Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1569 ล้อมเมือง

วันนี้ผู้แข็งแกร่งของค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัวได้รับแจ้งว่าเจี้ยนชิงเฉินปิดด่าน เรื่องทุกอย่างมอบให้ผู้อาวุโส ‘ฉินเซียวเซิง’ แห่งหอกระบี่ฟ้าจัดการ

ฉินเซียวเซิง มกุฎอริยะคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงนานแล้ว ขณะเดียวกันก็เป็นผู้คุ้มกันข้างกายที่พึ่งพาได้ที่สุดของเจี้ยนชิงเฉิน

มีเขาครองอำนาจของค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัว จึงไม่ก่อคลื่นลมเท่าไร

แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งที่รู้เบื้องหลัง ไม่มีใครไม่รู้สึกว้าวุ่นใจ!

บางทีอาจปิดข่าวได้ชั่วขณะ แต่มีหรือจะปิดบังได้ถึงตอนท้ายสุด

เจี้ยนชิงเฉินเป็นถึงหนึ่งในแปดยอดนภาคราม เป็นบุคคลระดับผู้นำคนรุ่นเยาว์แห่งดินแดนโบราณต้าหลัว ทันทีที่ข่าวการประสบเคราะห์ของเขาแพร่ออกไป ทั่วทั้งสมรภูมิเก้าดินแดนจะต้องเกิดแรงสั่นสะเทือนแน่!

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือหากไม่มีเจี้ยนชิงเฉินนั่งบัญชา ภายหน้าค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัวของพวกเขา จะเอาอะไรไปช่วงชิงความเป็นใหญ่กับดินแดนอื่น

“ตรวจสอบ! ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตรวจสอบให้ได้ว่ามือสังหารเป็นใครกันแน่!”

ฉินเซียวเซิงสีหน้าเยียบเย็น ในดวงตาเต็มไปด้วยความคั่งแค้นเข้ากระดูก

“เจี้ยนชิงเฉินตายแล้ว เจ้าคิดจะกระจายข่าวนี้ออกไปไหม”

ระหว่างทางที่กลับสู่โลกรกร้างโบราณ จ้าวจิ่งเซวียนถามลอยๆ

หลินสวินคิดไปคิดมาก็ส่ายหัวกล่าว “ตอนนี้เกรงว่ายังไม่มีคนรู้ว่าเรื่องนี้ข้าเป็นคนทำ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ยังไม่ประกาศออกไปชั่วคราวจะดีกว่า”

“เพราะอะไร”

จ้าวจิ่งเซวียนอดถามไม่ได้ “เจ้าน่าจะรู้ว่าเจี้ยนชิงเฉินเป็นถึงผู้นำของค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัว การตายของเขาสามารถสร้างแรงโจมตีอย่างหนักให้กับค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัว สำหรับพวกดินแดนอื่น เกรงว่าคงยินดีที่ได้เห็นภาพนี้เป็นอย่างยิ่ง”

“และสำหรับค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ นี่ก็เป็นข่าวดีอย่างใหญ่หลวงเช่นกัน มีประโยชน์อย่างไม่อาจประเมินต่อการสร้างบารมีของเจ้า”

หลินสวินยิ้มกล่าว “ไม้เด่นเกินไพร ลมย่อมพัดหักโค่น หากให้บุคคลสำคัญของดินแดนอื่นพวกนั้นรู้ว่าเจี้ยนชิงเฉินตายในมือข้า เจ้าคิดว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไร”

จ้าวจิ่งเซวียนเข้าใจในพริบตา

เจี้ยนชิงเฉินเป็นหนึ่งในแปดยอดนภาคราม การตายของเขาสามารถทำให้บุคคลระดับผู้นำของแต่ละดินแดนอย่างพวกคุนเซ่าอวี่ จู๋อิ้งคง เลี่ยเฉียนเกิดความหวาดกลัว

ส่วนหลินสวินที่ฆ่าเจี้ยนชิงเฉิน ก็จะถูกพวกเขามองเป็นบุคคลอันตรายอันดับหนึ่งอย่างเห็นพ้องต้องกัน!

ทันทีที่ถูกพวกเขาทั้งหมดจับจ้อง ไม่แน่ว่าอาจจะร่วมมือกันบุกโจมตี ทำทุกวิถีทางเพื่อจัดการหลินสวิน

“ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเปิดศึกรอบด้าน รากฐานของค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณอ่อนแอเกินไป อาศัยเพียงมกุฎอริยะอย่างพวกข้าไม่กี่คน ยากจะไปชิงความเป็นใหญ่กับขุมอำนาจแปดดินแดนอื่น”

หลินสวินกล่าวเสียงต่ำ “รอภายหน้ายามเปิดศึกรอบด้านอย่างแท้จริง ค่อยแพร่ข่าวการตายของเจี้ยนชิงเฉินออกไป ย่อมต้องมอบการโจมตีที่คาดไม่ถึงต่อขวัญกำลังใจของศัตรูแน่”

จ้าวจิ่งเซวียนมุ่นคิ้วกล่าว “แต่เกรงว่าดินแดนโบราณต้าหลัวคงรู้ข่าวการตายของเจี้ยนชิงเฉินในไม่ช้า”

“เจ้าคิดว่าพวกเขาจะประกาศออกไปไหม”

หลินสวินถามกลับ

จ้าวจิ่งเซวียนชะงักแล้วเข้าใจทันที ยิ้มกล่าว “ถ้าข้าเป็นผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณต้าหลัวจะต้องปิดข่าวนี้ทันทีแน่ ขณะเดียวกันก็จะตรวจสอบว่ามือสังหารเป็นใครโดยเร็วที่สุด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว อย่างน้อยยังกำจัดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการตายของเจี้ยนชิงเฉินได้”

รอยยิ้มนางเหมือนบุปผชาติ งามบริสุทธิ์ผุดผ่อง นัยน์ตากระจ่างแวววาวเหมือนดวงดาวที่ส่องประกาย หลินสวินอดบีบใบหน้างามของนางไม่ได้ “ฉลาด!”

จ้าวจิ่งเซวียนถ่มน้ำลายออกมาเบาๆ ใบหน้างามแดงระเรื่อ

ผ่านไปสองวัน

โลกรกร้างโบราณ เมืองอารักษ์มรรค

กำแพงเมืองสีทองดั่งร่างมังกรทอดยาวขึ้นลง ขดล้อมอยู่บนพื้นดิน อิฐแต่ละก้อนใสสะอาดเหมือนเนื้อหยกหลากสี แผ่แสงสีเลือดแดงสด สามารถมองเห็นได้รางๆ ว่าระหว่างช่องกำแพงยังฝังด้วยกระดูกขาวทับถม

ในจุดที่ห่างเมืองอารักษ์มรรคไปพันจั้ง ผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งที่มาจากดินแดนโบราณขุมอุดรกำลังท้าสู้ โดยมีมกุฎอริยะห้าคนเป็นผู้นำ

“โลกรกร้างโบราณไร้ผู้คนหรือ ถึงได้ไม่มีใครกล้าออกมาสู้”

“ฮึ! ข้าศึกประชิดค่าย แต่พวกเจ้ากลับหดหัวอยู่ในกระดอง ไม่ขายหน้าบ้างหรือ”

“เหอะ! แพะสองขาสุดท้ายก็เป็นแพะสองขา ขี้ขลาดเป็นอย่างยิ่ง!”

เสียงตวาดด่าเจือความเหน็บแนมและเย้ยหยันดังก้องอยู่กลางฟ้าดิน นั่นคือมกุฎราชันระดับอมตะเคราะห์กลุ่มหนึ่ง แต่ละคนไม่เกรงกลัวสิ่งใด โอหังได้ใจยิ่งนัก

บนกำแพงเมืองอารักษ์มรรค เซ่าเฮ่าสองมือไพล่หลัง สีหน้าราบเรียบไร้คลื่นลมไม่สะทกสะท้าน

แต่ผู้แข็งแกร่งของดินแดนรกร้างโบราณมากมายที่อยู่ใกล้ต่างโกรธจนหน้าเปลี่ยนสี เดือดดาลเกินต้าน

“หนึ่งเดือนก่อนก็ทยอยมีผู้แข็งแกร่งของขุมอำนาจศัตรูแปดดินแดนเกาะกลุ่มเป็นขบวนปรากฏตัว ห้อทะยานมาลาดตระเวนอยู่ที่โลกรกร้างโบราณของพวกเรา ท่าทางกำเริบเสิบสาน หลายวันนี้พวกเขายิ่งได้คืบเอาศอก วิ่งมายั่วยุเอ็ดตะโรถึงหน้าเมือง ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว!”

มีคนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“พวกเขาจะต้องได้ยินมาแน่ว่าหลินสวินไม่อยู่ในเมือง จึงกล้ามายั่วยุอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดเช่นนี้!”

และมีคนมุ่นคิ้ว รู้สึกว้าวุ่นใจ

หลินสวินจากไปหลายเดือนแล้ว หายไปอย่างไร้ร่องรอย นี่ทำให้คนมากมายอดกังวลไม่ได้ว่าเขาจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรที่โลกภายนอกหรือไม่

“ตอนนั้นหลินสวินคนเดียวก็ปิดล้อมเมืองแห่งหนึ่งของโลกมารโลหิตได้ ยามนี้พวกเรากลับถูกศัตรูแปดดินแดนพวกนี้ล้อมหน้าเมือง นี่จะรังแกกันเกินไปแล้วจริงๆ!”

มีคนสีหน้าอึมครึม

ความจริงทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เมื่อกล่าวกันถึงที่สุดแล้วก็เป็นเพราะรากฐานของค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณของพวกเขาอ่อนแอเกินไป

พอหลินสวินจากไป ในเมืองก็เหลือแค่มกุฎอริยะสองคนอย่างเซ่าเฮ่าและรั่วอู่บัญชาการ เพื่อปกป้องผู้แข็งแกร่งทั้งหมดในเมือง พวกเขาสองคนจึงไม่อาจปลีกตัวออกไปโรมรันกับศัตรูต่างดินแดนที่แข็งแกร่งพวกนั้นได้

ตรงกันข้าม ด้านศัตรูแปดดินแดนพวกนั้นกลับมีมกุฎอริยะมากมาย เกาะกลุ่มเป็นขบวนมาก่อกวน เห็นได้ชัดว่ามองออกว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของดินแดนรกร้างโบราณของพวกเขาอ่อนแอ ได้แต่พึ่งพาเมืองอารักษ์มรรคมากั้นลมฝน ด้วยเหตุนี้จึงกล้ามายั่วยุอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดเช่นนี้

“พวกเขามายั่วยุเช่นนี้ จุดประสงค์นั้นง่ายมาก หลังจากนี้สองเดือนแดนลับสนามแม่เหล็กก็จะปรากฏขึ้นบนโลก ขอแค่ปิดเมืองได้ ก็จะเท่ากับปิดโอกาสการเข้าไปในแดนลับสนามแม่เหล็กของผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างของพวกเรา!”

เซ่าเฮ่ากล่าวเสียงขรึม “แน่นอนว่าพวกเขาต้องตรวจสอบแล้วว่ายามนี้หลินสวินไม่อยู่ในเมือง จึงมายั่วยุได้อย่างมั่นใจเช่นนี้”

เขาเว้นช่วงไปก่อนกล่าวต่อ “และแน่นอนว่าถ้าพวกเราทนต่อแผนยั่วยุของพวกเขาไม่ได้ ออกจากเมืองไปเข่นฆ่าโรมรันกับพวกเขา กลับเป็นว่าจะติดกับดักของพวกเขาแทน เมื่อข้าหรือรั่วอู่คนใดคนหนึ่งเกิดเรื่องไม่คาดฝัน พวกเขาก็จะฉวยโอกาสยกทัพใหญ่มาบุกเมือง!”

สีหน้าทุกคนปรวนแปรไม่หยุด พวกเขาต่างก็รู้ว่าสิ่งที่เซ่าเฮ่ากล่าวมาทั้งหมดคือเรื่องจริง แต่การถูกศัตรูปิดทางอยู่หน้าประตูใหญ่ของบ้านตัวเอง ทั้งถูกยั่วยุอย่างไม่หยุดหย่อนเช่นนี้ ทำให้ในใจพวกเขาต่างเดือดดาลและไม่พอใจยิ่งนัก

สิ่งที่ทำให้พวกเขาเป็นกังวลที่สุดคือ หากแดนลับสนามแม่เหล็กมาเยือนแล้วพวกเขายังติดอยู่ในเมือง เช่นนั้นจะเอาอะไรไปเสาะหาวาสนาของการบรรลุมกุฎอริยะ

ความจริงในใจเซ่าเฮ่าและรั่วอู่ก็กลัดกลุ้มยิ่งนัก

แน่นอนว่าพวกเขาไม่กลัวที่จะห้ำหั่นกับอีกฝ่าย แต่กลับไม่อาจไม่เห็นแก่ความปลอดภัยของผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณทั้งหมดในเมืองอารักษ์มรรค

“ผ่านไปหลายวันแล้ว หลินสวินนั่นไม่เคยปรากฏตัว เท่านี้ก็รู้แล้วว่าข่าวไม่ใช่เรื่องเท็จ เจ้าหมอนี่จะต้องไม่อยู่ในเมืองแน่”

ในจุดที่ห่างเมืองอารักษ์มรรคไป มกุฎอริยะคนหนึ่งกล่าวเนิบช้า

ตอนแรกที่ได้ข่าวว่าหลินสวินไม่อยู่เมืองอารักษ์มรรค พวกเขาก็ไม่แน่ใจ ยามมายั่วยุจึงระวังตัวและรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง

แต่เมื่อหยั่งเชิงมาหลายวัน ไม่ว่าพวกเขาจะหยามหน้าและยั่วยุอย่างไร หลินสวินก็ไม่เคยปรากฏตัวเลย นี่ทำให้พวกเขาค่อยๆ วางใจลง

สำหรับพวกเขาผู้แข็งแกร่งแปดดินแดน ในค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ คนเดียวที่ต้องหวาดกลัวมีแค่หลินสวิน ในเมื่อหลินสวินไม่อยู่ สำหรับพวกเขาถือเป็นโอกาสดีที่สุดในการรุกรานโลกรกร้างโบราณอย่างไม่ต้องสงสัย

ด้วยเหตุนี้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาขุมอำนาจแต่ละดินแดนอย่างดินแดนโบราณขุมอุดร ดินแดนโบราณเพลิงสวรรค์ ดินแดนโบราณยอดหยิน ดินแดนโบราณจิ่วหลี ดินแดนโบราณหม่อนบูรพาจึงไม่มีใครไม่ออกเคลื่อนพล บุกโลกรกร้างโบราณ โหมทำลายและกวาดล้างทั่วทิศ

จุดประสงค์สุดท้ายเหมือนอย่างที่เซ่าเฮ่าคาดเดา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแดนลับสนามแม่เหล็กที่ใกล้จะมาเยือนในสองเดือนให้หลัง!

“ฮึ ต่อให้เจ้าหมอนี่ปรากฏตัว ด้วยพลังของเขาคนเดียว มีหรือจะขวางการเข้าสู่แดนลับสนามแม่เหล็กของผู้แข็งแกร่งในค่ายทัพของพวกเราได้”

“ครั้งก่อนสาเหตุที่ทัพใหญ่เจ็ดดินแดนพังพินาศทั้งกองทัพ กล่าวกันถึงที่สุดแล้วก็ด้วยไม่มีใครคาดคิด ว่าหลินสวินนั่นจะวางกระบวนผนึกอริยมรรคที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งได้”

“แต่ครั้งนี้ต่างออกไป หลังจากแดนลับสนามแม่เหล็กมาเยือน เมื่อไม่มีการวางกระบวนค่ายกลแล้ว ขอแค่เขาหลินสวินกล้าปรากฏตัว ก็ต้องเจอกับการโจมตีที่มกุฎอริยะทั้งหมดของแปดดินแดนร่วมมือกัน!”

มกุฎอริยะคนอื่นที่อยู่ใกล้ๆ ไม่มีใครไม่กล่าวเยาะหยัน

เมื่อพูดถึงข่าวที่ทัพพันธมิตรเจ็ดดินแดนพินาศย่อยยับในครั้งก่อน ก็พาให้พวกเขาตื่นตะลึงไม่หยุด

แต่หลังจากใจเย็นลงก็พบว่า พลังต่อสู้ของหลินสวินบางทีอาจแข็งแกร่ง ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถเทียบเทียม แต่สาเหตุหลักที่ทำให้ทัพพันธมิตรเจ็ดดินแดนพินาศย่อยยับก็คือกระบวนผนึกอริยมรรคนั่น ไม่ใช่พลังต่อสู้ของหลินสวินที่แข็งแกร่งจนกวาดล้างมกุฎอริยะเจ็ดสิบคนได้

นี่ก็คือสาเหตุสำคัญที่พวกเขาผู้แข็งแกร่งแปดดินแดนกล้ามารุกรานโลกรกร้างโบราณในช่วงนี้

และด้วยหวาดกลัวกระบวนผนึกอริยมรรคที่วางอยู่ในเมืองอารักษ์มรรคของโลกรกร้างโบราณ จึงทำให้พวกเขาได้แต่กล้ายั่วยุอยู่ไกลๆ ไม่กล้าบุกเข้าไปในเมืองอย่างแท้จริง

“สารเลว! หากมีหลินสวินอยู่ พวกเจ้ามีหรือจะกล้ากำเริบเสิบสานเช่นนี้”

ทันใดนั้นในเมืองอารักษ์มรรคมีเสียงคำรามหนึ่งดังขึ้น

นี่ทำให้ผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณขุมอุดรพวกนั้นหัวเราะขึ้นมา เจ้าแพะสองขาที่น่าสมเพชพวกนี้ ได้แต่ใช้หลินสวินมาข่มขู่พวกเขาแล้ว

“น่าเสียดายที่หลินสวินไม่อยู่”

มกุฎอริยะคนหนึ่งกล่าวหยอกล้อ

“ต่อให้เขาหลินสวินปรากฏตัวแล้วอย่างไร ถ้าพวกเราไม่เข้าไปในเมือง เขาก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้!”

ส่วนอีกคนก็ยิ้มหยัน

“ผ่านมาหลายเดือนแล้ว หลินสวินนั่นไม่เคยปรากฏตัว ไม่ใช่ว่าเขา… เกิดเรื่องไม่คาดฝันไปแล้วรึ”

และมีคนคาดเดาด้วยคำพูดร้ายกาจ

เพียงพริบตาทุกคนที่อยู่บนกำแพงเมืองอารักษ์มรรค ไม่มีใครไม่หน้าเขียว ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ยามนี้ในที่สุดพวกเขาก็รู้ซึ้งว่าถ้าไม่มีหลินสวินดูแล สุดท้ายพวกเขาก็ได้แต่หดหัวอยู่ที่นี่ ต่อให้ถูกคนยั่วยุถึงหน้าประตูก็ได้แต่อดกลั้น

เมื่อหลินสวินและจ้าวจิ่งเซวียนกลับมาก็เห็นภาพนี้แต่ไกล

“ดูเหมือนว่าช่วงที่เจ้าไม่อยู่ ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณจะตกเป็นฝ่ายถูกกระทำยิ่งนัก ถูกศัตรูมารังแกถึงหน้าประตูแล้วก็ได้แต่อดกลั้น”

จ้าวจิ่งเซวียนเหลือบมองหลินสวินเล็กน้อย น้ำเสียงเจือความทอดถอนใจ

ตลอดทางนางได้รู้เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหนึ่งปีมานี้จากปากของหลินสวิน เห็นชัดว่าหากไม่มีหลินสวิน เมืองอารักษ์มรรคที่มั่นคงซึ่งอยู่ห่างออกไปนั้นคงไม่มีทางสร้างขึ้นมาได้แน่

“ตอนนี้เจ้าก็เข้าใจแล้ว ว่ากันตามจริงสาเหตุก็อยู่ที่มกุฎอริยะของค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณน้อยเกินไป ตอนนี้ยังไม่มีความสามารถพอจะไปต่อกรกับดินแดนอื่นอยู่มาก”

“แต่ข้าเชื่อว่าหลังจากแดนลับสนามแม่เหล็กมาเยือน ทุกอย่างนี้จะต้องเปลี่ยนไปแน่นอน!”

หลินสวินพูดพลางก้าวไปข้างหน้า นัยน์ตาดำเยียบเย็น

…………….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset