Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1650 พายุฝนตั้งเค้า

สิ้นเสียงดอกกระบี่พันปีก ในลานเงียบกริบทั้งแถบ

ในใจหลินสวินก็ไม่อาจสงบได้เช่นกัน

กำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ นับแต่อดีตจนปัจจุบันพาดขวางด่านหน้า ตั้งตระหง่านคงกระพัน

ก่อนหน้านี้ผู้เฒ่าอิ๋นจากหอฤทธิ์เทพก็เคยบอกว่า เมืองนี้สร้างขึ้นมาจากดวงดาวที่เหล่าจักรพรรดิเก็บเกี่ยวจากนอกดินแดน พาดเชื่อมฟ้าดิน ขัดขวางศัตรูประหนึ่งปราการธรรมชาติชั่วนิรันดร์

นับแต่อดีตจนปัจจุบันก็มีชื่อเลืองลือว่าเป็น ‘ปราการฟ้าด่านแรกดินแดนรกร้างโบราณ สถานที่หยุดเท้าของจอมจักรพรรดิ’

เมืองนี้ทอดยาวไร้ขอบเขต เปี่ยมด้วยภาพทิวทัศน์แรกกำเนิด กลิ่นอายเก่าแก่คละคลุ้ง ดวงดาวมากมายโคจรอยู่ภายใน แข็งแกร่งทนทานและใหญ่ตระหง่านยิ่งยวด

แรกเริ่มเดิมทีตอนที่หลินสวินมาถึง ก็สัมผัสได้ตั้งแต่จังหวะแรกว่าทั้งเบื้องบนเบื้องล่างของเมืองนี้ปิดครอบด้วยกระบวนผนึกสูงสุด คละคลุ้งกลิ่นอายระดับจักรพรรดิ บีบคั้นจักรวาล!

เพียงแต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึง ว่าดอกกระบี่พันปีกจะถึงกับมองสถานที่แห่งนี้เป็นมหามรรคด่านตะวันที่เข้าใกล้ระดับจักรพรรดิ ซ้ำยังตื่นเต้นซาบซึ้งต่อเรื่องนี้อีกด้วย

ในใจเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าออกจะซับซ้อนเล็กน้อย

พวกเขาเฝ้าประจำการอยู่ที่กำแพงเมืองด่านจักรพรรดิแห่งนี้ไม่รู้กี่กาลเวลา ย่อมรู้ดีเป็นที่สุดว่าที่ดอกกระบี่พันปีกพูดมาทั้งหมดไม่ผิดเพี้ยนเลย

ที่แห่งนี้ผนึกกลิ่นอายของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิมากมายจริงๆ!

เหมือนอย่างใน ‘ด่านตะวัน’ แห่งนี้ ก็มีแดนต้องห้ามแห่งหนึ่ง ประหนึ่งวิปโยคอลหม่าน มีอสนีสีเงินแล่นแปลบปลาบอยู่ในนั้น กลิ่นอายสายหนึ่งของ ‘จักรพรรดิมารไร้ใจ’ ก็ยังเหลืออยู่จนทุกวันนี้ ถึงตอนนี้ก็ยังคงถวิลหาภรรยาของเขาอยู่

พวกซุ่นจี้ หลิงเซียวจื่อก็เคยคิดว่าจะสามารถไขปริศนาเร้นลับบางส่วนที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อการฝึกปราณ จากกลิ่นอายระดับจักรพรรดิเหล่านี้ได้หรือไม่ หนำซ้ำยังเคยลองมาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง

แต่สุดท้ายล้วนลงเอยด้วยความล้มเหลว

ถึงขั้นตอนที่มีคนหมายจะฝืนกำลังหลอมกลิ่นอายระดับจักรพรรดิสายหนึ่ง ก็เหมือนละเมิดพลังต้องห้าม ตายอนาถคาที่ตรงๆ!

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ภายในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิแห่งนี้ก็ไม่มีใครกล้าริอ่านท้าทายกลิ่นอายระดับจักรพรรดิอีกเลย

แต่ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าดอกกระบี่พันปีกคิดจะทำเช่นนี้

จากสายตาแหลมคมของมัน จะดูไม่ออกเชียวหรือว่ากลิ่นอายระดับจักรพรรดิเหล่านี้ใช่ว่าจะถูกหลอมได้ง่ายๆ ปานนั้น

หรือจะบอกว่ามันมีวิธีอื่น

และในเวลานี้ ดอกกระบี่พันปีกก็ขยับกลีบดอกแผ่วเบา

ห้วงอากาศไกลโพ้นจู่ๆ ก็มีกลิ่นอายน่าสะพรึงที่เปี่ยมด้วยอานุภาพระดับจักรพรรดิพุ่งออกมาสายหนึ่ง เพียงแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้น ยามเมื่อปรากฏขึ้นกลางฟ้าดินในเวลานี้ กลับทำเอาเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าแข็งทื่อไปทั้งร่าง ขนพองสยองเกล้า มีความรู้สึกเหมือนปัญหาใหญ่มาเยือน เกรงกลัวหมดเรี่ยวแรง

ใบหิมะน้ำแข็งบนฝ่ามือหลินสวินเปล่งแสงเรืองแปลกประหลาดออกมา เพียงชั่วครู่ก็เก็บกลิ่นอายน่าสะพรึงที่เปี่ยมด้วยอานุภาพระดับจักรพรรดิสายนั้นไป แทรกสู่กลางเส้นใย

พร้อมกันนั้น หลินสวินรู้สึกเพียงว่าในใบหิมะน้ำแข็งมีกลิ่นอายระดับจักรพรรดิที่คลุมเครือ เร้นลับ น่าสะพรึงจนไม่อาจจินตนาการเพิ่มขึ้นมาสายหนึ่ง

เมื่อเห็นเช่นนี้เสียงดอกกระบี่พันปีกก็เจือแววแปลกไป กล่าวอย่างตื่นเต้น “เห็นหรือไม่ นี่ก็คือกุญแจที่นำไปสู่เส้นทางแห่งระดับจักรพรรดิ! ใครสามารถควบคุมได้ ผู้นั้นก็จะสามารถหลอมและหยั่งถึงปริศนาระดับจักรพรรดิได้!”

ลมหายใจของเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่ายังเปลี่ยนเป็นหอบหนักขึ้นมา สายตาที่มองใบหิมะน้ำแข็งในมือหลินสวินล้วนเปลี่ยนเป็นลุกวาวขึ้นมา

ยังมีสัตว์ประหลาดเฒ่าบางส่วนที่ลอบสังเกตการเคลื่อนไหวที่นี่ในเงามืด ยามนี้ก็ต่างใจสั่นขึ้นมาเช่นกัน

ใบหิมะน้ำแข็งใบหนึ่ง ไม่เพียงสามารถผนึกสิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงอย่างดอกกระบี่พันปีกนี่ได้ ซ้ำยังดูดซับพลังลึกลับของกลิ่นอายระดับจักรพรรดิเข้าไปด้วย นี่ต้องเป็นสมบัติที่แปลกมหัศจรรย์ปานใดกันแน่

มิน่าพวกซุ่นจี้ หลิงเซียวจื่อถึงได้สะท้านสะเทือนและใจสั่น

ในฐานะกึ่งจักรพรรดิ ใครไม่วาดหวังว่าสักวันหนึ่งจะสามารถปีนขึ้นสู่ระดับจักรพรรดิ ผงาดกร้าวทั่วหล้า ยืนตระหง่านเหนือบรรดาอริยะบ้าง

เพียงแต่หากคิดจะบรรลุเป็นจักรพรรดิ ช่างยากเย็นเกินไปจริง!

ในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิแห่งนี้ มีกึ่งจักรพรรดิที่ประจำการอยู่ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ในนั้นไม่ขาดพวกกร้าวแกร่งที่โดดเด่นเฉิดฉาย

แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครสัมผัสบานประตูระดับจักรพรรดิได้เลยสักคน!

เพราะฉะนั้นยามใบหิมะน้ำแข็งเช่นนี้ปรากฏขึ้น สำหรับสัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนี้แล้ว ก็เหมือนมองเห็นความหวังของการก้าวสู่ระดับจักรพรรดิอย่างหนึ่งชัดๆ

ใครจะไม่ใจเต้นบ้าง

จังหวะนี้สีหน้าหลินสวินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย จ้องดอกกระบี่พันปีกอย่างเยียบเย็น “เจ้าเองก็คิดจะเลียนแบบมดตัวจ้อยนั่น ชักนำยุแยง ยืมมีดฆ่าคนด้วยหรือ”

ดอกกระบี่พันปีกกล่าวอธิบายเป็นพัลวัน “สหายน้อย มีข้าอยู่ ผู้ใดยังจะกล้าทำไม่ดีต่อเจ้าได้อีก ก่อนหน้านี้ข้าเพียงตื่นเต้นเกินไปหน่อย เลยทำให้พูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมาบ้าง”

นิ่งไปพักหนึ่งมันเปลี่ยนเป็นไอสังหารพวยพุ่ง “สหายน้อย หากเจ้าไม่วางใจ ข้าจะสังหารพวกคนรุ่นหลังทั้งหมดที่นี่เลยก็ได้!”

ประโยคเดียวไอสังหารสะเทือนจักรวาล พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าแถวนั้นล้วนสะดุ้งตื่นโดยพลัน อย่างพวกฮูหยินมู่ ซุ่นจี้ หลิงเซียวจื่อล้วนอดเผยแววเจื่อนๆ ออกมาไม่ได้

ก่อนหน้านี้พวกเขาถึงกับเกิดความละโมบจนเกือบจะขาดสติ

“ช่างเถิด เจ้ากลับไปพักก่อนดีกว่า”

หลินสวินสีหน้าวูบไหวไม่นิ่ง

ไม่ว่าจะเป็นมดสำริด เจียวหลงเขียวมรกต หรือดอกกระบี่พันปีกนี่ ไม่มีใครสักคนที่รับมือด้วยง่ายๆ จิตใจเคี้ยวคดสุดหยั่ง ทำเอาหลินสวินไม่อาจไม่ป้องกันตัว

ถึงอย่างไรสิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงพวกนี้ก็เป็นถึงพวกที่เกือบจะเป็นระดับจักรพรรดิกันทั้งนั้น ความแข็งแกร่ง ฝีมือ สติปัญญาล้วนไม่ขาดตกบกพร่อง

หากเชื่อคำพูดของพวกเขาทั้งหมด เผลอๆ อาจกลายเป็นทำเอาตัวเองตายก็เป็นได้!

ที่เหนือความคาดหมายคือดอกกระบี่พันปีกไม่ได้ต่อต้านและแก้ต่าง น้ำเสียงนุ่มหูและจริงจัง

“ก็ดี สหายน้อยหวาดระแวงย่อมเป็นเรื่องปกติ ข้าขอตัวกลับไปก่อน หากมีพวกไม่ลืมตามาหาเรื่องสหายน้อย หรือสหายน้อยต้องการความช่วยเหลืออื่นๆ ก็เรียกหาข้าได้ตลอด”

พรึ่บ!

ไม่รอให้หลินสวินเคลื่อนไหว ดอกกระบี่พันปีกก็กลายเป็นแสงสายหนึ่งพุ่งโฉบเข้าไปในใบหิมะน้ำแข็งใบนั้นเอง

“ถอยเพื่อรุกหรือ…”

สีหน้าหลินสวินวูบไหวไม่มั่นคงอีกครั้ง

ครู่ใหญ่กว่าเขาจะสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง จิตใจหวนสู่ความสงบเช่นเดิม

ไม่ว่าดอกกระบี่พันปีกมีแผนการอะไร รอหลังจากได้พบท่านเซิ่น เขาก็จะทำตามคำกำชับของชายหนุ่มจักจั่นทอง มอบใบหิมะน้ำแข็งนี่ให้

ส่วนเรื่องต่อจากนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขาแล้ว

กล่าวง่ายๆ สำหรับหลินสวินแล้ว ใบหิมะน้ำแข็งก็เปรียบเสมือนกระบี่สองคมเล่มหนึ่ง และตอนนี้เขายังไม่มีพลังจะไปควบคุมมัน หากไม่ระวังแค่นิดเดียวก็อาจถูกทำร้ายบาดเจ็บเอาได้!

แทนที่จะเป็นเช่นนี้ สู้รีบๆ ส่งมอบสมบัติชิ้นนี้ออกไปเสียยังดีกว่า

หลังจากหลินสวินเก็บใบหิมะน้ำแข็งเสร็จ เดิมตั้งท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นสีหน้าซับซ้อนของพวกซุ่นจี้ หลิงเซียวจื่อ ก็อดทอดถอนใจในใจไม่ได้

“ผู้อาวุโสทุกท่าน วันนี้ผู้น้อยเหนื่อยเล็กน้อย ขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อน”

หลินสวินประสานมือบอกกล่าว

“สหายน้อย”

ฮูหยินมู่สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งกล่าวว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ออกจะเหนือความคาดหมายเกินไปจริงๆ ข้าตั้งใจว่าจะจุดไฟสัญญาณข่าวจักรพรรดิแจ้งข่าวให้ท่านเซิ่นรู้ ให้เขามาจัดการด้วยตนเอง เจ้าเห็นว่าอย่างไร”

หลินสวินอึ้งไป ในใจผุดแววอบอุ่น

ประโยคเดียวแฝงนัยโดยไม่ต้องเอ่ย วันนี้นักพรตชิวตายแล้ว ซ้ำยังเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ ที่สำคัญที่สุดคือในด่านตะวันยามนี้ เกรงว่าทุกคนต่างรู้ดีว่าในมือหลินสวินมีใบหิมะน้ำแข็งที่แปลกพิสดารสุดหยั่งอยู่ใบหนึ่ง

เชิญท่านเซิ่นกลับมาจัดการในเวลาเช่นนี้ ย่อมเป็นประโยชน์สูงสุดต่อหลินสวินอย่างไม่ต้องสงสัย

“ขอบคุณผู้อาวุโสยิ่ง!”

หลินสวินคารวะอย่างจริงจัง

ฮูหยินมู่ฉายรอยยิ้ม “ไปเถิด พักผ่อนให้เต็มที่ แล้วก็ระวังสิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงพวกนั้นในมือเจ้าด้วย”

หลินสวินพยักหน้าก่อนจากไปย่างฉับไว

“พายุฝนตั้งเค้า ด่านจักรพรรดิไม่สงบ?”

หลิงเซียวจื่อส่งเสียงทอดถอนใจยาวเฮือกหนึ่ง

……

ภายในตำหนักสำริดที่แต่เดิมเป็นของท่านเซิ่น

หลินสวินนั่งขัดสมาธิบนพื้น วางใบหิมะน้ำแข็งไว้ตรงหน้าแล้วเพ่งมอง จมสู่ภวังค์ความคิด

ปีนั้นที่ตำหนักจักรพรรดิหมื่นเคราะห์ในป่าต้นหม่อน ชายหนุ่มจักจั่นทองใช้วิธีการชั้นยอดพาพวกกึ่งจักรพรรดิทั้งกลุ่มออกมา

อย่างเช่นมหาจักรพรรดิจักรวรรดิจื่อเย่า จักรพรรดินี จ้าวไท่ไหล เจ้าสำนักสำนักมฤคมรกต…

หรืออย่างอูจิ่วฉง จวี้เทียนสิง…

และยังมีผีเสื้อราตรีสีเลือดที่ชื่อเฟยหลัน รวมถึงบรรพจารย์บัวโลหิตที่ขี่วัวขาว หน้าตาคล้ายเด็ก…

ขณะเดียวกันก็มีกึ่งจักรพรรดิทั้งโขยงถูกกำราบอยู่ในใบหิมะน้ำแข็งนี่ อย่างเช่นดอกกระบี่พันปีก เจียวหลงเขียวมรกต มดสำริดเป็นต้น

หลินสวินยังจำได้แม่น ตอนที่ชายหนุ่มจักจั่นทองจากไปเคยกล่าวว่า ‘ภายหน้าหากมีโอกาส นำของสิ่งนี้ไปสนามรบแนวหน้า ถึงตอนนั้นกึ่งจักรพรรดิที่ถูกผนึกอยู่ในใบไม้นี้คิดอยากรอดพ้นพันธนาการอย่างสิ้นเชิง มีแต่ต้องสร้างบุญไถ่บาป ออกรบเพื่อดินแดนรกร้างโบราณเพียงทางเดียวเท่านั้น’

ตอนนั้นหลินสวินก็ตอบตกลงโดยไม่ลังเล เหตุผลง่ายดายยิ่ง การกระทำนี้ของชายหนุ่มจักจั่นทองทำไปเพื่อทั้งดินแดนรกร้างโบราณ!

ปณิธานยิ่งใหญ่และจิตใจกว้างขวางระดับนั้น ทำเอาหลินสวินนึกถึงพวกบุคคลสำคัญอย่างจักรพรรดิกระบี่นิลกาฬ อริยพุทธซิงเจีย เทพยุทธ์อู๋ยางในยุคดึกบำบรรพ์ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ต่างพากันปณิธานเด็ดเดี่ยว มีจิตใจอุทิศให้ใต้หล้า

“สร้างบุญไถ่บาป เมื่อครู่หากสามารถหลุดรอดไปได้…ถ้าไม่ล่ะ? จะยังถูกผนึกควบคุมอยู่ในใบหิมะน้ำแข็งนี่ตลอดไปหรือไม่”

“หากเป็นเช่นนี้ มอบสมบัติชิ้นนี้ให้ท่านเซิ่น ก็เรียกได้ว่าเป็นมงคลหาใช่พิษสงร้าย”

ไตร่ตรองเนิ่นนาน หลินสวินพ่นลมหายใจอุดอู้ออกมาเฮือกยาว

ตอนนี้แค่รอให้ท่านเซิ่นกลับมาเท่านั้น!

……

ด่านสมุทร

ที่นี่ถูกมองเป็นหนึ่งใน ‘สามฐานทัพใหญ่’ ที่สำคัญที่สุดของกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ

หลายเดือนก่อน ขุมอำนาจแปดแดนรวมกันอยู่ที่นี่ รวมพลังพุ่งเป่าบุกโจมตี ‘ด่านสมุทร’

แต่ว่ามีกึ่งจักรพรรดิอย่างพวกท่านเซิ่น กู่เหลียงฉวี่คอยเป็นกำลังหลัก ไม่ว่าการบุกโจมตีของศัตรูจะดุเดือดเพียงใด ล้วนถูกสยบอยู่นอกด่าน ไม่อาจรุกเข้าใกล้

ในวันนี้ จู่ ‘แท่นไฟสัญญาณ’ ของด่านสมุทรก็จุดไฟสัญญาณข่าวจักรพรรดิลุกโชนสายหนึ่ง แทบจะในจังหวะแรก ข่าวส่วนหนึ่งก็ส่งมาถึงมือกู่เหลียงฉวี่

“นักพรตชิวถูกโจมตีตายอนาถ บุตรนรกอยู่ไหนยังไม่ทราบชัด สิงห์มังกรทมิฬสี่ตัวล้วนถูกทำร้าย เรียนเชิญใต้เท้ากู่เหลียงฉวี่มาที่ด่านตะวันด่วน…”

เมื่ออ่านข่าวจบ สีหน้ากู่เหลียงฉวี่เคร่งขรึมโดยพลัน อานุภาพน่าสะพรึงแผ่ซ่านขยายกว้าง สะเทือนเลื่อนลั่นเวิ้งฟ้า

เขารูปร่างซูบผอม สวมชุดผ้าป่าน ผมยาวยุ่งเหยิง เค้าหน้าหนักแน่น นัยน์ตาลึกล้ำประหนึ่งมหาสมุทรเวิ้งว้าง

นักพรตชิวพลังต่อสู้แกร่งกล้า หลายปีมานี้ยังอุทิศแรงกายเป็นธุระให้เขากู่เหลียงฉวี่เสมอมา กล่าวได้ว่าจงรักภักดี แต่ยามนี้ถึงกับถูกคนฆ่าทำร้าย!

หนำซ้ำ ข่าววิปโยคระดับนี้ยังเกิดขึ้นภายในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ!

กู่เหลียงฉวี่หยัดตัวขึ้นเต็มความสูง กล่าวสั่งการด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“เตรียมค่ายกลใหญ่เคลื่อนย้าย ข้าจะไปด่านตะวันสักเที่ยว”

เสียงพูดเยือกเย็น แต่กลับมีไอสังหารพุ่งเสียดฟ้าแผ่กว้างลุกลาม

พร้อมกันนั้น ข่าวฉบับหนึ่งก็ส่งไปถึงมือท่านเซิ่นด้วยเช่นกัน อ่านจบ สีหน้าเขาก็อดเจือแววแปลกไปไม่ได้

นักพรตชิวถึงกับตายในด่านตะวันเชียวหรือ

นี่มันเรื่องอะไรกัน

ช่วงก่อนหน้านี้ ท่านเซิ่นไม่ยักเคยได้ยินข่าวลือสักนิด

แต่ไม่ทันไร ท่านเซิ่นก็สืบข่าวได้ เพิ่งรู้คราวนี้เองว่าเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้ ถึงกับเกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งของบุตรนรกกับหลินสวิน

ชั่วขณะนั้น ท่านเซิ่นเองก็อดอึ้งงันไม่ได้ ครู่ใหญ่ให้หลัง เขาจึงตัดสินใจเด็ดขาด กล่าวว่า “สั่งการลงไป ข้าจะกลับด่านตะวันสักเที่ยว”

เขารู้ดียิ่ง กู่เหลียงฉวี่ก็ต้องได้ข่าวแล้วแน่ๆ หนำซ้ำจากอุปนิสัยของกู่เหลียงฉวี่ หลังจากได้รู้ข่าวการตายของนักพรตชิว เกรงว่าตอนนี้คงเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!

………….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset