Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1601 ผู้ช่วย

หลินสวินโคจรพลังของตนถึงขั้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยไม่ลังเลใดๆ!

“สยบ!”

เขาตวาดลั่น เรียกเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดแหวกอากาศออกไปพิฆาต

ในยามนี้ตัวเจดีย์ที่เหมือนหล่อจากทองเทพปรากฏอักขระมหามรรคตัวแล้วตัวเล่า ทุกขีดทุกลายเส้นแฝงความล้ำลึก ยิ่งใหญ่ เร้นลับ เผยกลิ่นอายน่าเกรงขามสูงส่งที่กดดันกำราบไปทั่วทิศ

ตูม!

เพียงพริบตา ยอดสมบัติที่เรียกได้ว่าอัศจรรย์เกินคาดเดาทั้งสองอย่างวงอสนีสุริยันและเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดก็ปะทะกัน พาให้ฟ้าดินแถบนี้ปั่นป่วนเหมือนภาพคลื่นซัดโหมกระหน่ำ

พวกคุนเซ่าอวี่หลบหลีกเต็มกำลังโดยไม่ลังเล สีหน้าเผยความตกตะลึง การปะทะเช่นนี้ช่างสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ทำให้เทพผีโศกศัลย์จริงๆ!

เสียงกัมปนาทอึกทึกสนั่นหูดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ว่าในสถานการณ์อันตรายนั้นมีพลังกฎระเบียบฟ้าดินแน่นขนัดมากมายปรากฏ กำราบคลื่นพลังของการต่อสู้ที่น่ากลัวนั่น

นี่คือพลังระเบียบวัฏจักรของสมรภูมิเซียนเหิน คล้ายไม่ยอมให้พลังที่สะเทือนใต้หล้าเกินไปเช่นนี้เข้าออกได้ตามสะดวก!

“เอ๋!”

เจียงเหิงในชุดกระโปรงเขียว ใบหน้างามไร้ใดเปรียบเผยความตกตะลึงให้เห็น การโจมตีที่นางภาคภูมิใจที่สุดถูกต้านไว้ได้

ต้องรู้ว่าวงอสนีสุริยันนั้นไม่ธรรมดา เป็นสิ่งที่ระดับจักรพรรดิคนหนึ่งของสำนักมอบให้นางเป็นพิเศษ หลังจากที่นางสร้างวิชาแห่งตนได้สำเร็จ

ทันทีที่สมบัตินี้ปรากฏ สมบัติอริยะทั่วไปจะถูกบดขยี้กลายเป็นจุณในพริบตา แต่ตอนนี้กลับถูกเจดีย์สมบัติหลังหนึ่งขวางกั้น!

ขณะเดียวกันหลินสวินก็มุ่นคิ้ว เผยสีหน้าจริงจังให้เห็น

เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดเป็นถึงยอดสมบัติตกทอดของคีรีดวงกมล ศิษย์พี่ราชันผีเสวียนคงเคยกล่าวว่าสมบัตินี้เกี่ยวข้องกับความยิ่งใหญ่ มีความลับที่คาดไม่ถึง

ในการฆ่าฟันหลายปีนี้ ถ้าไม่เจอเรื่องหน้าสิ่วหน้าขวานหลินสวินจะไม่ใช้มันโดยง่าย แต่เมื่อใช้แล้วก็มักจะทำอะไรราบรื่น

แต่ตอนนี้กลับทำได้แค่สูสีกับวงอสนีสุริยันนั่น!

นี่ทำให้หลินสวินรู้ว่า ความเป็นมาของสมบัติชิ้นนี้ของอีกฝ่ายเกรงว่าคงน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง

“เจดีย์สมบัตินั่น ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”

ทันใดนั้นบนเวิ้งฟ้า ในทางน้ำวนนั้นมีเสียงฉะฉานดังขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่เจือความรู้สึกยากจะเชื่อ

ยังไม่ทันสิ้นเสียง ในทางน้ำวนนั้นพลันมีมือใหญ่ขาวกระจ่างเรียวยาวข้างหนึ่งยื่นแหวกอากาศออกมาทันใด

พริบตานี้ราวกับวิญญาณเทพออกโจมตี ทุกข้อนิ้วของมือใหญ่นั่นรัดพันด้วยกลิ่นอายกฎเกณฑ์อริยมรรคจ้าตา บังฟ้าคลุมตะวัน ปกคลุมฟ้าดิน

ทันทีที่เอื้อมลงมาก็พาให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวเหมือนหัตถ์สวรรค์บีบกดโลก

‘เจดีย์นี้มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ถึงกับทำให้ศิษย์พี่ใหญ่อดลงมือไม่ได้’

นัยน์ตากระจ่างของเจียงเหิงที่อยู่ห่างออกไปพลันหดรัด ในใจเกิดคลื่นระลอกหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของนางคนนี้เป็นบุคคลขอบเขตมกุฎในระดับมหาอริยะที่เลื่องชื่อลือนามบน ‘กระดานมหาอริยะฟ้าดารา’ มานานแล้ว

เพียงแต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าศิษย์พี่ใหญ่ที่มีนิสัยอวดดีและหัวสูงมาตลอด ทำไมยามนี้ถึงเปลี่ยนเป็นเร่งร้อนเช่นนี้

ถึงขั้นลงมือโดยไม่สนอะไรแล้ว!

ต้องรู้ว่าที่นี่คือสมรภูมิเซียนเหิน เมื่อพลังใดๆ ที่เหนือกว่าระดับมกุฎอริยะปรากฏ ล้วนต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างหนัก!

ตูม!

พูดแล้วเหมือนเนิ่นนานแต่ความจริงนั้นรวดเร็วนัก พริบตานี้หลินสวินมีความรู้สึกว่าตัวเล็กจ้อยเหมือนมดปลวก ถึงกับรู้สึกว่าไร้แรงดิ้นรนเหมือนจมน้ำ

นี่ทำให้ในใจเขาอดตกตะลึงไม่ได้ นี่คือมือใหญ่ที่น่ากลัวระดับใด

ทั้งเจ้าของมือจะมีพลังปราณที่แข็งแกร่งแค่ไหน

วู้ม!

จากนั้นหลินสวินก็รู้สึกว่าเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดถูกแรงกำลังมหาศาลคว้าไป ทั้งมีความรู้สึกว่าจะหลุดออกจากการควบคุม

แย่แล้ว!

หลินสวินหน้าเปลี่ยนสี

พร้อมกันนี้จู่ๆ ก็มีแสงดำสายหนึ่งปรากฏ จากนั้นก็มีเสียงดังเปรี้ยง หม้อดำใบหนึ่งฟาดใส่มือใหญ่ข้างนั้นเต็มแรง

“เจ้าคนหน้าไม่อาย กล้าแย่งสมบัติของน้องชายข้ารึ ไสหัวไปซะ!”

ก็เห็นว่าแสงดำสายนั้นกลับเป็นนกดำตัวหนึ่ง มันอ้าปากด่ายกใหญ่ พลางใช้กรงเล็บเหวี่ยงหม้อดำใบโตฟาดใส่มือใหญ่นั้นอย่างหนักหน่วง

เสียงเปรี้ยงลั่นดังติดต่อกันราวกับฟ้าผ่า แสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งสาดทั่วทิศ เสียงดังระงมไม่ขาดหู

เจ้านกดำ!

หลินสวินรู้สึกผิดคาดโดยพลัน คิดไม่ถึงเลยว่านกขี้ขโมยที่สับปลับและร้ายกาจนี่จะปรากฏตัวในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้

สิ่งที่คาดไม่ถึงที่สุดคือ แสงเร้นลับที่แผ่ออกมาจากหม้อดำใบใหญ่นั้นของมัน ถึงกับสลายพลังของมือใหญ่ข้างนั้นได้อย่างสมบูรณ์จากการฟาดใส่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมือใหญ่ข้างนั้นก็ยังกระจายหายไปกลางอากาศด้วย

แม้แต่เจียงเหิงก็ยังตกตะลึง นัยน์ตาคู่งามเบิกกว้าง ศิษย์พี่ใหญ่ลงมือแต่ถูกนกตัวหนึ่งใช้หม้อดำใบใหญ่ขวางไว้ได้หรือ

“เตาศุภโชครวมปราณ!”

ในทางน้ำวนเสียงฉะฉานนั้นดังขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่ดูตกตะลึงยิ่งกว่าเดิมแล้ว

ขณะเดียวกันทางน้ำวนนั่นก็พลันสั่นสะเทือนรุนแรง มีสัญญาณว่าจะพังทลาย

ที่แท้เป็นพลังกฎระเบียบในฟ้าดินแถบนี้ที่แผ่คลุม ก่อให้เกิดแรงกดดันอย่างหนึ่ง ทำให้ทางน้ำวนนี้ได้รับผลกระทบไปด้วย

“แย่แล้ว ศิษย์น้องเจียงเหิงรีบไปเร็ว!”

เสียงฉะฉานดังขึ้นอีกครั้ง เห็นได้ว่าเร่งรีบนัก คล้ายคาดไม่ถึงอยู่บ้าง

เจียงเหิงก็รู้ว่าท่าไม่ดี แต่ยังไม่หายโกรธ นางส่งสายตาเยียบเย็นไปทางหลินสวินเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้พลางกล่าว

“เจ้าหัวขโมย ข้าจำเจ้าไว้แล้ว!”

นางพุ่งขึ้นไปกลางอากาศ โฉบไปยังทางน้ำวนนั่น

ตูม!

แต่พริบตานี้หลินสวินกลับถือเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดแล้วพุ่งตามไปทันที “ผู้อื่นมีเมตตาให้ก็ควรสนองตอบ ไม่เช่นนั้นจะเสียมารยาท ข้าผู้แซ่หลินก็มีเมตตา จะสงเคราะห์หญิงอัปลักษณ์อย่างเจ้าเอง!”

“เจ้า…”

เจียงเหิงคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะกล้าโอหังเช่นนี้ ยามตอบสนองก็ได้แต่ฝืนปะทะอย่างเดียว

ปึง!

แสงศักดิ์สิทธิ์กึกก้อง แสงมรรคปั่นป่วน

จากนั้นก็เห็นเจียงเหิงเหมือนถูกฟ้าผ่า ร่างกายซวนเซ ใบหน้างามพลันซีดเผือด ยากจะรับจนเกือบกระอักเลือด

ทว่านางก็ฉวยโอกาสนี้พุ่งเข้าไปในทางน้ำวนนั่น หายไปในชั่วพริบตา

หลินสวินเสียดายอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้ เมื่อรั้งอีกฝ่ายไว้ไม่ได้ คิดจะรู้ข่าวของทางเดินโบราณฟ้าดาราจากปากนางสักหน่อยก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

“เจ้าหัวขโมย! ภายหน้าอย่าให้ข้าเจอเจ้าอีก มิฉะนั้นข้าจะทำลายกระดูกป่นขี้เถ้าเจ้าแน่!”

เสียงแหลมเปี่ยมความเดือดดาลของเจียงเหิงดังออกมาจากทางน้ำวน เจือกลิ่นอายกรุ่นโกรธอยู่บ้าง ไม่หยิ่งทะนงเย็นชาราวสูงส่งเหนือผู้อื่นเหมือนก่อนหน้านี้อีก

“วางใจเถอะ ข้าก็ไม่อยากเจอหญิงอัปลักษณ์อย่างเจ้าแล้ว”

หลินสวินเยาะหยัน

ถึงตอนนี้ทางน้ำวนได้หายไปกลางอากาศ ก็ไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ชื่อว่าเจียงเหิงนั้นได้ยินหรือไม่

หลินสวินหันหลังกลับไปมองอีกครั้ง ในที่นั้นไม่มีเงาร่างของพวกคุนเซ่าอวี่ เซวี่ยชิงอีและจู๋อิ้งคงแล้ว

เห็นได้ชัดว่าหลังจากพวกเขาสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ไม่เข้าทีก็หนีไปทันใด

“นายท่าน พวกเซวี่ยชิงอีนั่นหนีไปทางตะวันออกแล้ว”

เสี่ยวอิ๋นและเสี่ยวเทียนพุ่งมาอย่างรีบเร่ง

“ไม่จำเป็นต้องตามแล้ว”

หลินสวินส่ายหัว เขารู้ว่าต่อให้ตามไปความหวังก็ไม่มาก

ทั้งการประมือกับหญิงสาวที่ชื่อว่าเจียงเหิงครั้งนี้ ยังส่งผลกระทบต่อหลินสวินไม่น้อย

‘ที่แท้บนทางเดินโบราณฟ้าดารายังมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ด้วย…’

หลินสวินเคยเห็นความสง่างามของบุคคลระดับผู้นำแห่งค่ายทัพแปดดินแดนอื่นมาก่อนแล้ว จากความหวาดกลัวในช่วงแรก ถึงตอนนี้ล้วนไม่อยู่ในสายตาเขาอีก

แต่การปรากฏตัวของเจียงเหิงทำให้หลินสวินรู้ว่า นอกเก้าดินแดน เหนือท้องฟ้าบนทางเดินโบราณฟ้าดาราที่ลึกลับนั่น ยังมีพวกที่ไม่ด้อยไปกว่าตัวเองอยู่!

‘สำนักยุทธ์เสวียนจี… เจียงเหิง…’

หลินสวินคิดในใจเงียบๆ สาเหตุที่พวกคุนเซ่าอวี่หนีไปได้อย่างปลอดภัยในครั้งนี้ ทั้งหมดก็ด้วยถูกผู้หญิงคนนี้ทำให้สถานการณ์ยุ่งเหยิง

ทั้งตั้งแต่ปรากฏตัวผู้หญิงคนนี้ก็ทำท่าเย่อหยิ่งข่มขู่ผู้คนราวสูงส่งเหนือผู้อื่น มองเขาเป็นหัวขโมย นี่จะไม่ให้หลินสวินคับข้องใจได้อย่างไร

ต่อให้เกิดมางามแล้วอย่างไร เขาคนแซ่หลินยามสู้กับศัตรู ไม่เคยเป็นพวกที่อ่อนโยนกับสตรีมาก่อน!

‘ยังมีศิษย์พี่ของเจียงเหิงนั่น ถึงกับคิดจะใช้กำลังแย่งชิงเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด ความแค้นนี้ต้องจำไว้แล้ว’

หลินสวินสูดหายใจลึก ในดวงตาดำฉายแววเย็นเยียบ

“เจ้าหนู เป็นอย่างไรบ้าง ยังนับว่าข้ามาทันเวลาใช่ไหม”

นกดำกระพือปีกแล้วบินเข้ามาใกล้อย่างสบายๆ ทำท่าเชิดหน้าชูตา หยิ่งยโสภาคภูมิ

เพียงแต่มันแบกหม้อดำอยู่จึงยิ่งดูยิ่งอัปลักษณ์

“ที่แท้ป้ายคำสั่งเซียนเหินชิ้นสุดท้ายของดินแดนรกร้างโบราณก็อยู่ในมือเจ้า แต่ทำไมก่อนหน้านี้เจ้าถึงไม่เคยปรากฏตัว”

หลินสวินเหลือบมองนกขี้ขโมยนี่เล็กน้อย เจ้าหมอนี่ทำตัวลึกลับเสมอ ทั้งยังซ่อนความลับไว้ไม่น้อย

นกดำถอนหายใจสั้นบ้างยาวบ้างกล่าว “เฮ้อ เรื่องในอดีตไม่น่าอภิรมย์นัก ทันทีที่ข้าเข้ามาในสมรภูมิเก้าดินแดนก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังโลกลี้ลับใบเล็กที่แร้นแค้นแห่งหนึ่ง วันๆ ได้แต่ข่มใจฝึกปราณอย่างยากลำบาก”

“ยามสมรภูมิเซียนเหินมาเยือน ข้าจึงใช้ป้ายคำสั่งเซียนเหินในมือหนีออกจากโลกเล็กนั้นมาได้ แล้วถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่ในคราเดียว”

พูดถึงตอนท้ายสุดนกดำก็ถลึงตากล่าว “เจ้าหนู เจ้ายังไม่ขอบคุณข้าเลย ครั้งนี้หากไม่ได้ข้า เจ้ามีหรือจะปกป้องสมบัติของเจ้าได้”

เสี่ยวอิ๋นที่อยู่ข้างๆ ไม่ชอบความอวดดีของเจ้านกดำนัก ส่งเสียงฮึเย็นชากล่าว “เร็วไม่มา ช้าไม่มา ข้าว่าเจ้าคดในข้องอในกระดูกเหมือนหญิงอัปลักษณ์นั่น แต่ละคนล้วนร้ายกาจ ไม่แน่ว่าครั้งนี้เจ้าช่วยนายท่านของข้าก็ด้วยมีจุดประสงค์อะไรที่บอกคนอื่นไม่ได้”

เจ้านกดำพลันกระทืบเท้ากล่าว “เอ๋ เสี่ยวอิ๋น หลังจากบรรลุมกุฎอริยะเจ้าดูใจร้อนขึ้นนะ กล้ามายั่วยุข้าแล้ว เชื่อไหมว่าข้าจะโยนเจ้าลงหม้อแล้วต้มกินซะเลย”

เสี่ยวอิ๋นกลอกตาใส่ “ถ้ามีปัญญาเจ้าก็ลองดู!”

“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ มกุฎมหาอริยะของทางเดินโบราณฟ้าดารานั่นข้ายังกล้าล่วงเกิน มีหรือจะกลัวหนอนน้อยอย่างเจ้า”

“อย่าพูดมาก ถ้ามีปัญญาก็ลงมือ!”

ทั้งสองโจมตีกันไปมา ถลึงตามองกัน ไม่มีใครยอมใคร

หลินสวินพลันขบขัน รีบห้ามปราม

“ไปๆๆ กลับไปเก็บกวาดทรัพย์หลังศึกกัน!”

เขาโบกมือหันหลังกลับไปยังสนามรบ

“ดี!”

ดวงตาของเจ้านกดำเปลี่ยนเป็นวาววาบในชั่วขณะเดียว กุลีกุจอตามหลังหลินสวินไป ท่าทางอดรนทนไม่ไหว

“หน้าด้าน!”

เสี่ยวอิ๋นหลุดสบถออกมา แล้วตามไปพร้อมกับเสี่ยวเทียน

ไม่นานพวกเขาก็กลับมายังสนามรบ เมื่อสอดส่องสายตาไป ทุกหนแห่งล้วนเป็นภาพน่าสังเวชที่ควันเขม่าอบอวล

ศึกใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลินสวินใช้วิชาของศัตรูทำลายตัวเอง สังหารบุคคลยอดเยี่ยมที่เป็นเลิศที่สุดของค่ายทัพแปดดินแดนในกระบวนค่ายกลใหญ่พันผีจนหมด ฆ่าบุคคลระดับผู้นำสามคนอย่างชืออู๋ซู่ ฮว่าหงเซียว เลี่ยเฉียน ขณะเดียวกันสือพั่วไห่ก็ตายอนาถจากการร่วมมือกันโจมตีของเสี่ยวอิ๋นและเสี่ยวเทียน

สุดท้ายก็มีแค่พวกคุนเซ่าอวี่ เซวี่ยชิงอี จู๋อิ้งคงสามคนที่ลุกลนหนีไปได้ เรียกได้ว่าเป็นชัยชนะครั้งใหญ่!

คาดการณ์ได้เลยว่าหลังจากสมรภูมิเซียนเหินปิดฉากลง ค่ายทัพแปดดินแดนจะต้องสั่นสะเทือนด้วยต้องแบกรับการโจมตีอันหนักหน่วงเช่นนี้แน่!

ถึงขั้นที่ว่าสถานการณ์ของการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนอาจได้เขียนขึ้นใหม่!

………………

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset