เพียงพริบตาก็ไม่อยู่ในสายตา หายตัวไปในชั่วดีดนิ้ว
แต่ก็ด้วยพริบตานี้ที่ทำให้เทพธิดารั่วอู่ได้ฉวยโอกาสเคลื่อนผ่านช่องว่าง หนีจากสภาพสิ้นหวังมาได้
นี่ทำให้สีหน้าของพวกเล่อเซวี่ยซิวอึมครึมลงในชั่วขณะเดียว
เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
พวกเขาแปลกใจสงสัย รู้สึกยากเข้าใจ
ถึงอย่างไรก็เป็นปริศนาชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์เวลา ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิก็ยากจะมีพลังสัมผัสได้ นับประสาอะไรกับเหล่ามกุฎอริยะอย่างพวกเขา
“ตาม!”
เล่อเซวี่ยซิวกัดฟันกรอด ดวงตาแดงก่ำมองไปยังป่าหลอมจิตที่อยู่ห่างออกไป
ที่นั่นทิ้งกลิ่นอายของเทพธิดารั่วอู่ที่เคลื่อนผ่านห้วงอากาศว่างเปล่าไว้ ปิดบังพวกเขาไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
“รอจับตัวได้เมื่อไหร่ ข้าจะทรมานเจ้าให้ตาย!”
ชายหน้าตาห้าวหาญ ทั่วร่างปกคลุมด้วยพายุสายฟ้าสีน้ำเงินชวนประหวั่นคนหนึ่งกล่าวรุนแรง
ตอนอยู่ที่หุบเขาลมน้ำแข็งพวกเขาก็ล้อมกรอบเทพธิดารั่วอู่ ตามฆ่ามาตลอดทางจนถึงตอนนี้ ข้ามผ่านหนทางไกลมาแล้วหลายหมื่นลี้
ไม่ง่ายเลยกว่าจะบีบอีกฝ่ายให้อยู่ในสภาพสิ้นหวังที่นี่ได้ แต่ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝัน!
นี่จะไม่ให้พวกเขาเคียดแค้นได้อย่างไร
“ตาม!”
อริยะเจ็ดคนที่นำโดยเล่อเซวี่ยซิวเคลื่อนผ่านห้วงอากาศตามไป
…
“พี่หลิน ครั้งนี้ขอบคุณเจ้ามาก”
ใบหน้างามของเทพธิดารั่วอู่ซีดเผือด หว่างคิ้วเจือความซาบซึ้งใจ ขณะกล่าวมุมปากของนางยังมีคราบเลือดหลั่งออกมาเป็นสายๆ
เห็นชัดว่าอาการบาดเจ็บที่นางได้รับสาหัสกว่าที่เห็นภายนอกนัก
“อย่าเพิ่งพูดเลย รอเข้าไปในเหวลึกนั่นพวกเราก็ปลอดภัยแล้ว”
หลินสวินกล่าวรวดเร็ว
ยามนี้เขากำลังถูกรั่วอู่พาเคลื่อนผ่านห้วงอากาศว่างเปล่าไป
“ได้!”
เทพธิดารั่วอู่รับคำอย่างยินดี
…
“กลิ่นอายน่ากลัวยิ่งนัก!”
“นั่นเหมือนว่าจะเป็น… ใต้เท้าเล่อเซวี่ยซิวหรือ”
“สวรรค์ มกุฎอริยะตั้งเจ็ดคน!”
“ฮ่าๆๆ กองหนุนของพวกเรามาแล้ว เจ้าแพะสองขาที่ชื่อหลินสวินนั่นต้องตายแน่!”
ในป่าหลอมจิต ผู้แข็งแกร่งมากมายที่กำลังแตกตื่นลุกลี้ลุกลนต่างสังเกตเห็นเงาร่างของพวกเล่อเซวี่ยซิววาบผ่านไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งหมดเป่าปากโล่งใจเฮือกใหญ่ ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ทันที
ก่อนหน้านี้หลินสวินมุ่งหน้าซัดกวาดสังหารตลอดทาง มีผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ถูกฆ่า นอนจมอยู่ในแอ่งโลหิต
นี่ทำให้คนมากมายแทบจะพังทลาย คิดไม่ถึงว่าบุคคลขอบเขตมกุฎที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง ทำไมถึงน่ากลัวเช่นนี้ได้
แต่ตอนนี้เมื่อมกุฎอริยะเจ็ดคนอย่างพวกเล่อเซวี่ยซิวปรากฏตัว พวกเขาก็ไม่หวาดกลัวแล้ว!
“หืม? หลินสวิน? นี่มันเรื่องอะไรกัน”
พวกเล่อเซวี่ยซิวก็ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายตลอดทาง ล้วนอดสงสัยไม่ได้
ต้องรู้ว่าพวกเขามาคราวนี้ไม่ได้มาฆ่าหลินสวิน หากแต่กำลังไล่ล่าเทพธิดารั่วอู่อยู่
แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้ว เรื่องเร่งด่วนคือตามล่าเป้าหมาย!
ในฐานะที่เป็นมกุฎอริยะ พวกเขาต่างรู้ดีว่าหากให้เทพธิดารั่วอู่รอดไปได้ ฝั่งดินแดนรกร้างโบราณก็จะมีคนที่เหมือนเสาหลักเพิ่มขึ้นมาอีกคน!
ลูกหลานของเผ่าวิหคชาดคนหนึ่ง หญิงสาวที่ก้าวสู่หนทางมกุฎอริยะคนหนึ่ง กลับสามารถต่อสู้หนึ่งต่อเจ็ด ยืนหยัดอยู่ใต้การตามล่าของพวกเขามาได้ถึงตอนนี้ เดิมทีก็สามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งของนางแล้ว
สวบ!
ไม่ทันไรเมื่อมาใกล้หุบเหวลึกนั่น พวกเล่อเซวี่ยซิวต่างก็ผงะในใจวูบหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
กลิ่นอายอันตรายแปลกประหลาดกำลังแผ่ออกมาจากเหวลึก ทำเอาเหล่ามกุฎอริยะอย่างพวกเขายังรู้สึกขนพองสยองเกล้า
“ผู้หญิงคนนั้นหนีเข้าไปในเหวลึกนี่แล้ว”
ชายชุดเขียวคนหนึ่งมุ่นคิ้วกล่าว เขาก้าวเข้าไปใกล้เหวลึก แผ่จิตรับรู้เข้าไปสำรวจใต้หุบเหว
ตูม!
พลังคลื่นกฎเกณฑ์ประหลาดสายหนึ่งพุ่งออกมาจากส่วนลึกของหุบเหวทันที จิตรับรู้ของชายชุดเขียวถูกจู่โจมทันใด คำรามเสียงอึดอัดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ หนีห่างออกไปทันที
เพียงแต่สีหน้าเขากลับเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา “หุบเหวลึกนี้มีอะไรไม่เข้าที กลิ่นอายที่อัดแน่นอยู่ในนั้นสามารถกักขังพวกเราได้”
พวกเล่อเซวี่ยซิวตกตะลึง แววตาวาววาบ
“พวกเจ้าดู ที่นี่เคยเกิดการเข่นฆ่านองเลือดมาก่อน เอ๋ นี่คือติงซานเหอบรรณาการของเผ่างูมารทองคำนั่นไม่ใช่หรือ เขาตายแล้วรึ!?”
หญิงชราหน้าเด็กผมสีขนนกกระเรียน สวมชุดคลุมโลหิตคนหนึ่งกล่าวตกใจ จำร่างไร้วิญญาณหนึ่งที่นอนอยู่ในแอ่งโลหิตใกล้ๆ ได้
“พวกจี้ชิ่งเองก็ตายหมดแล้ว ทั้งยังตายไปเมื่อครึ่งชั่วยามก่อน ไม่มีทางถูกผู้หญิงเผ่าวิหคชาดนั่นฆ่าตายแน่”
อีกคนหนึ่งกล่าววิเคราะห์
“พวกเจ้าว่ามีคนช่วยรั่วอู่ แล้วพานางเข้าไปในเหวลึกนี้หรือไม่”
มีคนกล่าวเสียงต่ำ
ฟุ่บ!
เล่อเซวี่ยซิวลงมือทันที พุ่งไปกลางอากาศแล้วจับตัวชายชุดดำร่างผอมบางคนหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปมาสอบถาม “เล่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นที่นี่มา”
ชายชุดดำร่างผอมบางมาจากเผ่าผึ้งมารลายดำ ได้ยินดังนั้นก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับหลินสวินออกมาทีละเรื่องจนหมดเปลือก
ชั่วขณะหนึ่งมกุฎอริยะทุกคนในที่นั้นต่างอึ้งงัน
คิดไม่ถึงว่าแค่บุคคลขอบเขตมกุฎของดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง จะก่อเรื่องนองเลือดมากเช่นนี้ได้ในชั่วขณะเดียว
ถึงขั้นที่ว่าแม้แต่อริยะห้าคนอย่างพวกติงซานเหอยังตายอยู่ที่นี่กันหมด!
นี่น่าเหลือเชื่อเกินไป บุคคลขอบเขตมกุฎระดับอมตะเคราะห์ด่านเก้า สามารถข้ามระดับมาสังหารอริยะได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ในแปดดินแดนนี้แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!
“เจ้าว่าอะไรนะ เล่อมู่จิ้นถูกหลินสวินนั่นฆ่าแล้วรึ”
ทันใดนั้นเล่อเซวี่ยซิวเดือดจัด ไอสังหารทะลุทะลวงไปทั้งตัว พาให้ห้วงอากาศใกล้เคียงครวญคร่ำ พลานุภาพร้ายกาจน่าพรั่นพรึงถึงขีดสุด
เล่อมู่จิ้นคือบุคคลแห่งยุคของเผ่าเหยี่ยวมารเหินของเขา ผู้กล้าจากสวรรค์ที่ถูกลิขิตให้ก้าวสู่หนทางมกุฎอริยะคนหนึ่ง!
เดิมทีตอนแรกที่เล่อเซวี่ยซิวมาป่าหลอมจิตก็เพื่อมารับเล่อมู่จิ้น พาเขาไปส่งที่เมืองอารักษ์มรรคเพื่อรวมตัวกับพวกเซวี่ยชิงอี เตรียมพร้อมเข้าสู่แดนลับนรกโลกันตร์
แต่ไหนเลยจะคิดว่าเล่อมู่จิ้นจะตายไปแล้ว!
ผู้แข็งแกร่งของเผ่าผึ้งมารลายดำคนนั้นตกใจจนทรุดลงกับพื้นกล่าวปากสั่น “ใต้… ใต้เท้า เรื่องนี้หลินสวินนั่นเป็นคนก่อ ข้า…”
ปึง!
เล่อเซวี่ยซิวมีหรือจะฟังคำอธิบายอะไร ซัดฝ่ามือเข้าที่กะโหลกของคนผู้นั้นจนละเอียด น้ำเลือดสาดกระจาย
เขาหน้าคล้ำเขียว ในดวงตามีไอสังหารแผ่ซ่าน จ้องมองไปยังเหวลึกนั่นที่อยู่ห่างไปไม่ไกล กล่าวว่า “นางตัวดีเผ่าวิหคชาด รวมถึงเจ้าสวะที่ชื่อหลินสวินนั่นล้วนต้องตาย!”
เขากล่าวเน้นทีละคำ ไอสังหารสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
มกุฎอริยะคนอื่นอีกหกคนต่างเงียบงัน พวกเขาล้วนมองออกว่าด้วยการตายของเล่อมู่จิ้น ทำให้เล่อเซวี่ยซิวตกอยู่ในความเดือดดาล เวลานี้ใครก็ไปแตะต้องเขาไม่ได้
“หรือว่าพวกเราจะรออยู่ที่นี่”
มีคนมุ่นคิ้วถาม
“จับคนมา จับแพะสองขาของดินแดนรกร้างโบราณมาให้หมด!”
เล่อเซวี่ยซิวกล่าวโดยไม่ลังเล
ความคิดของเขาเหมือนกับเล่อมู่จิ้นหลานของเขาไม่มีผิด คิดจะใช้ชีวิตของผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณมาบีบหลินสวินให้ปรากฏตัว!
สมกับเป็นอาหลานยิ่งแล้ว
…
วันนี้โลกมารโลหิตสั่นสะเทือน
รั่วอู่มกุฎอริยะหญิงของดินแดนรกร้างโบราณถูกมกุฎอริยะมากมายตามฆ่า ซ่อนตัวอยู่ในป่าหลอมจิต!
ข่าวนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิตทุกคนตระหนักได้ว่า ที่แท้ในดินแดนรกร้างโบราณที่พวกเขาดูถูก ยังมีคนที่สามารถก้าวสู่ระดับมกุฎอริยะได้
นี่อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขา
ข่าวที่สองเกี่ยวข้องกับหลินสวิน
หรือพูดได้ว่าการเข่นฆ่าสังหารและการเคลื่อนไหวที่หลินสวินก่อนั้นมีอิทธิพลมากกว่าข่าวของรั่วอู่ และทำให้ผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิตพวกนั้นสั่นสะเทือนได้ยิ่งกว่า
การตายของเสอเจินเผ่างูมารทองคำ เล่อมู่จิ้นเผ่าเหยี่ยวมารเหิน รวมถึงอริยะทั้งห้าอย่างพวกติงซานเหอ…
ล้วนเป็นฝีมือของบุคคลขอบเขตมกุฎดินแดนรกร้างโบราณที่ยังไม่บรรลุอริยะคนหนึ่ง!
ใครจะกล้าเชื่อ
และหลินสวินที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บยังมุ่งหน้าซัดกวาดทั่วป่าหลอมจิต สังหารผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนได้ด้วยตัวคนเดียว ทำเอาผู้คนตื่นตระหนก
หลินสวินนี่เป็นสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่
ในดินแดนรกร้างโบราณมีบุคคลร้ายกาจราวพลิกฟ้าคนหนึ่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ไม่นานข่าวพวกนี้ก็แพร่ไปในเมืองอารักษ์มรรคของค่ายทัพใหญ่ดินแดนโบราณมารโลหิต ก่อให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลตามมา
ทั้งหลินสวินและรั่วอู่ ได้เข้าไปอยู่ในสายตาของผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าของดินแดนโบราณมารโลหิตทุกคนอย่างสมบูรณ์
วันนั้นแม้แต่เซวี่ยชิงอีที่ปิดด่านก็ถูกทำให้ตกใจ เงียบไปครู่ใหญ่จึงออกคำสั่งหนึ่งลงมา
“ไปบอกพวกผู้อาวุโสเล่อเซวี่ยซิว ว่าสองคนนี้จะต้องตาย หากพวกเขาต้องการ ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของดินแดนโบราณมารโลหิตเราจะร่วมมือกับพวกเขา!”
วันนั้นข่าวนี้ก็แพร่ออกไป
สำหรับผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าของดินแดนโบราณมารโลหิต เรื่องที่หลินสวินและรั่วอู่ทำช่างเป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวงครั้งแล้วครั้งเล่าจริงๆ ทำให้พวกเขาไม่อาจอดกลั้น
หากแพร่ออกไป เจ็ดดินแดนอื่นต้องมองพวกเขาเป็นตัวตลกแน่ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าหน้าหม่นแสง
แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือพลังและรากฐานที่หลินสวินกับรั่วอู่สำแดงออกมาทำให้พวกเขาระวังตัว ไม่กล้าดูหมิ่นและดูถูกเหมือนก่อนหน้านี้อีก
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเหมือนเซวี่ยชิงอี ไม่อาจทนเห็นหลินสวินและรั่วอู่มีชีวิตรอดต่อไปอีก!
เพียงพริบตาในโลกมารโลหิตที่กว้างใหญ่ สายตาทุกคู่ล้วนเริ่มจับจ้องไปยังพื้นที่ป่าหลอมจิต
ในโลกมารโลหิตไม่ได้มีแค่ผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิต ผู้แข็งแกร่งที่มาจากแปดดินแดนอื่นก็มีอยู่มากเช่นกัน
พวกเขาส่วนใหญ่ถูกเคลื่อนย้ายมาที่โลกมารโลหิตตอนสมรภูมิเก้าดินแดนเปิดออก
นอกจากผู้แข็งแกร่งของดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณมารโลหิตกวาดล้างครั้งใหญ่ไปในช่วงนี้แล้ว ผู้แข็งแกร่งของเจ็ดดินแดนอื่นยังไม่เคยถูกเพ่งเล็งและเบียดเบียนอะไร
เมื่อผู้แข็งแกร่งที่มาจากเจ็ดดินแดนอื่นได้ยินเรื่องเกี่ยวกับหลินสวินและเทพธิดารั่วอู่ ก็รู้สึกแปลกใจอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน
ถึงอย่างไรดินแดนรกร้างโบราณก็อ่อนแอมานาน ตอนนี้กลับมีบุคคลร้ายกาจชั้นยอดสองคนโผล่ออกมา ย่อมทำให้ผู้คนคาดไม่ถึงเป็นธรรมดา
เมื่อผู้แข็งแกร่งเจ็ดดินแดนเหล่านี้จากโลกมารโลหิตไป ก็นำเรื่องเกี่ยวกับหลินสวินและเทพธิดารั่วอู่ไปแพร่ในขุมอำนาจค่ายทัพอื่นด้วย
สรุปง่ายๆ ก็คือ อิทธิพลที่เรื่องนี้สร้างขึ้นกำลังบ่มเพาะ!
…
แดนลับวังใต้ดิน
หลังจากมาถึงที่นี่แน่นอนว่าไร้อันตรายใดอีก รั่วอู่ยืนหยัดไม่ไหวอีกต่อไป ร่วงลงไปกองกับพื้น หน้าซีดเผือดจนไร้สีเลือด นัยน์ตากระจ่างทึบแสงไปมาก
“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
หลินสวินประหม่าอยู่บ้าง นำโอสถเทพเยียวยาบางส่วนส่งมอบให้กับนาง
“ไม่เป็นไร”
รั่วอู่รับโอสถเทพมาเคี้ยวพลางสำรวจโดยรอบแล้วกล่าว “ก่อนหน้านี้ข้ายังเป็นห่วงว่าเจ้าจะประสบเคราะห์อยู่ที่ป่าหลอมจิต คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะหลบอยู่ในแดนลับที่ตัดขาดกับโลกภายนอกเช่นนี้”
หลินสวินชะงัก ไม่นานก็ตระหนักอะไรบางอย่าง กล่าวว่า “แม่นางรั่วอู่ เจ้า… เดิมทีคิดจะมาช่วยข้าหรือ”
รั่วอู่ยิ้มเยาะตนเอง “หากรู้ว่าเจ้าสุขสงบปลอดภัย ข้าคงไม่โง่ให้ถูกตามฆ่ามาตลอดทางจนถึงที่นี่”
ถึงตอนนี้หลินสวินเข้าใจแล้ว ในใจรู้สึกอบอุ่นอย่างอดไม่อยู่
……………….