เสียงร้องโหยหวนของซางหลันพาให้ทุกคนต่างสะดุ้งตื่นจากความตกใจกลัว
“จะให้โอกาสเขาอีกไม่ได้แล้ว!”
ท่ามกลางหมอกสีดำพวยพุ่ง เงาร่างสายหนึ่งพุ่งเข้ามา มือกระชับเคียวสีเลือดเล่มหนึ่งกรีดวาดเบาๆ หนึ่งครา ฉีกทึ้งห้วงอากาศ คมกริบเฉียบขาดอย่างที่สุด
พื้นที่บริเวณนี้ล้วนถูกหมอกดำปกคลุม เจือกลิ่นอายแห่งความตายและเน่าเปื่อย
ครานี้เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่สีผิวขาวซีด ใบหน้าอิดโรย เป็นอัจฉริยะจากสำนักโลหิตเก้าบาดาลคนหนึ่ง
“ฆ่า!”
คนอื่นต่างตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของปัญหา ล้วนโหมโจมตีโดยไม่ลังเลแต่อย่างใด
อีกทั้งยังได้รับแรงกระตุ้นจากการตายของหลิงหวา พวกเขาแทบจะสำแดงวิชาทั้งหมด เผยไม้ตายออกมา มองหลินสวินเป็นศัตรูตัวฉกาจ
ทันใดนั้นภายในตำหนักพราวแสงพร่าตา ผู้แข็งแกร่งแต่ละคนล้วนเหมือนกับภูเขาเทพ เปล่งอานุภาพน่าสะพรึง ต่างฝ่ายต่างขับเน้น พาให้ทุกอณูของพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยละอองแสงและเสียงมรรค
การเข่นฆ่าก่อนหน้านี้ทำให้พวกเขาเข้าใจโดยสิ้นเชิงว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินกร้าวแกร่งมากเพียงใด เหนือการคาดเดาของพวกเขาลิบลับ
โดยเฉพาะการตายของหลิงหวายิ่งพาให้พวกเขาสัมผัสถึงอันตราย รับรู้ถึงภัยคุกคามร้ายแรง
เดิมทีพวกเขาต่างมั่นใจไร้เกรงกลัว นึกว่าหลินสวินหัวเดียวกระเทียมลีบ ต่อให้แข็งแกร่งสักแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขา ต้องสามารถสังหารได้ง่ายดายเป็นแน่แท้
แต่ยามนี้พลังต่อสู้น่าสะพรึงที่หลินสวินสำแดงออกมาทั้งหมดกลับทำให้สถานการณ์ร้ายแรงขึ้นทันใด
ทั้งหมดนี้ล้วนไม่ส่งผลต่อหลินสวินแม้แต่น้อย หลังจากใช้กระบวนเฉือนนภาสงัดสังหารหลิงหวาแล้ว เขายังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด สยบการซุ่มโจมตีของซางหลันที่อยู่ด้านหลังก่อนเป็นสิ่งแรก จากนั้นเงาร่างก็โฉบพุ่งออกมา
สิ่งที่ออกมาพร้อมกับเขายังมีดาบหักด้วย
ฉึบ!
แสงเย็นเยียบสายหนึ่งปรากฏขึ้นทันที
เป้าหมายคือ… อูหลิงเฟย!
“โอหัง!”
อูหลิงเฟยสีหน้าอึมครึมปีกกระพือตบ เสียงตูมดังขึ้นหนึ่งครา เปลวเพลิงวิเศษสีทองนับไม่ถ้วนไหลเวียน ถึงกับวิวัฒน์เป็น ‘กระบี่เพลิง’ เล่มหนึ่ง
กระบี่วิเศษที่สร้างขึ้นจากการหลอมรวมของเพลิงสมาธิสุริยัน!
ปัง!
เพียงแต่หลังจากการปะทะอันน่าตระหนก ที่ตรงนั้นละอองแสงสาดกระเซ็น ขนปีกร่วงโรย ซ้ำยังอาบเลือดอีกด้วย
พอมองไปยังอูหลิงเฟยอีกครั้ง ปีกซ้ายของเขาถูกเฉือนเป็นรอยเลือดแคบยาวสายหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้เขาตกใจจนหลั่งเหงื่อเย็นไปทั้งตัว เมื่อครู่หากไม่ใช่เพราะเบี่ยงหลบทันท่วงที คงเกือบซ้ำรอยหลิงหวาแล้ว!
จุดนี้พิสูจน์ได้อย่างไม่ต้องสงสัยแล้วว่า ต่อให้สู้กันตัวต่อตัวก็เป็นไปได้สูงว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินสวิน!
“หลีกทางให้ข้า!”
บุรุษประหลาดที่กลางหว่างคิ้วมีดวงตาแนวตั้งดวงหนึ่งร้องตะโกน ดวงตาแนวตั้งเบิกโพลงทันที กลายเป็นลำแสงงดงามแถบหนึ่ง เหมือนกับละอองแสงเซียนลอยล่องดั่งภาพฝันมายา
นี่คือ ‘เนตรแห่งหอยกาบเทพ’ !
มรดกสายเลือดสูงสุดอย่างหนึ่งของเผ่าหอยกาบมายา เป็นวิชามายาที่น่ากลัวอย่างที่สุดวิชาหนึ่ง พุ่งเป้าไปยังจิตวิญญาณของผู้ฝึกปราณ เมื่อสำแดงวิชานี้ ก็เหมือนกับสร้างเขตแดนความฝันอย่างหนึ่ง เพียงพอจะกักขังจิตวิญญาณของคู่ต่อสู้ไว้ในนั้นจนสูญเสียความเป็นตัวเองไป
น่าเสียดาย การโจมตีนี้อาจจะสามารถสะเทือนบุคคลขอบเขตมกุฎคนอื่นๆ แต่กลับไม่มีผลต่อหลินสวินสักนิด
“เฉือน!” ในห้วงนิมิตหลินสวิน เสี่ยวอิ๋นเตรียมต่อสู้ตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อเห็นเช่นนี้สองมือก็คว้าหมับ กระบี่แห่งจิตวิญญาณสายหนึ่งฟันฉับออกมา
ฉัวะ!
ไกลออกไปดวงตาแนวตั้งกลางคิ้วของบุรุษประหลาดปรากฏรอยเลือดสายหนึ่ง จากนั้นก็แตกระเบิดสาดโลหิตสีแดงฉานออกมา
“อ๊าก…”
เขาร้องโหยหวน ถูกโจมตีเข้ากลางดวงตา ไหนเลยจะคาดคิดว่าเพิ่งโจมตีครั้งเดียวเท่านั้น ไม่เพียงไม่เป็นผล ตรงกันข้ามพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองยังถูกทำลายอีกด้วย ทำเอาจิตวิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัส!
พรึ่บ!
เขาเพิ่งตั้งท่าจะเผ่นหนี ประกายคมกริบเจิดจ้าสายหนึ่งพลันปรากฏ ฟันตัดบั้นเอวของเขาจนฝนเลือดสาดกระจาย
คู่ต่อสู้คนที่สอง ตาย!
ถึงแม้คนอื่นๆ ล้วนเข้าช่วยเหลือ แต่ก็จนด้วยเกล้า
อานุภาพดาบหักของหลินสวินแตกต่างจากที่ผ่านอย่างสิ้นเชิง คละคลุ้งด้วยพลังมรรคดับดารากลืนกิน ทำให้ศักยภาพพุ่งทะยานไปสู่จุดที่ไม่เคยมีมาก่อนในชั่วพริบตา!
ทุกคนพากันอึ้งค้างไปครู่หนึ่ง พริบตาเดียวก็ตายแล้ว?
“หั่นแหลกไปเลย! พี่ใหญ่!” อาหลู่ตะโกนลั่นมาแต่ไกล ฮึกเหิมไร้ใดเปรียบ
“หึ! ตอนนี้เจ้าคงเข้าใจแล้วสินะว่าทำไมอัจฉริยะฟ้าประทานเป็นหนึ่งไม่มีสองอย่างข้าถึงได้เห็นเขาเป็นพี่น้อง คำเดียวเท่านั้น อหังการ!” เจ้าคางคกทำหน้าตาได้ใจ เพียงแต่พอพูดประโยคนี้ออกมาก็กระเทือนอาการบาดเจ็บ พาให้เขาไออย่างเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง
“นี่สองคำต่างหาก!” อาหลู่ร้องแก้
“นี่แม่งเวลาไหนแล้ว ยังมัวสนใจรายละเอียดยิบย่อยพวกนี้อีก” เจ้าคางคกพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ขณะพูดคุยการต่อสู้ในที่นั้นระเบิดปะทุตลอดเวลา ทั้งยังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย
“ทุกท่าน ถ้าพวกเจ้ายังเก็บงำอยู่อีก พวกเราจะตกอยู่ในอันตรายกันหมด!” อูหลิงเฟยสีหน้าคล้ำเขียว แหกปากเดือดดาลไม่หยุด ไม่มีบุคลิกงามสง่าและวางตัวสบายๆ เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว
“เหตุใดพลังมหามรรคที่เขากับอวิ๋นชิ่งไป๋ครอบครองถึงได้คล้ายกันเช่นนี้!”
มีคนเอ่ยร้องเสียสั่น นี่เป็นชายหนุ่มรูปร่างบึกบึน เวลานี้สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก มีอาการไม่ยากจะเชื่อ
คนผู้นี้ก็คือสือเจินทงสัตว์ประหลาดยุคโบราณแห่งเผ่าสิงห์ค่อม!
เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งปรากฏตัวสู่โลก เคยกำราบบุคคลทรงอิทธิพลแห่งยุคสิบกว่าคนภายในเวลาสามวัน สั่นสะเทือนใต้หล้า
เพียงแต่เขากลับพ่ายแพ้ด้วยสามกระบี่ของอวิ๋นชิ่งไป๋!
ยิ่งกว่านั้นเขามั่นใจมากว่าหากอวิ๋นชิ่งไป๋อยากฆ่าเขา แค่กระบี่เดียวก็เพียงพอแล้ว
และเป็นเพราะการแพ้อนาถครั้งนี้ ทำให้เขาตระหนักได้ถึงความน่าสะพรึงของอวิ๋นชิ่งไป๋
เพียงแต่เขากลับคิดไม่ถึงว่ากลิ่นอายมหามรรคของเทพมารหลินที่อยู่ตรงหน้า จะถึงขั้นคล้ายคลึงกับอวิ๋นชิ่งไป๋เช่นนี้!
อีกทั้งยังน่าสะพรึงปานนี้ด้วย!
พริบตานี้จิตต่อสู้ของสือเจินทงล้วนกำลังสั่นไหว อยากจะเผ่นหนีนัก
“ฆ่า!”
เพียงแต่คนอื่นๆ ล้วนไม่เคยประจักษ์ความน่ากลัวของอวิ๋นชิ่งไป๋มาก่อน ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจความรู้สึกของสือเจินทงในเวลานี้
พวกเขาพากันโจมตีเข้าสังหารโดยไม่สนใจสิ่งใด
ในฐานะบุคคลแนวหน้าแห่งยอดมกุฎ พวกเขาแต่ละคนล้วนมีความภูมิและรากฐานที่กินกันไม่ลง หลายสิบคนจัดการกับเทพมารหลินคนเดียวก็เสียหน้ามากพออยู่แล้ว และยามนี้ยิ่งไร้ปัญญาต่อต้านอีก จุดนี้พาให้พวกเขาต่างเดือดดาล รู้สึกขายหน้านัก
การต่อสู้มหามรรค ที่แข่งขันกันก็คืออันดับสูงต่ำ!
ใครก็ไม่อาจยอมรับว่าตนอ่อนแอ
ครั้งนี้หากไม่อาจฆ่าหลินสวินให้ตายได้ ลำพังแค่ความพ่ายแพ้นี้ก็เป็นมลทินที่ไม่อาจลบล้าง ไม่เป็นผลดีต่อการฝึกปราณในภายหน้าแล้ว
“ตายซะเถอะ!”
ทันใดนั้นผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งกลายร่างเป็นกระทิงสีเขียวตัวหนึ่ง เท้ามีขนาดใหญ่เท่ากับภูเขาลูกย่อมๆ สี่กีบย่ำอากาศ ส่งเสียงคำรามลั่นออกมา
“อุตตราไร้รูปอัตตา สรรพสิ่งไม่อาจข้ามผ่าน…”
เสียงมรรคคลุมเคลืออันไพศาลกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดเปล่งออกมาจากริมฝีปากของเขา ดั่งฝนฟ้าคะนองเก้าสวรรค์ก้องกระหึ่ม ทั้งยังเหมือนเสียงท่องธรรมของเทพมารบรรพกาล
นี่คือวิชามรรคพรสวรรค์ของมัน หนึ่งคำรามตัดขาดภูผาธารา ฉีกทึ้งจักรวาล!
หลินสวินถูกล้อมโจมตี ไม่สามารถแยกร่างได้ จวนจะถูกเสียงคำรามโหมโจมตีอยู่รอมร่อ ก็เห็นริมฝีปากเขาส่งเสียงร้องหนึ่งออกมา…
ม่านน้ำตกคลื่นเสียงสีทองอร่ามสายหนึ่งพุ่งออกมา กลายเป็นสัตว์เทพผูเหลา ราวกับย่ำแหวกฟ้าดารามาเยือน แหงนหน้าร้องคำรามอย่างถือดี
โครมครืน
นี่คือเสียงคำรามผูเหลา เป็นมรรคแห่งเสียงสังหารชั้นยอด
และยามนี้ถูกหลินสวินสำแดงโดยใช้มรรคดับดารากลืนกิน อานุภาพที่ปรากฏต่างจากที่ผ่านมาลิบลับ บริเวณที่คลื่นเสียงนั้นแผ่ไป ทั้งอากาศ การไหลเวียน….
ทุกอย่างล้วนปรากฏร่องรอยของการทำลายล้างครั้งใหญ่!
มองด้วยตาเปล่าจะเห็นว่าเสียงคำรามของกระทิงสีเขียวก็เหมือนกับยักษ์เล็กเจอยักษ์ใหญ่ ถูกบดขยี้กระจุยกระจาย พังทลายดับสิ้น
ตูม!
ตอนที่กระทิงสีเขียวเบี่ยงตัวหลบก็ไม่ทันการแล้ว ถูกเสียงคำรามผูเหลาซัดสะเทือนจนเลือดไหลเจ็ดทวารก่อนเป็นสิ่งแรก จากนั้นร่างราวกับภูเขาก็เหมือนถูกพายุหอบม้วน ปลิวกระเด็นออกไปเสียงดังปึง
มันกระดูกแตกเส้นเลือดขาด จิตวิญญาณและดวงจิตล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส น้ำลายสีขาวฟูมปากและหมดสติทันที
หนึ่งคำราม ทำลายศัตรู!
ฉึบ!
เพียงแต่ไม่รอให้หลินสวินจัดการต่อ ทันใดนั้นใต้เท้าเขาห้วงอากาศระเบิดกระจุย ปรากฏดอกอสูรมารสีดำดอกหนึ่ง กลีบดอกผลิบานราวกับถังเลือดใบใหญ่ก็ไม่ปาน
แม้ว่าหลินสวินจะเบี่ยงหลบได้โดยไม่มีอันตราย แต่กลับถูกการบุกโจมตีหลายสายที่พุ่งเข้ามากดดัน ซัดสะเทือนจนร่างซวนเซ ทั้งยังถูกคมกระบี่สายหนึ่งถากผ่านแก้มไปอีกด้วย
รอยเลือดเป็นทางปรากฏขึ้น
ไกลออกไปชายหนุ่มชุดคลุมเงินแอบร้องเสียดายคราหนึ่ง
ภาพเฉียดอันตรายไร้ใดเปรียบนี้เล่นเอาเจ้าคางคกกับอาหลู่ใจสั่นระรัว รู้สึกเกร็งขึ้นมา
“ไม่เลวยิ่ง นับว่าประเมินศักยภาพของพวกเจ้าต่ำไปเสียแล้ว!”
ถึงจะแค่บาดเจ็บภายนอก กลับทำให้สีหน้าหลินสวินยิ่งเย็นเยียบมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกล้อมโจมตีจนป่านนี้ เดิมทีเขามีโอกาสที่จะลงมือสังหารอีกฝ่ายอยู่หลายหน
แต่ล้วนถูกขัดขวาง ไม่อาจสำเร็จดั่งใจ
และยามนี้ยิ่งเกือบได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้าไปอีก ทำเอาไอสังหารในใจหลินสวินยิ่งลุกโหมมากขึ้นเรื่อยๆ
ชิ้ง!
ดาบหักส่องแสง ผิวนอกปรากฏลวดลายมรรคอันเร้นลับและแปลกประหลาด เปล่งประกายจนเหมือนภาพมายา พุ่งสังหารไปทางชายหนุ่มชุดเงินคนนั้น
“รีบขวางเขาเร็วเข้า!” ทุกคนต่างโหมโจมตี ดำเนินการกำราบ
อย่างไรก็ตามอานุภาพของหลินสวินในเวลานี้โหมกระพือยิ่งนัก ระเบิดปะทุอย่างคลุ้มคลั่งสิ้นเชิง เหมือนเทพมารที่เหยียบย่ำภูเขาศพทะเลเลือดออกมา
รอบตัวเขารายล้อมด้วยอักษรเคราะห์ บังเกิดอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ไร้สิ้นสุด ซัดสยบการโจมตีทั้งปวง
“เฉือน!”
เห็นหลินสวินพุ่งมาแล้ว สีหน้าชายหนุ่มชุดเงินเปลี่ยนสีไปยกใหญ่ กระบี่วิเศษในมือส่องสว่างไร้ใดเปรียบ ฟันฉับลงไปอย่างเดือดดาล
น่าเสียดายหลินสวินรวดเร็วอย่างที่สุด ดาบหักยิ่งน่าสะพรึง สำแดงกระบวนเฉือนเกิดดับทำลายเพลงกระบี่ของอีกฝ่ายจนสิ้นซากในพริบตา ประกายคมกวาดผ่านเกิดเสียงดังฉึบหนึ่งครา แทงทะลุหน้าอกของเขา
ชายหนุ่มชุดเงินส่งเสียร้องโหยหวนไร้ใดเปรียบ คลอนฟ้าสะเทือนดิน จากนั้นร่างก็ทรุดลงพื้นทั้งอย่างนั้น ตายอนาถคาที่
เสวียนจิงและผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ อีกหลายคนจากเผ่าโบราณแสงทมิฬดำเนินการซุ่มโจมตี หวังฉวยโอกาสนี้กำราบหลินสวิน
ใครเลยจะคิด ทั่วร่างหลินสวินเปล่งแสง พลังของมรรคดับดารากลืนกินถูกกระตุ้นเร้าถึงขีดสุด สำแดงฤทธิ์ราวกับเหวลึกที่กลืนกินแปดทิศไม่เหลือหลอ
การโจมตีทั้งหมดล้วนดับสิ้นลงทั้งอย่างนี้ ขับเน้นจนหลินสวินราวกับไม่อาจโค่นล้มได้!
ฉึบ! ฉึบ! ฉึบ!
อาศัยโอกาสนี้ดาบหักเคลื่อนโคจรฉับไว สังหารคู่ต่อสู้สามคน หากไม่ใช่เพราะเสวียนจิงเบี่ยงหลบอย่างรวดเร็วก็คงประสบเคราะห์ไปแล้ว
ภาพนี้สะเทือนจิตใจทุกคนอย่างที่สุด เพียงชั่วขณะเท่านั้นชายหนุ่มชุดเงินถูกฆ่าก่อนเป็นคนแรก จากนั้นหลายคนที่ซุ่มโจมตีหลินสวิน นอกจากขโมยไก่ไม่ได้ยังเสียข้าวสารไปอีกกำมือ ถูกสังหารตายคาที่!
ทั้งหมดนี้เร็วเกินไปแล้ว ก็เห็นหยาดโลหิตแดงฉานร้อนระอุพวยพุ่ง พาให้ตำหนักแห่งนี้คละคลุ้งด้วยบรรยากาศคาวเลือดเข้มข้น
“อวิ๋นชิ่งไป๋! ขะ เขาน่ากลัวเหมือนอวิ๋นชิ่งไป๋!”
และยามนี้สือเจินทงก็ส่งเสียงร้องตกใจออกมาคราหนึ่งอย่างกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป หมุนตัวเผ่นหนีอุตลุด!
หลินสวินระเบิดอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่ออกมา ทำเอาจิตมารในใจสือเจินทงแพร่ขยาย นึกถึงภาพต่างๆ ยามถูกอวิ๋นชิ่งไป๋กำราบ จิตต่อสู้ที่สั่นคลอนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพังทลายอย่างสิ้นเชิง
เขาหหนีแล้ว ไม่รักษาหน้าใดๆ แล้ว
“ทุเรศ!”
“ขายขี้หน้า!”
ผู้แข็งแกร่งคนอื่นเห็นเช่นนี้ต่างทั้งตกใจทั้งเดือดดาล
พูดตามตรงตอนที่เห็นสัตว์ประหลาดยุคโบราณอย่างสือเจินทงถึงกับผวาจนหนีเตลิด หลินสวินเองก็อดแปลกใจน้อยๆ ไม่ได้
เพียงแต่เมื่อได้ยินคำพูดของสือเจินทงที่เอาเขาไปเปรียบเทียบกับอวิ๋นชิ่งไป๋แล้ว กลับทำให้หลินสวินผุดความรู้สึกต่อต้านอย่างบอกไม่ถูกแวบหนึ่ง
ยังไม่พูดถึงระดับสูงต่ำของพลังต่อสู้ อวิ๋นชิ่งไป๋ก็เป็นแค่โจรต่ำช้าคนหนึ่งเท่านั้น มีคุณสมบัติอะไรมาเทียบกับตน
และเวลานี้เอง หลินสวินฉุกคิดได้ว่าพวกอูหลิงเฟยและผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ อีกหลายคนจะฉวยโอกาสนี้ โจนไปทางเจ้าคางคกกับอาหลู่!
“รนหาที่ตาย!”
นัยน์ตาดำของหลินสวินสาดแสงศักดิ์สิทธิ์ชวนสยองออกมา
……………….
Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1143 สัตว์ประหลาดยุคโบราณที่ตกใจสุดขีด
Posted by ? Views, Released on November 7, 2021
, Battling Records of the Chosen One
Type: Web Novel Author: Xiao Jinyu, 萧瑾瑜
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…
In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history.
In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing.
Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned.
Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?
Recommended Series
Comment
Facebook Comment