Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1595 ถูกเอาเปรียบจนแย่แล้ว

เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความเดือดดาลของจู๋อิ้งคง ทำให้ร่างกายของพวกคุนเซ่าอวี่ที่เดิมคิดจะถอยทัพแข็งทื่อไปทันที

สถานการณ์ผิดปกติ!

ทุกคนที่สามารถเข้าสู่สมรภูมิเซียนเหินแห่งนี้ได้ ล้วนเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงชั้นยอดของดินแดนหนึ่ง ทั้งพลัง สติปัญหาและประสบการณ์ล้วนเหนือกว่าคนทั่วไป

ชั่วขณะนี้แทบจะเพราะสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง พลังขับเคลื่อนรอบตัวพวกเขาโคจรทั้งหมด เตรียมพร้อมลงมือ

ทันใดนั้นประกายแสงมรรคที่สว่างไสวแผ่ออกจากร่างของพวกเขาแต่ละคนราวกับกระแสน้ำ สะท้านฟ้าสะเทือนดิน อานุภาพท่วมฟ้า

ความสามารถในการตอบสนองระดับนี้ ทำเอาหลินสวินยังต้องยอมรับว่าบุคคลพลิกฟ้าที่มาจากแปดดินแดนเหล่านี้แข็งแกร่งมากจริงๆ!

น่าเสียดายที่สุดท้ายก็สายไปแล้ว

สถานการณ์ตอนนี้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการตอบสนองที่เร็วหรือช้าแล้ว

ตูม โครม!

ห่างออกไปเหล่าวิญญาณเซียนเหินที่เดิมพุ่งสังหารเข้ามาพร้อมกันโดยมีจู๋อิ้งคงเป็นคนควบคุม ยามนี้จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป้าหมาย พุ่งเข้าหาพวกคุนเซ่าอวี่และจู๋อิ้งคงแทน

“นี่…”

“สมควรตาย!”

“จู๋อิ้งคง นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

เสียงตะโกนเดือดดาลดังก้องขึ้น พวกคุนเซ่าอวี่แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสีไป ตีหัวจนแตกพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าเกิดเรื่องเหลือเชื่อเช่นนี้ได้อย่างไร

ควรรู้ว่าที่พวกเขามีความมั่นใจไม่เกรงกลัว ก็เพราะจู๋อิ้งคงเป็นคนวางกระบวนค่ายกลกับมือ

แต่ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนจะหลุดจากการควบคุมแล้ว!

ภายใต้เสียงตะโกน ทุกคนถูกวิญญาณเซียนเหินที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรท่วมท้นปานกระแสน้ำไปแล้ว สัตว์ร้ายเหล่านี้มีเป็นกลุ่มเป็นก้อน ไอชั่วร้ายพุ่งทะลวงฟ้า แต่ละตนไม่ด้อยกว่ามกุฎอริยะ

ยามนี้ไม่ฟังการควบคุมของจู๋อิ้งคง ก็เหมือนกระแสน้ำไหลบ่า ปิดล้อมเงาร่างของพวกคุนเซ่าอวี่อย่างแน่นหนาในทันที

ตูม!

การต่อสู้ปะทุขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ฟ้าดินสั่นไหว สุริยันจันทราอับแสง

ไม่ว่าจะเป็นบุคคลระดับผู้นำอย่างพวกคุนเซ่าอวี่ ชืออู๋ซู่ เซวี่ยชิงอี หรือบุคคลชั้นยอดแต่ละดินแดนที่ติดตามพวกเขามา แต่ละคนโจมตีเต็มกำลัง ไม่กล้าออมมือเลยสักนิด

เพียงแต่ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ ทำให้พวกเขาแต่ละคนสีหน้าแปลกประหลาดอย่างที่สุด โกรธจนแทบกระทืบเท้าสบถคำหยาบ!

หลุมพรางนี้พวกล้วนเขาขุดให้หลินสวิน แต่ตอนนี้พวกเขากลับตกลงไปเสียเอง นี่ไม่ต่างอะไรกับการหาเรื่องใส่ตัว หาเหาใส่หัว ยกก้อนหินขึ้นมากลับหล่นทับเท้าตัวเอง

“ทุกคนอย่าตื่นตระหนก ลงมือพร้อมกัน แหวกทางออกจากการปิดล้อมก่อน!”

สีหน้าของจู๋อิ้งคงย่ำแย่ที่สุด การประสบเคราะห์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นนี้พาให้เขาถูกกระเทือนมากที่สุด รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง จากนั้นถูกคนชี้หน้าหัวเราะเยาะว่านี่ก็คือกระบวนค่ายกลที่เจ้าวางหรือ

แน่นอนว่าสิ่งที่เสียหายไม่ใช่แค่หน้าตาของเขา

ที่ทำให้เขาไม่สามารถรับได้ที่สุดคือ ตั้งแต่ชั่วขณะนี้ไม่ว่าเขาจะพยายามกู้คืนอย่างไร ก็ไม่สามารถครอบครองสิทธิ์ในการควบคุมกระบวนค่ายกลพันผีได้อีก!

“ทุกคนลงหลุมไปแล้ว อยากออกไปไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ”

ในกระบวนค่ายกลหลินสวินพูดเสียงเรียบ ในฝ่ามือเขามุกอริยะกำราบสมุทรเม็ดหนึ่งมีประกายเทพแน่นขนัดและลึกลับไหลเวียน

พอใจคิด พลังของทั้งกระบวนค่ายกลพันผีก็ถูกโคจรโดยสมบูรณ์

ก็เห็นสี่ด้านแปดทิศโดยมีที่นี่เป็นจุดศูนย์กลาง มีภูเขาใหญ่ที่สูงตระหง่านเทียมฟ้าผุดขึ้นจากพื้นดิน มีธารดารากว้างใหญ่ไพศาลม้วนตัวลงมา มีหินหนืดที่ปลดปล่อยเปลวเพลิงเดือดคลั่ง…

ทันใดนั้นทั้งบนฟ้าใต้ดิน เหนือใต้ออกตก ทั่วทิศแปดด้านราวกับกรงขังแห่งหนึ่ง ปิดล้อมพื้นที่แห่งนี้เอาไว้โดยสมบูรณ์

เห็นภาพนี้พวกคุนเซ่าอวี่ต่างอึ้งตาอ้าง ท่าทางเหมือนถูกฟ้าผ่าอย่างไรอย่างนั้น

พวกเขาคุ้นเคยกับภาพนี้เกินไปแล้ว!

เริ่มแรกเพื่อขังหลินสวินหมายจะถอยเอาไว้ จู๋อิ้งคงก็ใช้วิธีเช่นนี้ทำการสกัดกั้นอีกฝ่าย

ตอนนั้นเห็นหลินสวินหนีหัวซุกหัวซุนราวกับแมลงวันแล้ว พวกเขาอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ รู้สึกสะใจ ชื่นชมฝีมือการวางกระบวนค่ายกลของจู๋อิ้งคงอย่างมาก

แต่ตอนนี้ทั้งหมดกลับมาตกอยู่ที่พวกเขา!

ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนนักล่าที่เจ้าเล่ห์ที่สุด จู่ๆ ก็ตกลงไปในหลุมพรางที่ตนวางไว้อย่างรอบคอบ กระทบกระเทือนจิตใจเกินไปแล้ว

“จู๋อิ้งคง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”

สีหน้าของคุนเซ่าอวี่โกรธจนคล้ำเขียวอย่างที่สุดแล้ว ตาแทบถลนออกมา

ตอนนี้พวกเขาถูกขังอยู่ในการปิดล้อมของวิญญาณเซียนเหินนับพัน แม้สามารถสังหารเปิดทางออกจากการปิดล้อมอันแน่นหนาได้ แต่สี่ทิศแปดด้านยังมีภูเขาและแม่น้ำมากมายขวางกั้นอยู่ ราวกับกำแพงธรรมชาติปิดกั้น!

ไม่ว่าใครตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็คงอดมีความรู้สึก ‘ไร้ทางหนี’ ไม่ได้

สีหน้าของจู๋อิ้งคงเองก็ย่ำแย่อย่างที่สุด กัดฟันจนแทบแหลกแล้ว

“จู๋อิ้งคง เจ้าพูดอะไรสักอย่างสิ!”

ชืออู๋ซู่ตะเบ็งเสียง เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติแล้ว เดือดดาลยากจะทนได้

คนอื่นๆ ก็สีหน้ามืดทะมึนเช่นกัน

จู๋อิ้งคงสูดหายใจเข้าลึกๆ คราหนึ่ง เอ่ยว่า “ทุกท่าน พลังของกระบวนค่ายกลนี้ถูกเจ้าหมอนั่นควบคุมโดยสมบูรณ์แล้ว…”

พูดถึงสุดท้าย เขารู้สึกเพียงว่าหนังหน้าเหมือนถูกคนลอกออก เจ็บจนทรมาน ทำให้คนที่เย่อหยิ่งไร้ที่เปรียบอย่างเขายอมรับเรื่องนี้ ช่างเป็นกระเทือนศักดิ์ศรีของเขาอย่างหนักหน่วง

“สมควรตาย!”

ทุกคนได้ยินเช่นนี้โมโหจนแทบกระอักเลือด

หลายวันมานี้พวกเขาให้ความร่วมมือกับการวางกระบวนค่ายกลของจู๋อิ้งคงมาโดยตลอด ลงมือกำราบวิญญาณเซียนเหินนับพันเต็มกำลัง เดิมคิดว่าด้วยกระบวนค่ายกลนี้ จะต้องสามารถสังหารหลินสวินได้อย่างง่ายดายราวกับดีดนิ้ว

ทว่าท้ายที่สุดจู๋อิ้งคงกลับบอกพวกเขา ว่ากระบวนค่ายกลที่พวกเขาร่วมมือเตรียมการอย่างยากลำบากนี้กลับถูกหลินสวินควบคุม!

นี่ก็หมายความ ความทุ่มเททั้งหมดล้วนเป็นการทำเพื่อคนอื่นไม่ใช่หรือ

และที่แย่ที่สุดคือ อานุภาพของกระบวนค่ายกลนี้น่ากลัวอย่างที่สุด ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงไม่ต้องทุ่มเทเตรียมการอย่างยากลำบากเช่นนั้น

และตอนนี้พวกเขาติดอยู่ในนี้ จะหลุดรอดออกไปได้อย่างไร

“พี่จู๋ สามารถชิงการควบคุมของกระบวนค่ายกลนี่กลับมาได้หรือไม่”

เซวี่ยชิงอีใจเย็นที่สุด เขาเคยเจอฝีมืออันน่าเหลือเชื่ออย่างที่สุดของหลินสวินมาแล้ว ช่วงเวลาที่ย่ำแย่เช่นนี้จึงไม่ลนลานนัก

“เป็นไปไม่ได้แล้ว “

จู๋อิ้งคงถอนหายใจยาวคราหนึ่ง สีหน้าหดหู่ อัดอั้นจนแทบคลั่งแล้ว

ในศาสตร์ที่ตนมั่นใจที่สุด ภาคภูมิใจที่สุด กลับถูกผู้อื่นทำลายโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกเช่นนั้นทรมานมากเกินไปจริงๆ

ในกระบวนค่ายกลหลินสวินยิ้มพูด “นี่ก็เรียกว่าหาเรื่องใส่ตัว”

คำพูดบั่นทอนจิตใจที่เอ่ยออกมาตอนนี้ ทำเอาพวกคุนเซ่าอวี่แทบอยากสถบคำหยาบ

แต่สุดท้ายพวกเขาเองก็รู้ว่าตอนนี้จะเสียการควบคุมไม่ได้ ต้องร่วมแรงร่วมใจกันคลี่คลายสถานการณ์ยากลำบากตรงหน้า

“ทุกท่านลงมือเต็มกำลังพร้อมกัน!”

คุนเซ่าอวี่สูดหายใจลึกคราหนึ่ง เอ่ยว่า “ด้วยฝีมือของพวกเรา ฆ่าวิญญาณเซียนเหินเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก อย่าลืมว่าสัตว์ร้ายเหล่านี้พวกเราจับมาเองกับมือ!”

“ใช่ ลงมือพร้อมกัน ด้วยพลังของพวกเรายังจะฆ่าสัตว์ร้ายพวกนี้ไม่ได้อีกหรือ”

เลี่ยเฉียนเองก็กัดฟันพูด

“ฆ่า!”

คนอื่นๆ เองก็รู้ดีว่านี่เป็นวิธีเดียวในตอนนี้ แต่ละคนล้วนตัดสินใจเด็ดขาด พุ่งสังหารเต็มกำลัง

ชั่วขณะเดียวก็สังหารวิญญาณเซียนเหินที่รวมตัวเป็นกลุ่มก้อนจนสิ้นซากไปได้หลายตนอย่างง่ายดาย เหี้ยมหาญอย่างที่สุด

นี่ก็คือพลังของบุคคลชั้นยอดแปดดินแดน พวกเขารวมกันแล้วมีถึงหกสิบเจ็ดสิบคน ทุกคนล้วนเป็นบุคคลพลิกฟ้าที่สามารถชักนำคลื่นลม พลังต่อสู้ที่ครอบครองแน่นอนว่าไม่ธรรมดา

เพียงแต่วิญญาณเซียนเหินมีมากเกินไปจริงๆ รวมตัวกันนับพัน พลังต่อสู้ของแต่ละตนก็แข็งแกร่งอย่างที่สุด

แม้พวกคุนเซ่าอวี่จะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่สามารถฝ่าออกจากการปิดล้อมแน่นหนาภายในเวลาอันสั้น

“ก่อนหน้านี้สหายยุทธ์จู๋เคยพูดว่า สิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุดของกระบวนค่ายกลนี้ก็คือสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลังแห่งฟ้าดิน เปลี่ยนเป็นวงกลมที่โคจรหมุนเวียนตามลำดับ เกิดเป็นสถานการณ์ปิดล้อมสังหารที่สมบูรณ์ไร้ที่ติ ไม่อาจหนีพ้นได้”

หลินสวินเอ่ยปากอีกครั้งพร้อมยิ้มตาหยี

“ข้าว่าคำพูดนี้เป็นเรื่องจริง แม้แต่ข้ายังอดชื่นชมไม่ได้ ความสามารถด้านมรรครอยสลักวิญญาณของเผ่าจู๋หลงยอดเยี่ยมมาก ยอดเยี่ยมมากจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ฟ้าดินล้วนตะลึง”

ในเสียงแฝงความชื่นชมอย่างไม่ปกปิด

ทว่าคำพูดแต่ละคำในประโยคนี้กลับเหมือนดาบแหลมคนทิ่มแทงใจจู๋อิ้งคง ทำเอาเขาตาแดงก่ำ เดือดดาลจนแทบคลั่ง

“เจ้าอย่าได้ผยอง!”

จู๋อิ้งคงตะโกนก้องราวกับฟ้าร้อง

“พี่จู๋โปรดใจเย็นก่อน เลี่ยงไม่ให้เสียการควบบคุม อย่าตกหลุมพรางเจ้าหมอนั่น!”

เซวี่ยชิงอีเตือน

ทันใดนั้นเขาสื่อจิตถามอีกว่า ‘พี่จู๋ กระบวนค่ายกลพันผีนี้ยังมีไพ่ตายอื่นอีกหรือไม่’

ประโยคเดียวทำเอาจู๋อิ้งคงได้สติทันที เอ่ยด้วยสีหน้าอึมครึมไม่อาจสงบได้

‘กระบวนค่ายกลนี้มีการเปลี่ยนแปลงสามแบบ แบบแรกคือ ‘วงกลมกักพื้นที่’ แบบที่สองคือ ‘ปราบผีดังใจ’ สิ่งที่พวกเราเจอตอนนี้ก็คือการเปลี่ยนแปลงแบบที่สอง’

‘แบบที่สามล่ะ’

เซวี่ยชิงอีอดถามไม่ได้

‘แบบที่สามคือ…’

จู๋อิ้งคงเพิ่งพูดถึงตรงนี้ ก็เห็นหลินสวินที่อยู่ห่างไปคล้ายมองการสนทนาของพวกเขาออก ยิ้มพูดว่า

“แบบที่สามเรียกว่า ‘จักรวาลร่วมแรง’”

ประโยคเดียวทำเอาสีหน้าของจู๋อิ้งคงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในใจหนาวเหน็บถึงที่สุด ตระหนักได้ว่าหลินสวินไม่เพียงช่วงชิงพลังควบคุมของกระบวนค่ายกลพันผี ทั้งยังมองนัยเร้นลับทุกอย่างของกระบวนค่ายกลนี้ออกนานแล้ว!

ส่วนเซวี่ยชิงอีพอเห็นเช่นนี้หนังตาพลันกระตุกรุนแรง ตัดสินได้คร่าวๆ ว่าสิ่งที่หลินสวินพูดคงเป็นความจริง นี่ทำให้เขาแทบสบถออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่

จู๋อิ้งคง เจ้าเป็นถึงบุคคลทรงอิทธิพลที่โดดเด่นยิ่ง แต่กลับโดนล่อหลอกในมรรครอยสลักวิญญาณ ต้องโง่เขลาเพียงใดกัน

เขาสูดหายใจเขาลึกคราหนึ่ง “อะไรคือจักรวาลร่วมแรง”

เพิ่งจะสิ้นเสียง

ครืน!

กลางฟ้าดินสัญลักษณ์ลายมรรคแน่นขนัดนับไม่ถ้วนพลันพวยพุ่งขึ้น ภูเขาแต่ละลูก แม่น้ำแต่ละสาย… ล้วนปรากฏ ‘อานุภาพยิ่งใหญ่’ อย่างไม่มียกเว้น รวมเข้าด้วยกันแล้วกดข่มมาที่นี่ทั้งหมด

ให้ความรู้สึกเหมือนพลังทั้งหมดของฟ้าดินแห่งนี้ล้วนถูกรวมเข้าด้วยกันแล้วกำราบลงมา

ต่อสู้กับสิ่งนี้ก็เหมือนเป็นศัตรูกับฟ้าดิน!

เพียงพริบตาเดียวพวกคุนเซ่าอวี่ที่กำลังเข่นฆ่าอย่างดุเดือดกดดันขึ้นเป็นทวีเท่า สีหน้าแต่ละคนล้วนเปลี่ยนไป

“สมควรตาย!”

“จู๋อิ้งคง เหตุใดพวกข้าไม่รู้ว่ากระบวนค่ายกลนี้มีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ด้วย”

จนกระทั่งตอนนี้ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ทำเอาบุคคลระดับผู้นำอย่างพวกคุนเซ่าอวี่เองก็ทนไม่ไหวแล้ว

“เดิมข้าคิดจะใช้เป็นไพ่ตาย ใช้ในช่วงท้าย ให้ทุกคนได้เห็นอานุภาพที่แท้จริงของกระบวนค่ายกลนี้ แต่ใครจะคิดว่า…”

ในปากจู๋อิ้งคงขมขื่น รู้สึกแย่ไปหมดแล้ว

“ใครจะคิดว่าไพ่ตายนี้สุดท้ายกลับเป็นพวกเจ้าที่ประสบ”

ห่างออกไปเสียงเย้ยหยันของหลินสวินดังขึ้นอีกครั้ง

“น่าเสียดาย ก่อนหน้านี้ข้าเตือนพวกเจ้าแล้วว่าความตายมาเยือนแล้วยังไม่รู้ตัว แต่ไม่มีใครเชื่อ รนหาที่ตายเองจะโทษใครได้”

ประโยคสั้นๆ ที่เสียดหูขนาดนั้น ทำเอาพวกคุนเซ่าอวี่โกรธจนหน้าเขียว ปอดแทบระเบิด

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset