขอบเขต
ท่ามกลางความงุนงง ทุกคนคล้ายจะเห็นกันหมดว่าระหว่างที่หญิงลึกลับเดินไปเบื้องหน้า กลางห้วงอากาศมีมังกรเจินหลงห้อทะยาน หงส์เซียนบนร่อน เต่าดำเบิกทาง….
ประกายมงคลหลากสีสันสายแล้วสายเล่าลอยระบำ พรั่งพรูละอองแสงปานอริยเทพ ประหนึ่งกำลังอารักขาคุ้มกันหญิงลึกลับอยู่
ภาพฉากเช่นนี้ เหมือนกับจักรพรรดินีเคลื่อนทัพในตำนานชัดๆ!
“นี่…”
“ต่อให้เป็นราชันอริยะ ก็เกรงว่าจะครอบครองพลานุภาพศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ไม่ได้กระมัง”
อริยะที่มองดูอยู่ไกลๆ ใจสะท้าน เรื่องที่พบเห็นได้ยากเช่นนี้ ปาฏิหาริย์ที่ใกล้เคียงตำนาน ทำให้พวกเขาล้วนรู้สึกถึงความหวาดหวั่นและสั่นสะเทือนไร้ใดเปรียบ
ชั่วขณะนั้นเงาร่างหญิงลึกลับหายลับ มีเพียงแสงศักดิ์สิทธิ์โชติช่วง แผ่ครอบเวิ้งนภาประหนึ่งภาพฝันมายา
และที่หายไปพร้อมกับหญิงลึกลับ ยังมีหลินสวินรวมถึงแกะหนึ่งฝูงและสุนัขอีกหนึ่งตัวด้วย
เห็นได้ชัดว่านางไปต้อนอริยะจริงๆ!
……
ฟ้าดินคืนสู่ความเงียบสงัด ริมฝั่งทะเลหมากดารากลับไปเงียบสงบเหมือนก่อนหน้า
เพียงแต่เหล่าอริยะที่ชมการต่อสู้ในที่นั้นต่างจมสู่ความเงียบงัน ไม่เอ่ยวาจาเนิ่นนาน
พวกเขากำลังพยายามย่อยทุกอย่างที่ได้พบเห็นในวันนี้อยู่
อริยะหกคนปรากฏตัวก็สะท้านเมฆลมใต้หล้าแล้ว แต่ยามนี้ อริยะทั้งหกคนนี้กลับประสบเคราะห์ ถูกไล่ต้อนเหมือนเดรัจฉาน!
เหตุการณ์เหล่านี้หากเผยแพร่ออกไป ต้องก่อให้เกิดความสั่นผวาทั่วดินแดนรกร้างโบราณอย่างแน่นอน!
“นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ขุมอำนาจทั่วใต้หล้านี้ มีที่ใดยังจะกล้าเล่นงานหลินสวินเหมือนก่อนหน้านี้อีก”
“นั่นสิ เจ้าเด็กหลินสวินนี่พรสวรรค์โดดเด่น ครอบครองศักยภาพแฝงสะท้านโลกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยามนี้ยังมีที่พึ่งใหญ่โตเช่นนี้ให้พึ่งพาอาศัยอีก การผงาดขึ้นมาของเขาย่อมไม่อาจต้านทานได้แน่นอน”
“ข้าสงสัยแค่ว่า ผู้หญิงคนนั้น… เป็นใครกันแน่”
อริยะที่มาจากสำนักโบราณแตกต่างกันเหล่านี้ต่างวิพากษ์วิจารณ์ การต่อสู้เมื่อครู่นี้ทำให้พวกเขาสั่นสะท้านถึงขีดสุด
สามารถคาดการณ์ได้ว่า เรื่องนี้ต้องก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่อย่างไม่อาจปิดกั้นแน่นอน
“เฒ่าสารเลว พวกเราก็ไปดูกันหน่อยเถอะ”
อาหลู่ทำหน้าตั้งตาคอย “ต้อนแกะเชียวนะ แถมยังเป็นแกะอริยะฝูงหนึ่งอีกด้วย ภาพนี้จะต้องสูบฉีดมากเป็นแน่แท้ หาพบได้ยากตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันเ!”
นักพรตเฒ่ามอมแมมสีหน้าซับซ้อน กล่าวทอดถอนใจ “เรื่องนี้… ทางที่ดีอย่าไปร่วมวงด้วยเป็นดีที่สุด ที่มาของผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดาเอามากๆ เดิมทีข้านึกว่าในยุคบรรพกาลนางก็จะ… ใครจะไปคิด… เฮ้อ ไม่พูดดีกว่า”
อาหลู่ฟังจนงุนงงไปหมด อดกระทืบเท้าไม่ได้ “เฒ่าสารเลว เจ้าแม่งอยากพูดอะไรกันแน่”
ผัวะ!
นักพรตเฒ่ามอมแมมตบศีรษะอาหลู่อีกหนึ่งฉาด ผรุสวาท “เจ้ารีบร้อนหาอะไร อยากรู้เรื่องวงในหรือ รอให้เจ้าเหยียบย่างบนระดับมกุฎราชันให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน!”
กล่าวพลางคว้าหมับ ลากอาหลู่แล้วหมุนตัวทะยานผ่านห้วงอากาศ
“เจ้าเฒ่าสารเลว เจ้าคิดจะทำอะไร ข้าไม่กลับหมู่บ้านแล้ว ข้าจะไปหาพี่ใหญ่ของข้า!” อาหลู่ตะโกนโหวกเหวก
แต่ไม่ว่าเขาจะร้องตะโกนอย่างไรก็ยังถูกพาตัวไปอยู่ดี
ใกล้ชายฝั่งทะเลหมากดารา ทุกคนทยอยจากไป เงาคนแน่นขนัดในบริเวณนี้ ท้ายที่สุดก็ค่อยๆ กลับสู่ความเงียบสงบ
……
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ข่าวสารก็แพร่สะพัดออกไป ก่อให้เกิดแรงสะเทือนทั่วดินแดนรกร้างโบราณ!
ในกลุ่มอริยะที่มาชมการต่อสู้ครั้งนี้ มีอริยะจากเผ่าวาทวาโยด้วยหนึ่งคน ข่าวสารที่มีเขากระจายออกไป ความเร็วในการแพร่สะพัดนั้นไม่อยากให้เร็วก็คงยาก
สี่แดนวิภูในดินแดนรกร้างโบราณ ไม่ว่าสถานที่ใดที่มีต้นข่าวสาร ต่างปรากฏคลื่นยักษ์เกรียวกราวทั้งสิ้น
“หกอริยะเคลื่อนทัพ คนทั้งโลกต่างคิดว่าเทพมารหลินตายแน่ ใครจะไปคิด ดันเกิดจุดพลิกผันสะท้านฟ้าเช่นนี้เสียได้!”
“สวรรค์ หญิงลึกลับคนนั้นเป็นใครกันแน่ ถึงกับสามารถกำราบเหล่าอริยะได้”
ทุกที่ล้วนฮือฮาคล้ายหม้อระเบิด ทุกแห่งหนล้วนไม่อาจสงบเงียบ
เพราะการต่อสู้ครั้งนี้เกี่ยวโยงถึงศึกแห่งอริยะ ไม่อยากให้ดึงดูดความสนใจผู้คนคงยาก!
“ต้อนอริยะจากไป นะ นี่… นี่ทำให้คนไม่อยากเชื่อชัดๆ!”
ยามที่บรรดาสำนักโบราณได้รับข่าวสาร ต่างถูกทำให้ตกใจทั้งสิ้น รู้สึกเสียวสันหลังวูบ
“เร็วเข้า! ไปสืบข่าวให้รู้ลึกกว่านี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตรวจสอบให้พบว่าหญิงลึกลับอหังการคนนั้นเป็นใครกันแน่!”
มีบางคนร้อนรน
“เทพมารหลินนี่มีคนหนุนหลังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน หรือจะเป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์จากแดนเร้นอริยะสักแห่งนะ”
การวิพากษ์วิจารณ์ คาดเดา วิเคราะห์ต่างๆ นานาเผยให้เห็นทั่วทุกที่
ทั้งใต้หล้ามีคลื่นลมโหมกระหน่ำ!
และก่อนที่คลื่นลมลูกใหญ่นี้จะม้วนพัดใต้หล้า หญิงลึกลับกับหลินสวินได้ต้อนแกะฝูงหนึ่งและหมาดำตัวหนึ่ง มาถึงเบื้องหน้าเขาวิญญาณที่สูงตระหง่านเก่าแก่ลูกหนึ่งแล้ว
ความเร็วนั้นว่องไวยิ่งยวด สำหรับหลินสวินแล้วเป็นเพียงแค่สิบกว่าลมหายใจเท่านั้น แต่พวกเขากลับเคลื่อนย้ายมาไกลเป็นพันหมื่นลี้!
การเคลื่อนย้ายครั้งใหญ่กลางห้วงอากาศโดยอาศัยแค่ปราณของตน ไม่ต้องหยิบยืมค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณเช่นนี้ พาให้หลินสวินอดใฝ่หาไม่ได้อยู่เหมือนกัน
“ที่นี่ก็คือเขามายาทมิฬ แหล่งอาศัยของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ เผ่าพันธุ์ที่ข้าเกลียดชังมาตั้งแต่เกิดมีไม่มากนัก หนึ่งในนั้นก็คือเผ่านี้”
หญิงลึกลับเอ่ยปากง่ายๆ
“โฮ่ง! โฮ่ง!”
เบื้องหน้า หมาดำที่กลายร่างจากอริยะเซวี่ยถูเห่าอย่างกระวนกระวาย นัยน์ตาเปี่ยมด้วยแววอับอายระคนโกรธจนอยากตาย
แต่เมื่อหญิงลึกลับกวาดสายตามองไป เจ้าหมาดำก็สั่นเทิ้มไปทั้งตัว ส่งเสียงสะอื้นเอ๋งๆ หมอบกระแตตัวสั่นกึกๆ อยู่บนพื้น
หลินสวินค่อนข้างงุนงง นี่ยังเป็นอริยะอยู่อีกหรือ เป็นหมาก็ยังเป็นอย่างอเนจอนาถขนาดนี้…
“พวกเราต้องรีบทำเวลาแล้ว” หญิงลึกลับคล้ายสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง แหงนหน้าขึ้นขวับ ทอดมองไปยังเวิ้งนภาสุดลูกหูลูกตา
พริบตานี้หลินสวินสัมผัสได้อย่างฉับไว ว่าบนร่างหญิงลึกลับเผยไอหนาวเย็นที่อธิบายไม่ถูกออกมาเสี้ยวหนึ่ง คล้ายกับในส่วนลึกของเวิ้งฟ้านั้นมีอะไรบางอย่างที่ทำให้นางรังเกียจและขยะแขยงถึงที่สุด
ตูม!
ไม่รอให้หลินสวินทำความเข้าใจ หญิงลึกลับก็ยื่นมือหยกออกมาข้างหนึ่ง ตบเข้ากลางอากาศหนึ่งครา
ก็เห็นรอบภูเขาลูกใหญ่ตั้งตระหง่านที่อยู่ไม่ไกลนัก ปรากฏค่ายกลใหญ่สีเลือดน่าหวาดกลัวขึ้นมา หมายจะขัดขวางฝ่ามือที่คั่นด้วยห้วงอากาศนี้
แต่เพียงแค่ชั่วขณะค่ายกลนี้ก็พังทลาย ปรากฏรูโหว่ขึ้น ละอองแสงซ่านเซ็น
หลินสวินสูดหายใจเฮือก หากเขามองไม่ผิด ค่ายกลใหญ่ที่พิทักษ์บนเขามายาทมิฬนี้ น่าจะเป็นกระบวนค่ายกลอริยะอย่างหนึ่ง ถึงจะไม่น่าสะพรึงเท่าค่ายกลใหญ่วัฏจักรดารา แต่ก็เรียกได้ว่าอัศจรรย์ยิ่ง
แต่ยามนี้กลับถูกฝ่ามือหนึ่งฟาดกระจุยในคราเดียว!
“ใคร!”
“เจ้าบ้าระห่ำที่ไหนกล้าแจ้นมาหาเรื่องเผ่าข้า รนหาที่ตาย!”
หลังการระเบิดของค่ายกลใหญ่ ทิวทัศน์เขามายาทมิฬเปลี่ยนไปทันใด บนเขาลูกนั้นปรากฏอาคารโบราณแน่นขนัดมากมายเรียงเป็นทิวแถว มองไปแล้วถึงกับไม่เห็นจุดสิ้นสุด
และเวลานี้มีเงาร่างของผู้ฝึกปราณกลุ่มหนึ่งพุ่งปราดออกมา ไอสังหารพวยพุ่ง ต่างตกใจแกมโมโหไร้ใดเปรียบ
คล้ายกับคาดไม่ถึง ว่าบนโลกใบนี้ยังมีคนใจกล้าถึงขั้นวิ่งมาอาละวาดในถิ่นของพวกเขาเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ
แต่เมื่อเห็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่อยู่นอกประตูเขา รวมถึงแกะฝูงหนึ่งและหมาดำหนึ่งตัว ผู้ฝึกปราณเหล่านี้ต่างก็ตะลึงอึ้งค้าง
ภาพนี้พิสดารเกินไปแล้ว นี่คือต้อนแกะมาปล่อยที่เขามายาทมิฬของพวกเขาหรือ แถมยังพาหมาต้อนแกะมาด้วยตัวหนึ่ง…
ช้าก่อน!
แต่เมื่อมองหมาดำตัวนั้นโดยละเอียดแล้ว ผู้ฝึกปราณเหล่านี้ต่างดวงตาแข็งทื่อ นี่มันใช่หมาต้อนแกะที่ไหนกัน เป็นคนในเผ่าพวกเขาชัดๆ!
ไม่ทันไรสีหน้าพวกเขาเปลี่ยนเป็นพิลึกพิลั่นไร้ได้เปรียบ สายตาที่มองหลินสวินและหญิงลึกลับล้วนเจือไอสังหารรุนแรง
เพียงแต่ยามที่หญิงลึกลับชำเลืองมองพวกเขาโดยผ่านๆ ปราดหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬที่ไอสังหารพลุ่งพล่านเหล่านี้ แต่ละคนล้วนตัวแข็งทื่อ จิตวิญญาณปวดแปลบ ภาพเบื้องหน้าดับวูบ จากนั้นทั้งหมดล้วนกลิ้งหลุนๆ ลงกับพื้น สลบเหมือดโดยไม่มียกเว้น
แม้แต่เสียงร้องก็ยังไม่ทันเปล่งออกมา!
นัยน์ตาหลินสวินฉายแววเวทนาวูบหนึ่ง เจ้าพวกหมาดำเหลือขอพวกนี้คงจะหยิ่งผยองจนเคยตัว ย่อมคิดไม่ถึงเด็ดขาดว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าน่าสะพรึงมากเพียงใด
“น่าเบื่อมากใช่หรือไม่” หญิงลึกลับถาม
หลินสวินส่ายหน้า กล่าวยิ้มๆ “ไม่ สะใจมาก!”
หญิงลึกลับเอ่ย “แต่ข้าไม่สะใจ ใช้วิธีผู้ใหญ่รังแกเด็ก ก็ต้องหาเด็กที่เข้าท่าส่วนหนึ่งมาข่มเหงรังแกสักหน่อย”
นัยน์ตานางทอดมองเข้าไปในส่วนลึกของเขามายาทมิฬ กล่าวว่า “พวกเราเข้าไปกัน”
กล่าวพลางนางก็ไล่ต้อนแกะทั้งฝูงและหมาดำตัวนั้นเดินไปข้างหน้า
รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่เป็นถิ่นที่อยู่ของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ เทียบได้กับค่ายใหญ่ของสำนักโบราณฝ่ายหนึ่ง แต่หญิงลึกลับกลับมองเหมือนไร้ความหมาย บอกจะเข้าก็เข้า ความองอาจยิ่งใหญ่ที่ไหลเวียนอย่างไร้รูปนั้นพาให้หลินสวินยังเลือดเดือดพล่านไปทั่วร่าง
โครม!
พร้อมๆ กับที่หญิงลึกลับเดินไปเบื้องหน้า พลังค่ายกลใหญ่ผนึกต้องห้ามของเขามายาทมิฬถูกกระตุ้นให้สำแดงฤทธิ์ทั้งหมด แต่ก็ไม่อาจต้านทานย่างเก้าของนางได้สักนิด พังทลายทรุดครืนทีละชุ่นราวกับว่าวกระดาษ
ในกระบวนการนี้มีผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬพุ่งออกมาไม่ขาดสาย เบียดเสียดแน่นขนัดประหนึ่งกระแสน้ำเชี่ยว แต่ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็พากันทรุดฮวบลุกไม่ขึ้น!
ไม่มีสักคนที่ลุกยืนได้ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนมาขัดขวาง!
หลินสวินถูกทำให้สะท้านสะเทือนอีกครั้ง หากตนครอบครองปราณเทียมฟ้าเช่นนี้เหมือนกัน ใต้หล้าอันกว้างใหญ่นี้ ยังจะมีที่ใดที่ไปไม่ได้อีก
ต่อให้เป็นถ้ำเสือบึงมังกร ก็สามารถเหยียบย่างเสมือนพื้นราบ!
เขามายาทมิฬกว้างใหญ่ถึงที่สุด สูงลิ่วสุดขีด บนเขาห้อมล้อมด้วยไอวิญญาณ พยับเมฆหมอกขมุกขมัว ทุกแห่งหนล้วนเห็นสายธารแร่วิญญาณ หญ้าเซียนแตกหน่อ เป็นบรรยากาศของแดนสมบัติแห่งเทพเซียนอย่างแท้จริง
แต่พร้อมๆ กับการรุกล้ำของหญิงลึกลับกับหลินสวิน สถานที่พักอาศัยของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬแห่งนี้ ความสันติและเงียบสงบแต่เดิมถูกทำลาย เปลี่ยนเป็นโกลาหลอลหม่านโดยสิ้นเชิง
——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

Type: Author: ,
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset