Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1380 องค์ชายสามที่เดือดดาล

“ทว่า”

ฉือหลิงเซียวเปลี่ยนเรื่อง พูดพร้อมสายตาที่วูบไหว “ก่อนที่จะตัดสินใจชดเชยให้ตระกูลหลิน พวกเรายังมีอีกเรื่องที่ต้องทำ”

“เรื่องใด”

ทุกคนต่างอึ้ง

“ดูปฏิกิริยาขององค์ชายสามสักหน่อย”

ฉือหลิงเซียวกล่าวเสียงต่ำ “หลายปีมานี้หากไม่ได้รับการอนุญาตเป็นนัยๆ จากองค์ชายสาม ตระกูลจั่วและฉินจะกล้ากดข่มตระกูลหลินอย่างไม่เกรงกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร”

“อย่าลืมว่าตอนนั้นก่อนที่หลินสวินจะไปดินแดนรกร้างโบราณ เคยได้คำสัญญาจากราชันกระหายเลือดจ้าวไท่ไหลว่าราชวงศ์จะช่วยคุ้มครองตระกูลหลิน แต่เห็นได้ชัดว่าองค์ชายสามไม่ได้ทำเช่นนี้!”

ทุกคนต่างหัวใจกระตุกวูบ

ฉือหลิงเซียวยิ้มเยาะ เอ่ยว่า “ตอนนี้ตระกูลจั่วและฉินประสบภัย ฝั่งองค์ชายสามเกรงว่าคงนั่งไม่ติดแล้ว ข้าอยากรู้นักว่าเผชิญกับเรื่องราวเช่นคืนนี้ องค์ชายสามจะทำอย่างไร”

ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันคนหนึ่งพยักหน้าพูด “ไม่เลว หลินสวินแข็งแกร่งมาก การที่เขาสามารถสังหารเหล่าราชันอย่างง่ายดายได้พิสูจน์เรื่องนี้แล้ว แต่ถ้าองค์ชายสามใช้พลังของทั้งจักรวรรดิเล่นงานเจ้าหมอนั่น เกรงว่าเขาก็คงแบกรับไม่ไหว”

ฉือหลิงเซียวเอ่ย “ต่อให้หลินสวินแบกรับได้ กิจการและคนตระกูลหลินจะหนีไปไหนได้เล่า”

“องค์ชายสามเป็นเพียงแค่ผู้สำเร็จราชการ มีอำนาจปกครองราชสำนัก แต่ไม่ได้ครองอำนาจเด็ดขาดของจักรวรรดิอย่างแท้จริง ด้วยฐานะของเขาเกรงว่าคงยากจะทำได้ถึงขึ้นนั้นกระมัง”

มีคนขมวดคิ้ว

หลินสวินแข็งแกร่งเกินไป ตัวตนที่น่ากลัวระดับนี้ ด้วยพลังของเขาเพียงคนเดียวก็เพียงพอจะสยบทั้งจักรวรรดิ!

ประลองฝีมือกับตัวตนระดับนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องชั่งใจว่าจะสามารถแบกรับผลลัพธ์ที่ตามมาได้หรือไม่

“ดังนั้นพวกเราเพียงต้องรอดูปฏิกิริยาขององค์ชายสาม แล้วค่อยดูท่าทีของราชวงศ์ต่อเรื่องนี้”

ฉือหลิงเซียวกลับคืนสู่ความสุขุมแล้ว “แน่นอน เรื่องอะไรที่พวกเราควรทำก็ต้องทำ สั่งการลงไป ตั้งแต่วันนี้กองกำลังทั้งหมดในจักรวรรดิของตระกูลฉือ ห้ามผูกแค้นกับใครก็ตามในตระกูลหลินโดยเด็ดขาด แม้ต้องเสียเปรียบก็อดทน ห้ามล่วงเกิน!”

ทุกคนต่างพยักหน้า

หลินสวินได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาในคืนนี้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักตระกูลหลินเสียใหม่!

……

คืนนี้ไม่เพียงแค่ตระกูลฉือ

บรรดาตระกูลทรงอิทธิพลและตระกูลที่ยิ่งใหญ่แทบจะทั้งหมดในนครต้องห้ามต่างตะลึง แทบจะวางธุระทุกอย่างในมือลงติดตามเรื่องใหญ่ท่วมฟ้าที่เกิดขึ้นกะทันหันในคืนนี้กันถ้วนหน้า

หลังจากข่าวมากมายถูกพวกเขารับรู้มากขึ้น บรรดาขุมอำนาจทั่วทั้งนครต้องห้ามต่างตะลึง

เด็กหนุ่มที่อำนาจทั่วนครหลวงในตอนนั้นกลับมาแล้ว!

คืนนี้เขาสังหารตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงอย่างตระกูลจั่วและฉินโดยลำพัง ฆ่าผู้นำตระกูลทรงอิทธิพลสิบเก้าคนต่อเนื่อง!

นี่หมายความถึงอะไร

ขอเพียงคนที่มีสมองก็ย่อมต้องรู้

ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงตระกูลหนึ่ง สามารถยืนหยัดในนครต้องห้ามได้จนถึงวันนี้และไม่เคยถูกสยบ ความแข็งแกร่งของรากฐาน ความยิ่งใหญ่ของอานุภาพต้องเหลือเชื่ออย่างแน่นอน

แต่คืนนี้ ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงทั้งสองตระกูลล้วนถูกคนผู้หนึ่งเหยียบย่ำต่อเนื่อง!

นี่พิสูจน์ได้เพียงว่า ในสายตาของหลินสวินตอนนี้ ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงที่สูงส่งนั้นไม่มีค่าอะไรแล้ว!

ส่วนผู้นำตระกูลทรงอิทธิพลสิบเก้าคนที่ถูกสังหารนั้น ก็ไม่นับว่าเป็นอะไร เพราะแม้แต่ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงยังไม่สามารถขัดขวางการกำราบของหลินสวินคนเดียวได้ แล้วพวกเขาจะทำได้อย่างไร

“ไม่เจอกันเพียงสิบกว่าปี คนหนุ่มในวันนั้นมีพลังที่พลิกมือเรียกลมโบกมือเรียกแล้ว ภายใต้ฝ่ามือเขา สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันก็ไม่ต่างอะไรกับไก่ดินสุนัขกระเบื้องที่ต้านไม่ได้แม้แต่การโจมตีเดียว ใครจะกล้าเชื่อ”

ผู้คนนับไม่ถ้วนตะลึง ใจสั่นและหวาดกลัว

ตัวคนเดียวสังหารคนใหญ่คนโตเหล่านั้นจนศีรษะกลิ้งหลุนๆ เลือดไหลเป็นสายน้ำ นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ และคนที่กล้าทำเช่นนี้ พลังจะน่ากลัวเพียงใด

“ตระกูลหลินโชคดีแค่ไหนที่มีคนที่แข็งแกร่งพลิกฟ้าขนาดนี้”

มีคนรำพัน ทอดถอนใจ

ตอนนั้นแม้หลินสวินจะชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วหล้า แต่อย่างไรก็เป็นบุคคลแกร่งกล้าในหมู่คนรุ่นเยาว์ แม้ความสามารถน่าทึ่ง สำหรับขุมอำนาจใหญ่เหล่านั้นก็ไม่ถือว่าเป็นการคุกคามที่ใหญ่โตอะไร

แต่ตอนนี้ใครยังจะกล้ามองเช่นนี้

พูดอย่างไม่เกินจริงได้ว่า หลังจากผ่านเรื่องคืนนี้ ยามสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันเหล่านั้นพูดถึงหลินสวินเกรงว่าคงต้องหวาดเกรงไปสามส่วน!

และตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงอย่างตระกูลฮวา ซ่ง เซี่ย ฉี เหล่านี้ต่างสะท้านสะเทือนในคืนนี้เช่นนั้น นอนไม่หลับโดยสมบูรณ์

เมื่อนานมาแล้วคนรุ่นเยาว์ในตระกูลพวกเขา ล้วนเคยขัดบาดหมางและขัดแย้งกับหลินสวินไม่มากก็น้อย

แต่พวกนั้นเป็นความขัดแย้งระหว่างเด็ก หลังจากเจ้าสำนักสำนักศึกษามฤคมรกตออกหน้า ก็ได้สลายความขัดแย้งกับหลินสวินแล้ว

และคืนนี้ เมื่อได้รู้สภาพอนาถของตระกูลจั่วและฉิน ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงเหล่านี้ต่างรู้สึกโชคดีอย่างบอกไม่ถูก

ใช่แล้ว โชคดี!

โชคดีที่หลายปีมานี้ไม่ได้ร่วมกดข่มตระกูลหลิน

“เรื่องคืนนี้ก็ดูว่าองค์ชายสามจะจัดการอย่างไรแล้ว”

สายตาของขุมอำนาจใหญ่มากมายต่างจับจ้องไปทางราชวงศ์แห่งจักรวรรดิ

เป็นเช่นที่ฉือหลิงเซียววิเคราะห์ ในการเคลื่อนไหวกดข่มตระกูลหลิน หากไม่ได้รับอนุญาตเป็นนัยจากองค์ชายสามจ้าวจิ่งเหวิน ตระกูลจั่วกับฉินย่อมไม่กล้าเหิมเกริมเช่นนี้

และคืนนี้หลินสวินก็สร้างความลำบากมาให้กะทันหัน สังหารจนเลือดไหลเป็นสายน้ำ องค์ชายสามจ้าวจิ่งเหวินจะตัดสินใจอย่างไร

เขาจะออกหน้าให้ตระกูลจั่วและฉินหรือไม่

การตัดสินใจขององค์ชายสาม อาจไม่สามารถเป็นตัวแทนเจตนาของทั้งจักรวรรดิได้

แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่า เผชิญกับเรื่องใหญ่เช่นนี้ การตัดสินใจขององค์ชายสามมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะตัดสินโชคชะตาในอนาคตของตระกูลหลิน!

……

ดึกมากแล้ว อีกไม่นานก็จะเช้า

ในส่วนลึกของราชวัง

เสียงร้องแหลมลนลานดังขึ้น…

“องค์ชาย เกิดเรื่องด่วนขึ้นพ่ะย่ะค่ะ!”

บนเตียงมังกรหรูหรางดงาม จ้าวจิ่งเหวินตกใจตื่น พลันขมวดคิ้วลุกขึ้น “เรื่องอะไร”

“องค์ชาย ยากจะอธิบายด้วยคำพูดได้ ทูลเชิญพระองค์เสด็จไปตำหนักเฉียนหยวน ตอนนี้มีขุนนางใหญ่มากมายรอพระองค์ออกหน้าอยู่”

นอกตำหนักเสียงแหลมเล็กนั่นดังขึ้นอีกครั้ง

จ้าวจิ่งเหวินตกใจ ถึงกับต้องไปปรึกษาที่ตำหนักเฉียนหยวนเชียวหรือ หรือภัยจากสัตว์อสูรมารในอาณาเขตจักรวรรดิรุนแรงขึ้นอีกแล้ว

หรือว่ากองทัพจักรวรรดิบริเวณชายแดนต้านการโจมตีของพ่อมดเถื่อนเก้าสายไม่ไหว

คิดถึงตรงนี้จ้าวจิ่งเหวินก็ปวดหัวขึ้นมาทันที

หลายปีมานี้แม้เขาจะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนจักรพรรดิ คุมอำนาจปกครองบ้านเมือง แต่กลับกังวลและประหม่าอย่างมาก

เพราะหลายปีมานี้จักรวรรดิเผชิญศึกนอกในไม่ขาดสาย ทำให้จ้าวจิ่งเหวินเองก็เหนื่อยกับการดิ้นรน ทุกข์ใจจนพูดไม่ออก

“ข้ารู้แล้ว”

จ้าวจิ่งเหวินสูดหายใจเข้าลึก เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า

“เกิดอะไรขึ้น”

บนเตียงสาวงามเปี่ยมเสน่ห์คนหนึ่งลืมตางัวเงียพร่ามัวพร้อมหาวคราหนึ่ง โผล่ร่างออกมาครึ่งท่อน เผยผิวหน้าอกที่ขาวยิ่งกว่าหิมะแถบใหญ่ ท่าทางเกียจคร้านแต่เย้ายวนเช่นนั้นแฝงความดึงดูดอย่างที่สุด

นี่คือชายาขององค์ชายนามว่าฉินหรูเยวี่ย ลูกสาวคนเล็กของผู้นำตระกูลฉิน

“ไม่เกี่ยวกับเจ้า นอนต่อไปเถอะ!”

จ้าวจิ่งเหวินน้ำเสียงเย็นชา เสื้อผ้าเรียบร้อยเดินออกจากตำหนักไป

ฉินหรูเยวี่ยถูกต่อว่าเช่นนี้สีหน้าพลันชะงักไป จากนั้นลอบหัวเราะเยาะ “หึ! หากไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือจากตระกูลฉินของข้า องค์ชายสามอย่างเจ้าจะมีวันนี้ได้อย่างไร”

ตำหนักเฉียนหยวน

ทองอร่ามรุ่งเรือง โคมไฟสว่างไสว

ตอนที่จ้าวจิ่งเหวินไปถึงก็พลันตกใจ ทอดสายตามองไป ในตำหนักถึงกับมีเงาร่างมากมายรวมตัวอยู่หนาแน่น

ทุกคนล้วนเป็นคนใหญ่คนโตของราชสำนัก

ถึงขั้นที่บุคคลบรรดาศักดิ์ระดับอ๋อง โหว ในราชวงศ์หลายคน และพวกตาเฒ่าที่ไม่ได้เข้าราชสำนักมานานยังปรากฏตัวในค่ำคืนนี้

ต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่!

จ้าวจิ่งเหวินหัวใจบีบรัด ใบหน้ายังคงนิ่งสงบ นั่งอยู่บนบัลลังก์อันเป็นตัวแทนของผู้ปกครองจักรวรรดิแล้วขมวดคิ้วพูด “ดึกขนาดนี้เกิดอะไรขึ้น ถึงทำให้ทุกท่านมารวมตัวกันที่นี่”

ขุนนางใหญ่คนหนึ่งก้าวออกมา พูดเสียงสั่น “ทูลองค์ชาย เมื่อครู่นี้ตระกูลจั่วและฉินประสบเคราะห์…”

เสียงของขุนนางใหญ่คนนี้ดังก้องอยู่ในตำหนัก

จ้าวจิ่งเหวินซึ่งอยู่บนนั่งบัลลังก์อึ้งงันอย่างสิ้นเชิง หัวแทบจะระเบิด หลินสวินหรือ เจ้าหมอนั่นกลับมาแล้วหรือ

โดยเฉพาะหลังจากรู้การกระทำของหลินสวินในคืนนี้ องค์ชายสามแข็งทื่อไปทั้งตัวแล้ว สีหน้าอึมครึมไม่สงบ สองมือกดบนเท้าแขนเก้าอี้มังกรอย่างแรง กัดฟันแน่น ถึงได้ไม่แสดงออกว่าเสียอากาศจนเกินไป

แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถข่มกลั้นได้ ฝ่ามือหนึ่งตบลงบนโต๊ะ คำรามออกมา “เจ้าหลินสวินคนนี้… บ้าคลั่งจริงๆ!”

เสียงดังก้องอยู่ในตำหนัก เหล่าขุนนางต่างเงียบไม่พูดจา

จ้าวจิ่งเหวินนั่งอยู่ตรงนั้น ลมหายใจถี่กระชั้น หน้าอกขยับขึ้นลง สีหน้ามืดทะมึนจนน่ากลัว

ตระกูลจั่วและฉินมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นอย่างที่สุดกับเขา พูดได้ว่าเป็นผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ไม่ต่างอะไรกับพี่น้องท้องเดียวกัน

แต่กลับประสบเคราะห์พร้อมกันในคืนนี้!

ส่วนคนร้าย ยิ่งเป็นคนที่เขาคิดไม่ถึง!

ทั้งหมดนี้กระทบกระเทือนจิตใจมากเกินไป เหมือนค้อนยักษ์ที่ทุบใส่ศีรษะขององค์ชายสาม เขาในสมัยก่อน แม้เจอเรื่องยากลำบากแค่ไหนก็ไม่มีทางเผยท่าทีเสียอาการขนาดนี้

แต่ตอนนี้ เขากลับไม่สามารถควบคุมความโกรธในใจได้

“ยามนี้จักรวรรดิมีทั้งศึกในนอก หลินสวินนี่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของจักรวรรดิ กลับฆ่าคนตระกูลจั่วและฉินตามอำเภอใจในคืนนี้ ช่างไร้กฎไม่สนเกณฑ์ ไม่อาจละเว้นโทษได้!”

จ้าวจิ่งเหวินกัดฟัน มองทุกคนในตำหนักอย่างเย็นเยียบ “พวกเจ้าเงียบทำไม หรือถูกหลินสวินทำเอากลัวหัวหดแล้ว”

ทุกคนยิ่งเงียบกว่าเดิม ไม่มีใครปริปากพูด

เรื่องคืนนี้ผิดปกติเกินไป ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่กล้าแสดงท่าทีของตนออกมาง่ายๆ

พวกเขามาครั้งนี้ เพียงแค่อยากเห็นท่าทีและการตัดสินใจขององค์ชายสามเท่านั้น แต่ไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวในคลื่นลมอันตรายที่ไม่อาจคาดการณ์นี้

ในตำหนักเงียบสงัด ทุกคนใช้ความเงียบตอบกลับ นี่ทำให้จ้าวจิ่งเหวินยิ่งเดือดดาล ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกล่าว “ประกาศราชโองการ!”

ประโยคเดียวกึกก้องกังวาน!

เหล่าขุนนางตื่นตระหนก ต่างคิดไม่ถึงว่าจ้าวจิ่งเหวินถึงกับตัดสินใจเร็วขนาดนี้ เขาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วหรือ

หรือควรบอกว่า ภายใต้เพลิงโกรธที่คุกคามจิตใจ เขาไม่ได้ใคร่ครวญถึงความรุนแรงของเรื่องนี้อย่างชัดเจน?

และตอนนี้เอง จ้าวจิ่งเหวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง เปล่งเสียงออกมาทีละคำ “หลินสวินไร้คุณธรรม กระทำการเลวร้าย ทำร้ายประชาชนที่จงรักภักดีต่อจักรวรรดิ โทษมิอาจอภัย…”

ทั้งตำหนักเงียบกริบ

เหล่าขุนนางใจสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่ ตระหนักได้ว่าหากประกาศราชโองการนี้ออกไป ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรือตระกูลหลินที่อยู่เบื้องหลังของเขา ก็จะกลายเป็นนักโทษของจักรวรรดิโดยสมบูรณ์

และสิ่งที่รอหลินสวินกับตระกูลหลิน ก็คือการถูกประกาศจับและกำราบจากทั้งจักรวรรดิ!

หลินสวินจะนั่งรอความตายหรือ

เป็นไปไม่ได้แน่!

แต่เขาคนเดียว จะเป็นศัตรูกับทั้งจักรวรรดิได้อย่างไร

ชั่วขณะนั้นมีคนรู้สึกดีใจ ตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่อยู่

และมีคนมุ่นคิ้ว คิดว่าราชโองการนี้ของจ้าวจิ่งเหวินเป็นการระบายความโกรธชัดๆ ไม่ได้สนใจสถานการณ์ของจักรวรรดิในตอนนี้ ดูไม่มีเหตุผลอย่างมาก

จากนั้นพลันมีหลายคนเดินขึ้นมาหมายจะหยุดยั้ง แต่ตอนนี้เอง…

ปัง!

ประตูใหญ่ของตำหนักเฉียนหยวนถูกเรี่ยวแรงมหาศาลผลักออก ลมกลางคืนอันหนาวเหน็บพาไอเย็นม้วนเข้าในโถง ทำให้หลายคนสั่นไปทั้งตัว

เสียงเดือดดาลของจ้าวจิ่งเหวินก็หยุดลงตามไปด้วย

——

Related

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset