Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1379 ไม่มีอะไรแน่นอน

เปลวเพลิงร้อนแรงกำลังลุกโชน

กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง บนภูเขาแสงมรกตเต็มไปด้วยภาพสยดสยองราวกับแดนนรก เสียงกรีดร้องโหยหวน เสียงตะโกนเดือดดาล เสียงร่ำไห้หาบุพการีดังก้องอย่างไม่ขาดสาย

นี่คือภาพอันนองเลือด

ตระกูลฉิน หนึ่งในเจ็ดตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงของจักรวรรดิประสบเคราะห์ในคืนนี้เช่นกัน!

หลินสวินยืนอยู่กลางอากาศ แววตาไม่ยินดีหรือเสียใจ

ความแค้นนี้ยืดเยื้อมานานเกินไป ครั้งนี้ เขาอยากจะจบมันโดยสมบูรณ์

ฟุ่บ!

เงาร่างของเขาไหวกะพริบ และหายไปในสีรัตติกาล

‘ตระกูลจั่วและฉินไม่มีความเป็นไปได้ที่จะลืมตาอ้าปากได้อีก แต่ยังมีผู้ช่วยเหลือเหล่านั้น… โทษตายหนีพ้น โทษเป็นยากจะหนี คืนนี้จะให้บทเรียนที่ยากจะลืมไปทั้งชีวิตกับพวกเจ้า!’

หลินสวินก้าวเดินกลางอากาศ ดวงตาดำเย็นเยียบ

จิตรับรู้ของเขาแผ่กว้างออกไปราวกับกระแสน้ำ ปกคลุมไปทั่วสี่ทิศแปดด้าน นครต้องห้ามอันยิ่งใหญ่ล้วนอยู่ในใจ

ก่อนมาพญาแร้งได้ให้รายชื่อฉบับหนึ่งกับหลินสวิน ในนั้นบันทึกขุมอำนาจอิทธิพลที่เคยช่วยเหลือเล่นงานตระกูลหลินในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้

และตอนนี้ รายชื่อฉบับนั้นลอยปรากฏในหัวหลินสวิน

‘เซวียเทียนเหรินผู้นำตระกูลเซวียนแห่งนครต้องห้ามคล้อยตามตระกูลฉิน ใช้คำสั่งทหารใบเดียวส่งผู้ชายสามร้อยคนของตระกูลหลินไปตายในสนามรบชายแดนเมื่อสามปีก่อน’

‘โหวไห่เจินผู้นำตระกูลโหวแห่งนครต้องห้ามคล้อยตามตระกูลจั่ว ทำร้ายผู้แข็งแกร่งมือฉมังหนึ่งร้อยห้าสิบสี่คนของตระกูลหลินในการต่อสู้กับสัตว์อสูรมารเมื่อแปดปีที่แล้ว’

‘หงซิ่งผู้นำตระกูลหงแห่งนครต้องห้าม บังคับชิงภูเขาแร่เก้าลูกของตระกูลหลินเมื่อหนึ่งปีก่อน’

‘ผู้นำตระกูล…’

ข้อมูลเกี่ยวกับศัตรูแต่ละข้อ รวมทั้งที่มาฐานะของพวกเขาล้วนแวบผ่านในหัวหลินสวิน

เหล่านี้ล้วนเป็นผู้สนับสนุน!

แต่หลินสวินคร้านจะไปสนใจว่าพวกเขาทำเรื่องอะไรไว้กับตระกูลหลินกันแน่

สำหรับเขา ในเมื่อเจ้ากล้าลงมือกับตระกูลหลิน ก็ต้องแบกรับการถูกแก้แค้น

คืนนี้ คือคืนแห่งการสังหาร!

เจ้ามองไม่เห็นหรือ เสือสิงโตล่าเหยื่อชื่อเสียงองอาจ แต่กวางอูฐที่น่าสงสารนั้นเคยมีใครสงสารหรือไม่

บนโลกนี้คนอ่อนแอตกเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่งแต่ไหนแต่ไรมา แม้มีเหตุผลแต่ก็เปล่าประโยชน์

และในใจหลินสวินมีความแค้น ตระกูลมีความแค้น ก็ย่อมต้องสังหาร สังหารให้พลิกฟ้าพลิกดิน สังหารจนศีรษะกลิ้งเต็มพื้น!

ย่อมสามารถสังหารจนขุมอำนาจใหญ่ทุกฝ่ายอกสั่นขวัญแขวน ไม่กล้าเป็นศัตรูกับตระกูลหลินอีกชั่วชีวิต!

สรุปแล้ว แม้คนทั้งโลกแค้นเคืองข้า ก็ไม่ยอมให้ไม่มีคนก่นด่าข้า!

……

เจ็ดสิบสองภูเขาแห่งอำนาจ แต่ละภูเขาล้วนมีขุมอำนาจใหญ่ครอบครอง ที่อ่อนแอที่สุดยังเป็นตระกูลทรงอิทธิพลชั้นกลาง

พวกเขาเป็นตัวแทนพลังที่ครองอำนาจสูงสุดของนครต้องห้ามในจักรวรรดิ อำนาจแผ่กระจายไปทั่วทั้งจักรวรรดิ ทำให้ประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนในจักรวรรดิทำได้เพียงแหงนมองด้วยความอิจฉา

ตระกูลเซวียแห่งนครต้องห้าม ก็เป็นหนึ่งในตระกูลทรงอิทธิพลชั้นกลางที่ครองตำแหน่งในนั้น

ยอดเขาเงาเมฆา

โถงตระกูลเซวีย

เซวียเทียนเหรินขมวดคิ้วแน่นพูด “เมื่อครู่นี้ข้าได้รับข่าว ว่ามีคนเห็นหลินสวินในนครต้องห้าม”

เหล่าคนชั้นสูงตระกูลเซวียกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันในโถงแล้ว ดึกขนาดนี้พวกเขาถูกเรียกว่ารวมตัว จึงต่างแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แต่ตอนที่ได้ยินคำว่า ‘หลินสวิน’ พวกเขาล้วนนัยน์ตาหดรัด ผู้นำภูเขาชำระจิตที่เคยชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งนครต้องห้ามคนนั้นกลับมาแล้ว?

“เป็นไปได้อย่างไร ข่าวทุกอย่างชี้ชัดว่าชั่วชีวิตนี้เด็กนั่นไม่มีทางกลับมาได้อีกแล้ว อีกอย่างถ้าหลินสวินกลับมา เหตุใดในนครต้องห้ามจึงไม่มีข่าวคราวเลย”

มีคนไม่เชื่อ โต้เถียงเย้ยหยัน

“ผู้นำตระกูล ท่านได้ยินใครพูดมากันแน่”

มีคนฉงนใจ

“เหอเยี่ยนชิวปรมาจารย์สลักวิญญาณแห่งภาคีนักสลักวิญญาณ”

เซวียเทียนเหรินพูด

“หึ ตาเฒ่าเหอเยี่ยนชิวคุยโวจนขึ้นชื่อ คำพูดของเขาก็เชื่อได้หรือ”

ทันใดนั้นหลายคนต่างหัวเราะเยาะออกมา

คิ้วที่ขมวดแน่นของเซวียเทียนเหรินก็ผ่อนคลายลง พอใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็เหมือนว่าตนจะตอบสนองรุนแรงเกินไป

ต่อให้หลินสวินกลับมาแล้วอย่างไร

ฟ้าถล่มลงมา ก็ยังมีตระกูลจั่วและฉินค้ำอยู่!

คิดถึงตรงนี้เซวียเทียนเหรินก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

ฟุ่บ

ปราณกระบี่ที่ราวกับห้อทะยานสานหนึ่งโฉบเข้าโถงและกรีดผ่านลำคอของเซวียเทียนเหริน เฉือนศีรษะใหญ่จนร่วงหล่น

บนศีรษะนั่นรอยยิ้มยังเปื้อนอยู่บนใบหน้า ดูสยดสยองอย่างที่สุด

ปราณกระบี่หายไปในชั่วพริบตา

ในโถงบรรยากาศเปลี่ยนเป็นเงียบกริบอย่างที่สุด เหล่าคนชั้นสูงของตระกูลเซวียต่างเบิกตาโพลง มองศีรษะผู้นำตระกูลอย่างเซวียเทียนเหรินหล่นร่วงลงพื้น สั่นเทิ้มไปทั้งตัว ในใจเกิดความหวาดกลัวไร้ขอบเขต

นี่… เกิดอะไรขึ้นกันแน่

……

ตระกูลโหวแห่งนครต้องห้าม

โหวไห่เจินผู้นำตระกูลโหวกำลังรอข่าวอยู่ เขาได้ส่งคนไปที่ตระกูลฉิน เพื่อหารือว่าหลังจากสิ้นตระกูลหลิน ตระกูลโหวของพวกเขาจะได้รับผลประโยชน์อะไร

แต่สุดท้ายเขากลับได้รับปราณกระบี่สายหนึ่งแทน

หนึ่งกระบี่ลงมาจากฟ้า ตัดศีรษะของเขาอย่างง่ายดาย!

……

ตระกูลหงแห่งนครต้องห้าม…

ในช่วงเวลาหลังจากนั้น ขุมอำนาจเล็กใหญ่ในนครต้องห้าม บุคคลระดับผู้นำที่ควบคุมอำนาจตระกูลแต่ละคนล้วนถูกตัดหัว

รวมแล้วเกี่ยวข้องกับสิบเก้าขุมอำนาจของนครต้องห้าม ในนั้นมีตระกูลทรงอิทธิพลชั้นกลางหกตระกูล ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นล่างสิบสามตระกูล

ขอแค่เป็นตระกูลที่เคยเล่นงานตระกูลหลินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลินสวินล้วนไม่ปล่อยไว้แม้แต่คนเดียว

จัดการทั้งหมดนี้เสร็จ ใช้เวลาเพียงหนึ่งเค่อเท่านั้น!

‘เหลือเพียงเก้าตระกูล…’

ภายใต้สีรัตติกาล หลินสวินเอามือไพล่หลัง เสื้อผ้าพลิ้วไหว ก้าวเดินกลางอากาศราวกับเซียนจุติลงมา เคลื่อนตัวไปไกล ไปมาไร้ร่องรอย

คืนนี้

กลับสู่หนทางมนุษย์ สังหารในโลกีย์!

……

ในเวลาเดียวกัน ข่าวที่ตระกูลจั่วและฉินสองตระกูลประสบเคราะห์ก็ราวกับภูเขาถล่มพายุซัดสาด แพร่กระจายในสีราตรีของนครต้องห้ามแห่งนี้ด้วยความไวที่น่าตกใจ

ตระกูลจั่วและฉิน ในฐานะสองตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงที่สะดุดตาที่สุดของนครต้องห้ามทยอยประสบมหันตภัย ข่าวนี้ปิดไม่อยู่แน่

สำหรับคนทั่วไปในนครต้องห้าม ยามราตรีนี้ไม่ต่างอะไรกับที่ผ่านมา

แต่สำหรับขุมอำนาจใหญ่ระดับสูงต่างๆ คืนนี้กลับสะท้านขวัญอย่างเห็นได้ชัด

ตระกูลฉือ

ในฐานะหนึ่งในตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงเช่นเดียวกัน แทบจะได้รับข่าวที่เกิดขึ้นกับตระกูลจั่วและฉินในค่ำคืนนี้ในทันที

เพล้ง!

ถ้วยชาในมือฉือหลิงเซียวหล่นร่วง แตกกระจายไปทั่ว

สีหน้าของเขาคล้ำเขียว นั่งอึ้งอยู่ตรงนั้น ครู่ใหญ่ยังไม่ได้สติกลับมา

ในฐานะผู้นำตระกูลฉือ ฉือหลิงเซียวเรียกได้ว่าสุขุมมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เขากลับเสียอาการขนาดนั้น

ด้านข้างใบหน้างามของฉือฉางเหมยเองก็ซีดเซียว สองตาเหม่อลอย

ทันทีที่ได้รับข่าวนางก็ตกใจจนหนังหัวชาวาบ เกือบจะสงสัยว่ากำลังฝันอยู่

“สังหารสองตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงจนเลือดไหลเป็นแม่น้ำด้วยตัวคนเดียว ตัดหัวสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันทีละคน…”

ครู่ใหญ่ฉือหลิงเซียวจึงพึมพำออกมา “นี่… คือเจ้าหนูแซ่หลินคนนั้นจริงๆ หรือ”

ในเสียงแฝงความสั่นสะเทือนที่ไม่สามารถควบคุมได้เสี้ยวหนึ่ง

“ท่านพ่อ ข่าวไม่ผิดแน่”

ฉือฉางเหมยพูดเสียงเบา

“คิดไม่ถึงว่าไม่เจอกันสิบกว่าปี เจ้าคนที่เหมือนมดปลวกคนหนึ่ง กลับผงาดกลายเป็นมังกร ปั่นป่วนคลื่นลมในนครต้องห้าม…”

อารมณ์ในใจฉือหลิงเซียวพลุ่งพล่านอย่างไม่สามารถควบคุมได้

แม้แต่ตระกูลจั่วและฉินยังถูกเหยียบย่ำแหลกสลายอย่างง่ายดายเช่นนั้น หากหลินสวินมาสังหารตระกูลฉือของพวกเขา… ใครจะขวางได้

คิดถึงตรงนี้ฉือหลิงเซียวก็ขนลุกซู่ พลันตะโกนว่า “เร็ว ตามผู้อาวุโสในตระกูลทุกคนมารวมตัวกัน!”

ฉือฉางเหมยถึงได้พบว่า บิดาแม้ภูเขาเทพถล่มตรงหน้าก็ไม่เปลี่ยนสีหน้า ก็มีเวลาที่ลนลานจนทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน…

ไม่นานเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันและบุคคลชั้นสูงของตระกูลฉือก็มารวมตัวกัน

หลังจากรู้เรื่องที่ตระกูลจั่วและฉินประสบ คนใหญ่คนโตเหล่านั้นต่างอึ้งไปตามๆ กัน ไม่สามารถสงบได้

ในโถงวุ่นวายอลม่านทั้งแถบ

ฉือฉางเหมยมองทุกอย่างนี้แล้วรู้สึกไม่สมจริงอย่างมาก ที่แท้คนใหญ่คนโตเหล่านี้ก็มีตอนที่หวาดกลัว กังวลและลนลานด้วยหรือ

แต่ความตะลึงทั้งหมดนี้ยังไม่จบ

ในช่วงเวลาหลังจากนั้น ทยอยมีข่าวกระจายมาอย่างไม่ขาดสาย

“อะไรนะ ผู้นำตระกูลเซวียถูกตัดหัวหรือ”

“แม้แต่ผู้นำตระกูลโหวก็ถูกฆ่าแล้วหรือ”

“ผู้นำตระกูลทรงอิทธิพลสิบเก้าตระกูล อย่างตระกูลหง ตระกูลฉู่ ตระกูลสวี ตระกูลเสวียน…. ล้วนถูกตัดหัวทั้งหมด?”

เริ่มแรกทุกคนในตระกูลฉือต่างสะท้านสะเทือนหนาวเยือกในใจ ถึงตอนท้ายล้วนสีหน้าอึ้งงันชาวาบ

บรรยากาศในโถงไม่วุ่นวายอีกต่อไป แต่เงียบกริบจนแปลกประหลาด ไร้สุ้มเสียง กดดันจนแทบหายใจไม่ออก

เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าต่างมือเท้าเย็นเฉียบ จิตวิญญาณหลุดลอย

เหล่าคนใหญ่คนโตตระกูลฉือที่ยิ่งใหญ่สูงส่งต่างหน้าซีด ขวัญหนีวิญญาณลอยล่อง

การช่วงชิงระหว่างขุมอำนาจในนครต้องห้ามย่อมมีกฎเกณฑ์ของมัน

ไม่ว่าจะแข่งขันกันอย่างไร ก็น้อยมากที่จะแตกหักกันจนถึงขั้นนองเลือด

เรื่องที่ไปเหยียบประตูภูเขาของสองตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงอย่างคืนนี้ สังหารผู้นำตระกูลทรงอิทธิพลเล็กใหญ่สิบกว่าคน ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

บ้าคลั่งเกินไปแล้ว!

ตัวคนเดียว สังหารมาตลอดทาง นี่จะสังหารทะลวงฟ้าหรือ

“พวกเรา… ทำอย่างไรดี”

ครู่ใหญ่ฉือหลิงเซียวถามเสียงแหบพร่า ทำลายความเงียบในโถง

ทุกคนมองหน้ากัน ต่างพูดไม่ออก

ใครก็รู้ว่าในหลายปีที่ผ่านมา ตระกูลจั่วกับฉินร่วมมือกันกดดันตระกูลหลินอย่างต่อเรื่อง ช่วงชิงอิทธิพลของตระกูลหลิน และช่วงที่ผ่านมายังมอบโทษ ‘ขายชาติ’ ใส่หัวตระกูลหลิน

เดิมทีหากไม่มีอะไรผิดคาด อีกไม่นานตระกูลหลินก็จะดับสิ้นแล้ว

แต่ตอนนี้ทุกอย่างล้วนพลิกผัน!

หลินสวินเพียงคนเดียวก็คลี่คลายสถานการณ์ยากลำบาก ก้าวเดียวเหยียบประตูภูเขาตระกูลจั่วและฉิน สังหารเหล่าราชัน ฆ่าฟันคนใหญ่คนโตของสองตระกูลจนเลือดไหลเป็นสายน้ำ

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ต่อให้ตระกูลจั่วกับฉินจะสามารถอยู่รอดต่อไปได้ ก็ต้องถูกลบชื่อออกจากนครต้องห้ามอย่างไม่ต้องสงสัย!

“หลายปีมานี้ตระกูลฉือของพวกเราไม่ได้เข้าร่วมเล่นงานตระกูลหลิน นับว่าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้”

มีคนพูดเสียงขรึม

“แต่อย่าลืมว่าระหว่างที่เจ้าหมอนั่นเดินทางมายังนครต้องห้ามเป็นครั้งแรก ตระกูลฉือของเราเคยส่งกำลังไปโจมตีเขาระหว่างทางตามคำสั่งองค์ชายเก้าจ้าวจิ่งเจิน แม้ว่าสุดท้ายจะล้มเหลว แต่อย่างไรก็เป็นการผูกแค้นกับเด็กนั่นแล้ว”

และมีคนกระวนกระวาย “หากเจ้าหมอนั่นผูกใจเจ็บเรื่องนี้ ตระกูลฉือของพวกเราก็คงจะถูกเขาหมายหัวด้วย!”

ประโยคเดียวทำเอาทุกคนหนาวเยือกในใจ

สุดท้ายฉือหลิงเซียวสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ตบโต๊ะตัดสินใจ “ไม่ว่าท่าทีของเด็กคนนี้จะเป็นอย่างไร ตระกูลฉือของเราก็ต้องแสดงความจริงใจให้มากพอ เพื่อคลี่คลายความแค้นในครั้งนั้น”

“พรุ่งนี้ข้าจะไปตระกูลหลินด้วยตัวเอง ไม่ว่าหลินสวินจะยื่นข้อเรียกร้องหรือให้ชดเชยอะไร… ก็ต้องทำให้เขาพอใจทั้งหมด!”

นำเสียงเสียงเด็ดขาดทรงพลัง

ทุกคนเห็นเช่นนี้ในใจต่างถอนหายใจ ล้วนตระหนักได้ว่า ครั้งนี้ตระกูลฉือของพวกเขาอาจจะต้องสูญเสียอย่างมาก…

แต่ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้บนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน!

ใครจะจินตนาการได้ว่าไม่เจอกันเพียงสิบกว่าปี คนหนุ่มในวันนั้นก็มีพลังน่ากลัวล้นฟ้าขนาดนี้แล้ว

และบนโลกนี้ พลังคือที่สุด!

——

Related

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset