Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1652 ความคิดของดอกกระบี่พันปีก

ประโยคเดียวของหลิงเซียวจื่อเหมือนเปิดโปงความคิดทั้งหมดของสัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้น ทำให้คนไม่น้อยต่างสีหน้าทะมึนขึ้นมา

“หลิงเซียวจื่อ เจ้าเห็นพวกเราเป็นอะไรไปแล้ว พวกข้าทำเช่นนี้ไม่ใช่ว่าดีต่อหลินสวินรึ”

มีคนตวาด

“ฮึ จากที่พวกข้ารู้ เจ้าหลิงเซียวจื่อกับเจ้าหนูหลินสวินนี่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กัน ตอนนี้กลับปกป้องเจ้าเด็กนี่เช่นนี้ คงไม่ใช่ว่าคิดจะใช้วิธีนี้ทำให้เจ้าหนูหลินสวินนี่ประทับใจ จากนั้นค่อยยึดใบหิมะน้ำแข็งนั่นเป็นของตัวเองกระมัง”

มีคนคาดเดาอย่างเย็นชา เจือเจตนาร้าย

“เฮ้อ ทุกคนล้วนเป็นสหายยุทธ์ ทำไมต้องบันดาลโทสะเพื่อคนรุ่นหลังคนหนึ่งด้วย หลิงเซียวจื่อ นักพรตชิวถูกเจ้าเด็กนี่ฆ่า เจ้าหนูนี่ไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนบ้างหรืออย่างไร”

และมีคนไกล่เกลี่ย แต่ทั้งนอกและในวาจายังมุ่งเป้าไปที่หลินสวิน

หลิงเซียวจื่อเห็นดังนี้ก็โกรธจนสั่นไปทั้งตัว เพื่อโอกาสเข้าใกล้ระดับจักรพรรดิ เจ้าเฒ่าพวกนี้ถึงกับไม่สนหน้าตาอะไรแล้ว!

‘ไม่จำเป็นต้องพูดมากแล้ว เจ้ามองไม่ออกหรือว่าเจ้าพวกนี้ถูกความโลภครอบงำจิตใจไปนานแล้ว การมาถึงของกู่เหลียงฉวี่เป็นแค่โอกาสที่ทำให้พวกเขาลงมือได้เท่านั้น’

ฮูหยินมู่สื่อจิตด้วยสีหน้าเยียบเย็น ‘คนจำพวกนี้เจ้าห้ามปรามไม่ได้อยู่แล้ว’

หลิงเซียวจื่อทอดถอนใจ เต็มไปด้วยความผิดหวัง ‘ข้าเพียงแต่ผิดหวัง คิดไม่ถึงว่าเจ้าเฒ่าพวกนี้จะเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ได้เพราะสมบัติชิ้นเดียว!’

ฮูหยินมู่เงียบงัน

คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรือ

ไม่!

เป็นเพราะละโมบ!

ขณะเดียวกันหน้าตำหนักสำริดที่หลินสวินพำนักอยู่ชั่วคราว ผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิทั้งสองอย่างซิงเฟิงและเนี่ยถูอยู่ดีๆ ก็มาเยือน

“หลินสวินอยู่ไหม รีบออกมาเร็วๆ ใต้เท้ากู่เหลียงฉวี่เรียกเจ้าไปพบ”

เสียงเยียบเย็นของซิงเฟิงดังกระหึ่มเข้าไปในตำหนักสำริด

เนี่ยถูกลับยิ้มกล่าวด้วยเสียงอบอุ่น “สหายน้อยไม่ต้องกลัว พวกเราไม่มีเจตนาร้าย แต่ถ้าเจ้าไม่ให้ความร่วมมือ หลังจากนี้หนึ่งเค่อใต้เท้ากู่จะมาพบเจ้าด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น… ผลที่ตามมาก็พูดลำบากแล้ว”

ในตำหนัก หลินสวินลืมตาขึ้น นัยน์ตาล้ำลึกดุจหุบเหว

กู่เหลียงฉวี่ถึงกับชิงตัดหน้ามาถึงก่อนท่านเซิ่น นี่ทำให้หลินสวินรับรู้ได้ทันทีว่าการตายของนักพรตชิวทำให้กู่เหลียงฉวี่โกรธแล้ว!

“ไม่ว่าง”

หลินสวินปฏิเสธโดยไม่ลังเล

บางทีกู่เหลียงฉวี่อาจเป็นอันดับหนึ่งของกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ มีบารมีและอานุภาพยิ่งใหญ่ แต่เขามีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งกับตน

ทั้งยังบอกว่าภายในหนึ่งเค่อถ้าไม่เห็นตนไปพบก็จะมาหาตนด้วยตัวเอง นี่ไม่ต่างอะไรกับการข่มขู่เลย

“เจ้าเด็กนี่พูดอะไร”

ซิงเฟิงเบิกตากว้างคล้ายยากจะเชื่อ

“เขาบอกว่าเขาไม่ว่าง”

ดวงตาเนี่ยถูฉายแววเยียบเย็น “ข้าเพิ่งเคยเจอคนรุ่นหลังที่เหิมเกริมเช่นนี้เป็นครั้งแรก กึ่งจักรพรรดิอย่างพวกเราสองคนมาเชิญยังถูกปฏิเสธตรงๆ หึๆ น่าสนใจ”

“น่าชังนัก! เห็นชัดว่าพวกเราไว้หน้าแล้วยังไม่ยอมอีก!”

ซิงเฟิงสีหน้าอึมครึม กำลังจะพุ่งเข้าไปจับเป็นหลินสวินแล้ว

เนี่ยถูห้ามเขาไว้แล้วกล่าว “อย่าลืมสิ ใต้เท้ากู่บอกว่าห้ามใช้กำลัง ถ้าใช้อำนาจรังแกคนอ่อนแอหากแพร่ออกไปจะไม่น่าฟัง”

ซิงเฟิงกล่าวขุ่นเคือง “ถ้าพวกเรากลับไปเช่นนี้ นั่นสิถึงเรียกว่าขายหน้า คนรุ่นหลังคนหนึ่งยังเชิญไปไม่ได้ ภายหน้าพวกเราจะมีที่ยืนในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิได้อย่างไร”

เนี่ยถูสะบัดพัดเหล็กในมือ สื่อจิตกล่าว ‘อย่าลืมสิ นักพรตชิวถูกเจ้าเด็กนี่ฆ่า เจ้าอยากซ้ำรอยหรือ แม้ว่าเขาจะเป็นคนรุ่นหลัง แต่ไพ่ตายในมือเขาน่ะไม่ธรรมดา!’

ซิงเฟิงสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด ในที่สุดก็ด่าออกไปเต็มๆ “มารดามันเถอะ หลังผ่านไปหนึ่งเค่อแล้ว ข้าจะจับเจ้าเด็กสวะนี่มาทรมานให้ตายแน่!”

เขาพูดพลางจะจากไปพร้อมเนี่ยถู แต่เวลาเดียวกันนี้ในตำหนักมีเสียงเยียบเย็นของหลินสวินดังขึ้น “หลังจากพูดพล่อยๆ แล้วก็คิดจะจากไปเช่นนี้หรือ พวกเจ้าเห็นข้าหลินสวินเป็นอะไร”

ที่มาพร้อมกับเสียงคือเงาร่างของหลินสวินที่ก้าวออกมาจากตำหนัก นัยน์ตาเยียบเย็นจนน่ากลัว

“เจ้าพูดอะไรนะ”

ไอสังหารในดวงตาของซิงเฟิงพวยพุ่ง อานุภาพน่าพรั่นพรึงก็แผ่กระจายตามมา พูดพล่อยๆ รึ นี่คือท่าทีที่คนรุ่นหลังคนหนึ่งควรมีหรือ

หลินสวินสีหน้าราบเรียบ กล่าวตอบอย่างจริงจัง “ข้าบอกว่าพวกเจ้าปากเหม็นมาก นี่กินขี้มาใช่ไหม”

“รนหาที่ตาย!”

ซิงเฟิงระเบิดแล้ว ลงมือโดยไม่ลังเล

“แย่แล้ว!”

เนี่ยถูหน้าเปลี่ยนสี

เวลานี้ดอกไม้แดงเข้มที่แผ่แสงมรรคประหลาดตลอดต้นพุ่งออกมา กลีบดอกที่เปล่งประกายงามเพริศพริ้งมีปราณกระบี่สลัวรางมากมายไหลวน ส่งเสียงชิ้งๆ ก้องกังวาน

ตูม!

ซิงเฟิงยื่นมือข้างหนึ่งออกมา ความน่ากลัวของพลังสามารถบดทลายภูผาธาราให้เป็นจุณ

แต่ไปได้ครึ่งทางก็ถูกปราณกระบี่สลัวรางเหมือนหมอกควันนับไม่ถ้วนบดละเอียด ปราณกระบี่หวือแหวกเข้าใส่ แขนขวาที่ซิงเฟิงยื่นออกไปล้วนถูกบดขยี้ กลายเป็นหมอกโลหิตลอยล่องทั่วฟ้า

ซิงเฟิงเจ็บปวด เผยสีหน้าตกตะลึงให้เห็น

นี่คือสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอะไร

ตูม!

ดอกกระบี่พันปีกพลิ้วไหวแผ่วเบา ปราณกระบี่มืดฟ้ามัวดินสาดกระเซ็นไปทั่ว ราวกับเทพกระบี่เหนือพิภพองค์หนึ่งออกโจมตี อานุภาพไร้จำกัด

ซิงเฟิงก็เป็นบุคคลที่ร้ายกาจหาใดเปรียบคนหนึ่ง เทียบกับนักพรตชิวแล้วไม่ด้อยไปกว่ากันเท่าไร มิฉะนั้นคงไม่ถูกกู่เหลียงฉวี่เก็บไว้ข้างกายเพื่อใช้งานมาตลอด

แต่ภายใต้การโจมตีนี้ของดอกกระบี่พันปีก ไม่ว่าเขาจะพยายามสู้สุดกำลังอย่างไร พลังป้องกันบนตัวเขาก็แตกระเบิดทีละน้อย ร่างกายล้วนถูกปราณกระบี่ไพศาลเหมือนไร้สิ้นสุดแทงทะลุ

ในที่สุดเสียงตึงก็ดังสนั่น ทั้งตัวเขาถูกปราณกระบี่กำราบลงกับพื้น เลือดเนื้อปะปนไปทั้งตัว ใบหน้าแปรเปลี่ยนจากเค้าเดิม น่าอเนจอนาถเป็นอย่างยิ่ง

เนี่ยถูสีหน้าแปรเปลี่ยนยกใหญ่ ขนพองสยองเกล้า ไม่อาจรักษาความสงบนิ่งได้อีก กล่าวเสียงหลง “นี่…”

ชิ้งๆๆ!

เสียงใสของกระบี่ดั่งทวนทองม้าเหล็ก ไอสังหารล้นฟ้า ดอกกระบี่พันปีกไม่พูดมากแม้แต่ประโยคเดียว เปิดฉากสังหารเนี่ยถูต่อ

ฟุ่บ!

เนี่ยถูหนีโดยไม่ลังเล

เดิมเขาคิดว่าแค่เชิญคนรุ่นหลังคนหนึ่งไปเท่านั้น แน่นอนว่าเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว ทั้งต่อให้ถูกปฏิเสธ พวกเขาก็ไม่ต้องใช้กำลัง

แต่เนี่ยถูกลับคิดไม่ถึงว่าเจ้าหนุ่มที่ถูกเขามองเป็นคนรุ่นหลังคนนี้จะแข็งกร้าวและเผด็จการเช่นนี้ ไม่เห็นกึ่งจักรพรรดิอย่างพวกเขาอยู่ในสายตาแต่แรก!

นี่ทำให้เนี่ยถูอดบันดาลโทสะไม่ได้ หากไม่ใช่ว่าหวาดกลัวไพ่ตายในมือของหลินสวิน เขาก็คงลงมือไปแล้ว

เพียงแต่…

หลังจากเห็นซิงเฟิงถูกกำราบในคราเดียวโดยไม่มีแรงขัดขืนอย่างสิ้นเชิง เนี่ยถูก็ตกใจอย่างสมบูรณ์ ในที่สุดก็รู้ว่าไพ่ตายในมือของหลินสวินน่ากลัวเช่นนี้!

ด้วยเหตุนี้ยามดอกกระบี่พันปีกลงมือกับเขาอีกครั้ง เนี่ยถูจึงไม่แม้แต่จะคิด หนีไปทั้งอย่างนั้น

น่าเสียดายที่ตอนนั้นแม้แต่นักพรตชิวยังหนีไม่พ้น นับประสาอะไรกับเนี่ยถู

พร้อมๆ กับเสียงกัมปนาทของกระบี่ที่สะเทือนฟ้าดิน ร่างของเนี่ยถูถูกซัดถอยหลังกลางอากาศ ยังไม่รอให้ยืนมั่นก็ถูกปราณกระบี่หนาแน่นดุจกระแสน้ำเข้าปกคลุม

ตูม…

ปราณกระบี่โหมกระหน่ำ โหมทำลายดั่งพายุ แค่ชั่วขณะเดียวเท่านั้นเนี่ยถูก็ถูกกำราบลงกับพื้น ร่างกายเต็มไปด้วยรอยกระบี่ เลือดเนื้อปะปน เห็นกระดูกขาวได้รางๆ เลือดสดไหลกองไปรวมกันเป็นแอ่งโลหิตที่แดงก่ำบาดตาบนพื้น

หลินสวินจับจ้องทุกอย่างนี้อย่างเฉยชา มองกึ่งจักรพรรดิสองคนที่ก่อนหน้านี้ยังวางอำนาจบาตรใหญ่ วางท่าหยิ่งผยอง แต่แค่ไม่กี่ลมหายใจก็ถูกกำราบลงกับพื้น ไม่มีแรงดิ้นรนแม้แต่น้อย ในใจเขากลับไม่เวทนาสงสารสักนิด

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดคาดคือ ครั้งนี้ดอกกระบี่พันปีกกลับไม่ลงมือรุนแรง

ไม่อย่างนั้นซิงเฟิงและเนี่ยถูคงสิ้นชีพไปนานแล้ว

“ทำไมต้องไว้ชีวิตพวกเขาด้วย” หลินสวินเอ่ยถาม

ดอกกระบี่พันปีกกล่าว “ถ้าฆ่าพวกเขาแล้ว เกรงว่าเจ้าสหายน้อยจะยิ่งถูกคนเกลียด สู้ไว้ชีวิตพวกเขาเพื่อสร้างความหวั่นหวาด ไม่ถึงขั้นให้ใครมาดูถูกอีกก็พอแล้ว”

หลินสวินคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “พูดเช่นนี้เจ้าก็ทำเพื่อข้าสินะ”

“หากพูดว่าทำเพื่อสหายน้อยอย่างเดียวก็คงไม่ใช่ทั้งหมด ข้าแค่อยากให้สหายน้อยรับน้ำใจก็เท่านั้น”

ดอกกระบี่พันปีกกล่าวอย่างอบอุ่นและจริงจัง “ยิ่งสหายน้อยรับน้ำใจมากเท่าไร สำหรับข้าก็ยิ่งเป็นเรื่องดีมากเท่านั้น อย่างน้อยต่อให้สหายน้อยหวาดกลัวและระวังตัวแค่ไหน ก็ไม่มีทางลงมือรุนแรงกับข้า”

หลินสวินกล่าวเยาะหยันออกมา “ด้วยพลังของข้าตอนนี้ มีหรือจะกล้าลงมือรุนแรงกับคนที่ขาดแค่จุดเปลี่ยนเดียวก็จะก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิอย่างเจ้า”

ดอกกระบี่พันปีกทอดถอนใจ “บางทีสหายน้อยอาจทำไม่ได้ แต่ใบไม้ที่จักจั่นทองทิ้งไว้ใบนี้กลับทำได้ ดังนั้นข้าจะลงมือกับสหายน้อยอย่างเต็มกำลังได้อย่างไร”

หลินสวินแน่ใจว่านี่คือความจริง เพียงแต่ดอกกระบี่พันปีกมีความคิดอะไรนั้น เขาไม่อาจรู้ได้เลย

“ถ้าอยากให้เจ้าฆ่าสองคนนี้ล่ะ” หลินสวินพลันกล่าว

ดอกกระบี่พันปีกกล่าวโดยไม่ลังเล “เช่นนั้นก็ฆ่า แค่เจ้าตัวจ้อยสองคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวเท่านั้น ตายไปก็ไม่เห็นเป็นไร”

ขณะกล่าวมันก็ลงมือ กลีบดอกพลิ้วไหวร่ายปราณกระบี่สลัวรางออกมา

“ช้าก่อน”

หลินสวินกล่าว

ดอกกระบี่พันปีกหยุดมือทันทีดังคาด ไม่ลำบากใจและไม่ตำหนิแม้แต่น้อย หากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง เกรงว่าใครก็คงไม่กล้าเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวตนหนึ่งเช่นนี้ จะยอมเชื่อฟังคำสั่งของคนรุ่นหลังคนหนึ่งด้วยความสมัครใจและจงรักภักดีเช่นนี้

แต่สีหน้าของหลินสวินกลับวูบไหวไม่หยุดอยู่บ้าง

เขามองความคิดของดอกกระบี่พันปีกไม่ออกจริงๆ เจ้าสัตว์ประหลาดเฒ่านี่เชื่อฟังกันเกินไปแล้ว ไม่เคยเผยการกระทำที่ผิดปกติให้เห็นแม้เศษเสี้ยว

บนพื้นซิงเฟิงและเนี่ยถูหายใจรวยริน ในใจถูกความหวาดกลัวเข้าครอบงำ พูดไม่ออกแม้แต่น้อย ด้วยกลิ่นอายของดอกกระบี่พันปีกกำราบพวกเขาอยู่หมัดโดยตลอด

หลินสวินสูดหายใจลึก เหลือบมองดอกกระบี่พันปีกแล้วกล่าว “ข้าไม่สนว่าในใจเจ้ามีเจตนาอะไร อีกไม่นานข้าก็จะจากไปแล้ว ส่วนเจ้ากับพวกที่ถูกผนึกอยู่ในใบไม้นั่นก็จะถูกทิ้งไว้ที่กำแพงเมืองด่านจักรพรรดินี่ ว่ากันตามจริง ตอนนี้ต่อให้เจ้าแสดงออกว่าเชื่อฟังข้าแค่ไหน ภายหน้าก็ไม่มีทางเรียกร้องอะไรจากข้าได้อยู่ดี”

ดอกกระบี่พันปีกยิ้มกล่าว “ข้าคาดเดาไว้อยู่แล้ว แต่ไม่เป็นไร ขอแค่สหายน้อยรับน้ำใจของข้าไว้ก็พอแล้ว”

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เผยความผิดหวังหรือความรู้สึกอื่นให้เห็นแม้แต่น้อย

นี่ทำให้หลินสวินแคลงใจอย่างอดไม่อยู่ หรือว่าตนจะระแวดระวังและละเอียดอ่อนเกินไป

เขาเงียบงันอย่างอดไม่อยู่ไปชั่วขณะหนึ่ง

ดอกกระบี่พันปีกกลับยืนอยู่ข้างๆ กลีบดอกเปล่งประกาย สีแดงเพลิงเหมือนหมอกเมฆ ปราณกระบี่สลัวรางไหลวน ดูลึกลับและแปลกประหลาด

สุดท้ายหลินสวินก็ถอนหายใจ เขาคิดไม่ออกและคาดเดาไม่ถูก

มองดอกกระบี่พันปีกที่อยู่ข้างกาย เขาพลันกล่าวอย่างใคร่รู้ทันใด “ว่าไปแล้ว เจ้าเป็นถึงตัวตนที่อยู่ในระดับกึ่งจักรพรรดิ ทำไมถึงไม่เคยปรากฏตัวในรูปคน เพราะไม่อยากหรือมีสาเหตุอื่น”

“สหายน้อยอยากรู้หรือ”

“แน่นอน”

เสียงของหลินสวินแผ่วลง ก็เห็นดอกกระบี่พันปีกแปลงร่างเป็นหญิงสาวที่สวมชุดกระโปรงแดง ผิวพรรณขาวยิ่งกว่าหิมะ ผมดำราวน้ำตกคนหนึ่ง

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset