Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1503 เหล่าศัตรูซุ่มอยู่รอบๆ

ปัง!

พอกระบองเหล็กในมือฟาดลงอย่างแรง ศีรษะของศัตรูคนสุดท้ายที่อยู่ตรงหน้าระเบิดออกราวกับแตงโม เลือดสาดกระเซ็นออก

ร่างไร้วิญญาณก็ล้มลงพื้นไปด้วย

เลือดสีแดงสดสะท้อนในดวงตาของเล่อมู่จิ้น เขาเลียมุมปาก กลับรู้สึกหมดความสนใจเล็กน้อย

เล่อมู่จิ้น

ลูกหลานเผ่าเหยี่ยวมารเหินซึ่งเป็นหนึ่งในสิบเผ่าพันธุ์ใหญ่ของดินแดนโบราณมารโลหิต บุคคลแห่งยุคที่เหยียบย่างขอบเขตมกุฎระดับอมตะเคราะห์ด่านเก้า

เขามีผมยาวสีเขียวอ่อน รูปร่างผอมเพรียวสูงโปร่ง ใบหน้างดงามอ่อนโยน ดูเหมือนไม่มีพิษภัย ความจริงอุปนิสัยดุดันอย่างที่สุด

“พวกแกะอ้วนดินแดนรกร้างโบราณอ่อนแอเกินไปแล้ว…”

เล่อมู่จิ้นถอนหายใจเบาๆ

ตรงหน้าเขา พื้นที่ในระยะพันจั้งถูกเลือดแดงสดย้อมไปหมดแล้ว มีเป็นร้อยศพนอนขวางอยู่ในนั้น ทุกศพไม่ว่าชายหรือหญิงล้วนถูกกระแทกศีรษะจนแหลกละเอียดอย่างโหดร้ายทารุณ

ไม่ไกลนักหญิงชุดแดงเผ่าเหยี่ยวมารเหินคนหนึ่งพูดอย่างเคารพ “คุณชาย ไม่ใช่เพราะพวกเขาอ่อนแอเกินไป พลังต่อสู้ของท่านแข็งแกร่งเกินไปต่างหาก”

เล่อมู่จิ้นยิ้มเยาะ “จึงดูน่าเบื่อมากมิใช่หรือ เพิ่งมาถึงสมรภูมิเก้าดินแดนวันแรกเท่านั้น เดิมคิดว่าจะเจอคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจ ไม่คิดว่ากลับเจอคนไร้ประโยชน์ฝูงหนึ่ง”

หญิงชุดแดงพูดอย่างเคารพ “นี่พิสูจน์ได้เพียงว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาดินแดนรกร้างโบราณเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ”

หยุดไปครู่หนึ่งนางพูดต่อว่า “คุณชาย หากไม่เหนือความคาดหมาย บุคคลผู้เก่งกาจในดินแดนโบราณมารโลหิตของเรา ล้วนมุ่งหน้าไปรวมตัวกันที่ ‘เมืองอารักษ์มรรค’ แล้ว พวกเรา… จะเร่งทำเวลามุ่งหน้าไปที่เมืองอารักษ์มรรคหรือไม่”

เล่อมู่จิ้นแค่นเสียงอย่างเย็นเยียบ “ข้าไม่อยากไปรับคำสั่งของเซวี่ยชิงอีนั่น”

เซวี่ยชิงอี!

ถูกมองว่าเป็นบุคคลมกุฎอันดับหนึ่งบนมรรคาอมตะแห่งดินแดนโบราณมารโลหิต ผู้นำแห่งยุคระดับตำนานคนหนึ่ง มาจากสำนักมารฟ้าประทาน

ในขณะเดียวกัน เซวี่ยชิงอีก็ยังเป็นหนึ่งใน ‘แปดยอดนภาคราม’ ด้วย!

แปดยอดนภาคราม เป็นตัวแทนของผู้กล้าแห่งยุคแปดคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแปดดินแดน ทุกคนล้วนเป็นบุคคลขอบเขตมกุฎที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนต่างๆ

จากเรื่องนี้สามารถรู้ได้ว่าเซวี่ยชิงอีเป็นผู้แข็งแกร่งที่เก่งกาจเพียงใด

ครั้งนี้หญิงชุดแดงเงียบไปครู่หนึ่งอย่างไม่เป็นเคยมาก่อน แล้วจึงพูดว่า “คุณชาย ในสมรภูมิเก้าดินแดนแห่งนี้ แปดยอดนภาครามก็เหมือนผู้นำของทุกแดน แม้เป็นมกุฎอริยะก็ต้องฟังคำสั่งของพวกเขา”

“ไม่ว่าท่านจะยินยอมหรือไม่ ก็จำต้องยอมรับว่าในโลกมารโลหิตแห่งนี้ ค่ายทัพดินแดนโบราณมารโลหิตของเราล้วนต้องคล้อยตามเซวี่ยชิงอี”

เพี๊ยะ!

เพิ่งจะสิ้นเสียงหญิงชุดแดงก็ถูกตบกกหูอย่างแรงคราหนึ่ง เล่อมู่จิ้นพูดพร้อมสีหน้ามืดทะมึน “คิดว่าข้าไม่รู้หรือ ถึงยังต้องให้เจ้ามาเตือน”

หญิงชุดแดงเงียบ

เล่อมู่จิ้นสูดหายใจเข้าลึกๆ กำลังจะพูดอะไร

ฟึ่บ!

ตอนนี้เอง รุ้งเทพสีทองสายหนึ่งพลันกวาดผ่านท้องฟ้า

เล่อมู่จิ้นชะงัก จากนั้นพลันยิ้มพูด “นี่เป็นถึงโลกมารโลหิต เป็นอาณาเขตของดินแดนโบราณมารโลหิต เผ่างูมารทองคำกลับส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ไม่กลัวขายหน้าหรือ หากเสอหลินบุตรเทพของพวกเขารู้จะต้องโกรธจนคลั่งแน่”

หญิงชุดแดงไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป วิเคราะห์ว่า “สัญญาณขอความช่วยเหลือส่งมาจากพื้นที่ที่ป่าหลอมจิตตั้งอยู่ ดูเหมือนว่าผู้แข็งแกร่งเผ่างูมารทองคำจะเจอคู่ต่อสู้ที่รับมือยากยิ่ง หรืออาจจะเป็นอันตราย แต่เหล่านี้ล้วนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณชาย”

“ไม่ จะไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไร”

เล่อมู่จิ้นพูดเอื่อยเฉื่อย “ในสมรภูมิเก้าดินแดนแห่งนี้ ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็นค่ายทัพเดียวกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สหายเผ่างูมารทองคำประสบความลำบาก เมื่อถูกข้าเห็นแล้ว ข้าจะไม่ช่วยได้อย่างไร”

“ไป ตามข้าไปดูสักหน่อย”

ว่าแล้วเขาพลันเคลื่อนตัวห่างออกไป

หญิงชุดแดงถอนหายใจในใจ นางรู้ว่าเล่อมู่จิ้นเพียงแค่หาข้ออ้าง ไม่อยากมุ่งหน้าไปเมืองอารักษ์มรรคทันทีก็เท่านั้น

……

ป่าหลอมจิต

ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งหลินสวินที่นั่งขัดสมาธิอยู่ในผนึกลายมรรคกำลังทำสมาธิ พลางจ้องดาบหักที่อยู่ตรงหน้า

แหล่งสมบัติหลอมจิตที่รวบรวมได้ก่อนหน้านี้ล้วนถูกเขาเทใสดาบหักทุกหยด ทำให้ตอนนี้ดาบหักกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง

พื้นผิวดั่งหิมะของดาบหักที่งดงามราวกับภาพมายา กำลังมีลายมรรคคดเคี้ยวราวกับไส้เดือนมากมายแพร่กระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง

นี่คือ ‘ค่ายกลลายมรรค’ กระบวนที่สาม!

นี่ยังไม่เคยปรากฏอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ก็ปรากฏเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น สามารถมองเห็นได้รางๆ ว่าลายมรรคที่หนาแน่นเหล่านั้นกำลังก่อร่างตัวอักษรโบราณตัวหนึ่ง

พื้นผิวของดาบหักเคยปรากฏค่ายกลลายมรรคสองกระบวน ทำให้หลินสวินได้รับพลังมรดก ‘ปฐม’ และ ‘ยอด’ สองอย่าง

และตอนนี้ ในที่สุดค่ายกลลายมรรคกระบวนที่สามก็จะปรากฏออกมาจากผิวน้ำแล้ว!

‘ก็ไม่รู้ว่ามรดกอย่างที่สามนี้จะมีความมหัศจรรย์แค่ไหน…’

ยามนี้ในใจหลินสวินเองก็อดเกิดความคาดหวังไม่ได้

เพียงแต่ค่ายกลลายมรรคเพิ่งจะก่อตัวถึงครึ่งหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงของดาบหักก็สิ้นสุดลงแล้ว นี่ทำให้หลินสวินหมดคำพูด

“ดูเหมือนจะต้องรวบรวมแหล่งสมบัติหลอมจิตอีกแล้ว…”

หลินสวินถอนหายใจเบาๆ

ทว่าในใจเขากลับยิ่งคาดหวังว่ามรดกอย่างที่สามของดาบหักจะเป็นอย่างไร

สวบ!

เสียงทะลวงอากาศที่แผ่วเบาอย่างที่สุดระลอกหนึ่งดังขึ้นไกลๆ ทำให้หลินสวินซึ่งซ่อนตัวอยู่ในกระบวนผนึกลายมรรคตกใจได้สติ

“เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเสอเจิ้นแห่งเผ่างูมารทองคำ อิงจากที่เขาพูด พกวเขาทั้งกลุ่มล้วนถูกชายหนุ่มคนหนึ่งจากดินแดนรกร้างโบราณสังหารทั้งหมดแล้ว!”

“ไม่หรอกมั้ง หรืออริยะแห่งดินแดนรกร้างโบราณถูกเคลื่อนย้ายเข้ามาโลกมารโลหิตตอนที่เข้าสู่สมรภูมิเก้าดินแดน”

“ไม่ใช่อริยะ ตามการคาดเดาของเสอเจิ้น อีกฝ่ายน่าจะเป็นบุคคลขอบเขตมกุฎคนหนึ่ง เชี่ยวชาญการปกปิดร่องรอยอย่างที่สุด”

เสียงพูดคุยระลอกหนึ่งค่อยๆ ใกล้เข้ามา

นั่นเป็นผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง รูปลักษณ์ล้วนไม่เหมือนกัน มีทั้งชายและหญิง เห็นได้ชัดว่ามาจากเผ่าที่แตกต่างกัน กลิ่นอายแข็งแกร่งอย่างที่สุด

แวบเดียวหลินสวินก็ดูออก ว่าคนเหล่านั้นแม้ระดับล้วนด้อยกว่าตนไม่น้อย แต่เป็นบุคคลขอบเขตมกุฎทั้งหมด!

นี่ทำให้หลินสวินลอบถอนใจ เมื่อเทียบกับอีกแปดดินแดน รากฐานพลังของดินแดนรกร้างโบราณแย่เกินไปจริงๆ เสียเปรียบแต่ไหนแต่ไร

“ทุกคนระวังหน่อย ในเมื่อเจ้าหมอนั่นเชี่ยวชาญการปกปิดร่องรอยและอยู่ในป่าหลอมจิตที่แปลกประหลาดเกินคาดเดาแห่งนี้ อยากจะเล่นงานหมอนั่นไม่ง่ายแน่”

“ไม่เป็นไร คนที่มาเสริมทัพครั้งนี้ไม่ได้มีแค่พวกเรา ต่อให้เป็นอริยะดินแดนรกร้างโบราณก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

“ใช่ นี่คืออาณาเขตโลกมารโลหิตของพวกเรา จะปล่อยให้พวกขยะดินแดนรกร้างโบราณเหิมเกริมได้อย่างไร”

ตอนที่ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นคุยกันได้เคลื่อนผ่านพื้นที่ที่หลินสวินซ่อนตัวอยู่ ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนไม่สังเกตว่าเป้าหมายที่พวกเขาตามหาได้เฉียดไหล่พวกเขาไปแล้ว

‘ยุ่งยากขึ้นมาบ้างแล้ว’

หลินสวินขมวดคิ้ว

เขาคิดไม่ถึงว่าผู้แข็งแกร่งเผ่างูมารทองคำดันส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เรียกกำลังเสริมภายนอกมามากมาย

สำหรับหลินสวิน วิธีที่ฉลาดที่สุดในตอนนี้คือออกจากป่าหลอมจิตให้เร็วที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ปลีกตัวออกจากพื้นที่ที่มีไอสังหารรอบด้านแห่งนี้

แต่สุดท้ายหลินสวินก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น

ที่นี่คือโลกมารโลหิต เป็นอาณาเขตที่ดินแดนโบราณมารโลหิตครอบครอง ต่อให้รีบออกจากป่าหลอมจิตแห่งนี้ แต่ขอเพียงถูกพบร่องรอยก็จะทำให้เกิดปัญหานับไม่ถ้วน

สู้อยู่ในป่าหลอมจิตแห่งนี้ต่อยังดีกว่า ที่นี่อาจจะอันตรายและแปลกประหลาด แต่ในเวลาเดียวกันกลับมอบโอกาสมากมายในการซ่อนตัวและหลบหนี

ขณะเดียวกันจากสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและพิสดารของที่นี่ อาศัยวิธีปกปิดร่องรอยของตนก็อาจสามารถสังหารศัตรูได้มากที่สุด!

สวบ!

เมื่อความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นในหัวหลินสวิน เขาก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที ตามกลุ่มผู้แข็งแกร่งที่ผ่านมาเมื่อครู่นี้ไปเงียบๆ

มีไอซวนหนีปกปิด ทั้งตัวเขาราวกับโปร่งแสง กลิ่นอายถูกปกปิดทั้งหมด

“ได้ยินว่าแม้แต่น้องสาวของบุตรเทพเสอหลินแห่งเผ่างูมารทองคำยังถูกผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณนั่นสังหาร หากเสอหลินรู้เข้าก็ไม่รู้ว่าจะคิดอย่างไร”

ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นยังคงยิ้มพูดคุย

พวกเขามีกันสิบกว่าคน รวมกลุ่มกันเคลื่อนไหว จึงไม่เป็นห่วงอันตรายอะไร

ในจิตใต้สำนึก พวกเขาเองก็ไม่คิดว่าศัตรูจะโง่เขลาถึงขนาดกระโดดออกมาสู้กับพวกเขาให้รู้แพ้ชนะในตอนนี้

“เสอหลินจะคิดอย่างไรข้าไม่รู้ ข้ารู้เพียงว่าเจ้าคนดินแดนรกร้างโบราณนั่นจะต้องตายอนาถ”

ชายหนุ่มคนหนึ่งหัวเราะเบาๆ

“งั้นหรือ”

ทันใดนั้นจู่ๆ เงาร่างของหลินสวินก็ปรากฏ ดวงตาดำเย็นเยียบ จ้องชายหนุ่มคนนั้น

“เจ้า…” ในใจชายหนุ่มสั่นสะท้าน ยังไม่ทันพูดเอ่ยปากศีรษะของเขาก็ถูกดาบหักที่ขาวสว่างราวกับหิมะตัดขาด

คนอื่นๆ ต่างตกใจจนลงมือตามจิตใต้สำนึก การตอบสนองของแต่ละคนไม่ได้ช้า เห็นได้ชัดว่าผ่านการเข่นฆ่ามานาน ไม่ตื่นตระหนกยามเผชิญอันตราย

น่าเสียดายที่พวกเขาเจอหลินสวินเข้า

พร้อมกับเสียงครวญใสเสียงหนึ่ง ดาบหักโฉบกลางอากาศ ตัดไปมาในที่นั้น พริบไหวอย่างต่อเนื่อง สำแดงนัยเร้นลับและอานุภาพของหกกระบวนเฉือนวัฏจักรฟ้า

พรวดๆๆ!

ชั่วขณะเดียวก็เห็นเลือดสาดกระเซ็นในที่นั้น ชิ้นส่วนร่างกายปลิวกระเด็น แม้แต่สมบัติบางส่วนยังถูกดาบหักโจมตีจนระเบิดเป็นชิ้นๆ

ส่วนหลินสวินเงาร่างเดินอยู่ในลาน เหมือนเดินเล่นสบายใจ

เพียงสิบลมหายใจเท่านั้น

เลือดนองเต็มพื้น ไม่มีใครรอดอีก!

มีเพียงบนป้ายคำสั่งรกร้างโบราณของหลินสวินที่ผลงานรบเพิ่มขึ้นไม่หยุด

หลินสวินกวาดทรัพย์หลักศึกอย่างคล่องแคล่วรอบหนึ่งก็ทะยานออกไป เงาร่างหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ไม่นานพื้นที่แห่งนี้มีเสียงทะลวงอากาศดังขึ้นจากสี่ด้านแปดทิศเป็นระลอก ผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ตกใจกับการต่อสู้เมื่อครู่นี้ กำลังเร่งมาทางนี้

ตอนที่เห็นร่องรอยต่อสู้นองเลือดบนพื้น ผู้แข็งแกร่งหลายคนอดผวาไม่ได้

“นี่คือพวกร้ายกาจ!”

สุดท้ายผู้แข็งแกร่งทุกคนที่มาถึงที่นี่ต่างได้ข้อสรุปเดียวกัน

ในเวลาเดียวกันหลินสวินซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก สงบใจสังเกตการณ์ สายตาเย็นเยียบ สีหน้านิ่งสงบไร้อารมณ์

เพียงแต่ในใจกลับหนักอึ้งเล็กน้อย

เมื่อครู่นี้ตอนที่สังหารผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณมารโลหิตเหล่านั้น เป็นเพียงแค่การหยั่งเชิงของเขา อยากจะดูว่าในป่าหลอมจิตแห่งนี้มีศัตรูรวมตัวอยู่เท่าไหร่กันแน่

ตอนนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะอันตรายกว่าที่เขาจินตนาการเล็กน้อย!

‘ยังดีที่ตอนนี้มีอริยะปรากฏเพียงสี่คน ศัตรูคนอื่นๆ แม้จำนวนจะมาก แต่อย่างมากก็เป็นเพียงแค่บุคคลขอบเขตมกุฎระดับอมตะเคราะห์ด่านเก้า…’

หลินสวินคำนวณเงียบๆ ในใจ

หากสถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป ศัตรูมีแต่จะมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะดึงดูดให้มกุฎอริยะออกโจมตี

อีกอย่างหลินสวินเองก็ไม่อาจอยู่ในป่าหลอมจิตแห่งนี้ไปทั้งชีวิต

‘รวบรวมแหล่งสมบัติหลอมจิตก่อน รอถึงตอนที่รวมแหล่งสมบัติหลอมจิตจนเพียงพอจะทำให้มรดกที่สามของดาบหักปรากฏก็จะไปจากที่นี่!’

ใคร่ครวญครู่หนึ่งหลินสวินพลันตัดสินใจ

เพียงแต่ตอนที่เขาเพิ่งคิดจะเคลื่อนไหว จู่ๆ ก็สังเกตเห็นว่า บนพุ่มหญ้าที่อยู่ไม่ไกลนักมีผึ้งสีดำขนาดราวนิ้วโป้งตัวหนึ่งเกาะอยู่ เปลือกนอกดำสนิท มืดมนไร้แสง ราวกับก้อนหินสีดำที่ไม่ดึงดูดสายตาก้อนหนึ่ง!

แต่ชั่วขณะนี้นัยน์ตาหลินสวินกลับหดรัดทันที

…….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset