ความว่างเปล่าโดยรอบสั่นสะเทือน ดวงดาวสะท้อนแสง
เงาร่างสูงใหญ่ของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ราวกับร่างแปลงมหามรรค ทุกอิริยาบถล้วนชักนำอำนาจใหญ่แห่งมรรคที่ลึกลับไม่อาจคาดเดา
แต่ในใจหลินสวินกลับปรากฏการหยั่งรู้มรดกหลายหลาก ดุจดั่งคลื่นน้ำโหมกระหน่ำพุ่งโจมตีจิตใจ
จนกระทั่งสุดท้าย เงาร่างของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์พลันชะงัก แขนขวายื่นออกไปในอากาศแล้วชี้เบาๆ
ดวงดาวร้อยล้านพลันระเบิดหายไป
มหาวัฏจักรราวกับแก้วที่แตกทลาย สลายไปอย่างไร้ร่องรอย
ตูม!
ในเวลาเดียวกันพลังน่ากลัวที่พวยพุ่งออกมาหลังความว่างเปล่าระเบิด ดวงดาวสลาย ล้วนถูกกลืนเข้าไปในร่างของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ทั้งหมด
อานุภาพของเขาพลันน่ากลัวขึ้นกว่าเมื่อครู่นี้ช่วงใหญ่ ทั้งเงาร่างราวกับหลุมดำจักรวาลขนาดยักษ์
ตรงตำแหน่งที่เขายืนว่างเปล่าทั้งแถบแล้ว ทว่าพอเขาก้าวออกไป
ความว่างเปล่าแถบนั้นก็ถูกกลืนไปด้วย ทลายออกกะทันหัน!
เส้นทางดารานิรันดร์อันลึกลับนั่นพลันปรากฏ
การหยั่งรู้มากมายหยุดชะงักลงแต่เพียงเท่านี้
หลินสวินพลันตกใจตื่น ในสมองประทับมรดกอย่างหนึ่งอย่างชัดเจนแล้ว…
‘กลืนฟ้ากินดิน ช่วงชิงอานุภาพความว่างเปล่าเป็นของตน ความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด พลังข้าไร้สิ้นสุด กายข้าไร้ขอบเขต วิชาข้าไร้จำกัด…’
คลื่นมรดกที่คลุมเครือลึกลับมากมายไหลเวียน เปลี่ยนเป็น ‘คัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุด’ เล่มหนึ่ง!
นี่คือมรดกมหามรรคแกนหลักอย่างหนึ่ง เป็นคัมภีร์มหามรรคที่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์แสวงมรรคา ผ่านการต่อสู้มาเป็นเวลานานและสร้างขึ้นได้ในที่สุด
อีกทั้งแกนหลักของคัมภีร์มรรคนี้ ก็คือพรสวรรค์หุบเหวกลืนกิน!
พูดได้ว่าคัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุดนี้ เป็นคัมภีร์มรรคไร้เทียมทานที่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์สร้างขึ้นเพื่อหุบเหวกลืนกินโดยเฉพาะ
ในการต่อสู้ที่ผ่านมาของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ เขาที่ครอบครองคัมภีร์มรรคนี้เคยโจมตีผู้ยิ่งใหญ่คนแล้วคนเล่าจนพ่ายแพ้ยับเยิน!
หากเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่น แม้ได้รับคัมภีร์นี้ก็ไม่มีทางหยั่งถึงความเร้นลับภายในได้แน่ เพราะหากไม่มีพรสวรรค์อย่างหุบเหวกลืนกิน ทุกอย่างล้วนเปล่าประโยชน์
ทว่าสำหรับหลินสวิน การฝึกคัมภีร์มรรคนี้ไม่ใช่เรื่องยาก
‘มรดกวิชาทั้งร่าง การหยั่งรู้มรรควิถีทั้งชีวิต ผสานเข้าสู่คัมภีร์มรรคนี้ทั้งหมด ตอนที่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ยังมีชีวิตอยู่ ช่างสมกับที่เป็นบุคคลโดดเด่นที่สามารถสะเทือนอดีตปัจจุบัน…’
ใคร่ครวญเงียบๆ อยู่นาน ในใจหลินสวินเองก็อดถอนหายใจไม่ได้
คัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุดเล่มนี้ ไม่ใช่เพียงแค่วิชายุทธ์เล่มหนึ่ง
ภายในมีการวิเคราะห์มหามรรค การหยั่งรู้มรรคา การอธิบายวิชามรรค… เรียกได้ว่าลึกซึ้งกว้างไกล หายากอย่างยิ่ง
ทว่าข้อด้อยก็ชัดเจนมาก
หากไม่มีพรสวรรค์หุบเหวกลืนกิน ก็ไม่สามารถหยั่งรู้ได้!
เจ้าฟื้นแล้วหรือ
เสียงที่เย็นยะเยือกดังขึ้นข้างหู ทำให้หลินสวินได้สติจากภวังค์ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นหญิงลึกลับมายืนตรงหน้าตัวเองไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เขตสุสานว่างเปล่า ป้ายสุสานตั้งเด่นราวกับผืนป่า แสงมรรคมากมายวนเวียนอยู่รอบๆ เงาร่างของหญิงลึกลับ ร่างของนางสง่าสูงเพรียว ราวกับเซียนมาเยือนโลก รูปลักษณ์ไม่สามารถถูกมองทะลุได้
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์จนไม่อาจล่วงเกินได้
เจ้าสลบไปหนึ่งเดือนแล้ว
หญิงลึกลับพูดอีกประโยค
หลินสวินอึ้ง ประสบการณ์ที่ราวกับความฝัน พอตื่นมากลับผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วหรือ
ผู้อาวุโส ท่านมิได้ถูกความยึดมั่นของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ฆ่าหรือ
หลินสวินจำได้แม่น ตอนนั้นเพราะหญิงลึกลับเตือน ทำให้เขาไม่ได้ตอบรับข้อเสนอ ‘รับศิษย์’ ของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์
ทว่าก็เพราะเหตุนี้ หญิงลึกลับจึงถูกเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์โจมตีจนกระเด็นออกไปในคราเดียว และหายไปไร้ร่องรอย
ตอนนั้นหลินสวินคิดว่าหญิงลึกลับประสบเคราะห์เสียแล้ว
ห้องโถงมรรคาสวรรค์นี้เดิมก็เป็นสมบัติที่เขาทิ้งไว้ แม้เขาจะเป็นความยึดมั่นเสี้ยวหนึ่ง ทว่าอยู่ที่นี่กลับประหนึ่งนายเหนือหัว ต่อให้เป็นข้าก็ถูกกำหนดให้ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ ทว่าหากเขาอยากฆ่าข้าก็ยากมากเช่นกัน
เสียงของหญิงลึกลับเย็นเยียบ ไม่มีคลื่นอารมณ์สักนิด ราวกับสิ่งที่พูดเป็นเรื่องเล็กที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตน
หลินสวินโล่งอก กล่าวว่า ผู้อาวุโส โลกหลังประตูสวรรค์นี้ทำให้ท่านผิดหวังมากใช่หรือไม่
หญิงลึกลับเอ่ย สุขทุกข์เป็นสิ่งไม่เที่ยง ผ่านความยากลำบากครั้งนี้ กลับทำให้ข้าจำเรื่องราวบางอย่างเมื่อนานมาแล้วขึ้นมาได้
สายตาของนางมองมายังหลินสวิน ส่วนเจ้า ผ่านความยากลำบากครั้งใหญ่นี้ มีหรือจะไม่ได้รับมหาวาสนา
หลินสวินเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจพยักหน้า
เปิดประตูสวรรค์ออกครั้งนี้ แม้เกือบตาย แต่ก็ทำให้เขาได้รับประโยชน์ที่คิดไม่ถึงเช่นเดียวกัน
ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่า ชื่อเดิมของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์คือลั่วทงเทียน เป็นบรรพบุรุษฝั่งมารดา มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่ใกล้ชิดกับตน
มรดกวิชาที่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ทิ้งเอาไว้ นามว่าคัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุด ตอนนี้ถูกตนได้มาแล้ว
เพียงแต่ไม่ว่าหลินสวินจะนึกอย่างไรก็จำไม่ได้ ว่าเจตจำนงความยึดมั่นของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ถูกกำจัดอย่างไร
เขาจำได้เพียงรางๆ ว่ามรรคคาถาที่สืบทอดมาจากคีรีดวงกมลบทนั้นเคยดังก้องในใจ…
‘ใช่เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดหรือไม่’
ในใจหลินสวินงุนงงเล็กน้อย
ยามอยู่ที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ มรรคคาถาที่ราวกับหล่อจากมหามรรคนั่นถูกเก็บเข้าไปในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แม้หลินสวินค้นหาด้วยตัวเองก็ไม่เจอกลิ่นอายของมรรคคาถาบทนี้ ราวกับว่าหายไปในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดแล้ว
ใครจะคิดว่าผ่านมาหลายปีขนาดนี้ มรรคคาถาบทนี้กลับดังก้องในใจตนอีกครั้ง
นี่ทำให้หลินสวินสังเกตเห็นรางๆ ว่า ที่ตนสามารถรอดชีวิตมาได้ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกลับมรรคคาถาในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดบทนี้!
นอกจากนี้หลินสวินก็ได้ผลเก็บเกี่ยวที่ลึกลับที่สุดอีกอย่างหนึ่ง…
สัญลักษณ์แผนที่ดาวที่หลอมเข้าไปในใจแล้วหายไปนั่น!
เพียงแต่ตอนนี้หลินสวินยังไม่รู้ประโยชน์ของสัญลักษณ์แผนที่ดาวนี้ เพียงคาดเดาได้คร่าวๆ ว่าของสิ่งนี้เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับ ‘เส้นทางดารานิรันดร์’ อันลึกลับนั่น
ความลึกลับในประตูนี้ถูกเปิดออกแล้ว พลังในนี้กำลังสลายไป อีกไม่เกินพันปี ห้องโถงมรรคาสวรรค์แห่งนี้ก็จะหายไปอย่างสิ้นเชิง
หญิงลึกลับพูด ในระหว่างนั้นข้าคิดจะปิดด่านที่นี่
สายตาของนางมองไปยังเขตสุสาน ที่แห่งนี้มีสุสานหนึ่งพันเก้าหลักกระจายอยู่ นอกจากสุสานเปล่าหลักหนึ่งแล้ว ตรงหน้าหลักอื่นๆ ล้วนมีโต๊ะหินที่วางวัตถุแปลกประหลาดหลากหลายชนิด
สำหรับผู้ฝึกปราณทั่วไป เขตสุสานเก่าแก่แห่งนี้เป็นเพียงแค่ผลงานการต่อสู้และเกียรติยศที่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ได้รับในการต่อสู้ที่ผ่านมา
แต่ในสายตาของหญิงลึกลับ ในสุสานทุกหลักล้วนมีความเร้นลับ หากมิใช่ระดับจักรพรรดิขึ้นไป ไม่สามารถมองทะลุความลึกลับภายในได้!
ปิดด่านหรือ
หลินสวินประหลาดใจ
ข้าเคยบอกเจ้านานแล้วว่า ข้าเป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อนดวงหนึ่ง ความทรงจำขาดหาย เฝ้าอยู่หน้าประตูบานนี้มาตลอด รอคอยมาอย่างยาวนาน หวังเพียงฟื้นคืนความทรงจำ รู้ว่า ‘ข้าเป็นใคร’
หญิงลึกลับพูด พลังของสุสานแห่งนี้สามารถช่วยข้าได้
ยามนี้หลินสวินถึงเข้าใจขึ้นมา
ถือของชิ้นนี้ไว้ ห้องโถงมรรคาสวรรค์ในอนาคตจะไม่สามารถเข้าออกได้เหมือนที่ผ่านมา ทว่าเพียงเจ้ากระตุ้นปิ่นหยกนี้ ข้าก็จะปรากฏตัว
หญิงลึกลับพูดพร้อมโยนปิ่นหยกชิ้นหนึ่งให้หลินสวิน
ปิ่นหยกรูปแบบเรียบง่าย หลอมขึ้นจากหินหยกสีดำบริสุทธิ์ลึกลับประเภทหนึ่ง บนนั้นสลักอักษร ‘ซี’ ไว้คำหนึ่ง
ถือเอาไว้ในมือให้ความรู้สึกอ่อนโยนและเย็นใส
การเปิดประตูสวรรค์ออกในครั้งนี้ ข้าก็ได้ประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน ก่อนที่ประตูสวรรค์จะหายไป หากเจ้าประสบเรื่องเป็นตาย สามารถให้ข้าช่วยเจ้าได้
หญิงลึกลับพูด จำไว้ว่าต้องเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเท่านั้น เจ้ามีมรรคาที่ตนจะแสวงแล้ว และหยั่งถึงแก่นอัศจรรย์ที่สิ่งภายนอกไม่อาจก่อกวนใจ ย่อมสามารถทำทุกอย่างได้ตามปรารถนา แต่อย่าให้มากเกินไป พูดง่ายๆ ก็คือ เจ้าสามารถมองข้าเป็นผู้พิทักษ์ของเจ้าได้
หลินสวินพยักหน้า เก็บปิ่นหยกนั้นอย่างระมัดระวัง
สิ่งภายนอก หรือพูดอีกอย่างว่าพลังภายนอก เป็นส่วนหนึ่งของพลังต่อสู้เช่นกัน อย่างเช่นสมบัติ พลังของสำนักอาจารย์ พลังของสหาย…
หากยึดติดเพียงพลังแห่งตนในการแก้ไขปัญหาทุกอย่าง แต่ดูถูกและต่อต้านพลังภายนอก กลับจะทำให้เกินกำลังกลายเป็นผู้เสียเปรียบ
เป็นเช่นที่หญิงลึกลับพูด ทำตามใจปรารถนา แต่อย่าให้มากเกินไปก็พอ!
ต่อจากนี้ข้าจะส่งเจ้าจากไป เจ้ามีอะไรจะถามอีกหรือไม่
หญิงลึกลับพูด
หลินสวินกวาดมองสุสานแต่ละหลักแล้วกล่าวว่า ผู้อาวุโส ก่อนหน้านี้ท่านเคยพูดว่าไม่เคยได้ยินชื่อของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ในดินแดนรกร้างโบราณ และไม่รู้จักเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยพ่ายแพ้ในมือเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์เหล่านั้น
เขาหยุดไปครู่ ก่อนเอ่ยต่อว่า จากที่ข้าคาดเดา เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์และบุคคลที่สุสานเหล่านั้นเป็นตัวแทน น่าจะมาจากอีกฟากฝั่งฟ้าดาราทั้งหมด
หญิงลึกลับอึ้งไป ในดวงตาเผยความแปลกประหลาด อีกฟากฝั่งฟ้าดาราหรือ
ก็เห็นหลินสวินพูดต่อเองว่า ยังมีสุสานเปล่านั่น เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์คงจะเก็บไว้ให้ตัวเอง ข้าเคยเห็นกับตาว่าเขาแบกโลงศพสำริดโลงหนึ่ง ก้าวเท้าเดินห่างออกไป เพียงแต่สุดท้ายเขาเป็นหรือตายกลับไม่มีใครรู้
เจ้าสงสัยว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือ หญิงลึกลับพูดอย่างแปลกใจ
นัยน์ตาดำของหลินสวินลึกล้ำ ก็ไม่แน่
จากนั้นหลินสวินจึงบอกลา เตรียมจะจากไป
หญิงลึกลับไม่ได้รั้งเขา สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง พลังที่ไร้รูปห่อหุ้มหลินสวินและพาเขาออกจากที่แห่งนี้
จำไว้ว่า ข้าชื่อ… ซี
นี่คือเสียงที่ได้ยินจากหญิงลึกลับก่อนที่หลินสวินจะไปจากห้องโถงมรรคาสวรรค์
ซี
หลินสวินนึกถึงปิ่นหยกที่ได้รับมา บนนั้นสลักอักษร ‘ซี’ ที่งดงามตัวหนึ่ง
ที่แท้ นี่ก็คือชื่อของนาง
……
ทะเลหมากดารา บนเกาะเล็ก
ในบ้านไม้หลังหนึ่งหลินสวินค่อยๆ ลืมตาขึ้น รอบๆ มืดสลัว สามารถได้ยินเสียงคลื่นกระทบโขดหินดังมาเป็นระลอกอยู่รางๆ
นึกถึงสิ่งที่ประสบในห้องโถงมรรคาสวรรค์ก่อนหน้านี้ เสมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง!
ครู่ใหญ่หลินสวินจึงสงบจิตใจ จิตรับรู้แผ่ออกไป
บนเกาะเจ้าคางคกกับอาหลู่กำลังดวลเหล้า ดื่มจนหน้าแดงไปนานแล้ว เมาจนไม่รู้สึกตัว ทว่าทั้งสองต่างเบิกตาโพลง ท่าทางเหมือนจะยืนหยัดให้ถึงที่สุด ใครก็ไม่ยอมแพ้
เสี่ยวอิ๋นกับเสี่ยวเทียนกำลังชมการดวลอยู่ข้างๆ เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคน
ห่างออกไปเจ้านกดำแบกหม้อดำขนาดใหญ่ กำลังก้าวเดิน ลูกตากลอกไปมา เสมองพวกเจ้าคางคกอยู่เป็นระยะๆ ท่าทางลับๆ ล่อๆ
เห็นแต่ละภาพนี้หลินสวินก็ยิ้มเผยรอยยิ้ม ไม่มีความคิดจะออกด่านตอนนี้
เพิ่งได้รับมรดกวิชาจากเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์มา หลินสวินใจร้อนอยากลองดู ว่าคัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุดที่มีดับดารากลืนกินเป็นแกนหลักเล่มนี้ มีความลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่!