Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1655 วาจาจาบจ้วง

ตูม!

ลิงยักษ์สีดำทะยานสู่ฟากฟ้า เหยียดแขนออกไปราวเสาค้ำสวรรค์

กำปั้นที่เหมือนภูเขาลูกย่อมๆ ของมันหมุนเหวี่ยงไปมาอย่างดุดันเรียบง่าย ซัดสัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งลอยออกไปตรงๆ ร่างกายระเบิดออกกลางอากาศ ฝนโลหิตสาดกระจาย จิตสิ้นวิญญาณสลาย

 ถุย! พวกไก่อ่อนระดับราชันอริยะยังกล้าเข้ามายุ่งในการต่อสู้เช่นนี้ด้วย แม่งขวางหูขวางตาจริงๆ! 

ลิงยักษ์สีดำสบถเหี้ยมเกรียมออกมาคำหนึ่ง สีหน้าป่าเถื่อนและดูหมิ่น

เคร้ง!

อีกด้านหนึ่ง ทวนสำริดเปื้อนเลือดที่ไม่สมบูรณ์นั้นพุ่งวาบแหวกผ่านฟากฟ้า ปลายทวนแผ่แสงทมิฬเยียบเย็นน่าหวาดกลัว ใบหน้าซีดเผือดแปลกประหลาดหนึ่งปรากฏ ในดวงตาคือแสงโลหิตผิดแปลก

ทวนเล่มนี้คือสิ่งลึกลับเกินคาดเดาที่สุดในป่าต้นหม่อน แม้ว่ามันจะบกพร่อง แต่ราวกับมีสติปัญญา มีพลังเจตจำนงที่น่าหวาดกลัว

ปึง!

พริบตานั้นเกราะหัวใจที่อยู่ตรงหน้าสัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งแตกละเอียด หน้าอกถูกทวนเดียวทะลวงผ่าน ร่างกายของเขาถูกยกขึ้น ส่งเสียงหวีดร้องโหยหวนด้วยหวาดผวา

ขณะเดียวกันในทิศทางอื่น งูมังกรสีทอง นกเสวียนขาวหิมะ เตียวม่วงสายฟ้าต่างระเบิดอานุภาพร้ายกาจออกมา แต่ละตนล้วนน่ากลัว แต่ละตนล้วนบ้าระห่ำ

ความจริงในสายตาของสิ่งมีชีวิตน่ากลัวพวกนี้ ไม่เคยเห็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ประจำการอยู่ในด่านจักรพรรดิพวกนี้อยู่ในสายตาจริงๆ

ต้องรู้ว่าตั้งแต่สมัยบรรพกาลเมื่อแสนปีก่อนพวกมันก็จำศีลอยู่ที่ป่าต้นหม่อน หมายมุ่งช่วงชิงวาสนาบรรลุจักรพรรดิที่มหาจักรพรรดิหมื่นเคราะห์เหลือไว้

ส่วนผู้แข็งแกร่งที่ประจำการอยู่ในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดินี้ บางทีอาจมีตัวตนระดับกึ่งจักรพรรดิไม่น้อย แต่ไม่ว่าจะเป็นเบื้องลึกเบื้องหลังหรือพลัง เทียบกับสิ่งมีชีวิตน่ากลัวที่เหมือน ‘สัตว์ดึกดำบรรพ์’ พวกนี้แล้ว ก็เรียกได้ว่าเป็นเด็กน้อยกับจอมขมังเวทชัดๆ

เหมือนที่ดอกกระบี่พันปีกกล่าวไว้ตอนต้น ผู้แข็งแกร่งของกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิพวกนี้อย่างมากก็เป็นได้แค่คนรุ่นหลังเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ในหมู่สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนี้ก็ไม่ใช่กึ่งจักรพรรดิทั้งหมด ยังมีบางส่วนที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับราชันอริยะด้วย ทำให้ดูไม่ได้ความยิ่งกว่าเดิม

ตูม!

ในสนามรบยุ่งเหยิงอลหม่านและปั่นป่วน แสงมรรคสาดส่องไปทั่วราวมหาสมุทรที่ซัดโหมตามสะดวก เสียงกัมปนาทดั่งฟ้าผ่าดังกระหึ่มเก้าชั้นฟ้า

ฟ้าดินต่างกำลังสั่นสะเทือน ห้วงอากาศปั่นป่วนโดยสมบูรณ์ ลักษณ์ประหลาดที่น่ากลัวมากมายเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นระลอก มีเทพมารคำราม อริยะหลั่งน้ำตาเป็นเลือด และมีดาราจมดิ่งดวงจันทร์ร่วงหล่น ภูผาธาราดับสลาย

ภาพน่ากลัวเช่นนั้นเรียกได้ว่าสะเทือนใต้หล้า หากเกิดขึ้นที่อื่นคงพอจะทำลายใต้หล้าได้หมื่นลี้ ทำให้สรรพสิ่งต่างดับมอด!

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการต่อสู้ของกึ่งจักรพรรดิ เป็นการห้ำหั่นระหว่างพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิกับสิ่งมีชีวิตน่ากลัวที่มาจากป่าต้นหม่อนกลุ่มหนึ่ง

การต่อสู้เช่นนี้ ต่อให้อยู่ในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิก็ยังพบเห็นได้น้อยมาก!

 ไม่…! 

 น่าชังนัก! 

 สู้มัน! 

เสียงคำรามด้วยบันดาลโทสะดังก้องจักรวาล สีหน้าของสัตว์ประหลาดเฒ่าในด่านจักรพรรดิแต่ละคนต่างคล้ำเขียวเหี้ยมเกรียม ไม่น่าดูหาใดเปรียบ

เดิมทีพวกเขาคิดว่ามีกู่เหลียงฉวี่อยู่ คงพอจะทำให้หลินสวินก้มหัวยอมศิโรราบ มอบใบหิมะน้ำแข็งให้แต่โดยดี แต่ไหนเลยจะคิดว่าสภาพการณ์จะรุนแรงเช่นนี้!

แค่ใบไม้ใบเดียวถึงกับผนึกสิ่งมีชีวิตน่ากลัวไว้สิบกว่าตน นี่ก็เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นต่างมีความรู้สึกว่าไม่ทันตั้งตัว

เมื่อมองกู่เหลียงฉวี่ที่ถูกหญิงสาวกระโปรงแดงคนนั้นขวางไว้อีกครั้ง อย่าว่าแต่แสดงแสนยานุภาพเลย แม้แต่จะปลีกตัวหนีก็ยังดูยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง!

เขาเป็นถึงอันดับหนึ่งของกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ กรำศึกในสนามรบแนวหน้ามาถึงวันนี้ สังหารศัตรูแข็งแกร่งมานับไม่ถ้วน จนถึงปัจจุบันไม่เคยร่วงหล่น

แต่ตอนนี้กลับถูกหญิงสาวกระโปรงแดงขวางไว้!

แต่นี่ไม่ใช่ว่าเพราะกู่เหลียงฉวี่อ่อนแอเกินไป ตอนนั้นที่นักพรตชิวถูกหญิงสาวกระโปรงแดงฆ่า ก็ล้วนเกิดขึ้นภายในการโจมตีเดียว

ยามนี้กู่เหลียงฉวี่ต่อสู้กับหญิงสาวกระโปรงแดงมาได้ถึงตอนนี้ พลังต่อสู้ก็เรียกได้ว่าน่ากลัวแล้ว

น่าเสียดาย ในที่นี้คนระดับยอดกึ่งจักรพรรดิอย่างกู่เหลียงฉวี่สุดท้ายก็มีแค่คนเดียว กึ่งจักรพรรดิคนอื่นไม่มีความสามารถเทียบเท่าเขา

 ฆ่า! 

ลิงยักษ์สีดำแผดเสียงคำราม ทลายห้วงอากาศแหลกละเอียด ทำให้ฟ้าดินต่างสั่นสะเทือน บ้าระห่ำจนน่ากลัว อาละวาดอยู่ ณ ที่นั้นราวกับเทพมารใหญ่

สิ่งมีชีวิตน่ากลัวตัวอื่นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันแม้แต่น้อย

ภายใต้การฆ่าฟันเช่นนี้ แค่ชั่วขณะเดียวก็ทยอยมีผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิสามคนสิ้นชีพ ราชันอริยะเจ็ดคนจิตสิ้นวิญญาณสลายราวกับต้นหญ้าไร้ค่า

กลางฟ้าดินเมฆลมคลุมเครือ ฝนโลหิตเทกระหน่ำ

ยามอริยะร่วงหล่นยังชักนำมาซึ่งเสียงโหยไห้ เลือดปกคลุมแผ่นฟ้า นับประสาอะไรกับการสูญเสียผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิ

ก็เห็นว่าบนเวิ้งฟ้าที่อยู่สูงขึ้นไปมีบุปผาโลหิตมากมายลอยล่อง ปลิดปลิวอยู่กลางอากาศ มีเสียงมหามรรคเศร้าโศกโหมกระหน่ำดังกระหึ่ม ประหนึ่งบทเพลงสุดท้ายของชีวิต

ห่างออกไปผมดำของหลินสวินพลิ้วไหว นัยน์ตาดำเยียบเย็น สีหน้าราบเรียบไร้คลื่นลม

การต่อสู้เช่นนี้เขาไม่มีความสามารถเข้าไปยุ่งได้จริงๆ ถึงขั้นยังไม่อาจมองพลังที่ผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิพวกนั้นใช้ในการต่อสู้ได้

ถึงอย่างไรศักยภาพก็ต่างกันมากเกินไปจริงๆ

แต่ทั้งหมดนี้ล้วนไม่สำคัญ ถ้ามีใบหิมะน้ำแข็งอยู่ การต่อสู้นี้ต่อให้กู่เหลียงฉวี่มีสามเศียรหกกรก็ไม่อาจต้านลิขิตสวรรค์!

 กรรมใดใครก่อกรรมนั้นตามสนอง เมื่อความโลภครอบงำ นี่ก็คือการลงโทษ! 

ครั้งนี้หลินสวินโกรธจัดแล้ว ในเมื่อถูกคนกดหัวแล้วจะมัวสนใจอะไรอีก!

บางทีการต่อสู้นี้อาจทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยตายจาก สำหรับกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิคงเกิดความสูญเสียอย่างหนักโดยไม่ต้องสงสัย

แต่หลินสวินไม่สนใจแล้ว!

สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนี้กำลังถูกความโลภครอบงำ ยามลงมือกับตนโดยไม่ลังเล เคยคิดถึงผลที่จะตามมาเช่นนี้หรือไม่

ทั้งพวกเขาเคยเห็นแก่ส่วนรวมบ้างไหม

แค่เพราะประจำการอยู่ที่นี่ มีผลงานรบในครอบครอง ก็ข่มเหงคนรุ่นหลังอย่างตนได้ตามใจแล้วหรือ

น่าขัน!

ตอนแรกหากไม่ใช่ว่าเขาหลินสวินเห็นแก่ส่วนรวม มีหรือจะอดทนมาถึงตอนนี้

หากไม่ใช่ว่าเพื่อสนามรบแนวหน้านี้ เขามีหรือจะมาที่กำแพงเมืองด่านจักรพรรดิทันทีที่ออกจากสมรภูมิเก้าดินแดน

เดิมใบหิมะน้ำแข็งนี้คือสิ่งที่จะมอบให้ท่านเซิ่น เก็บไว้ที่กำแพงเมืองด่านจักรพรรดินี้

แต่สิ่งที่น่าขันคือ เจ้าเฒ่าพวกนี้ด้วยความโลภที่อยู่ในใจจึงไม่สนแม้แต่หน้าตา แม้แต่ความผิดถูกก็ยังไม่สนใจแล้ว!

หลินสวินเดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่มากกว่ากลับเป็นความผิดหวัง

เขามีใจคิดเพื่อค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณ ไม่อาจพูดได้ว่าสงเคราะห์ใต้หล้า และก็พูดไม่ได้ว่าถวายตัวรับใช้ทุกคนในใต้หล้า

แต่อย่างน้อยเขาก็ใช้พลังของตัวเองทำเพื่อดินแดนรกร้างโบราณมาตลอด!

ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ในสมรภูมิเก้าดินแดนเขามีหรือจะสร้างเมืองอารักษ์มรรคขึ้นมาใหม่ ทุ่มเทกายใจและพลังทั้งหมดไปสู้ศึกกับค่ายทัพแปดดินแดน

ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น เขามีหรือจะรับปากชายหนุ่มจักจั่นทอง ว่าจะนำใบหิมะน้ำแข็งมาที่กำแพงเมืองด่านจักรพรรดินี้โดยไม่ลังเล

แต่ตอนนี้สิ่งที่ต้อนรับเขาคืออะไร

คือการกลับดำเป็นขาว กดขี่ข่มเหงกันตามอำเภอใจ ด้วยความละโมบจึงไม่แบ่งแยกถูกผิด คิดฆ่าคนชิงทรัพย์!

นี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้หลินสวินหดหู่ ผิดหวัง และคับแค้น

เหมือนอย่างที่เขากล่าวมาก่อนหน้านี้ พูดถึงคุณงามความดี เขาหลินสวินคนเดียวก็กำจัดค่ายทัพแปดดินแดนได้สิ้นซาก นำพาดินแดนรกร้างโบราณให้ได้ชัยชนะครั้งใหญ่ในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดน

ลองถามวีรชนบนโลกดู ว่าเหล่าผู้กล้าตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันใครสามารถเทียบเทียม

ไม่มี!

ด้วยการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนในอดีต ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณแพ้อย่างย่อยยับมาตลอด ถูกคนกำราบ หยามเหยียด เหยียบย่ำ ไม่อาจเงยหน้าขึ้น!

แต่ตอนนี้สัตว์ประหลาดเฒ่ากลุ่มหนึ่งกลับอ้างว่าตนลำบากตรากตรำมีผลงานใหญ่ จึงป้ายสีข่มเหง ออกคำสั่งโดยมุ่งเป้ามาที่ตนได้อย่างกำเริบเสิบสาน นี่…

ทำไมถึงไร้สาระเช่นนี้ ทำไมช่างน่าขันเยี่ยงนี้

ตูม!

ในที่นั้นการต่อสู้ยิ่งทวีความรุนแรง กลิ่นคาวเลือดอบอวล ไอสังหารสะท้านทั่วจักรวาล

มีสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับกึ่งจักรพรรดิร่วงหล่นอย่างต่อเนื่อง บ้างถูกกระชากตัวขาด บ้างถูกแทงทะลุหน้าอก บ้างถูกทลายจิตวิญญาณจนแหลกละเอียด บ้างถูกบิดคอขาดตรงๆ

น่าสยดสยอง

นองเลือด

เหี้ยมโหด

ชวนประหวั่น!

ซุ่นจี้ ฮูหยินมู่ หลิงเซียวจื่อล้วนถอยออกจากการต่อสู้ แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางช่วยสิ่งมีชีวิตน่ากลัวพวกนั้นจัดการพวกกู่เหลียงฉวี่

เพียงแต่เมื่อเห็นสหายร่วมวิถีทุกคนที่เคยกรำศึกอาบเลือด ร่วมต้านศัตรูต่างดินแดนมาด้วยกันตายจากไปทีละคนต่อหน้าเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็อดมือเท้าเย็นเยียบไม่ได้ ในใจตกอยู่ในสภาพดิ้นรนอย่างรุนแรงหาใดเปรียบ เหมือนตกนรกทั้งเป็น

กล่าวโทษหลินสวินว่าอำมหิตเกินไปได้ไหม

ไม่ได้!

แต่ไหนแต่ไรหลินสวินเป็นฝ่ายถูกเพ่งเล็งและกดขี่มาตลอด ไม่อย่างนั้นเมื่อครู่พวกซุ่นจี้คงไม่มีทางลงมือพร้อมกัน ไปช่วยหลินสวินขวางสัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นไว้แน่

 คำว่าโลภคำเดียว เหมือนมารในใจของพวกเราจริงๆ ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว! 

หลิงเซียวจื่อกล่าวเศร้าสร้อย

 สหายน้อย ออมมือได้หรือไม่ 

ซุ่นจี้ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว บุคคลระดับกึ่งจักรพรรดิที่หยาบเถื่อนองอาจคนนี้ ยามนี้กลับเบ้าตาแดงระเรื่อ ในน้ำเสียงเจือความทรมานและวิงวอนอย่างหนึ่ง

คำขอนี้สำหรับหลินสวินแล้วอาจมากเกินไปอยู่บ้าง แต่… ซุ่นจี้ไม่อาจฝืนดูต่อไปได้แล้วจริงๆ

การบาดเจ็บล้มตายที่มากเกินไป สุดท้ายสำหรับกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิจะเป็นการโจมตีที่ไม่ธรรมดา ทั้งจะทำให้ศัตรูต่างดินแดนเย้ยหยัน!

 สหายน้อย ได้โปรดหยุดเถอะ 

ฮูหยินมู่ก็ร้อนรนกล่าวออกมา

ในที่นั้นนอกจากกู่เหลียงฉวี่ที่กำลังต่อสู้ดุเดือดอยู่กับหญิงสาวกระโปรงแดงแล้ว สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นล้วนบาดเจ็บล้มตายไปเกินครึ่ง คนที่เหลือก็กำลังดิ้นรนอย่างยากลำบาก ใกล้จะยืนหยัดไม่อยู่

หลินสวินเงียบไปครู่หนึ่ง สูดหายใจลึกเอ่ยถาม  ผู้อาวุโสทุกท่าน พวกท่านคิดว่าข้าทำผิดหรือไม่ 

พวกซุ่นจี้ ฮูหยินมู่ชะงักไปพร้อมกัน ไม่นานก็ส่ายหัว แต่ละคนต่างสีหน้าสับสน ล้วนไม่กล้าสบตาหลินสวิน

เรื่องนี้แน่นอนว่าไม่ใช่ความผิดของหลินสวิน!

ตั้งแต่ต้นจนจบเขายังไม่เคยทำผิด แต่ไหนแต่ไรมาล้วนขัดขืนเพราะตกเป็นฝ่ายถูกกระทำก็เท่านั้น!

 พวกเขา… ทำให้ข้าผิดหวังมากจริงๆ 

หลินสวินเอ่ยปากอีกครั้ง สายตามองกู่เหลียงฉวี่ที่อยู่ห่างออกไป สีหน้าราบเรียบไร้คลื่นลมพลางกล่าว

 ข้าอยากรู้นักว่าหากศัตรูแปดดินแดนนำจุดเปลี่ยนบรรลุจักรพรรดิหนึ่งมาให้ สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนี้ก็จะเลือกทรยศ ไปพึ่งศัตรูต่างดินแดนด้วยความละโมบหรือไม่ จะกล้าทำลายกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิเพื่อบรรลุจักรพรรดิหรือไม่ 

ประโยคนี้เหมือนฟ้าถล่มดินทลาย จาบจ้วงเกินไปแล้ว!

พวกซุ่นจี้ต่างหน้าเปลี่ยนสี ใจตกไปที่ตาตุ่ม

คำพูดนี้ของหลินสวิน แม้จะเป็นการสมมติอย่างหนึ่ง แต่เมื่อเห็นภาพนองเลือดต่างๆ ในวันนี้แล้วใครจะไม่ใส่ใจได้อีก

ใช่แล้ว ใบหิมะน้ำแข็งใบเดียวก็ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนี้คลุ้มคลั่ง มุ่งเป้าไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งโดยไม่สนใจอะไรเลย

หากศัตรูต่างดินแดนนำจุดเปลี่ยนเช่นนี้มาให้ สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนี้… ใครบ้างจะควบคุมความโลภในใจได้

 แต่เห็นแก่หน้าของผู้อาวุโสทุกท่าน ข้าจะให้โอกาสพวกเขาครั้งหนึ่ง 

หลินสวินพูดพลางยกใบหิมะน้ำแข็งในมือขึ้น สายตามองไปยังสนามรบ  พอแล้ว กลับมาเถอะ 

เห็นได้ชัดว่าสิ่งมีชีวิตน่ากลัวพวกนั้นยังไม่หายอยาก พวกเขาไม่ใส่ใจว่าจะฆ่ากึ่งจักรพรรดิไปเท่าไร ทั้งจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิแค่ไหน

แต่คำพูดของหลินสวิน พวกเขากลับไม่กล้าไม่เชื่อฟัง!

ฟุ่บ!

ทวนสำริดเปื้อนเลือดเล่มนั้นชิงหยุดมือก่อน พุ่งเข้าไปในใบหิมะน้ำแข็งทันที

ตามมาด้วยงูมังกรทองคำ เตียวม่วงสายฟ้า นกเสวียนขาวหิมะ เหล่าสิ่งมีชีวิตน่ากลัวมากมายทยอยกลับมา

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เจออุปสรรคใดๆ

ด้วยคู่ต่อสู้ของพวกเขาถูกฆ่าจนขวัญหนีดีฝ่อ แทบจะพังทลายกันนานแล้ว!

………………………….

 

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset