Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1377 เริ่มสะสางบัญชี

ตุบ! ตุบ!

เสียงที่หนาหนักทุ้มลึกดังขึ้น ในบรรดาคนชั้นนำตระกูลจั่ว คนที่พลังปราณสูงสุดมีปราณระดับกึ่งราชัน คนที่พลังปราณต่ำที่สุดก็เป็นมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติ

แต่ตอนนี้ต่างพากันคุกเข่าลง!

เสียงที่ต่ำหนักนั่นล้วนเป็นเสียงเข่ากระแทกพื้น

ครืนโครม

เวลาเดียวกันนั้นในห้องโถงหรูหราทองระยับ โต๊ะ ถ้วยชา ของตกแต่งล้วนแตกระเบิดกลายเป็นฝุ่นผง

ส่วนสาวใช้และผู้ติดตามเหล่านั้นต่างถูกสะเทือนจนสลบ เลือดออกเจ็ดทวาร

และนี่ ก็คืออานุภาพที่แผ่ออกจากตัวหลินสวิน อานุภาพของมกุฎราชันระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ดที่ฟันฝ่าออกมาท่ามกลางภูเขาศพทะเลเลือด!

พริบตานี้ หลินสวินยืนอยู่ในห้องโถงเพียงลำพัง ราวกับเทพที่มองลงมายังฝูงชนอย่างเย่อหยิ่ง

พริบตานี้ พวกจั่วเวยไห่ จั่วปู้กู่ต่างหน้าซีด ในใจสะท้านสะเทือน ถูกความกลัวกลบมิดทั้งนอกและใน

ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจอย่างสิ้นเชิงแล้วว่า เหตุใดหลินสวินจึงกล้าขึ้นเขามาเพียงลำพัง!

เพียงแต่…

พวกเขาคล้ายยากจะเชื่อ

ตอนนั้นเด็กนี่เป็นเพียงมหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะเท่านั้น เหตุใดเพียงสิบกว่าปีก็เปลี่ยนเป็นน่ากลัวขนาดนี้แล้ว

พลังของเขาถึงขั้นไหนแล้ว

ระดับราชัน?

หรือว่าจะสูงกว่า

พวกเขาดูไม่ออก ต่างตัวสั่นระริก เศร้ารันทดราวกับสูญเสียบุพการี

ก่อนหน้านี้ที่นี่เหลืองอร่ามระยิบระยับ เสียงหัวเราะไม่ขาดสาย คึกคักครื้นเครง ในฐานะผู้ปกครองตระกูลจั่ว พวกเขากำลังหารือกันว่าจะบีบให้ตระกูลหลินไปสู่ความตายอย่างไร มั่นใจเต็มเปี่ยม

แต่ตอนนี้…

เพียงเพราะการปรากฏตัวของหลินสวินคนเดียว ก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป!

“อย่างข้า พอหรือไม่”

แววตาหลินสวินกระจ่างชัด ไร้ซึ่งอารมณ์

ประโยคเดียวทำเอาบรรยากาศในโถงยิ่งกดดัน พาให้คนรู้สึกหายใจไม่ออก

เพียงแค่อานุภาพก็กดดันจนพวกเขาลุกไม่ขึ้น ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขัดขืน ถ้าลงมือจริงๆ ใครจะสามารถสู้ได้

“ช่างกล้านัก ข้าอยากเห็นยิ่งว่าในจักรวรรดินี้ใครกล้ามาก่อเรื่องถึงตระกูลจั่วของข้าเช่นนี้!”

ทันใดนั้นเสียงตะคอกหนึ่งดังขึ้น

พร้อมกับเสียงนั้นเงาร่างกลุ่มหนึ่งโฉบเข้าโถง มีมากถึงเจ็ดแปดคน ทั้งชายชราที่เผ้าผมหนวดเคราขาวโพลน หญิงชราที่ท่าทางงกเงิ่น ชายที่หน้าตาราวกับคนหนุ่ม…

แต่ละคนล้วนแผ่อานุภาพของผู้แข็งแกร่งระดับราชัน!

โดยเฉพาะชายที่เป็นผู้นำ อานุภาพแข็งแกร่งที่สุด

ผมดำของเขาราวกับหมึก เรือนกายผึ่งผายราวกับภูเขาที่สูงใหญ่ ยามเมื่อกะพริบตามีประกายศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่าน

นี่คือสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันที่ถูกเรียกว่า ‘เสาเทพค้ำสมุทร’ คนหนึ่งของตระกูลจั่ว นามว่าจั่วเฉิน ก้าวสู่มรรคาอมตะตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว

เช่นเดียวกัน จั่วเฉินก็เป็นเสาหลักของตระกูลจั่ว เพราะมีเขาควบคุมดูแล จึงทำให้ตระกูลจั่วสามารถอยู่ในหมู่ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงมาโดยตลอด ไม่ถูกสั่นคลอนจนถึงตอนนี้!

เจ็ดคนที่อยู่ด้านหลังจั่วเฉินแต่ละคนล้วนไม่ธรรมดา มักปิดด่านฝึกปราณ หากไม่ประสบเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายก็ไม่มีทางปรากฏตัว

แต่ตอนนี้พวกเขามาพร้อมกับจั่วเฉิน!

เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ที่โถงใหญ่ดึงดูดความสนใจจากพวกเขา

“ผู้อาวุโส!”

บนพื้น พวกจั่วเวยไห่ส่งเสียงอย่างเศร้าโศกปนขึ้งโกรธ หลายคนดีใจจนร้องไห้ราวกับได้เจอดาวช่วยชีวิต

“ช่างกล้าดีจริงๆ!”

ทันทีที่พวกจั่วเฉินมาถึงและมองเห็นสภาพยุ่งเหยิงอึมครึมนั้น ล้วนสีหน้ามืดทะมึน นัยน์ตาเผยไอสังหาร สายตาพากันมองไปยังหลินสวินซึ่งยืนอยู่กลางโถง

‘ผู้อาวุโส เจ้าหมอนี่คือ…’

จั่วเวยไห่รีบสื่อจิต รายงานฐานะของหลินสวินอย่างละเอียด

พอรู้ฐานะของหลินสวิน พวกจั่วเฉินเองก็อดประหลาดใจไม่ได้ สายตาที่มองหลินสวินเปลี่ยนไปอีกครั้ง ราวกับยากจะเชื่อ

เด็กหนุ่มที่เมื่อสิบกว่าปีก่อนมีพลังปราณระดับหยั่งสัจจะเท่านั้น ตอนนี้กลับผงาดขึ้นมากลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่ก้าวสู่ระดับราชันแล้วหรือ

นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปอย่างเห็นได้ชัด!

“มากันครบแล้วหรือ ก็ดี ถึงเวลาเข้าเรื่องแล้ว”

ตอนนี้เองหลินสวินพลันเอ่ยปาก ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่รีบลงมือก็เพราะรอเวลานี้

หากไม่กำจัดพลังที่แท้จริงของตระกูลจั่ว ย่อมไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่จะลบชื่อของตระกูลจั่วไปจากนครต้องห้าม!

“หลินสวิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่”

จั่วเฉินสีหน้าอึมครึม ในใจเขาเองประหลาดใจเล็กน้อย เพราะไม่ว่าเขาจะสัมผัสอย่างไร ก็ไม่สามารถดูออกว่าพลังปราณของหลินสวินอยู่ในระดับไหนกันแน่

นี่มีเพียงสองความเป็นไปได้

หนึ่งคือพลังปราณของหลินสวินในตอนนี้สูงกว่าเขามาก

สองคือหลินสวินมีวิชาลับ สามารถปิดบังกลิ่นอายของพลังรอบตัว

แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ทำให้จั่วเฉินรู้สึกไม่ปลอดภัย

หากไม่เป็นเช่นนี้ ตอนที่เห็นแต่ละภาพในห้องโถง จั่วเฉินคงลงมือทันทีโดยไม่สนอะไรแล้ว!

“ข้ากำลังแก้แค้น มีอะไรไม่ถูกต้องเล่า”

หลินสวินยิ้มน้อยๆ

เผชิญหน้ากับระดับราชันกลุ่มหนึ่งแต่ยังคงสงบเช่นนี้ นี่ทำให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยในใจจั่วเฉินทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

“แก้แค้นหรือ ข้าว่าเจ้าเบื่อจะมีชีวิตแล้วมากกว่า!”

ทันใดนั้นระดับราชันคนหนึ่งตวาดเสียงเย็นอย่างอดไม่ได้

นี่คือหญิงชราคนหนึ่ง ในมือถือไม้เท้าอสรพิษเขียว พอเห็นว่าคนนอกอย่างหลินสวินกล้ามาอวดดีเช่นนี้ในอาณาเขตของบ้านตน ทำให้นางโทสะพวยพุ่ง ไอสังหารพลุ่งพล่าน

“หนวกหู”

ริมฝีปากหลินสวินเอ่ยออกมาเบาๆ สองคำ แปรเปลี่ยนเป็นนัยเร้นลับแห่งเสียงคำรามผูเหลาอย่างหนึ่งกระจายออกไป

ราวกับคำสั่งเด็ดขาด

ปึง!

ก็เห็นหญิงชราคนนั้นสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ร่างกายโซเซถอยไปหลายก้าวอย่างควบคุมไม่อยู่ ดวงตาเบิกโพลง อ้าปากพยายามจะพูดอะไร

แต่สุดท้ายร่างกายของนางก็ทรุดล้มลงพื้น และในร่าง จิตวิญญาณได้ถูกสะเทือนจนสลายไปแล้ว!

จิตวิญญาณดุจโคมไฟ ไม่ดับก็คงอยู่ได้นิรันดร์

หากดับไป ก็มีแค่ตาย!

ในโถงบรรยากาศเปลี่ยนไปทันใด เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างจั่วเฉินสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในใจก็สะท้านขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่

คำสั้นๆ สองคำ สังหารราชันคนหนึ่งที่เหยียบย่างระดับอมตะเคราะห์ด่านหนึ่งได้หรือ

นี่น่ากลัวเกินไป!

เหล่าคนสำคัญอย่างพวกจั่วเวยไห่ จั่วปู้กู่ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นต่างตาค้าง ความยินดีในใจแต่เดิมถูกความสิ้นหวังที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดเข้าแทนที่

“ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ”

หลินสวินพูดเรียบๆ “ตระกูลจั่วที่ยิ่งใหญ่ เป็นถึงหนึ่งในเจ็ดตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูง คนที่กล้าสักหน่อยก็ไม่มีสักนิดเลยหรือ”

เสียงเจือความเย็นเยียบและเย้ยหยันอย่างบอกไม่ถูก

จั่วเฉินสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้

ด้านข้างชายที่งดงามราวกับคนหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกคราหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “หลินสวิน ตอนนี้จักรวรรดิมีทั้งศึกในและศึกนอก ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องการให้ตระกูลจั่วของพวกเราออกแรง ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้จักความพอดี ไว้หน้าตระกูลจั่วของพวกเราสักครั้งเป็นอย่างไร”

“หน้าตระกูลจั่วของพวกเจ้าหรือ ขอโทษ ไม่มีค่าสักนิดในสายตาข้า”

หลินสวินพูดพร้อมสะบัดแขนเสื้อ

ตูม!

ชายที่หล่อเหล่าราวกับคนหนุ่มนั่นยังไม่ทันตอบสนอง ร่างกายก็แปรเปลี่ยนเป็นฝุ่นผงสาดกระจายเต็มพื้น

เพียงสะบัดแขนเสื้อ สังหารราชันอีกคน!

เหตุการณ์ที่น่ากลัวนี้สะท้านใจทุกคนในห้องโถงอีกครั้ง

แม้เป็นสภาวะจิตระดับจั่วเฉินยังสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างอดไม่ได้ พูดเสียงหลง “เจ้า… มีพลังปราณระดับใดกันแน่”

เขาดูไม่ออก!

ความน่ากลัวของพลังที่หลินสวินสำแดงออกมา เหนือจินตนาการที่เขามีอย่างสิ้นเชิง

นี่จะสู้อย่างไร

ไม่แน่ว่าตระกูลจั่วในวันนี้ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะถูกทำลายล้างเช่นนี้!

คิดถึงตรงนี้หัวใจของจั่วเฉินเองก็จมดิ่ง เขามีหรือจะคาดคิดถึง ว่าคนหนุ่มที่จากไปแล้วสิบกว่าปี พอกลับมาอีกครั้งจะน่ากลัวขึ้นขนาดนี้

“ตระกูลจั่วของข้าขอยอมแพ้!”

จั่วเฉินตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวโดยไม่ลังเล “หลินสวิน ขอเพียงเจ้าปล่อยตระกูลจั่วของเราไปสักครั้ง ไม่ว่าเจ้าต้องการให้ชดเชยอะไร ตระกูลจั่วของพวกเราก็รับปากได้ทุกอย่าง”

เหนือความคาดหมาย หลินสวินพยักหน้าพูดอย่างตรงไปตรงมา “วันนี้ข้าเองก็จะไม่สังหารให้สิ้น แค่อยากให้พวกเจ้าเลือกเท่านั้น”

“เชิญพูด” ในใจจั่วเฉินเกิดความหวังเสี้ยวหนึ่ง

“ยกยอดเขาบ่อหยกให้ข้า ไสหัวออกจากนครต้องห้าม ส่งกำลังทั้งหมดของตระกูลจั่วไปสังหารศัตรูที่ชายแดนจักรวรรดิ ชาตนี้ทั้งชาติห้ามก้าวเข้านครต้องห้ามแม้แต่ครึ่งก้าว”

“นี่เป็นไปไม่ได้!”

จั่วเวยไห่ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นตะเบ็งเสียงอย่างเจ็บปวด นี่เป็นการบีบให้ตระกูลจั่วของพวกเขาไปตายชัดๆ จะรับปากได้อย่างไร

“ข้ายังพูดไม่จบ”

หลินสวินเอ่ยเรียบๆ “นอกจากเงื่อนไขที่กล่าวมาเมื่อกี้ คืนนี้เหล่าคนใหญ่คนโตของตระกูลจั่วอย่างพวกเจ้าล้วนต้องมอบศีรษะมา บัญชีนี้จึงจะถือว่าจบสิ้น”

เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น ทุกคนในห้องโถงต่างเดือดดาลอย่างสิ้นเชิง จะไม่เข้าใจได้อย่างไร นี่เห็นได้ชัดว่าหลินสวินตั้งใจว่าไม่ตายไม่หยุดมือ!

“นอกจากนี้ ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือ”

จั่วเฉินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง พยายามข่มกลั้นความโกรธในใจ

“ไม่มี”

หลินสวินตอบอย่างไม่ลังเลสักนิด

“ก็ได้ งั้นก็ให้คนชราอย่างข้าได้ขอคำชี้แนะสักหน่อย ว่าเจ้ามีความสามารถให้เอ่ยคำพูดนี้หรือไม่!”

ในดวงตาจั่วเฉินประกายศักดิ์สิทธิ์ตวัดวาบ อานุภาพรอบตัวพลันเปลี่ยนไป

“ระดับอมตะเคราะห์ด่านสามหรือ”

ริมฝีปากหลินสวินยิ้มหยัน “ของไร้ค่าอย่างเจ้า ข้าฆ่ามาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว พูดได้แค่ว่าเจ้าช่างไร้ความรู้”

ตูม!

จั่วเฉินไม่ได้พูดพร่ำทำเพลง ลงมือโดยตรง อีกทั้งยังใช้ไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุด

ก็เห็นประทับฝ่ามือที่ราวกับสุริยันดวงหนึ่งถูกจั่วเฉินกดออกไป แสงมรรคภายในกู่ก้อง สว่างไสวอย่างที่สุด

คนมากมายต่างตื่นเต้นขึ้นในตอนนี้

ผ่านมากี่ปีแล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นจั่วเฉินลงมือ ในใจอดคาดหวังไม่ได้ว่าเขาจะจับตัวหลินสวินได้ในคราเดียว กำจัดความเย่อหยิ่งของอีกฝ่าย

แต่เผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ หลินสวินยังคงสะบัดแขนเสื้อคราเดียวเท่านั้น

จากนั้นภายใต้สายตาที่จับจ้องอย่างเคร่งเครียดของทุกคน เสาหลักของตระกูลจั่วอย่างจั่วเฉินแปรเปลี่ยนเป็นฝุ่นผงในชั่วพริบตา

วิธีตายเหมือนชายหนุ่มงดงามเมื่อครู่นี้ไม่มีผิดเพี้ยน!

ทันใดนั้นทั้งโถงพลันอึ้งงัน

แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับราชันที่เหลืออยู่ของตระกูลจั่วพวกนั้น ก็ล้วนตระหนักได้อย่างสิ้นเชิงว่า พลังปราณของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า สูงจนถึงขั้นทำให้พวกเขาสิ้นหวังตั้งนานแล้ว!

บรรยากาศอันสิ้นหวังแผ่ขยายในโถงราวกับกระแสน้ำ

จั่วเวยไห่วิญญาณล่องลอย ในปากพึมพำ “นี่เป็นไปไม่ได้… เป็นไปไม่ได้…”

“บนโลกนี้ มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ควรจบได้แล้ว”

สิ้นเสียงของหลินสวิน ปราณกระบี่ที่พร่างพราวสายหนึ่งพุ่งออกจากร่างเขา

ฉัวะ!

เพียงแค่กวาดเบาๆ ครั้งเดียวเท่านั้น ในโถงก็เต็มไปด้วยศีรษะกลิ้งร่วง!

ไม่ว่าจะเป็นพวกจั่วเวยไห่ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น หรือสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันคนอื่นๆ ของตระกูลจั่ว ล้วนถูกตัดหัวภายใต้กระบี่นี้!

นี่ คือหนึ่งในปราณกระบี่ไท่เสวียนที่หลินสวินฟูมฟักเอาไว้

ความรุนแรงของคมกระบี่ ไม่สามารถเทียบได้!

ยามหลินสวินเดินออกจากโถงประชุมที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาบ่อหยก อันหมายความถึงอำนาจสูงสุดของตระกูลจั่ว ทะเลเพลิงท่วมฟ้าพวยพุ่งขึ้นมาพลัน กลืนกินทั้งตัวเรือนจนสิ้นซาก

หลินสวินเอามือไพล่หลัง ยืนอยู่หน้าทะเลเพลิง เสื้อผ้าปลิวไหว มองสีรัตติกาลไกลออกไป สีหน้านิ่งสงบเหมือนตอนที่เพิ่งมาถึงยอดเขาบ่อหยก

เพราะการสะสางบัญชีแค้นครั้งนี้เพิ่งจะเริ่มขึ้น!

——

Related

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset