Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1535 กระทำการกวาดล้าง

ตูม!

ตอนที่เพิ่งสิ้นเสียง หลินสวินก็โจมตีอย่างเหี้ยมหาญแล้ว ในจุดชีพจรรอบตัว ปราณกระบี่ไท่เสวียนสามพันสายเคลื่อนออกมากลายเป็นค่ายกลกระบี่

ชิ้ง!

ดาบหักบินขึ้นอากาศส่งเสียงใส ไอเข่นฆ่าอันดุดันรุนแรงท่วมฟ้า

และเหนือศีรษะหลินสวิน เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดสาดแสงมรรคทองนิลกาฬแสบตา พื้นผิวปรากฏตัวอักษรมหามรรคที่คลุมเครือและลึกลับมากมาย

พลังมกุฎแห่งหลอมปราณ หลอมกายสองอย่าง ถูกหลินสวินสำแดงออกมาอย่างเต็มกำลังในชั่วขณะ!

เมื่อเทียบกับตอนสังหารมกุฎอริยะทั้งสามอย่างพวกเล่อเทียนเหิง เห็นได้ชัดว่าแตกต่างโดยสิ้นเชิง น่ากลัวกว่า แข็งกร้าวกว่า และชวนใจสั่นกว่า

“เข้าไปพร้อมกัน!”

เลี่ยอวี้ตะเบ็งเสียง กวัดแกว่งพัดหยกลายทองในมือ

สถานการณ์ตอนนี้คือถอยหนีไม่ทันแล้ว มิฉะนั้นจะถูกหลินสวินกักตัวไว้ สูญเสียโอกาส ตกเป็นผู้ถูกกระทำ

ตูมโครม!

การต่อสู้ปะทุขึ้น ชั่วพริบตาฟ้าดินหมุนเวียน สุริยันจันทราอับแสง

ภูเขาหิมะที่เรียงรายถูกคลื่นน่ากลัวกวาดเรียบ กำจัดออกจากพื้นดิน

สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่าในระยะพันลี้หน้าเมืองอารักษ์มรรคล้วนได้รับผลกระทบรุนแรง พื้นดินแตกเป็นร่องน่ากลัวมากมาย

และบนท้องฟ้า แสงสมบัติสว่างไสวไหลเวียน วิชามรรคมหัศจรรย์พลุ่งพล่าน ทำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดน่ากลัวหาที่เปรียบไม่ได้มากมาย มีภาพมายาเทพมารปรากฏตัว มีพายุสายฟ้าพัดโหม มีกระบี่ครวญดุจกระแสน้ำ มีคมดาบเจิดจ้าร่ายรำพริบไหว

ยามนี้ฟ้าดินล้วนตะลึง!

นี่คือศึกแห่งมกุฎอริยะแท้ พลังทำลายล้างระดับนั้นจะธรรมดาได้อย่างไร

ตอนนี้แม้แต่ผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณมารโลหิตนับไม่ถ้วนที่กระจายอยู่ในเมืองอารักษ์มรรคยังตกตะลึง พากันพุ่งขึ้นกลางอากาศจ้องมองจากไกลๆ

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“อะไรนะ ถึงกับมีคนกล้าวิ่งมากำเริบเสิบสานนอกเมืองอารักษ์มรรคของพวกเราหรือ”

“เป็นการต่อสู้ระหว่างมกุฎอริยะ!”

“ใคร ใจกล้าคับฟ้าขนาดนี้ อยากตายหรือไง”

ในเมืองอารักษ์มรรค เสียงฮือฮาดังขึ้นจากทั่วทุกสารทิศ ต่างประหลาดใจอย่างที่สุด

ไม่นานพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่า ผู้มาเยือนก็คือหลินสวินที่ถูกเซวี่ยชิงอีออกคำสั่งว่าจะต้องฆ่าให้ได้ ทันใดนั้นทุกคนต่างยากจะเชื่อ

“เจ้าหมอนั่นดันบรรลุมกุฎอริยะแล้วหรือ”

หลายคนหัวใจสะท้าน

นี่เหลือเชื่อจริงๆ บุคคลแห่งยุคที่สูงส่งอย่างพวกเซวี่ยชิงอี ยังต้องเดินทางไปยังแดนลับนรกโลกันตร์เพื่อช่วงชิงวาสนาบรรลุมกุฎอริยะ

แต่หลินสวินกลับกระโดดสู่มกุฎอริยะภายใต้สถานการณ์ที่ถูกขังในป่าหลอมจิต นี่เป็นข่าวที่น่าตกใจเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย

“ก่อนหน้านี้มีเสียงแห่งอริยะร่วงหล่นสามสาย คงไม่ได้… เป็นฝีมือของหลินสวินนี่หรอกนะ”

และมีคนหวาดผวา ประหลาดใจจนไม่สามารถสงบได้

ทันใดนั้นในเมืองอารักษ์มรรคที่กว้างใหญ่ไพศาล สายตานับไม่ถ้วนต่างมองไปยังการต่อสู้ห่างออกไป

“น่าชังนัก! ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่แพะสองขาดินแดนรกร้างโบราณกล้าบุกมาโอ้อวดกำลังถึงหน้าค่ายทัพของเรา”

“จะต้องฆ่าเจ้ามารผจญนี่แล้วเอาศพไปแขวนหน้าเมืองเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู”

“และยังมีผู้หญิงคนนั้นก็จะปล่อยไว้ไม่ได้เด็ดขาด! ไม่ว่าเป็นใครที่มาท้าทาย ต้องตายทั้งหมด!”

เสียงที่แฝงความโกรธไม่รู้เท่าไหร่ดังขึ้น สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความดุดัน อึมครึม และไม่สามารถปกปิดอารมณ์เหี้ยมโหดรุนแรงได้

ในใจพวกเขาดินแดนรกร้างโบราณเป็นสถานที่ที่เสื่อมโครมและข้นแค้น ผู้แข็งแกร่งของดินแดนรกร้างโบราณยิ่งถูกพวกเขามองว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานที่สามารถฆ่าได้ตามอำเภอใจ

แต่ตอนนี้กลับมีแพะสองขาบุกมาถึงหน้ารังของพวกเขา นี่ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกถึงความอับอาย

“เผยแพร่คำสั่งของข้า ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ใครก็ห้ามออกจากเมืองโดยพลการ!”

บนหอกำแพงเมืองปี้เจี้ยนฉยงพูดเสียงขรึม

จากนั้นสายตาของเขามองไปยังสนามรบ ความรู้สึกอับอายที่พูดไม่ออกถาโถมในใจ

ถึงกับถูกผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกพวกเขาดูถูกที่สุดบุกสังหารมาถึงหน้าค่ายทัพใหญ่ ในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นเลย!

“เรียกรวมตัวมกุฎอริยะแต่ละเผ่า เตรียมพร้อมสังหารศัตรู!”

ปี้เจี้ยนฉยงสูดหายใจลึกๆ คราหนึ่งค่อยออกคำสั่งอีกครั้ง เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ครั้งนี้ข้าจะให้ชายหญิงสุนัขคู่นี้ตายทั้งหมด!”

คิดๆ แล้ว หากวันนี้ไม่สามารถจับตัวอีกฝ่ายไว้ได้ ตอนที่พวกเซวี่ยชิงอีหวนกลับมาจะคิดอย่างไร

เมื่อข่าวการต่อสู้นี้แพร่เข้าหูผู้แข็งแกร่งดินแดนอื่นๆ จะมองดินแดนโบราณมารโลหิตของพวกเขาอย่างไร

……

ตูม!

ในสนามรบ กลิ่นอายปานทำลายล้างฟ้าดินห้าสายท่วมท้น มีสมบัติอริยะทะยานอากาศ แสงเทพกดข่ม ปลดปล่อยระลอกคลื่นไร้สิ้นสุด มีวิชามรรคพาดห้วงอากาศ ปั่นป่วนห้าธาตุ ไอสังหารทะยานฟ้า มีเสียงฟ้าร้องสะเทือนเลื่อนลั่น สายฟ้าราวกับมังกรที่คดเคี้ยว…

มกุฎอริยะห้าคนร่วมมือกัน อานุภาพระดับนั้นแทบจะพลิกจักรวาลทั้งผืนแล้ว ทำลายภูผาธาราแถบนี้!

หากอยู่ในโลกภายนอก กำแพงเมืองอันยิ่งใหญ่ก็คงจะถูกทำลายจนสิ้นซากในชั่วพริบตา ฉากทำลายล้างที่เกิดขึ้นน่ากลัวเหนือจินตนาการอย่างแน่นอน

แต่หลินสวินในตอนนี้ไม่ใช่คนที่ในอดีตจะเทียบได้อีกต่อไปแล้ว

ภายใต้การล้อมนี้ สีหน้าของเขาเรียบนิ่งไร้อารมณ์ มีเพียงไอสังหารที่ดุจดั่งเดือดพล่าน พลังต่อสู้ไร้ที่เปรียบ

“ทลาย!”

รอบตัวเขา มรรคดับดารากลืนกินแผ่ลอย กลายเป็นหุบเหวใหญ่ไร้ใดเปรียบ ราวกับธารสวรรค์คว่ำตัวลง

ไม่ว่าเจ้าจะมีสมบัติอริยะตะลึงโลก วิชามรรคเทียมฟ้าอะไร เมื่อเผชิญหน้ากับหลินสวินล้วนเหมือนฟองอากาศ ถูกกลืนกินจนสิ้นซาก

ครืนโครม!

มกุฎอริยะห้าคนสีหน้าเปลี่ยนไป อานุภาพที่โจมตีถูกพลังน่ากลัวยิ่งใหญ่ไม่อาจควบคุมทลายออกอย่างรุนแรง สะเทือนจนร่างกายพวกเขาเซถอยอย่างควบคุมไม่อยู่

ส่วนตำแหน่งที่หลินสวินอยู่ ห้วงอากาศสิบทิศ ทุกสิ่งล้วนสลายสิ้น!

“เฮือก!”

เห็นท่วงท่าผงาดกร้าวเช่นนั้นของหลินสวิน ไม่เพียงแค่เหล่าผู้แข็งแกร่งในเมืองอารักษ์มรรค แม้แต่ปี้เจี้ยนฉยงยังอึ้งงัน หน้าเปลี่ยนสีไป ร่างกายแข็งทื่อ สูดหายใจหนาวเหน็บไม่หยุด

“นี่… นี่ยังใช่คนอยู่หรือ”

คนบางส่วนร้องเสียงแหลม ในเสียงเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“เหตุใดเขาจึงแข็งแกร่งขนาดนี้”

แม้เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่มากประสบการณ์ มีชีวิตอยู่มาไม่รู้นานเท่าไหร่ ในใจยังอดสั่นสะท้านรุนแรงไม่ได้

เพิ่งจะก้าวสู่ระดับมกุฎอริยะก็มีอานุภาพปานไร้เทียมทานแล้ว ทำลายการรับรู้ที่ผ่านมาของพวกเขาอย่างแท้จริง ทำให้พวกเขาต่างไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

รั่วอู่ได้ถอยไปอยู่นอกสนามรบแล้ว ท่าทางเคร่งขรึมเตรียมรับศึก ไม่ใช่สอดมือไปไม่ได้ แต่เป็นเพราะกังวลว่าตนจะกลายเป็นภาระของหลินสวิน

ไม่มีใครรู้ดีไปกว่านางว่า แม้ถูกมกุฎอริยะเจ็ดคนล้อมก็ไม่สามารถทำอะไรหลินสวินได้ แล้วนับประสาอะไรกับห้าคนที่อยู่ตรงหน้านี้

จะต้องเสียเปล่าเช่นเดียวกันอย่างแน่นอน!

“ฆ่า!”

ชายชราชุดเทาที่เหี้ยมหาญ หนวดผมดกหนาคนหนึ่งชูค้อนยักษ์สายฟ้าอันหนึ่ง กระแทกไปทางหลินสวินโดยพลัน

ตูม โครม โครม… สายฟ้าสีม่วงน่าสะพรึงราวกับน้ำตกดุดันที่ไหลเชี่ยว เต็มไปด้วยพลังกฎเกณฑ์อริยมรรคแน่นขนัดไหลพุ่งลงมา

เคร้ง!

นิ้วหนึ่งของหลินสวินยื่นออกมา ขวางค้อนยักษ์สายฟ้าม่วงที่อานุภาพน่ากลัวนี้เอาไว้

นี่เป็นถึงสมบัติอริยะที่แข็งแกร่งยิ่งชิ้นหนึ่ง สามารถกระแทกทำลายภูผาธาราทะเลสาบมหาสมุทรอย่างง่ายดาย แต่เผชิญกับหนึ่งนิ้วนี้ของหลินสวิน กลับดุจดั่งกำแพงสวรรค์ที่ไม่สามารถเข้าใกล้ได้แม้แต่ชุ่นเดียว

ชายชราชุดเทาใบหน้าแดงก่ำขึ้นมา กระตุ้นเร้าสุดชีวิต แต่ยังคงไร้ประโยชน์

กลับถูกหลินสวินใช้ฝ่ามือคว้า พลันชิงค้อนยักษ์สายฟ้าม่วงไปแล้วพลิกมือทุบออกไปอย่างแรง

ค้อนยักษ์สายฟ้าสีม่วงอันหนึ่ง ยามทุบออกไปด้วยฝีมือหลินสวิน พลานุภาพพลันเพิ่มขึ้นอีกช่วงใหญ่

เสียงตูมดังขึ้นคราหนึ่ง ชายชราชุดเทาถูกสะเทือนจนกระอักเลือดกระเด็นออกไป

ในเวลาเดียวกันมกุฎอริยะอีกสี่คนก็โจมตีเข้ามาแล้ว

การล้อมโจมตีนี้น่าตกใจเกินไปจริงๆ ทุกคนต่างมีอานุภาพเทียมฟ้า และยังร่วมมือกันโจมตี ทำให้ผู้คนแทบรับมือไม่ไหว

แต่หลินสวินกลับเห็นชัดว่าใจเย็น สีหน้าไร้คลื่นอารมณ์ นิ่งเรียบไปหมด

เขายกมือขึ้นเบาๆ พลันควบคุมเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดไว้ในมือ นิ้วมือบีบกำกลายเป็นหมัดหนึ่ง จากนั้นปล่อยออกไปกลางอากาศ

ตูมโครม!

ในฝ่ามือ เจดีย์สมบัติสาดแสงมรรคสีทองพร่างพราวรุนแรง พลังที่น่ากลัวพุ่งเข้าในหมัด สุดท้ายแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงที่สว่างไสวแรงกล้าสายหนึ่ง ปรากฏอานุภาพแข็งแกร่งไม่อาจทำลาย กำราบแปดทิศ

ราวกับว่าเมื่อเผชิญหน้ากับหมัดนี้แล้ว ล้วนไม่อาจขวางกั้น!

ทันใดนั้นภูผาธาราแถบนี้พังทลาย สรรพสิ่งล่มจม

การร่วมมือของมกุฎอริยะห้าคนถูกทลายอีกครั้ง แต่ละคนราวกับถูกฟ้าผ่า ถอยร่นหลีกหนี ส่วนพลังหมัดที่ไม่อาจต้านทานของหลินสวินก็กดข่มมาถึงตรงหน้าชายชราชุดเทาคนนั้นแล้ว

ปัง!

ชายชราชุดเทาคำรามสะท้านฟ้า โคจรพลังทั้งหมดต้านทานสุดความสามารถ แต่กลับไม่ต่างกับตั๊กแตนห้ามรถ

ตอนที่ถูกหมัดกวาดโดน ร่างกายของเขาระเบิดออกในพริบตา ฝนโลหิตสาดกระเซ็น

แม้แต่จิตวิญญาณของเขาก็ถูกพลังหมัดที่รุนแรงราวกับกระแสน้ำเชี่ยวโจมตีจนสลาย!

หนึ่งหมัดสะเทือนมกุฎอริยะห้าคน สังหารชายชราชุดเทา!

พลังที่เผด็จการไม่อาจต้านทานนั่น ทำเอาทุกคนในเมืองอารักษ์มรรคที่ชมการต่อสู้อยู่ต่างอึ้งจนอ้าปากค้าง ตกใจจนลูกตาแทบหลุดออกมา

“คนที่สี่”

หลินสวินพูดเสียงเรียบ ยามเอ่ยปากเขาได้ก้าวย่างกลางอากาศ เคลื่อนตัวโจมตีไปคู่ต้อสู้คนอื่นๆ

บนท้องฟ้าแสงเลือดแสบตาเกลือกกลิ้ง เสียงอริยะร่วงหล่นดังมาเป็นระลอก

มกุฎอริยะสี่คนที่เหลือต่างขึ้งโกรธ หวาดกลัว และหวาดระแวง แต่ตอนนี้พวกเขายากจะถอนตัวแล้ว จำต้องต้านทานต็มกำลัง

ด้านหลังก็คือรังของพวกเขา ตอนนี้ไม่รู้มีกี่สายตากำลังจับจ้องมองมาทางนี้ พวกเขาจะถอยได้อย่างไร

หากถอย ชาตินี้พวกเขาคงถูกกำหนดให้ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้อีกแน่!

“แสงเทพดาวไฟ!”

“เฉือนวิญญาณสังหารแปดทิศ”

“ตัดแบ่งหยินหยาง!”

วิชาเยี่ยมยอด พลังอภินิหาร สมบัติแต่ละชนิดพวยพุ่งมาโจมตีหลินสวิน

แต่ไม่ว่าการโจมตีใด ล้วนถูกหลินสวินทลายอย่างง่ายดาย

เงาร่างของหลินสวินมีแสงมรรคไหลเวียน ราวกับหมื่นวิชาไม่อาจรุกรานอย่างแท้จริง!

ฉัวะ!

ครู่ต่อมาท่ามกลางละอองแสงเหิมหาญเต็มฟ้า หลินสวินมาถึงตรงหน้าชายที่รูปร่างเตี้ยและผอมบางคนหนึ่งแล้ว

คนผู้นี้ตกใจในทันใด ในริมฝีปากส่งเสียงคำราม สองมือยกไขว้สลับซัดออกไป เสียงฉึบดังขึ้นคราหนึ่ง กระบวนเฉือนอักษรสิบหยินหยางสายหนึ่งพลันปรากฏ

อักษรสิบ (十) หนึ่งขวางหนึ่งตั้ง หนึ่งดำหนึ่งขาว ปรากฏกลิ่นอายเข่นฆ่าที่แปลกประหลาดน่ากลัวอย่างหนึ่ง ห้วงอากาศรอบๆ ถึงกับถูกฉีกทึ้งเป็นเส้นกางเขนราวกับกระดาษเปื่อย แผ่ขยายออกไปอย่างน่าทึ่ง

นี่คือไพ่ตายของคนผู้นี้อย่างไม่ต้องสงสัย!

“คนที่ห้า”

เพียงแต่เผชิญกับการโจมตีระดับนี้ หลินสวินกลับไม่ใส่ใจสักนิด หนึ่งหมัดสะบัดลง

ตูม!

กระบวนเฉือนอักษรสิบหยินหยางระเบิดออกทันใด พลังหมัดของหลินสวินแม้จะถูกทำลายลงไปด้วย แต่เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดที่ถูกแทรกไว้ในพลังหมัดนานแล้วส่งเสียงคำราม กำราบลงมา

ชั่วพริบตาก็ทุบเกราะ สมบัติ และพลังป้องกันของคนผู้นี้จนแหลกละเอียดทั้งหมด ส่วนคนผู้นี้ก็ถูกเจดีย์สมบัติกำราบทำลายตั้งแต่ศีรษะลงมา ร่างกายระเบิดกระเด็นทุกกระเบียด

มองจากไกลๆ เหมือนโคมไฟกระดาษถูกบดขยี้อย่างไรอย่างนั้น สภาพการตายย่ำแย่

มกุฎอริยะร่วงหล่นอีกคน!

ชั่วขณะนี้คนที่เหลืออีกสามคนอย่างพวกเลี่ยอวี้ไม่ใช่แค่ตกใจกลัวแล้ว แต่หวาดผวาอย่างยิ่ง

ล้อมโจมตียังไม่สามารถทำอะไรได้ กลับถูกอีกฝ่ายโจมตีจนตาย กวาดล้างทีละคน!

………….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset