Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1560 ลักษณ์ประหลาดเยือนเมือง

ห้าวัน กำแพงเมืองก็สร้างเสร็จ!

กำแพงเมืองสีทองที่ย้อมด้วยสีเลือด ก่อหลอมด้วยซากศพสูงเพียงสามสิบเก้าจั้ง ไม่ถือว่าสูงใหญ่ แต่ยังคงทำให้ผู้คนสะท้าน

กำแพงเมืองนั้นแผ่ขยายเหมือนมังกรยักษ์สีทองตัวหนึ่งขดตัวบนแผ่นดินกว้าง ปิดล้อมอาณาเขตพื้นที่ร้อยลี้เอาไว้

อิฐกำแพงใสวาวดุจกระจก เป็นระเบียบเรียบร้อยจัดวางสอดประสาน ตัวกำแพงที่ย้อมสีเลือดทอแสงทองอร่ามแฝงกลิ่นอายที่ทำให้ผู้คนสะท้านใจอย่างหนึ่ง

“ควบ!”

เหนือเวิ้งฟ้าสูง หลินสวินที่ไม่ได้พักผ่อนห้าวันห้าคืน กลางนัยน์ตาดำผุดประกายเจิดจ้า แขนเสื้อโบกสะบัด

ฮู้ม!

พร้อมๆ กับคลื่นผันผวนแปลกประหลาดปรากฏ ลำแสงสีทองสายหนึ่งพุ่งทะยานเสียดฟ้าฉับพลัน โฉบแหวกชั้นเมฆบนเวิ้งฟ้าแหลกกระจุย

เห็นแต่กำแพงเมืองที่เพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ จู่ๆ ก็ปรากฏลายมรรคงดงามเป็นแถบๆ ละอองแสงสาดพรม ประกายแสงไหลเวียน ลุกโชนพร่างพราว

ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณทั่วทั้งค่ายชั่วคราวต่างถูกทำให้ตกใจ

เมื่อเงยหน้ามองไป กลางฟ้าดินรุ้งเทพสีทองโฉบพุ่งนับหมื่นนับพัน แกว่งไกวกลางห้วงอากาศ ควบหลอมเป็นดอกตูมมหามรรคดอกแล้วดอกเล่า มงคลศักดิ์สิทธิ์

ต่อมาเหนือเวิ้งฟ้าถึงกับปรากฏลักษณ์ประหลาดฟ้าดาราไพศาลแถบหนึ่งขึ้นมา ดวงดาวพร่างพราวมหาศาลพริบไหวอยู่ภายในนั้น เคลื่อนโคจรไม่หยุดหย่อน ลึกล้ำและกว้างใหญ่

ดาราปรากฏกลางวันแสกๆ!

ได้เห็นลักษณ์ประหลาดระดับนี้ ทุกคนต่างอึ้งค้าง กำแพงสีทองอาบชโลมภายใต้ฟ้าดาราไร้สิ้นสุด ดุจดั่งวิมานที่เหล่าเทพพักอาศัย

“แค่สร้างเมืองเท่านั้น ถึงกับเรียกลักษณ์ประหลาดฟ้าดินให้อุบัติขึ้นได้? ฝีมือเหนือธรรมดายิ่งนัก!”

เซ่าเฮ่ายังอึ้งงัน หัวใจสะท้านสะเทือน

รั่วอู่อดก้าวขึ้นไปข้างหน้าไม่ได้ ใช้ปลายนิ้วแตะบนกำแพงเมืองเบาๆ ทันใดนั้นคลื่นผนึกประหนึ่งกระแสน้ำเชี่ยวก็แผ่กว้างบนตัวกำแพงที่ใสวาวราวกระจก

มองอย่างละเอียด ในอิฐกำแพงมีสีแดงเรื่อย้อม เหมือนแสงประกายสีชาดเรื่อเรือง และยังมองเห็นเศษซากศพที่จมอยู่ภายในได้รางๆ ทำเอาผู้คนใจสะท้าน

“งามนัก แต่ก็น่ากลัวมากเช่นเดียวกัน…”

รั่วอู่พึมพำ ยืนอยู่หน้ากำแพงในระยะใกล้ทำให้นางรับรู้ถึงกลิ่นอายบีบคั้นที่แฝงอยู่ ควบรวมไม่เปิดเผยอย่างหนึ่ง

นี่เป็นการเชื่อมผสานอย่างสมบูรณ์ของกระบวนผนึกอริยมรรคกับกำแพงเมือง หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน!

ในค่าย บรรดาผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณได้สติจากความสะท้านสะเทือน กดความฮึกเหิมในใจไม่อยู่อีกต่อไป ระเบิดเสียงโห่ร้องยินดีทะลุฟ้าออกมา

นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเขาค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ มีเมืองอารักษ์มรรคแห่งใหม่อีกครั้งแล้ว เมืองที่แผ่ลักษณ์เรืองรอง วันที่สร้างเมืองก็ชักนำให้เกิดลักษณ์ประหลาดฟ้าดิน!

และทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหลินสวินมอบให้!

เหนือเวิ้งฟ้าสูง หว่างคิ้วหลินสวินฉายแววเหนื่อยล้ายากปกปิด

ห้าวันก่อนเขาใช้พลังขอวตนคนเดียวกักขังสังหารทัพใหญ่เจ็ดดินแดน หลังจากนั้นก็ไม่ได้หยุดพักแต่อย่างใด ใช้เวลาไปห้าวันกว่าจะสร้างเมืองนี้ได้สำเร็จ ทำให้แรงกายแรงใจของเขาล้วนหดหายไปมากโข

แต่ในเวลานี้ตอนที่ได้ยินเสียงโห่ร้องยินดีของทุกคน ได้เห็นเมืองใต้เท้าที่ปลดปล่อยลักษณ์งดงามเรืองรองออกมา หลินสวินก็ระบายยิ้ม ในใจเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ

นี่คือเมืองของเขา!

และเป็นปราการที่บังแดดบังฝนของผู้แข็งแกร่งโลกรกร้างโบราณทั้งหมด!

แต่จากนั้นหลินสวินก็สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง หยิบสมบัติอริยะออกมาหลายชิ้น ในสมบัติอริยะทุกชิ้นล้วนกักขังผู้แข็งแกร่งเจ็ดดินแดนจำนวนมากเอาไว้

ไม่มีการรีรอแต่อย่างใด และไม่มีความเห็นใจใดๆ เมื่อหลินสวินโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง สมบัติอริยะทุกชิ้นเหล่านี้ต่างถูกฝัง จมลงไปในกำแพงเมือง

จากนั้นธารเลือดหลากสายก็หลั่งไหลออกมาจากสมบัติอริยะ เปียกชุ่มส่วนลึกของแผ่นดิน จวบจนสุดท้ายกระดูกขาวนับไม่ถ้วนโผล่ออกมา ต่อเติมพื้นดินทุกแห่งหนทั่วกำแพงเมือง

ทัพใหญ่เจ็ดดินแดนนับแสนที่ถูกขังในตอนแรก ถูกสังเวยชีวิตในวันนี้ที่เมืองอารักษ์มรรคสร้างเสร็จโดยไม่มีข้อยกเว้น!

เหนือเวิ้งฟ้าเสียงครวญอริยะร่วงหล่นดังขึ้นอีกครั้ง มีสีเลือดดั่งกระแสน้ำแผ่ขยาย

เพราะในศัตรูที่ถูกสังเวย ไม่ขาดพวกระดับอริยะแท้!

สังหารชีวิตนับแสนในคราเดียว อยู่โลกภายนอกเรื่องนี้ต้องถูกมองเป็นการฆาตรกรรม ฆ่าคนเหมือนแมลงวัน แบกรับคำด่าทอว่าโหดเหี้ยมอำมหิต เลือดเย็นไร้ปรานี

แต่หลินสวินไม่สนใจ จิตใจยิ่งไม่ไหวหวั่นแม้แต่เสี้ยวเดียว

เมืองอารักษ์มรรคของศัตรู ก็สร้างมาจากเลือดและซากศพของเหล่าเมธีในดินแดนรกร้างโบราณทั้งนั้น

เขาหลินสวินก็แค่ใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันเท่านั้น

ยังคงเป็นประโยคนั้น อุดมการณ์ยิ่งใหญ่นิจนิรันดร์ คงอยู่ในการเข่นฆ่าศัตรู ยอมให้ศัตรูกัดฟันแค้น แต่ไม่ยอมให้ไร้คนแช่งนามข้า!

ไม่นานรั่วอู่และเซ่าเฮ่าก็เดาเรื่องนี้ออกเช่นกัน ต่างสบสายตากัน ในใจผุดความรู้สึกสะทกสะท้านขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ในค่าย เหล่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณก็เข้าใจขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ละคนต่างเลือดลมสูบฉีด ฮึกเหิมอย่างบอกไม่ถูก

“ฆ่าได้ดี!”

“ฆ่าได้สะใจนัก!”

“ยอดบุรุษต้องอย่างนี้!”

เสียงตะโกนลั่นดังก้องชั้นฟ้า สะเทือนสี่ทิศ

ภายใต้เสียงตะโกนแซ่ซ้อง หลินสวินโรยตัวสู่พื้นอย่างแผ่วเบา พูดกับเซ่าเฮ่าและรั่วอู่ว่า “ข้าต้องพักผ่อนสักหน่อย เรื่องที่เหลือคงได้แต่ให้พวกเจ้าสองคนเป็นธุระให้ก่อนแล้ว”

“รีบไปเถิด”

เซ่าเฮ่าและรั่วอู่เร่งเร้าพลางยิ้ม

หลินสวินพยักหน้า

เขาเหนื่อยเกินไปจริงๆ ต้องการพักผ่อนปรับสภาพอย่างเต็มที่สักรอบ

“ต่อไปก็ควรแบ่งเขตพื้นที่ในเมือง สร้างอาคารเพื่อรองรับผู้บำเพ็ญทุกคนมาพักอาศัย จริงสิ เรื่องแรกคือต้องสร้างคฤหาสน์ให้หลินสวินก่อนหลังหนึ่ง”

เซ่าเฮ่ากล่าวพึมพำ

“เรื่องเล็กน้อยพวกนี้มอบหมายให้ข้าเถอะ”

รั่วอู่กล่าวยิ้มๆ

เซ่าเฮ่าพยักหน้า ขบคิดครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า “ก็ดี จากการคาดเดาของข้า อีกไม่นานนักก็จะมีผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่รู้ข่าวมุ่งหน้ามารวมตัวกับพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ พอคนมากแล้วก็ต้องตั้งกฎเกณฑ์ส่วนหนึ่งถึงจะใช้ได้”

คิ้วดำขลับของรั่วอู่ขมวดมุ่น กล่าวแค่นหัวเราะ “ก่อนสร้างสร้างเมืองผู้แข็งแกร่งที่มุ่งหน้ามาสมทบมีจำนวนแค่หกหมื่นเท่านั้น ตอนนี้สร้างเมืองสำเร็จแล้ว พวกเขาก็คิดจะวิ่งโร่มาชุบมือเปิบ บนโลกนี้มีเรื่องสะดวกสบายปานนั้นที่ไหนกัน”

จากที่นางรู้มา ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่เข้าสู่สมรภูมิเก้าดินแดนในครั้งนี้ อย่างน้อยก็มีถึงสามแสน!

ต่อให้หนึ่งปีมานี้ถูกศัตรูแปดดินแดนฆ่าตายไปไม่น้อย แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเหลือจำนวนแค่หกหมื่น

เห็นชัดว่าก่อนสร้างเมืองมีผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณส่วนหนึ่งไม่เชื่อว่าหลินสวินจะทำได้สำเร็จ ดังนั้นถึงไม่ได้ล่วงหน้ามาสมทบ

นี่อาจเป็นเพราะพิจารณาถึงความปลอดภัยส่วนตน สามารถเข้าใจได้ แต่รั่วอู่ไม่ชอบใจพวกผู้แข็งแกร่งที่วิ่งโร่ออกมาในยามนี้ หมายเข้าเมืองอารักษ์มรรคเพื่อร้องขอความคุ้มครอง!

เซ่าเฮ่าหัวเราะร่วน “นี่ไม่เกี่ยวกับการชุบมือเปิบ ว่ากันถึงที่สุดพวกเราล้วนเป็นคนในค่ายทัพเดียวกัน ยิ่งกว่านั้นก่อนหน้านี้ใครกันจะไปคิดว่าหลินสวินจะสามารถต้านภัยคุกคามของศัตรูแปดดินแดน สร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ได้สำเร็จจริงๆ”

รั่วอู่ทอดถอนใจเบาๆ “นั่นสิ พวกเราเป็นค่ายทัพเดียวกัน ก็ได้แต่ต้องเห็นแก่ภาพรวมเป็นหลักเท่านั้น”

กล่าวถึงตรงนี้เนตรดาราของนางผุดไอสังหารขึ้นมาวูบหนึ่ง เสียงก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ “แต่ว่า ข้าฝืนทนให้พวกเขาวิ่งมาชุบมือเปิบได้ แต่หากใครกล้าก่อความวุ่นวาย ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”

กล่าวจบนางก็หมุนตัวจากไป

เซ่าเฮ่ายิ้ม ไม่ได้พูดอะไรมาก

หากไม่ใช่เพราะอยู่สมรภูมิเก้าดินแดน ในหมู่ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณเหล่านั้นต่างมีความขัดแย้งและไม่ลงรอยกัน พวกที่มีความแค้นฝังลึกต่อกันก็มีไม่ใช่น้อย

เหมือนอย่างหลินสวิน ก็ถูกสำนักเก่าแก่ไม่น้อยในดินแดนรกร้างโบราณมองเป็นขวากหนามขวางตา เสี้ยนหนามตำใจ

ถ้าหากหลินสวินถือสาเอาความคนเห็นแก่ตัวพวกนี้ มีหรือจะทุ่มแรงกายแรงใจทั้งหมดไปกับการสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่

แต่ว่าตอนนี้สถานการณ์ต่างออกไป ต่อให้เป็นศัตรูพวกนั้นของหลินสวิน ในเวลานี้ก็ไม่กล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับหลินสวินอีก

หาไม่ ไม่จำเป็นต้องให้หลินสวิบลงมือ ก็ต้องถูกผู้แข็งแกร่งที่ปกป้องหลินสวินเหล่านั้นร่วมใจกันขวางหน้า ฉีกทึ้งบดขยี้เป็นผุยผง!

นี่ก็คืออำนาจบารมี!

หลังจากต้านศัตรูเจ็ดดินแดน สร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่อีกครั้ง อำนาจบารมีของหลินสวินยิ่งเพิ่มสูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

กล่าวอย่างไม่เกินจริง เวลานี้เขาก็คือผู้นำแห่งดินแดนรกร้างโบราณ ทั้งยังถูกผู้แข็งแกร่งมากมายยอมรับและเลื่อมใส

เป็นศัตรูกับเขา นั่นย่อมไม่ต่างอะไรกับการเป็นศัตรูกับทั้งค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ

แน่นอน เซ่าเฮ่ายิ่งหวังว่าจะได้เห็น ว่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่เคยมองหลินสวินเป็นศัตรูคู่อาฆาตเหล่านั้น ทางที่ดีให้มีศักดิ์ศรีหน่อย อย่าได้มาเมืองอารักษ์มรรคจะเป็นการดีที่สุด

……

เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็นเซ่าเฮ่าหรือรั่วอู่ต่างก็คาดไม่ถึง ว่าในอาณาเขตของแปดดินแดนทั้งหมดในยามนี้ เกิดฝนเลือดมรสุมกระหน่ำที่พุ่งเป้าใส่ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณ!

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะข่าวที่เซวี่ยชิงอีกระจายออกมา

หมายจะทำลายล้างค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ ต้องสังหารบุคคลขอบเขตมกุฎดินแดนรกร้างโบราณทั้งหมด!

“กรรมตามสนอง…!”

โลกจิ่วหลี ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่หนีเอาชีวิตรอดจากความตายคนหนึ่งร้องคำรามตรอมใจหาใดเปรียบออกมา

แรกเริ่มเดิมที คนผู้นี้ก็เหมือนผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ คือไม่เชื่อสักนิดว่าหลินสวินจะสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาได้อีกครั้ง ดังนั้นจึงเลือกยืนมองอยู่ห่างๆ

แต่หลังจากรู้ว่าหลินสวินคนเดียวก็สามารถต้านทัพใหญ่เจ็ดดินแดนได้ และหลังจากนั้นก็สร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ในโลกรกร้างโบราณได้สำเร็จ

ความคิดแรกของคนผู้นี้ก็คือมุ่งหน้าสู่โลกรกร้างโบราณ ไปขอความคุ้มครองที่เมืองอารักษ์มรรค!

คนที่มีความคิดแบบเดียวกับเขาก็ไม่ใช่น้อย พวกเขาพร้อมใจกันโฉบพุ่งออกเดินทาง ในใจหอบความหวังว่าหลังจากถึงเมืองอารักษ์มรรคแล้วจากนี้ไปก็ไม่ต้องหลบซ่อนทั่วทิศ และไม่ต้องหวาดหวั่นอีกต่อไปแล้ว ในใจให้รู้สึกฮึกเหิมยิ่งนัก

แต่ใครเลยจะคาดคิด ระหว่างทางขบวนของพวกเขาก็ประสบกับการล้อมสังหารเข้า

ต่อสู้มาถึงตอนท้าย มีเพียงเขาคนเดียวที่โชคช่วยรอดชีวิต ทะลวงวงล้อมออกมาได้

เมื่อคิดตรงนี้คนผู้นี้ก็อดเศร้าโศกจากใจขึ้นมาไม่ได้ หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ตอนแรกก็น่าจะมุ่งหน้าไปโลกรกร้างโบราณตั้งแต่ต้น!

น่าเสียดาย มานึกเสียใจภายหลังก็สายไปแล้ว

“ทางนั้น เร็วเข้า!”

“เหอะ แพะสองขานี่ถึงกับหนีรอดมาจนถึงป่านนี้ได้ ก็นับว่าเป็นพวกร้ายกาจคนหนึ่งแล้ว”

ไกลออกไปเสียงแหวกอากาศระลอกหนึ่งดังขึ้น เหล่าผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณจิ่วหลีที่ไอสังหารเดือดพล่านตามมาติดๆ

ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณคนนี้แข็งทื่อทั้งร่าง หน้าเผือดสี “จบกัน…”

พรูด!

ไม่ทันไรหยาดเลือดสีแดงฉานก็สาดกระเซ็น

ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณคนนี้นอนคว่ำลงกับพื้น ก่อนสิ้นใจยังคิดว่าหากมุ่งหน้าไปโลกรกร้างโบราณตั้งแต่แรก บางที… ทุกอย่างอาจไม่เป็นเช่นนี้กระมัง

……

ภาพเหตุการณ์คล้ายคลึงกันล้วนอุบัติขึ้นในอาณาเขตแปดดินแดน

ควรรู้ว่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่กระจายตัวตามพื้นที่เหล่านั้น ล้วนหลบซ่อนตัวได้อย่างมิดชิดถึงที่สุด

แต่ภายใต้การล้างแค้นบ้าระห่ำของขุมอำนาจแปดดินแดน ก็ยังมีคนมากมายถูกลากตัวออกมา จากนั้นก็ถูกฆ่าโดยไม่มีข้อยกเว้น

แน่นอนว่ามีผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่ผ่านประสบการณ์เสี่ยงตายมาหลากหลาย บุกทะลวงวงล้อมศัตรูและมาถึงโลกรกร้างโบราณในท้ายที่สุดด้วยเช่นกัน

ตอนที่มองเห็นเมืองอารักษ์มรรคที่ตั้งขนานพื้น แสงทองอบอวลคละคลุ้งกลิ่นอายอริยเทพอมตะ

ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่หวาดหวั่นตื่นกลัว หนึ่งปีนี้ได้แต่มุดหัวหลบหนีมาตลอดเหล่านี้ ล้วนตื้นตันพานจะน้ำตาไหล

เพียงแต่ระหว่างที่ขยับเข้าใกล้เมืองอารักษ์มรรคก้าวแล้วก้าวเล่า ในใจพวกเขากลับรู้สึกระส่ำระสายและประหม่าขึ้นมาอยู่บ้าง

ตอนที่กำลังจะสร้างเมือง พวกเขาคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองจึงไม่ได้มาสมทบกับหลินสวิน

แต่ตอนนี้พวกเขามุ่งหน้ามาขอความคุ้มครอง จะถูกปฏิเสธอยู่นอกประตูหรือไม่

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset