Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1550 มรสุมใหญ่อุบัติ

สุดท้ายมีมกุฎอริยะหนีออกไปได้?

นัยน์ตาดำของหลินสวินวาบประกายเย็นเยียบ กล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล เรื่องสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ ข้าก็ไม่เคยคิดปิดบังตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพียงแต่จนถึงตอนนี้ศัตรูจากแปดดินแดนเพิ่งจะเริ่มไหวตัว กลับทำให้ข้าค่อนข้างแปลกใจอยู่บ้าง”

เซ่าเฮ่าและรั่วอู่พากันอึ้งไป

“พี่เซ่าเฮ่า จากนี้เจ้าแค่สงบใจรักษาอาการบาดเจ็บก็พอ เรื่องอื่นมอบให้ข้าจัดการเถอะ”

หลินสวินไม่ได้อธิบายอะไร กล่าวกำชับว่า “นอกจากนี้ยังต้องรบกวนแม่นางรั่วอู่ช่วยข้ากระจายข่าวหนึ่งด้วย”

“เรื่องอะไร”

รั่วอู่สงสัยใคร่รู้

“บอกไปว่าข้าหลินสวินจะสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ในอีกสามเดือนข้างหน้า!”

หลินสวินเอามือไพล่หลัง เอ่ยปากเสียงเรียบ

“อะไรนะ”

รั่วอู่และเซ่าเฮ่าต่างพากันตกใจ “นี่ถ้าเกิดถูกศัตรูรู้เข้า…”

“ข้าก็อยากให้พวกเขารู้นั่นแหละ”

หลินสวินกล่าว “แน่นอน การทำเช่นนี้ยังมีจุดประสงค์อย่างอื่นอีก นั่นก็คือให้ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่กระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ในตอนนี้รู้ข่าว และมุ่งหน้ามาร่วมดำเนินการกับพวกเรา”

“หากศัตรูยกทัพใหญ่มารุกราน ลำพังแค่กำลังของพวกเราในตอนนี้เกรงว่ายากจะต้านทานไว้ได้”

เซ่าเฮ่าขมวดคิ้วกล่าว

หลินสวินเอ่ยว่า “ถึงตอนนั้น ทั้งคู่แค่รอชมก็พอ”

เซ่าเฮ่าและรั่วอู่มองหน้าสบสายตากัน ต่างไม่รู้ชัดว่าหลินสวินไปเอาความมั่นใจมาจากไหน แต่สุดท้ายทั้งสองล้วนไม่ได้ถามมากความอีก

ถ้าหลินสวินอยากพูด ย่อมพูดตั้งนานแล้ว

แต่ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้กลับทำให้ทั้งคู่ต่างใคร่รู้ขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าหลินสวินจะใช้วิธีการอะไรไปต้านศัตรูกันแน่

นับแต่วันนี้เป็นต้นไป หลินสวินเริ่มออกจากค่ายชั่วคราวบ่อยขึ้น

เหนือมหาสมุทรสีดำแถบหนึ่ง นัยน์ตาดำของหลินสวินลึกล้ำ พลังแห่ง ‘นัยน์ตาเฉาเฟิง’ โคจรอยู่ในดวงตา กวาดสำรวจและตรวจค้นส่วนลึกของมหาสมุทร

ครู่ใหญ่ต่อมาเขาเอื้อมมือคว้าหมับอย่างแรงคราหนึ่ง

ฮูม!

ผิวทะเลม้วนตลบโหมซัด เกลียวคลื่นดุจอสนี ชีพจรปราณวิญญาณที่มีความยาวถึงพันจั้ง ใหญ่หนาเท่าบ้านเรือนถูกดูดดึงออกมา

ดุจดั่งมังกรขนาดมหึมาตัวหนึ่ง!

ประกายแสงวิญญาณเจตะเจิดจ้าคละคลุ้ง ไอวิญญาณที่บริสุทธิ์เข้มข้นพวยพุ่ง กลายเป็นละอองแสงสาดพรม เห็นได้ชัดว่าศักดิ์สิทธิ์สูงส่งหาใดเปรียบ

นี่คือชีพจรปราณวิญญาณ ‘ระดับอริยะ’ ที่หายากสายหนึ่ง แทรกด้วยกลิ่นอายวิญญาณเจตะอันเข้มข้น มูลค่าน่าตกใจ

หากอยู่โลกภายนอก ชีพจรปราณวิญญาณสายนี้สามารถสร้างถ้ำสวรรค์แดนมงคลอันโอ่อ่าแห่งหนึ่งได้เลย!

ฟึ่บ!

แขนเสื้อหลินสวินโบกสะบัด เก็บชีพจรปราณวิญญาณแล้วจากไปอย่างผ่าเผย

บนชายหาดที่มีโขดหินขรุขระแปลกประหลาดแถบหนึ่ง

ตูม!

พื้นดินถูกแสงกระบี่เฉือนแหวกออกเป็นรอยแยกขนาดใหญ่สายหนึ่ง หลินสวินเงาร่างพริบไหว กระโจนพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของรอยแยก

หนึ่งพันจั้ง

สามพันจั้ง

…จนกระทั่งมาถึงใต้ดินเก้าพันจั้ง ประกายแสงสีแดงเพลิงแสบตาแถบหนึ่งก็ส่องเข้ามาในครรลองสายตาของหลินสวิน

นี่ ก็เป็นชีพจรปราณวิญญาณระดับอริยะที่คุณลักษณะยอดเยี่ยมอีกสายหนึ่ง!

สมรภูมิเก้าดินแดนเป็นโลกที่ลึกลับสุดขีด สร้างอยู่ระหว่างเก้าดินแดนใหญ่ ในนี้แทรกด้วยโลกเล็กลึกลับอีกมากมาย และบรรจุสมบัติที่หาได้ยากจากโลกภายนอก

ก็แม้แต่คุณลักษณะของชีพจรปราณวิญญาณยังสูงลิ่วจนน่าตกใจ!

มีแรงเสริมจากนัยน์ตาเฉาเฟิง ทำให้หลินสวินสามารถรวบรวมชีพจรปราณวิญญาณน้อยใหญ่ได้มากกว่าร้อยสายภายในเวลายี่สิบวันสั้นๆ

ชีพจรปราณวิญญาณบางสายยาวถึงหลายพันจั้ง ตัวปราณงดงาม กลิ่นอายวิญญาณเจตะย้อมจนห้วงอากาศพร่างพราว

บ้างก็มีความยาวเพียงสิบกว่าจั้ง แต่ความบริสุทธิ์ของพลังวิญญาณที่บรรจุอยู่ ล้วนสามารถทำให้มกุฎอริยะอย่างหลินสวินตกใจสั่นสะท้าน!

ชีพจรปราณวิญญาณเหล่านี้ ก็คือกุญแจสำคัญที่รวบรวมพลังให้แก่กระบวนค่ายกลอริยะ ‘สี่ยอดแปดพิทักษ์’

ดึกสงัด

ในค่ายชั่วคราวหลินสวินที่จัดการงานทุกอย่างในมือเสร็จแล้วยืนอยู่ใต้ม่านราตรีเพียงลำพัง ทอดสายตามองไปไกลๆ

ตั้งแต่อยู่ที่นี่จนถึงตอนนี้ เวลาก็ล่วงเลยไปกว่าครึ่งปีแล้ว

ในครึ่งปีนี้อนุมานกระบวนค่ายกล กลั่นหลอมจานและธงกระบวน รวบรวมวัสดุจัดวางกระบวน… แทบจะกินเวลาส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดของหลินสวิน

แต่ทุกสิ่งที่ทุ่มเทออกไป ล้วนคุ้มค่า

ก็เหมือนตอนนี้ ขาดแค่รวบรวมวัสดุสร้างเมืองให้มากพอ ก็สามารถเริ่มสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ได้แล้ว!

ยืนนิ่งอยู่ในราตรีกาลเพียงลำพังอยู่เนิ่นนาน หลินสวินพึมพำในใจ

‘ทุกสิ่งพร้อมพรัก รอแค่ลมพัดมา!’

และในเวลาเดียวกัน ข่าวที่หลินสวินคิดจะสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ ภายใต้การกระตุ้นของรั่วอู่ ชั่วขณะเดียวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งสมรภูมิเก้าดินแดน

เรียกแรงสะเทือนทั่วใต้หล้า

“เจ้าหมอนี่ป่าวประกาศเรื่องนี้อย่างโจ๋งครึ่มเช่นนี้ ไม่กลัวถูกศัตรูจากแปดดินแดนร่วมมือกันกำราบรึ”

โลกเพลิงสวรรค์

ส่วนลึกของภูเขาใหญ่ที่ร่องรอยมนุษย์เบาบาง ในโลกลึกลับแห่งหนึ่ง เยี่ยเฉินที่เพิ่งย้อนกลับมาก็นำข่าวนี้กลับมาด้วย ทำให้เซี่ยวชางเทียนหัวคิ้วขมวดมุ่น

ตั้งแต่เข้าสู่สมรภูมิเก้าดินแดน เซี่ยวชางเทียนและเยี่ยเฉินก็พบกันโดยบังเอิญ แอบซ่อนอยู่ในโลกเพลิงสวรรค์แห่งนี้ด้วยกัน

“เจ้าคิดว่าหลินสวินเป็นคนไร้สมองประเภทนั้นหรือ”

แววตาเยี่ยเฉินลุกโชน “ข้ากลับรู้สึกว่าก็ถึงเวลาที่พวกเราควรออกไปได้แล้ว เป็นเต่าหดหัวในกระดองมาเกือบหนึ่งปีแล้ว ขืนอยู่ที่นี่ต่อไปข้าต้องซึมเศร้าเป็นแน่”

เซี่ยวชางเทียนนิ่งเงียบเนิ่นนาน สูดหายใจลึกเต็มแรงเฮือกหนึ่งแล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ไป โคตรแม่งเอ๊ย ข้าทนมานานมากพอแล้ว!”

ทั้งคู่สบสายตาระบายยิ้ม

ขณะเดียวกันไม่ว่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณคนใดก็ตามที่รอดชีวิตอยู่ในสมรภูมิเก้าดินแดน หลังได้ยินข่าวนี้ส่วนใหญ่ล้วนใจเต้นรัวไม่หยุด

หลินสวิน!

นี่เป็นถึงบุคคลขอบเขตมกุฎที่ดุจดั่งตำนานคนหนึ่งในดินแดนรกร้างโบราณของพวกเขา ในเมื่อเขากล้าทำเช่นนี้ ย่อมต้องมีที่พึ่งพิง

ไม่มีใครคิดว่าหลินสวินจะไม่เจียมสังขาร

นี่ก็คือบารมีและชื่อเสียงอันเป็นที่รู้กันของหลินสวิน เป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นจากการสังหารและการต่อสู้นองเลือดครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา!

“ไป ต่อให้เส้นทางนี้จะพบเจออันตรายมากมาย ข้าก็จะกลับไปโลกรกร้างโบราณ ไปรวมพลกับสหายร่วมอุดมการณ์ให้ได้”

มีคนกัดฟัน

“ซ่อนตัวมานานขนาดนี้แล้ว ในที่สุดก็ได้ยินข่าวดีเช่นนี้เสียที ต่อให้เดิมพันด้วยชีวิตนี้ของข้า ก็ไม่อาจนิ่งดูดายได้!”

มีคนสายตามุ่งมั่น

เรื่องเช่นนี้เริ่มเกิดขึ้นตามพื้นที่ต่างๆ ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่อดกลั้นซ่อนตัวแต่ละคนต่างเริ่มออกเคลื่อนไหว

เป้าหมาย คือมุ่งหน้าไปโลกรกร้างโบราณ!

แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณมากมาย ที่เลือกสังเกตการณ์นิ่งๆ หลังจากได้รู้ข่าว

หลินสวินแข็งแกร่งยิ่ง ใจกล้าเปี่ยมล้นจริงๆ แต่ที่นี่อย่างไรก็เป็นสมรภูมิเก้าดินแดน ทันทีที่ข่าวนี้แพร่กระจาย ศัตรูแปดดินแดนมีหรือจะนั่งเฉยได้

ไม่ต้องสงสัยสักนิด โลกรกร้างโบราณในตอนนี้จะต้องกลายเป็นใจกลางพายุ ถูกจับตามองตั้งแต่แรก สามารถบังเกิดการเข่นฆ่าที่น่าสะพรึงจนไม่อาจจินตนาการได้ทุกเมื่ออย่างแน่นอน!

มุ่งหน้าไปตอนนี้ ไม่ค่อยชาญฉลาดนัก!

เว้นแต่…

หลินสวินสามารถสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ ต้านการรุกรานของศัตรูแกร่งจากแปดดินแดนได้จริงๆ บางทีถึงตอนนั้นจึงจะเป็นเวลาที่ให้กลับสู่โลกรกร้างโบราณได้

ทว่าผู้แข็งแกร่งที่ตัดสินใจมองดูเงียบๆ อยู่ด้านข้างเหล่านี้ ต่างพากันคิดว่าความหวังที่ความเป็นไปได้ข้อนี้จะเกิดขึ้นนั้นแสนริบหรี่ยิ่ง

เหตุผลง่ายดายยิ่ง รากฐานและพลังของศัตรูจากแปดดินแดนน่าสะพรึงเกินไป แค่ลองคิดเล่นๆ ก็ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวัง

นี่ก็เป็นปัญหาการเลือกส่วนบุคคล

ถึงแม้จะอยู่ค่ายทัพเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณทุกคนจะเต็มใจไปสนับสนุนหลินสวินแบบไม่สนเป็นตาย

โลกขุมอุดร

บนทะเลลมกรด ในตำหนัก

“เจ้าเด็กเหลือขอแซ่หลินนี่ช่างบ้าระห่ำมากจริงๆ เขาไม่รู้หรือว่าการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนสองครั้งก่อน เมืองอารักษ์มรรคของโลกรกร้างโบราณของเขาถูกโจมตีปราชัยอย่างไร”

เสียงแก่ชราสายหนึ่งระเบิดหัวเราะขึ้น กล่าวด้วยแววเสียดสีเต็มเปี่ยม

“จากบันทึกที่บรรพชนเผ่าข้าเหลือทิ้งไว้ การต่อสู้แห่งเก้าดินแดนครั้งแรก เมืองอารักษ์มรรคของโลกรกร้างโบราณถูกโจมตีพ่ายแพ้ มีแพะสองขาถูกสังหารรวมทั้งสิ้นสามแสนคน ตอนนั้นฝนเลือดเทสาดจากฟากฟ้า สิบวันต่อเนื่อง!”

“การต่อสู้แห่งเก้าดินแดนครั้งที่สอง ดินแดนรกร้างโบราณหมายจะสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ แต่เพิ่งได้ครึ่งทางก็ถูกกองทัพพันธมิตรแปดดินแดนของพวกเราร่วมกันเหยียบทำลาย ล้างบางสังหารทุกคนตายคาที่ไปกว่าเก้าหมื่น เลือดนองไหลเอ่อ!”

“ตอนนี้หลินสวินนี่ถึงกับยังกล้าทำเช่นนี้ ไม่กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรือ นี่ไม่ใช่เขารนหาที่ตายเอง คิดอยากพาแพะสองขาดินแดนรกร้างโบราณทั้งหมดตายไปด้วยหมดหรือ”

ในโถงใหญ่เสียงหัวเราะผสมโรงดังขึ้นสี่ทิศ

หลังจากได้รู้ข่าวว่าหลินสวินกำลังจะสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาก็คือ เจ้าหมอนี่สมองเป็นตะคริวไปแล้วรึ

ต่อให้รนหาที่ตาย ก็ไม่เห็นต้องใจร้อนขนาดนี้เลย!

จากนั้นก็เป็นเสียงดูแคลน เยาะเย้ย หัวเราะผสมโรงต่างๆ นานา

“นายน้อย ขอเพียงท่านสั่งการคำเดียว ข้าจะพาคนไปเหยียบโลกรกร้างโบราณนั่นให้ราบเป็นหน้ากลองเดี๋ยวนี้เลย!”

เสียงที่เหมือนระฆังกังวานสายหนึ่งดังก้องขึ้น

ชั่วขณะเดียว สายตาของเหล่าคนใหญ่คนโตทุกคนในโถงใหญ่ต่างมองไปทางคุนเซ่าอวี่ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน

คุนเซ่าอวี่ยกสุราเข้มหอมละมุนขึ้นจิบเบาๆ คราวนี้จึงระบายยิ้มบางๆ แววตาลุ่มลึก เอ่ยปากเนิบนาบ

“สวรรค์หมายให้เขาตาย ย่อมสั่งให้เขาคลั่ง เจ้านี่บอกว่าสามเดือนให้หลังก็จะสร้างเมืองอารักษ์มรรคในโลกรกร้างโบราณขึ้นมาใหม่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงตอนนั้นย่อมต้องมอบการโจมตีถึงชีวิตให้แก่เขาอย่างแน่นอน”

ทันใดนั้นเขาพลันเปลี่ยนหัวข้อสนทนา กล่าวว่า “เพียงแต่เรื่องนี้ก็ไม่อาจให้ดินแดนโบราณขุมอุดรของพวกเราออกแรงอยู่ฝ่ายเดียว”

“ความหมายของนายน้อยคือ จะดึงขุมอำนาจอีกเจ็ดดินแดนที่เหลือร่วมกันโจมตีหรือ”

มีคนเอ่ยถาม

“ไม่ผิด”

คุนเซ่าอวี่กล่าวเรียบๆ “ตัดรกร้างโบราณก่อน ค่อยประชันสูงต่ำ เรื่องพุ่งเป้าเล่นงานดินแดนรกร้างโบราณ พวกเราแปดดินแดนมีอุดมการณ์ร่วมกัน ร่วมรุกร่วมถอยด้วยกันเรื่อยมา เรื่องระดับนี้ย่อมไม่มีทางขาดพวกเขาได้แน่”

“อีกเดี๋ยวข้าจะเขียนจดหมายด้วยตัวเอง นำไปแจ้งให้กับผู้นำของพวกเขาทีละคน”

กล่าวจบเขาก็เงยหน้ากระดกสุรา

สมรภูมิเก้าดินแดนเปิดมาจนถึงตอนนี้ เวลาจวนจะหนึ่งปีแล้ว ก็ถึงเวลาจัดการเป้าหมายอย่างการ ‘ตัดรกร้างโบราณก่อน’ ให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว!

ไม่นานจดหมายที่คุนเซ่าอวี่เขียนด้วยตัวเองก็ถูกส่งไปอยู่ต่อหน้าบุคคลระดับผู้นำดินแดนอื่นทีละคน

‘ตอนที่หลินสวินสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ ก็คือวันตายของเขา ถึงตอนนั้นข้าหวังว่าทุกท่านจะส่งมกุฎอริยะสิบคนออกมา นำทัพทหารสามหมื่นนาย เคลื่อนทัพโจมตีดินแดนรกร้างโบราณ!’

โลกต้าหลัว หลังจากได้รับข่าว เจี้ยนชิงเฉินผู้สืบทอดอันดับหนึ่งหอกระบี่ฟ้าทำเพียงครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วจึงตกปากรับคำ

“ได้!”

โลกโบราณยอดหยิน องค์ชายจู๋อิ้งคงเผ่าจู๋หลงก็ตอบตกลงเช่นกัน

มกุฎอริยะสิบคน ทหารสามหมื่นนายเท่านั้น เทียบได้แค่กองกำลังหนึ่งในสิบส่วนของดินแดนโบราณยอดหยินเท่านั้น

“ควรเป็นเช่นนี้แต่แรก”

โลกโบราณหม่อนบูรพา ฮว่าหงเซียวผู้สืบทอดสำนักมรรคเทพเอ่ยเสียงแน่วแน่ ไอสังหารน่าสยดสยอง

ตามมาติดๆ คือชืออู๋ซู่จากดินแดนโบราณจิ่วหลี เลี่ยเฉียนจากดินแดนโบราณเพลิงสวรรค์ สือพั่วไห่จากดินแดนโบราณอสูรดาวต่างก็ตอบตกลงเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นขุมอำนาจดินแดนไหน ย่อมไม่มีทางปล่อยให้คนของดินแดนรกร้างโบราณสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่เป็นธรรมดา!

มีเพียงตอนที่ข่าวแพร่ไปถึงโลกมารโลหิต สิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกคนคือ เซวี่ยชิงอีไม่แม้แต่จะหยุดคิด ปฏิเสธออกไปตรงๆ

“บอกคุนเซ่าอวี่ว่าดินแดนโบราณมารโลหิตของข้ายังไม่สนใจแทรกแซงเรื่องนี้เป็นการชั่วคราว”

การตัดสินใจครั้งนี้ยังไม่ทันแพร่ออกไป ในโลกมารโลหิตกลับเกิดระลอกคลื่นฉากหนึ่งขึ้นก่อนแล้ว ผู้แข็งแกร่งแต่ละขุมอำนาจของดินแดนโบราณมารโลหิต ไม่มีใครไม่รู้สึกอัดอั้น

เซวี่ยชิงอีเขา… เหตุใดนับวันเขายิ่งใจเสาะมากขึ้นทุกทีแล้ว

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset