Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1406 ตัวตนของราชันอาภรณ์ดำ

การต่อสู้ดุเดือดปะทุขึ้นเหนือห้วงอากาศราวกับเทพสององค์กำลังห้ำหั่นกัน

ต่อให้อยู่นอกทะเลสาบวาโยอสนียังเห็นได้อย่างชัดเจนว่าฟ้าดินแห่งนี้เหมือนถูกทำลาย ถูกปราณกระบี่และกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่สิ้นสุดกลบมิด

“การต่อสู้ระดับนี้ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเลย!”

ผู้มีปราณระดับราชันจากจักรวรรดิบางคนตกตะลึง

จ้าวจิ่งเซวียนไม่เอ่ยปาก นางย่อมไม่บอกว่าสมัยอยู่แดนมกุฎ นางเคยเห็นการต่อสู้ทำนองนี้มาหลายครั้ง

มิหนำซ้ำที่อันตรายและน่ากลัวยิ่งกว่าศึกนี้ยังมีนับไม่ถ้วน!

ปึง!

ท่ามกลางเสียงปะทะที่ดังจนหูแทบดับ เงาร่างเทพเถื่อนนั้นถูกซัดกระเด็นถอยหลังไป ร่างกายสั่นระริกเกร็งกระตุกอยู่ครู่หนึ่ง

เขาสีหน้าเคร่งเครียดหาใดเทียบแล้ว คิดไม่ถึงสักนิดว่าคู่ต่อสู้ที่ต่อกรด้วยวันนี้จะเย้ยฟ้าปานนี้ได้อย่างไร ไม่สามารถใช้สามัญสำนึกมาวัดได้โดยสิ้นเชิง

ชิ้ง!

กระบี่ยอดสังหารโฉบขึ้น ซัดแม่น้ำนรกสายหนึ่งขึ้นมา ปรากฏการณ์ประหลาดอย่างเทพมารวายชนม์สำแดงออกมา ปกคลุมฟ้าดิน

หลินสวินในตอนนี้ก็เหมือนมารกระบี่แห่งยุค!

ขณะนี้เขาพอจะชี้ชัดได้แล้วว่าเงามายาเทพเถื่อนที่รวมพลังของราชันพ่อมดสิบสามคนองค์นี้ มีความคล้ายคลึงกับพลังต่อสู้ของอวิ๋นชิ่งไป๋ในตอนนั้นพอสมควร ถึงกับมีจุดแตกต่างเพียงเล็กน้อย

เนื่องเพราะมรรคกระบี่ของอวิ๋นชิ่งไป๋เป็นพลังแห่งขอบเขตมกุฎ เงามายาเทพเถื่อนองค์นี้จึงไม่อาจเทียบได้

เงามายาเทพเถื่อนองค์นี้มีความร้ายกาจที่พลังแกร่งกล้ายิ่งนัก แทบจะแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ต่ำกว่าระดับอริยะที่หลินสวินเคยพบเห็น

แต่พลังส่วนพลัง พลังต่อสู้ส่วนพลังต่อสู้ ทั้งสองอย่างไม่ได้เหมือนกันเสียหน่อย!

ไม่นานนักหลินสวินก็ซัดให้อีกฝ่ายถอยหลังไป ร่วงหล่นจากฟากฟ้า แล้วกระแทกลงบนพื้นดินจนแผ่นดินสะเทือนภูเขาไหวเอนอีกครั้ง

ต่อให้หนังเหนียวก็รับการทำลายล้างชั้นนี้ไม่ได้ เงามายาเทพเถื่อนนั่นส่งเสียงร้องเจ็บปวดออกมาอย่างอดไม่ได้ กระดูกทั้งร่างแทบกระจุยกระจาย

ตูม!

หลินสวินลงมาจากฟ้า เท้าข้างหนึ่งเหยียบลงไป หมายจะเหยียบศีรษะที่เพิ่งเงยขึ้นมาให้แหลกละเอียด

“ไสหัวไป!”

เงามายาเทพเถื่อนคำราม

สัญลักษณ์แน่นขนัดที่ปกคลุมไปทั้งร่างเขาพลันเปล่งประกาย แสงเทพโชติช่วงผุดขึ้น ทำให้พลานุภาพของเขาเพิ่มพูนขึ้นมากมายในทันใด

ส่วนสร้อยกระดูกที่ห้อยอยู่ที่คอก็ลอยขึ้นฉับพลัน แปรสภาพเป็นปากใหญ่เหมือนอ่างเลือดพุ่งไปกลืนกินหลินสวิน

หืม?

หลินสวินนัยน์ตาหดรัด สังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล จึงเรียกเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดออกมาโดยไม่ลังเล กำราบลงไปอย่างรุนแรง

โครม!

ทั้งสองปะทะกัน ฟ้าดินอับสี สุริยันจันทราอับแสง

ปากใหญ่ราวอ่างเลือดนั่นเริ่มเพลี่ยงพล้ำไปทีละส่วนระหว่างการประมืออันดุเดือด สุดท้ายก็แปรสภาพเป็นสร้อยคอกระดูกอีกครั้งหนึ่งท่ามกลางเสียงโครมคราม

เพียงแต่ครู่ต่อมาสร้อยคอกระดูกนั้นก็ขาดสะบั้น หล่นกระจายไปทั่ว

“จะ… เจ้าถึงกับทำลายสมบัติอริยะของเผ่าข้า!”

เงามายาเทพเถื่อนส่งเสียงคำรามสะเทือนฟ้าดินออกมา เผยให้เห็นความกราดเกรี้ยว คล้ายคิดไม่ถึงว่าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว สมบัติอริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาจะถูกทำลายลงเช่นนี้!

เรื่องนี้ทำให้เขาไม่กล้าเชื่อได้

ควรรู้ว่าสร้อยคอกระดูกของเขาหลอมขึ้นมาจากกะโหลกอริยะหัวแล้วหัวเล่า มีนามว่า ‘สร้อยเศียรอริยะ’ ลึกลับหาใดเทียบ

แต่ตอนนี้แค่การโจมตีเดียวก็ถูกทำลายลงแล้ว!

เรื่องนี้ทำให้เขารับรู้ได้เช่นกัน ว่าเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดที่หลินสวินเรียกออกมาต้องเป็นยอดสมบัติอัศจรรย์ชิ้นหนึ่งแน่

“เฉือน!”

หลินสวินไม่ลังเลสักนิด เรียกกระบี่ยอดสังหารออกมาสังหารให้สิ้นซาก

ฟุ่บ!

โดยไม่ทันตั้งตัว เงามายาเทพเถื่อนทำได้เพียงหลบเท่านั้น แต่กลับถูกปราณกระบี่กวาดต้องร่างกาย แล้วก็พบว่าบั้นเอวเขาปรากฏรอยกระบี่ที่เลือดหลั่งรินรอยหนึ่ง เกือบฟันเอวเขาขาด!

“เป็นไปไม่ได้… เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด… ทำไมเจ้าถึงแข็งแกร่งปานนี้…”

เงามายาเทพเถื่อนร้อนรนโดยสมบูรณ์แล้ว เขารับรู้ได้ว่าไม่สู้ดี สังเกตเห็นภัยคุกคาม

“ฟัน!”

หลินสวินคร้านจะพูดพร่ำทำเพลง ควบคุมกระบี่ยอดสังหารจู่โจมไป

เปรี๊ยะ!

เสียงดังกึกก้อง

ทวนยาวกระดูกในมือเงามายาเทพเถื่อนเล่มนั้นถูกคมกระบี่อันแหลมคมของกระบี่ยอดสังหารฟันสะบั้น ภายใต้การปะทะกันอย่างรุนแรง!

ในขณะเดียวกันเงามายาเทพเถื่อนกระอักเลือดออกมาทางปากและจมูก ร่างกายยังหมองลงไปด้วย

“ฟัน!”

หลินสวินไม่หยุดพัก คมกระบี่ราวสายฟ้า ซัดฝนโลหิตคับฟ้าขึ้นมาปกคลุมฟ้าดิน ราวกับแม่น้ำโลหิตใหญ่โตสายหนึ่งม้วนตลบ

พร้อมกับเสียงโครมครามและเสียงร้องโหยหวนระลอกหนึ่ง เงามายาเทพเถื่อนไม่อาจทนได้อีก ร่างของมันระเบิดออกอย่างเลื่อนลั่น กลายสภาพเป็นเงาร่างสิบสามร่าง ล้มลงโซซัดโซเซกลางอากาศ

เห็นได้ชัดว่าเป็นราชันพ่อมดสิบสามคน

เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาต่างหน้าซีดเผือด พลังชีวิตเสียหายสาหัส สีหน้าล้วนเจือไปด้วยความพรั่นพรึงและขุ่นเคืองที่ปกปิดได้ยาก

คราวนี้พวกเขาเตรียมตัวมา เดิมคิดว่าอาศัยวิชาลับจะสามารถสังหารหลินสวินได้ง่ายดาย

แต่จะคิดได้อย่างไรว่าสุดท้ายไม่เพียงถูกทำลายสมบัติอริยะสองชิ้น ยังทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างยิ่งยวด!

“ไป!”

พวกเขาเลือกหลบหนีไปโดยไม่ลังเล

เพียงแต่หลินสวินจะให้พวกเขาจากไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร เขาสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่ง ปราณกระบี่ไท่เสวียนเจ็ดร้อยยี่สิบสายโฉบออกไป กลายเป็นค่ายกลกระบี่สังหารว่างเปล่ากวาดพุ่ง

ฟุ่บๆๆ!

กลางห้วงอากาศราชันพ่อมดคนแล้วคนเล่าถูกสังหาร ร่างกายกลายเป็นเลือดเนื้อระเบิดแหลกร่วงพรูลงมาจากกลางอากาศ

ไม่มีใครโชคดีรอดมาได้!

บัดนี้ฟ้าดินเงียบสงัด มีเพียงกลิ่นคาวเลือดเข้มข้นแผ่กระจาย

นอกทะเลสาบวาโยอสนี ผู้แข็งแกร่งจากจักรวรรดิทุกคนต่างเหม่อลอย ในใจมีเพียงความคิดเดียว คุณชายหลินเขา… แข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่

บนเขาวายุดำไกลออกไป เหล่าอสูรมารอย่างราชันผึ้งขาวต่างหวาดผวาจนจิตใจไม่สงบ สีหน้าซีดขาว

ได้เห็นการต่อสู้อันหายากเช่นนี้ ต่อให้พวกเขาโง่เขลาแค่ไหนก็รู้ว่าด้วยพลังต่อสู้ของหลินสวิน ถ้าจะฆ่าพวกเขาต้องง่ายดายเหมือนพลิกฝ่ามือแน่!

“ตาพวกเจ้าแล้ว”

เหนือห้วงอากาศ หลินสวินเคลื่อนสายตามองไปยังเหล่าอสูรมารอย่างพวกราชันผึ้งขาว สีหน้าไม่สุขไม่เศร้า เฉยชาเยือกเย็น

“ราชันอาภรณ์ดำ ถ้าเจ้ายังไม่ลงมืออีก วันนี้พวกเราต้องตายเพราะเจ้ากันหมด!”

ราชันผึ้งขาวตื่นตระหนกจนร้องเสียงแหลมขึ้นมา

“ราชันอาภรณ์ดำ เจ้ายังไม่ลงมืออีกหรือ”

ราชันอสูรมารตนอื่นก็ร้องลั่นอย่างพรั่นพรึง

เห็นได้ชัดว่าในขณะนี้ราชันอาภรณ์ดำกลายเป็นความหวังเดียวของพวกเขา

ไกลออกไป หลินสวินกวาดสายตามองแล้วหยุดลงที่ถ้ำสถิตมิดชิดซึ่งอยู่บนเขาวายุดำถ้ำหนึ่ง ราชันอาภรณ์ดำปิดด่านอยู่ในนั้นหรือ

เพียงแต่ในถ้ำสถิตนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวเลย

“ดูท่าราชันอาภรณ์ดำคงไม่อยากช่วยพวกเจ้า”

หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย เกิดเสียงดังวู้มขึ้นครั้งหนึ่ง กระบี่ยอดสังหารราวกับรุ้งเทพสีเลือดสายหนึ่งพุ่งขึ้นเหนือห้วงอากาศ คมกระบี่แหลมคม อบอวลด้วยกลิ่นคาวเลือดคับฟ้า

“ไม่…!”

ตอนนี้ยามเผชิญหน้ากับหลินสวินเข้าจริงๆ พวกราชันผึ้งขาวก็สติแตกไปทันที ไม่อาจปลุกความคิดไปต่อต้านได้สักนิด

คนผู้นี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ทำให้พวกเขาสิ้นหวัง!

“เฉือน!”

หลินสวินไม่ลังเลสักนิด เมื่อความคิดไหวเคลื่อน กระบี่ยอดสังหารก็แปรสภาพเป็นแสงมรรคสายหนึ่งฟาดฟันออกไป

ตูม!

ก็ในตอนนี้เอง เงาร่างสีดำเงาหนึ่งพลันกระโจนออกมาจากถ้ำสถิตที่ปิดมิดชิดนั้น เข้ารับกระบี่นี้ไว้ด้วยความรวดเร็วน่าเหลือเชื่อ

เคร้ง!

เสียงปะทะน่าหวาดหวั่นดังสนั่นขึ้น เงาร่างสีดำนั้นมาก็ไว ไปก็ไว ถูกซัดให้ถอยออกไปสิบกว่าก้าว

ผืนดินต่างทรุดตัวลงเป็นหลุมใหญ่ไปตามแต่ละก้าวที่เหยียบลงมา

พอมองดูโดยละเอียด เขาถือหอกศึกเล่มหนึ่งไว้ในมือ เพียงแต่กลับถูกกระบี่นี้ของหลินสวินฟันขาดสะบั้นทั้งอย่างนั้น

“ราชันอาภรณ์ดำ!”

เหล่าอสูรมารอย่างพวกราชันผึ้งขาวต่างยินดีปรีดา รู้สึกตื่นเต้นฮึกเหิม

เงาร่างนั้นถูกอาภรณ์สีดำปกปิดไปทั้งตัว เป็นราชันอาภรณ์ดำจริงๆ ทว่าการปรากฏตัวของเขากลับทำให้หลินสวินนิ่วหน้า รู้สึกได้กลายๆ ถึงความคุ้นเคย

“นายท่าน จะปล่อยพวกเขาไปครั้งหนึ่งได้หรือไม่”

ราชันอาภรณ์ดำพลันเอ่ยปาก เพียงแต่ถ้อยคำที่เอ่ยออกมากลับเหมือนสายฟ้าฟาดกลางฟ้า ทำเอาพวกราชันผึ้งขาวต่างงุนงง อึ้งค้างอยู่เช่นนั้น

นายท่าน?

ราชันอาภรณ์ดำเรียกหลินสวินนั่นว่านายท่านงั้นหรือ

ด้านหลินสวินในที่สุดก็เดาได้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร เลิกคิ้วขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ “ราชันอินทรีแดงหรือ”

ไกลออกไปราชันอาภรณ์ดำถอดหมวกที่บังศีรษะเขาออก เผยให้เห็นใบหน้าขาวซีด สีหน้าซับซ้อนเอ่ยว่า “นายท่าน คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะได้พบกันด้วยรูปแบบนี้”

ขณะนี้หลินสวินรู้สึกไม่ทันตั้งตัวไปหมด

ก่อนหน้านี้เขาใช้ทุกวิถีทางเสาะหาร่องรอยของราชันอินทรีแดงในมณฑลซีหนาน ยังนึกไปว่าเขาประสบเคราะห์ไปแล้ว

จะคิดได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายจะปรากฏตัวตรงหน้าตนในฐานะ ‘ราชันอาภรณ์ดำ’!

นี่เป็นเรื่องที่หลินสวินไม่เคยคิดมาก่อนสักนิด

อย่าว่าแต่หลินสวิน พวกราชันผึ้งขาวยังรู้สึกสับสนงงงวย ราชันอาภรณ์ดำที่พวกเขาฝากความหวังทั้งหมดไว้ ดันยอมรับหลินสวินเป็นนาย นี่จะพลิกผันเกินไปแล้ว

“คิดไม่ถึงว่าตระกูลหลินของข้าจะมีคนทรยศคนหนึ่งจริงๆ”

สีหน้าหลินสวินแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“นายท่าน ท่านฟังข้าอธิบายก่อน”

ราชันอาภรณ์ดำเอ่ยปากกำลังจะพูดอะไรก็ถูกหลินสวินตัดบท “อธิบายหรือ ก็ได้ รอข้าฆ่าเดรัจฉานชั่วพวกนี้ก่อนค่อยมาฟังว่าเจ้าจะอธิบายอย่างไร!”

เขาพูดพลางเรียกกระบี่ยอดสังหารออกมาอย่างไม่ลังเลสักนิด แล้วออกโจมตีอีกครั้ง!

สวบ!

ปราณกระบี่ราวรุ้งเทพพุ่งสังหารออกไปในห้วงอากาศ

ไม่แปลกที่ตอนนี้หลินสวินจะโกรธ เมื่อแรกกลับมายังโลกชั้นล่าง พอได้ยินว่าราชันอินทรีแดงถูกมองว่าเป็นคนทรยศ ในใจหลินสวินไม่ยอมเชื่อมาตลอด คิดว่านี่เป็นการใส่ร้ายของตระกูลจั่ว

แต่สุดท้ายเขากลับพบว่าราชันอินทรีแดงกลายเป็นคนทรยศจริงๆ!

เรื่องนี้หลินสวินจะรับได้ได้อย่างไร

การต่อสู้ปะทุขึ้นอีกครั้ง หลินสวินที่โกรธถึงขีดสุดลงมืออย่างไม่ปรานีสักนิด ออกแรงเพียงครู่เดียวก็ปลิดชีพเหล่าอสูรมารอย่างพวกราชันผึ้งขาวทั้งหมด

ไม่ว่าพวกเขาจะโอดครวญหรือดิ้นรนอย่างไรก็ไร้ประโยชน์

ระหว่างนี้ราชันอินทรีแดงราวกับตกอยู่ในภาวะดิ้นรนและเจ็บปวดใหญ่หลวง ทั้งกายสั่นระริก แต่กลับกัดฟันแน่นไม่พูดจาสักคำ

ไม่มีใครรู้ว่าในใจเขาทรมานและเจ็บปวดขนาดไหน

ชิ้ง!

หลินสวินเก็บกระบี่ยอดสังหาร เงาร่างโรยตัวลงมาเหนือเขาวายุดำ สายตามองดูราชันอินทรีแดงอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้เจ้าอธิบายมาได้แล้ว”

ราชันอินทรีแดงชะงักไป สักพักจึงถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่งแล้วพูดว่า “ข้าผิดตั้งแต่แรกแล้ว เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอีก ทำให้นายท่านโกรธเป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่มีอะไรจะพูด เพียงขอให้นายท่านทำให้ตายอย่างรวดเร็วเท่านั้น!”

พอพูดจบเขาก็มองหลินสวินด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

หลินสวินยิ้มหยัน “เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ”

เขาโกรธมากจริงๆ รู้สึกถูกหลอกลวงและทรยศ

ราชันอินทรีแดงเงียบไม่พูดจา

“สวะ! คิดไม่ถึงว่าผ่านไปชั่วนาตาปี ข้าจะรับผู้สืบทอดไร้ค่าอย่างเจ้ามาเสียได้ ช่างขายหน้าข้ายิ่งนัก!”

ฉับพลันเสียงเย็นชาน่าเกรงขามเสียงหนึ่งดังขึ้นเหนือเขาวายุดำ

ราชันอินทรีแดงหน้าเปลี่ยนสีทันตา ร้องว่า “นายท่านรีบหนีเร็ว!”

โครม!

ทว่าไม่ทันแล้ว มือใหญ่น่าหวาดหวั่นไร้ที่สิ้นสุดมือหนึ่งพลันยื่นออกมาจากใต้เขาวายุดำ บังฟ้าเร้นอาทิตย์ เข้าปกคลุมหลินสวินอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงเย็นชาน่าเกรงขามนั้น

ชั่วพริบตานี้แม้แต่หลินสวินยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ

“หนีเร็ว!”

ก็ในตอนนี้เองราชันอินทรีแดงตะโกนลั่น เขาพุ่งทะลุเมฆาในทันใด ทั้งร่างมีแสงถั่งโถมไพศาลปะทุออกมาแล้วพุ่งไปยังมือใหญ่ข้างนั้น ดูแน่วแน่หาใดเทียบ

——

Related

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset