Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1570 แดนเจินหลง

ผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณขุมอุดรมีมกุฎอริยะห้าคนเป็นผู้นำ นอกจากนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งระดับอมตะเคราะห์อีกสามสิบกว่าคน

พลังระดับนี้ในขุมอำนาจอื่นๆ ของแปดดินแดน ก็นับเป็น ‘ขนาดเล็ก’ เท่านั้น

แต่สำหรับค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ กลับเป็นพลังน่ากลัวที่ทำให้พวกเขาได้แต่อดกลั้น ไม่กล้าออกจากเมืองไปสังหาร

แน่นอนว่าเซ่าเฮ่าและรั่วอู่ไม่กลัว แต่ทั้งสองกังวลว่าหากตนออกไป ในเมืองจะขาดกำลังคนควบคุมสถานการณ์ จะถูกศัตรูฉวยโอกาสบุกเข้ามา เช่นนั้นผลลัพธ์ก็จะรุนแรงแล้ว

ด้วยเหตุนี้ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณต่างอัดอั้นและเดือดดาล

และผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณขุมอุดรกลุ่มนี้แต่ละคนล้วนไม่เกรงกลัว ยั่วยุจาบจ้วง ข้าศึกมาเยือนเมือง กลับไม่มีใครรับศึก นี่ทำให้ในใจพวกเขาเองก็มีความย่ามใจและดูถูกอย่างหนึ่ง

“เฮ้อ น่าผิดหวังจริงๆ เมื่อไหร่ดินแดนรกร้างโบราณของพวกเจ้าจะกล้าส่งคนมาต่อสู้ บางทียังสามารถทำให้พวกข้าชื่นชมสักหน่อย ตอนนี้หรือ… เหอะๆ พูดได้เพียงว่าพวกเจ้าก็คือพวกไร้ประโยชน์!”

ชายหนุ่มคนหนึ่งส่ายหน้าถอนหายใจ

“ด่าใครว่าไร้ประโยชน์”

และตอนนี้เองจู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น

“แน่นอนว่าด่าดินแดนรกร้างโบราณของพวกเจ้า…”

ชายหนุ่มเอ่ยตามจิตใต้สำนึก เพิ่งพูดถึงครึ่งหนึ่งก็ตระหนักได้ พลันเดือดดาลยกใหญ่ สายตาหันขวับไปมอง

ก็เห็นว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ชายรูปลักษณ์หล่อเหลาสะอาดสะอ้านที่สวมชุดสีขาวพระจันทร์คนหนึ่งได้ปรากฏในระยะที่ไม่ไกลนัก ท่าทางนิ่งสงบใจเย็น

ชายหนุ่มที่เดิมกราดเกรี้ยวพลันอึ้งงัน จากนั้นหัวเราะฮ่าออกมา “ถึงกับมีพวกไร้ประโยชน์กล้าออกจากเมืองจริงๆ!”

เขาหัวเราะยกใหญ่ เผยสีหน้าตื่นเต้น

ยั่วยุท้าทายอยู่นาน กลับไม่มีคนกล้ารับศึกเสียที ตอนนี้ในที่สุดก็มีคนกระโดดออกมา ทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างคาดไม่ถึง

เพียงแต่ชายหนุ่มยังคงไม่สังเกตเห็น ว่ามกุฎอริยะห้าคนที่อยู่รอบๆ เขาต่างสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก

“กล้าดีนี่!”

ชายหนุ่มชูนิ้วโป้งขึ้นยิ้มตาหยีแล้วพูด “มาๆๆ บอกมาซิว่าเจ้าอยากตายด้วยวิธีใด ข้าจะให้เจ้าทั้งหมด”

ประโยคเดียวทำเอาริมฝีปากของเหล่ามกุฎอริยะที่อยู่ข้างๆ เขายังอดกระตุกไม่ได้

เพี๊ยะ!

ชายชรารูปร่างอ้วนคนหนึ่งสะบัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของชายหนุ่ม “หุบปาก!”

ชายหนุ่มอึ้งงันไปทันที กุมพวงแก้มอย่างงุนงง

ทันใดนั้นเขาพลันสังเกตเห็นว่าสีหน้าของพวกพ้องที่อยู่ข้างๆ ล้วนเปลี่ยนไปมาก เคร่งเครียดอย่างที่สุด แม้แต่มกุฎอริยะห้าคนนั้น แต่ละคนราวกับเผชิญศัตรูยิ่งใหญ่ พลังขับเคลื่อนรอบตัวกึกก้อง

“เจ้า… เจ้าคงไม่ใช่…”

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัวชายหนุ่ม พลันร้องเสียงหลงออกมา

“หลินสวิน!”

“ฮ่าๆๆ พี่หลินกลับมาแล้ว!”

“ดูๆ เจ้าหมอนั่นโง่เขลาเพียงใด ด้วยพลังปราณระดับอมตะเคราะห์ยังกล้าให้หลินสวินเลือกวิธีตาย สมองมีปัญหาหรืออย่างไร”

ในเมืองอารักษ์มรรคที่อยู่ห่างไป เสียงร้องยินดีหัวเราะลั่นระลอกหนึ่งดังสะเทือนฟ้าดิน

เซ่าเฮ่าและรั่วอู่ลอบโล่งอก ในใจสงบขึ้นมา

ไม่เจอหลายเดือน ในที่สุดหลินสวินก็กลับมาแล้ว!

ชั่วขณะนี้พวกเซ่าเฮ่าสังเกตเห็นอย่างฉับไวว่า ด้วยการกลับมาของหลินสวิน ทุกคนต่างรู้สึกสบายใจขึ้นราวกับยกภูเขาออกจากอก

ประหนึ่งว่าต่อให้เป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน ขอแค่มีหลินสวินอยู่ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป!

ชายหนุ่มปานถูกฟ้าผ่า สีหน้าซีดเซียว ลูกตาแทบหลุดร่วงออกมา ถึงกับเป็นเจ้าหมอนั่นจริงๆ เขาไม่ปรากฏตัวหลายเดือนแล้วมิใช่หรือ เหตุใดตอนนี้จู่ๆ ก็โผล่มา

เหล่าผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณขุมอุดรแต่ละคนร่างกายยิ่งแข็งทื่อด้วยความตึงเครียด ไม่มีความย่ามใจ ได้ใจและดูหหมิ่นเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป

แม้เป็นมกุฎอริยะเหล่านั้น สีหน้ายังอึมครึมไม่สามารถสงบได้ หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตะลึงและตึงเครียด

ชื่อเสียงอันดุดันของหลินสวิน ทั้งสมรภูมิเก้าดินแดนมีใครไม่รู้บ้าง

“ไป!”

มกุฎอริยะเหล่านั้นเลือกจะถอยหนีโดยแทบไม่มีความลังเลใด สะบัดแขนเสื้อหมายจะพาทุกคนเคลื่อนย้ายผ่าวห้วงอากาศหนีไป

ตูมโครม!

ก็เห็นหลินสวินสะบัดแขนเสื้อ อากาศรอบๆ พลันยุบทลาย ประกายเทพเจิดจ้าพลิกตลบ ซัดมกุฎอริยะพวกนั้นจนถอยออกจากห้วงอากาศ

เพียงโจมตีง่ายๆ ก็เผยท่วงท่าผงาดกร้าวเต็มประดา!

“ข้าจัดการเอง”

ทว่าตอนที่หลินสวินจะลงมือสังหาร ก็เห็นจ้าวจิ่งเซวียนเข้ามาโดยพลัน ชุดม่วงโบกสะบัด ผมดำพลิ้วไหวราวกับเซียนมาเยือนโลก

“ได้ ข้าจะคอยเสริมให้เจ้า”

หลินสวินเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มแล้วเปิดทางให้

จ้าวจิ่งเซวียนเพิ่งก้าวสู่ระดับมกุฎอริยะ เขาเองก็อยากดูว่าหลังจากนางปลุกพลังพรสวรรค์ของสายเลือดเจินหลงขึ้นมาแล้ว พลังต่อสู้จะแข็งแกร่งเพียงใด

ตูม!

การต่อสู้ปะทุขึ้นอย่างไม่เหนือความคาดหมาย สะเทือนฟ้าดิน ประกายศักดิ์สิทธิ์ราวกับกระแสน้ำม้วนตัว

เดิมทีหากเผชิญหน้ากับหลินสวิน มกุฎอริยะดินแดนโบราณขุมอุดรเหล่านี้ไม่มีความมั่นใจสักนิด แต่พอคู่ต่อสู้เปลี่ยนเป็นจ้าวจิ่งเซวียน พวกเขาก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้นแล้ว

สู้หลินสวินไม่ได้ ยังจะสู้อริยะหญิงที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนคนหนึ่งไม่ได้เชียวหรือ

เพียงแต่พอการต่อสู้ดำเนินไป สีหน้าของมกุฎอริยะห้าคนนี้ก็อดเปลี่ยนไปไม่ได้ ความกดดันค่อยๆ เพิ่มขึ้น!

อีกฝ่ายราวกับเซียน ร่างกายมีละอองแสงพร่างพรม ใบหน้างามบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ แต่หลังจากลงมือ พลังกลับราวกับภูเขาถล่มสมุทรทลาย น่ากลัวอย่างที่สุด

ราวกับมีเงามายาเจินหลงมากมายวนเวียนอยู่รอบตัวนางรางๆ เงยหน้าครวญคำราม อานุภาพตะลึงฟ้า ทุกการโจมตีล้วนมีพลังทำลายล้างที่ผลาญภูผาต้มสมุทร ทำให้สรรพสิ่งดับสลาย

“เป็นพลังพรสวรรค์ของเผ่าเจินหลง… แดนเจินหลง! อภินิหารนี้หากฝึกถึงขีดสุด พลังอภินิหารสามารถเปิดแดนมังกรแห่งหนึ่ง ฝูงมังกรซุ่มซ่อนอยู่ภายใน หากศัตรูติดอยู่ในนั้นก็มีแต่ตายกับตาย”

ดวงตาคู่งามของรั่วอู่วับวาว ความตะลึงแวบผ่าน “อภินิหารระดับนี้ มีความมหัศจรรย์ที่มีคุณสมบัติเดียวกับเขตแดนมหามรรค ซึ่งราชันอริยะสามารถครอบครองได้!”

“คิดไม่ถึงว่าคนรู้ใจของพี่หลินคนนี้ถึงกับเป็นลูกหลานเผ่าเจินหลง เท่าที่ข้ารู้บนทางเดินโบราณฟ้าดารา เผ่าเจินหลงเป็นเผ่าที่อิทธิพลสูงส่ง ความหนาแน่นของรากฐานพลังเหนือกว่าหมื่นเผ่าในฟ้าดารามากมาย”

เซ่าเฮ่าเองก็อดอุทานด้วยความตกใจไม่ได้

มังกรเจินหลงก็เหมือนกับหงส์เซียน ล้วนเป็นเผ่าที่เป็นดั่งตำนาน น้อยมากที่จะปรากฏในโลก แต่ไม่ว่าใครล้วนไม่สามารถปฏิเสธความแข็งแกร่งของเผ่านี้ได้!

ส่วนผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณคนอื่นๆ ที่อยู่บนกำแพงเมืองต่างอึ้งตาค้างไปแล้ว

จ้าวจิ่งเซวียนก้าวสู่ระดับมกุฎอริยะ เดิมก็ทำให้พวกเขาประหลาดใจแล้ว แต่ตอนนี้นางกลับสามารถสู้หนึ่งต่อห้า ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ที่แสดงออกมายิ่งทำให้พวกเขาตะลึง

มีเพียงหลินสวินที่นิ่งกว่าไม่น้อย เขารู้ดีว่าบิดาของจ้าวจิ่งเซวียนเป็นบุคคลระดับจักรพรรดิที่สมดั่งคำร่ำลือมานานแล้ว และมารดาก็เป็นบุคคลระดับกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง ตอนนี้ต่างมุ่งหน้าไปยังทางเดินโบราณฟ้าดาราพร้อมกับชายหนุ่มจักจั่นทอง

มีบิดามารดาที่แข็งแกร่งอย่างที่สุดคู่หนึ่ง รากฐานพลังและพรสวรรค์ของจ้าวจิ่งเซวียนจะด้อยได้อย่างไร

ทว่าหลินสวินก็ยังดูออกว่าจ้าวจิ่งเซวียนยังไม่สามารถควบคุมพลังระดับอริยะได้อย่างแท้จริง ทำให้ในการต่อสู้พลาดโอกาสดีในการสังหารศัตรูหลายครั้ง

นี่ก็เป็นเรื่องปกติ ระดับอริยะและระดับราชันอมตะเคราะห์เป็นสองระดับที่แตกต่างกันโดยสมบูรณ์ จ้าวจิ่งเซวียนสามารถทำได้ถึงขั้นนี้ก็สุดยอดมากแล้ว

ผลลัพธ์ของการต่อสู้ไม่ได้เหนือความคาดหมาย มกุฎอริยะสามคนถูกจ้าวจิ่งเซวียนฆ่าด้วยตัวเอง สองคนที่เหลือก็ถูกหลินสวินที่คอยช่วยอยู่ข้างๆ มาโดยตลอดลงมือจัดการ

สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับอมตะเคราะห์เหล่านั้น ต่างเหมือนมดที่ถูกดีดนิ้วกำจัด

คืนนั้นการกลับมาของหลินสวินและจ้าวจิ่งเซวียนได้รับการต้อนรับจากกลุ่มสหาย รวมตัวกันดื่มเหล้าพูดคุยอย่างมีความสุข

ในงานเลี้ยงหลินสวินเองก็ได้รู้เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกรกร้างโบราณในช่วงนี้

“คราวก่อนแดนลับนรกโลกันตร์มาเยือน ขุมอำนาจแปดดินแดนก็เคยบุกเข้าโลกรกร้างโบราณ คว้าวาสนาบรรลุมกุฎอริยะทั้งหมด ครั้งนี้แดนลับสนามแม่เหล็กกำลังจะมาเยือน หากพวกเขาอยากขัดขวางโอกาสบรรลุมกุฎอริยะของผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณของพวกเราเหมือนครั้งก่อน เช่นนั้นก็คิดผิดมหันต์แล้ว”

หลินสวินพูดเสียงเรียบ

เขาเคยรับปากนานแล้วว่าจะช่วยผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณช่วงชิงโอกาสบรรลุมกุฎอริยะ จะยอมให้แดนลับสนามแม่เหล็กถูกศัตรูแปดดินแดนควบคุมได้อย่างไร

“พี่หลิน กับเรื่องแดนลับสนามแม่เหล็ก เจ้ามีแผนการแล้วหรือ”

เซี่ยวชางเทียนถาม

สิ่งที่เขากับบุคคลขอบเขตมกุฎอย่างพวกเยี่ยเฉิน เยวี่ยเจี้ยนหมิง หมีเหิงเจิน เย่หมัวเฮอเป็นห่วงที่สุดก็คือโอกาสบรรลุมกุฎอริยะ

“ถึงตอนนั้นขอให้พี่เซ่าเฮ่าและแม่นางรั่วอู่คุมสถานการณ์เมืองอารักษ์มรรคด้วยกัน เลี่ยงไม่ให้ศัตรูฉวยโอกาสเข้ามาหลังจากแดนลับสนามแม่เหล็กมาเยือน”

หลินสวินเอ่ยอย่างครุ่นคิด “ส่วนด้านแดนลับสนามแม่เหล็ก ข้าจะคอยดูแลด้วยตัวเอง ไม่ว่าอย่างไรก็จะให้สหายมรรคที่มีคุณสมบัติช่วงชิงจุดเปลี่ยนบรรลุอริยะของดินแดนรกร้างโบราณของเรา ได้เข้าไปในแดนลับสนามแม่เหล็กทุกคน”

ประโยคเดียวทำเอาทุกคนที่นั่งอยู่ตื่นเต้นขึ้นมา

เซ่าเฮ่ากลับขมวดคิ้วพูด “หลังจากแดนลับสนามแม่เหล็กมาเยือน ศัตรูแปดดินแดนจะเคลื่อนกำลังมกุฎอริยะกลุ่มใหญ่ อาศัยเจ้าคนเดียวอันตรายเกินไป”

“ยังมีข้า”

จ้าวจิ่งเซวียนยิ้มพูด

“แต่เจ้ากับเขารวมกัน ถึงอย่างไรก็มีแค่สองคน”

รั่วอู่อดพูดไม่ได้ “ต้องรู้ว่าครั้งนี้ไม่ได้มีเวลาให้พี่หลินได้วางกระบวนค่ายกล หากถูกศัตรูร่วมมือกันล้อมจู่โจม…”

ไม่รอพูดจบหลินสวินก็ตัดบทพร้อมรอยยิ้ม “ในเมื่อข้ากล้าทำเช่นนี้ ในใจย่อมใคร่ครวญไว้แล้ว นอกจากนี้แม้มีความเสี่ยง ครั้งนี้ก็จะพลาดโอกาสเข้าสู่แดนลับสนามแม่เหล็กไม่ได้”

คำพูดของเขาราบเรียบ แต่ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างหวั่นไหวอย่างไม่มีข้อยกเว้น ในใจตื้นตัน

ที่หลินสวินรู้ว่าอันตรายแต่ยังทำเช่นนี้ ล้วนเพื่อบุคคลขอบเขตมกุฎแห่งดินแดนรกร้างโบราณของพวกเขา เพื่อทั้งค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ!

ความมุ่งมั่น ความองอาจและความทุ่มเทเช่นนี้ ใครจะไม่หวั่นไหว

มีเพียงจ้าวจิ่งเซวียนที่ในใจนิ่งสงบมาก แม้แต่เจี้ยนชิงเฉินยังถูกหลินสวินสังหาร มกุฎอริยะทั่วไปไม่อยู่ในสายตาของหลินสวินตั้งนานแล้ว!

ในหลายวันหลังจากนั้น ข่าวที่หลินสวินหวนกลับเมืองอารักษ์มรรคโลกรกร้างโบราณก็ถูกศัตรูแปดดินแดนทยอยรับรู้

ชั่วขณะเดียวศัตรูที่เดินทางมาท้าทายหน้าเมืองอารักษ์มรรคก็ลดลงไม่น้อย

แน่นอนว่าก็มีผู้แข็งแกร่งที่ไม่เชื่อ อยากจะมาทดสอบความสามารถของหลินสวิน ผลลัพธ์คือถูกสังหารที่นอกเมืองโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีใครรอดกลับไป

ทว่าพร้อมกับเวลาที่ล่วงเลยไป โลกรกร้างโบราณก็กลายเป็นสถานที่แห่งลมพายุหนึ่งรางๆ มีผู้แข็งแกร่งจากค่ายทัพแปดดินแดนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าทยอยมาเยือน

แม้แต่ดินแดนโบราณมารโลหิตยังส่งกองกำลังมือฉมังกลุ่มหนึ่งมาภายใต้คำสั่งของเซวี่ยชิงอี

เป้าหมายของพวกเขาง่ายมาก ก็เพื่อแดนลับสนามแม่เหล็กที่กำลังจะมาเยือน

สำหรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น หลินสวินมองเห็นอยู่ในสาย แต่กลับไม่ได้โต้ตอบรุนแรงอะไร อยู่ในเมืองอารักษ์มรรคตลอดเวลา นั่งมองลมเมฆขับเคลื่อน

ยามที่แดนลับสนามแม่เหล็กมาเยือน ก็คือวันแห่งการออกโจมตีของเขา!

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset