Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1332 นี่คือการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าหรือ

เทพธิดารั่วอู่อยู่ในชุดกระโปรงสีแดงเพลิง ผิวขาวราวกับหิมะ เงาร่างสูงเพรียวที่โดดเด่นถูกล้อมรอบด้วยเปลงเพลิงอันงดงามและพร่าเลือนมากมาย
นางเป็นทายาทวิหคชาด พรสวรรค์ยอดเยี่ยม น่าทึ่งอย่างที่สุด เป็นผู้กล้าหญิงแห่งยุคที่ผู้คนในแดนเก้าบนจับตามอง ราวกับเทพธิดาอันที่เป็นเคารพของผู้แข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วน
อุปนิสัยของนางกลับเย็นชาอย่างมาก ไปมาอย่างอิสระเพียงลำพัง
เพียงแต่ไม่มีใครคาดคิดว่า ตอนนี้นางถึงกับเลือกคู่ต่อสู้ที่ทุกคนคิดไม่ถึง
“สหายยุทธ์หลินสวิน เชิญ”
เทพธิดารั่วอู่ยืนตระหง่านอยู่ในสนามประลอง ไม่สนใจสายตาแปลกประหลาดรอบข้างเลยสักนิด เพียงเคลื่อนนัยน์ตาสุกใสเป็นประกายมองไปทางหลินสวินเพียงผู้เดียว
สายตามากมายก็ล้วนมองไปที่หลินสวิน ต่างอดสงสัยไม่ได้ว่าหรือเทพมารหลินเคยมีเรื่องบาดหมางกับเทพธิดารั่วอู่
มิฉะนั้นเหตุใดนางจึงไม่เลือกคนอื่น แต่เจาะจงเลือกหลินสวิน
นี่เสี่ยงเกินไปแล้ว ไม่ว่าใครที่เลือกหลินสวินเป็นคู่ต่อสู้ เกรงว่าต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาล การกระทำเช่นนี้ดูไม่ฉลาดนัก
แต่เทพธิดารั่วอู่ดันทำเช่นนี้ นี่ต่างหากที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจและตกตะลึง
“เอ๋ พี่ใหญ่เสน่ห์แรงถึงขั้นนี้แล้วหรือ”
อาหลู่สีหน้าคลุมเครือเต็มประดา
“หึ ข้ายอมรับแค่แม่นางจ้าว พี่สะใภ้ของข้าก็มีเพียงแม่นางจ้าวคนเดียวเท่านั้น”
เจ้าคางคกแค่นเสียงเย็นเยียบ
จ้าวจิ่งเซวียนที่อยู่ข้างๆ หน้าแดง เหลือบมองเจ้าคางคกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยไอสังหารปราดหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไม่เหมาะสม นางก็อยากเตะเจ้าคางคกให้ตายเสียเดี๋ยวนี้
“พวกเจ้าน่ะเด็กเกินไป ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันผู้ชายหลายเมียก็เป็นเรื่องปกติมากมิใช่หรือ ข้าสนับสนุนให้หลินสวินไปโปรยเสน่ห์ ดื่มด่ำความสุขสำราญ นั่นถึงจะเรียกว่าอิสระที่แท้จริง เป็นต้นแบบของคนรุ่นเรา”
นกทมิฬส่ายหน้าไปมา
ปัง!
หลินสวินสะบัดฝ่ามือใส่ศีรษะมัน เจ้าหมอนี่รนหาที่ตายจริงๆ ไม่เห็นหรือว่าสีหน้าของจ้าวจิ่งเซวียนดำมืดเป็นก้นหม้อแล้ว
จากนั้นหลินสวินก็เดินเข้าสนามไป
แม้เขาเองก็ประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ย่อมไม่กลัวการต่อสู้
“ข้าอยากดูนักว่าเขาจะไว้ไมตรีหรือไม่”
ด้านหลังเสียงของจ้าวจิ่งเซวียนดังมาด้วยความสงสัย
หลินสวินเพียงรู้สึกเสียวสันหลัง ในใจหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ เขากระทำการอย่างตรงไปตรงมา จะกลัวเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร!?
พอหลินสวินเข้าสู่สนาม ทุกสายตาต่างหันขวับมาโดยพร้อมเพรียงกัน ในใจเต็มไปด้วยความคาดหวัง
คนหนึ่งคือผู้กล้าหญิงแห่งยุคที่อยู่ในอันดับสองของกระดานทองคำผู้กล้า
อีกคนหนึ่งคือเทพมารไร้พ่ายที่เคยเอาชนะอวิ๋นชิ่งไป๋
ระหว่างทั้งสองจะเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดเพียงใด
“เชิญ”
ในสนามสีหน้าของหลินสวินนิ่งสงบ พลังขับเคลื่อนรอบตัวโคจรออกมา
“ไม่ว่าจะได้รับอริยะนำพาหรือไม่ ได้สู้กับพี่หลินสักสนามก็เป็นความปรารถนาของข้ามาโดยตลอด หวังว่าพี่หลินจะไม่ออมมือ”
ฝั่งตรงข้ามเสียงของเทพธิดารั่วอู่สดใสชัดเจน ดังราวกับเสียงน้ำหยด ก้องอยู่ในสนาม
ผมยาวของนางพลิ้วไหว รูปลักษณ์งดงามไร้ที่ติ ในฐานะทายาทวิหคชาดย่อมมีความสง่าไร้เทียมทานอันเป็นเอกลักษณ์แต่กำเนิด
หลินสวินยิ้มน้อยๆ “ได้”
“แม่นางจ้าวเจ้าดู พี่ใหญ่กับผู้หญิงคนนั้นยักคิ้วหลิ่วตากัน ต่อไปเจ้าต้องคุมให้ดี อย่าให้เขาเหิมเกริมเกินไป!”
เจ้าคางคกรีบพูด
จ้าวจิ่งเซวียนพูดอย่างไม่อภิรมย์ “เจ้ารีบหุบปากซะ!”
“ดูสิ โกรธแล้วใช่ไหม ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเองก็ขัดหูขัดตา น่าเสียดาย น้องชายอย่างข้าไม่สามารถไปคุมพี่ใหญ่ได้ มิฉะนั้นต้องออกหน้าแทนเจ้าอย่างแน่นอน”
เจ้าคางคกถอนหายใจกล่าว
จ้าวจิ่งเซวียนรู้สึกเพียงเดือดดาลจนกัดฟัน ถึงขั้นอยากจะบีบเจ้าหมอนี่ให้ตาย การต่อสู้กำลังจะปะทุขึ้นแล้ว ควรหยุดสักครู่ไหม
ในสนามการต่อสู้ปะทุขึ้น
เงาร่างของเทพธิดารั่วอู่คล่องแคล่ว แต่อานุภาพราวกับเพลิงที่ลุกโชน มือหยกเรียวยาวลูบเบาๆ คราหนึ่ง ละอองแสงงดงามก็แปรเปลี่ยนเป็นแส้ยาวเส้นหนึ่งฟาดฟันลงมา
เพี๊ยะ!
ห้วงอากาศดุจกระดาษเปื่อย ระเบิดแหลกละเอียดโดยพลัน ไม่สามารถแบกรับพลังกฎเกณฑ์ของแส้ได้เลยสักนิด
พลังที่แข็งแกร่งรุนแรงอย่างที่สุดนั่นทำให้ผู้แข็งแกร่งไม่น้อยหัวใจเต้นระทึก อดสูดหายใจเย็นเยียบไม่ได้
หลินสวินก้าวขึ้นหน้า ไม่ถอยไม่หลบ กำหมัดเข้าปะทะอย่างจัง
ปัง!
เสียงปะทะสะเทือนหูดังก้องขึ้น ก็เห็นแส้ยาวที่ควบรวมจากวิชามรรค ดุจดั่งสายฟ้าร่ายระบำบ้าคลั่ง ยืดหยุ่นเปล่งประประกายสายนั้น เปลี่ยนเป็นเงาแส้หลายวงมัดตัวหลินสวินเอาไว้ทันใด
ในที่นั้นเกิดเสียงอุทานตกใจดังขึ้นระลอกหนึ่ง
“ไม่เลว!”
กลับเห็นเงาร่างของหลินสวินขยายออก เงาแส้แต่ละวงที่มัดไว้บนตัวพลันระเบิดออกทีละชุ่น ไม่สามารถพันธนาการการเคลื่อนไหวของเขาได้สักนิด
ตูม!
ในเวลาเดียวกันเขาสะบัดหมัดออกไป พลังหมัดกระจายเป็นวงกว้าง เรียบง่ายทรงพลัง เขย่าฟ้าสะเทือนดิน ปั่นป่วนเมฆลม พุ่งคำรามออกไป
ชั่วพริบตาเท่านั้นทั้งสองประลองกันมากกว่าร้อยครั้งแล้ว คนหนึ่งเงาร่างโค้งงอน่าเกรงขามราวกับวิหคชาด พลิ้วไหวอยู่บนเก้าชั้นฟ้า อีกคนหนึ่งดุจเทพมารมาเยือน เยื้องย่างพาดขวาง สำแดงการต่อสู้ชั้นยอด
นอกสนามเสียงอุทานอย่างตกใจดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย เหล่าผู้กล้าต่างจิตใจปั่นป่วน จับตามองอย่างไม่คลาดสายตา กลัวจะพลาดรายละเอียดจุดใดจุดหนึ่ง
แม้แต่บุคคลเช่นองค์ชายเซ่าเฮ่าก็ยังชมการต่อสู้อย่างตั้งใจ
“แม่นางรั่วอู่ หากยังไม่ใช้พลังทั้งหมดอีก การต่อสู้ครั้งนี้เจ้าแพ้แน่”
ในสนามเสียงกังวานของหลินสวินดังขึ้น ก็เห็นทั่วร่างเขาเปล่งแสงอร่าม แสงมรรคไหลเวียน ผมยาวทั้งศีรษะพลิ้วไหว อานุภาพดุจสายรุ้ง ผงาดผยองอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
แม้เคยเห็นท่าทางตอนหลินสวินสังหารอวิ๋นชิ่งไป๋แล้ว แต่ตอนนี้พอเห็นเขาโจมตีอีกครั้ง ก็ยังคงทำให้เหล่าผู้กล้าในที่นั้นรู้สึกตะลึงและใจสั่นอย่างที่สุด
ต้องยอมรับว่าเทพมารหลินแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!
“วิชาแผดเผาโลก!”
ก็เห็นสีหน้าของเทพธิดารั่วอู่ปรากฏความเคร่งขรึมเสี้ยวหนึ่ง และรอบตัวนางกลับมีวงแหวนเทพเปลวเพลิงสายหนึ่งปรากฏออกมา
วงแหวนเทพนั่นกลมมนและศักดิ์สิทธิ์ ภายในซุกซ่อนจักรวรรดิเพลิงแห่งหนึ่ง เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์แวววาวที่เป็นประกายราวกับแสงบินมากมายแผดเผาพลุ่งพล่านอยู่ภายใน ดุจดั่งสุริยันดวงหนึ่งปรากฏ เสมือนสามารถแผดเผาท้องฟ้าได้!
“วิชามรรคพรสวรรค์ของเผ่าวิหคชาด!”
ในที่นั้นเหล่าผู้กล้าต่างหวั่นไหว ใจสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่
ลือกันว่าในสมัยบรรพกาลเคยมีราชันอริยะวิหคชาดคนหนึ่งใช้วิชานี้เผาทำลายภูผาธาราแสนลี้ ทำให้มหาสมุทรกว้างใหญ่ไพศาลระเหยไปในชั่วพริบตา กลายเป็นพื้นดินที่แห้งแตก!
และตอนนี้วิชามรรคนี้ถูกเทพธิดารั่วอู่สำแดงออกมา!
ตูม!
ในสนามประลองชั้นยอดที่กว้างใหญ่ไพศาลอย่างที่สุด วงแหวนเทพดุงดั่งสุริยัน เปลวเพลิงไหลพุ่งประหนึ่งมหาสมุทร ปกคลุมฟ้าดินแถบนั้น เทพธิดารั่วอู่ที่ยืนตระหง่านอยู่ภายในราวกับเทพไท้ในกองเพลิงมาเยือนโลก
การโจมตีที่เผด็จการอย่างที่สุดนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งหลายคนหนาวเยือกในใจ เบื้องหน้าสายตาเจ็บแปลบ ตกใจจนวิญญาณเกือบออกจากร่าง
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
เปลี่ยนเป็นพวกเขาไปอยู่ในสนามคงถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน ร่างกายจิตวิญาณแหลกสลายในชั่วพริบตา!
“เขา… จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
จ้าวจิ่งเซวียนกังวลขึ้นมา หัวใจแขวนลอยสูง หลังนางตื่นจากการหลับใหลก็รู้แค่ว่าหลินสวินต่างจากในอดีต แข็งแกร่งอย่างมาก
แต่ตอนนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการต่อสู้ดุเดือดของบุคคลแห่งยุคอย่างเขากับรั่วอู่
เห็นภาพนี้ จะไม่กังวลได้อย่างไร
เจ้าคางคกประหลาดใจอยู่บ้าง มองจ้าวจิ่งเซวียนด้วยสีหน้าพิกลเต็มประดา เอ่ยว่า “สมัยก่อนเจ้านิ่งสงบที่สุด เชื่อมั่นในความสามารถของพี่ใหญ่อย่างสุดจิตสุดใจ เหตุใดตอนนี้จู่ๆ จึงดูวิตกกังวลขึ้นมา”
“ผู้หญิงที่ตกอยู่ในห้วงความรักก็ล้วนประสาทผิดเพี้ยนกันทั้งนั้น ปกติ” อาหลู่ที่อยู่ข้างๆ วิจารณ์
จ้าวจิ่งเซวียนเก้อเขิน ใบหน้างามร้อนผ่าว ยกเท้าขึ้นเตะสองคนนั้นคนละที
และก็ตอนนี้เองที่เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นระลอกหนึ่ง พลันเห็นว่าในสนามประลองชั้นยอดที่ถูกคลื่นเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมนั่น เงาร่างของหลินสวินกลับเหมือนก้อนหินที่ไม่อาจเคลื่อนย้ายตลอดกาล เพลิงน้ำไม่อาจแทรกซึม หมื่นวิชาไม่อาจทำลาย!
ตูม!
คลื่นเพลิง แสงมรรค พลังกฎเกณฑ์ไหลพุ่ง น่ากลัวระดับใด เพียงพอจะแผดฟ้าเผาดิน แต่กลับไม่สามารถเข้าใกล้หลินสวินได้เลย
อีกทั้งรอบตัวเขามีหุบเหวขนาดใหญ่ผุดขึ้นผุดลง ตอนที่พลังทุกอย่างพุ่งเข้ามา ล้วนถูกกลืนกินและดับทำลายจนไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว!
“หุบเหวกลืนกิน…”
องค์ชายเซ่าเฮ่าถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง
พรสวรรค์ระดับนี้ เขาจะไม่เคยได้ยินได้อย่างไร
น่าเสียหาย เขาเพียงแค่เคยได้ยิน ส่วนแข็งแกร่งเพียงไรนั้นกลับไม่สามารถบอกได้
เพราะในสมัยบรรพกาลพรสวรรค์นี้ก็เหมือนข่าวลือที่แผ่วบาง ลึกลับอย่างที่สุด แทบไม่เคยปรากฏ!
“ระบำเพลิงลำแสง!”
ในสนามเทพธิดารั่วอู่ตวาดเสียงใส เงาร่างถูกแสงสว่างไร้สิ้นสุดปกคลุม เปลวเพลิงหลากสายดุจลำแสงสาดพรมออกมา
นี่คือไพ่ไม้ตายก้นกรุของนาง น้อยมากที่จะเรียกใช้ หากไม่สามารถทลายการป้องกันของหลินสวินได้ นางก็ทำได้เพียงยอมแพ้
ครืนโครมๆ
ในสนามลำแสงสาดพุ่ง ราวกับวิญญาณเทพเปลวเพลิงพันหมื่นสายกำลังบุกโจมตี อานุภาพที่น่ากลัวไร้ขอบเขตระดับนั้นทำให้ฟ้าดินมืดสลัว เหมือนกับถูกแผดเผาอย่างสิ้นเชิงอย่างไรอย่างนั้น
“ที่แท้ฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของนางคือการโจมตีนี้…”
บุคคลชั้นยอดแห่งยุคหลายคนใจสะท้าน
ในบรรดาพวกเขามีคนที่เคยดวลกับเทพธิดารั่วอู่ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นการโจมตีที่เผด็จการครอบงำจักรวาลระดับนี้ของเทพธิดารั่วอู่
“ดี!”
ทันใดนั้นหลินสวินส่งเสียงคำรามยาว เสียงสะเทือนทั้งสนาม
มองจากไกลๆ ก็เห็นทั้งตัวเขาราวกับหุบเหวใหญ่ ปรากฏขึ้นกลางฟ้าดิน ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต ลึกล้ำไม่อาจหยั่ง กลืนกินสิบทิศ!
ผู้แข็งแกร่งส่วนหนึ่งแทบเผลอกัดลิ้น เพราะในการรับรู้ของพวกเขา หุบเหวนั่นเหมือนกำลังกลืนกินฟ้าดินจริงๆ
หลังจากการปะทะที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินครั้งนี้ ผู้ชมส่วนหนึ่งจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อึ้งงันอยู่กับที่
และบุคคลอย่างพวกเซ่าเฮ่า เย่หมัวเฮอ หมีเหิงเจิน ต่างเผยสีหน้าประหลาดใจโดยพร้อมเพรียง นัยน์ตาหดรัด หว่างคิ้วปรากฏความสะท้านสะเทือนที่ไม่อาจควบคุมได้
เพราะรั่วอู่แพ้แล้ว!
ในการประลองที่แข็งแกร่งที่สุดนี้ ไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของนางก็เหมือนดั่งใบไม้แห้งกลางสายลม ถูกหลินสวินบดขยี้และทำลายอย่างง่ายดาย
นางใบหน้าซีดเซียวไปหมด เงาร่างซวนเซเกือบจะร่วงลงจากกลางอากาศ
มองกลับไปที่หลินสวิน ทั้งร่างราวกับกระจก ใสสะอาดปราศจากมลทิน ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!
“พี่หลิน นี่… คือการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าหรือ”
เงียบไปนานเทพธิดารั่วอู่สูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง มองหลินสวินที่อยู่ตรงข้ามห่างออกไป ถามด้วยสีหน้าจริงจัง
หลินสวินส่ายหน้า
ร่างของเทพธิดารั่วอู่สะท้านเบาๆ คราหนึ่ง ใบหน้าที่งดงามซีดเซียวปรากฏแววฝาดเฝื่อน เอ่ยว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณพี่หลินที่ออมมือ”
พูดจบเงาร่างของนางก็พริบไหว เคลื่อนออกจากสนามประลอง
และตอนนี้ในที่นั้นเงียบสนิทไร้สุ้มเสียงทั้งแถบ ในใจทุกคนล้วนมีคลื่นอารมณ์ปั่นป่วนพลิกตลบ
การโจมตีครั้งสุดท้ายนี้ ถึงกับยังไม่ใช่กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของหลินสวินหรือ
นี่ไม่ใช่หมายความว่าเขายังมีพลังที่ยังไม่เคยสำแดงออกมาหรอกหรือ
ความหมายที่ซ่อนอยู่นี้ น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ห่างออกไปจ้าวจิ่งเซวียนราวกับยกภูเขาออกจากอก เผยรอยยิ้มที่ผ่อนคลายและดีใจ ในดวงตาที่สดใสเป็นประกายเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แวววับราวกับคลื่น
เจ้าหมอนี่… ยังร้ายกาจเหมือนในอดีตไม่เปลี่ยน
“ดีงามมากใช่ไหม”
อาหลู่กับเจ้าคางคกยื่นหน้ามาพร้อมกัน
รอยยิ้มตรงมุมปากของจ้าวจิ่งเซวียนชะงักไป ในใจมีแรงกระตุ้นที่บอกไม่ถูกอย่างหนึ่ง ว่าควรแนะนำให้หลินสวินตัดความสัมพันธ์กับเจ้าสองคนนี้หรือไม่
——
Related

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

Type: Author: ,
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset