Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1694 เขากระบี่ต้าหลัว

“พี่หลิน ถ้าจะเข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุนก็ต้องข้ามแม่น้ำเซียนเหินสายนี้ กระโดดข้ามมันไปเหมือนมัจฉากระโดดข้ามประตูมังกร หากไม่มีพลังระดับมหาอริยะจะถูกสายน้ำนั่นไล่ซัดออกมา”

อาหูเก็บยานขนส่งอวกาศลงไป

หว่างคิ้วนางฉายแววระวังตัวและจริงจัง “อีกประมาณสองวัน ทางเข้าของแหล่งสถานคุนหลุนก็จะเปิดออก ในช่วงนี้จะมีผู้แข็งแกร่งของทางเดินโบราณฟ้าดารามากมายมาที่นี่ ถึงตอนนั้นพวกเราต้องเก็บงำตนเองหน่อย”

ขณะกล่าวกลิ่นอายทั่วร่างของนางก็เปลี่ยนไปทันที รูปร่างท่าทางที่เดิมงดงามดั่งเซียนเปลี่ยนเป็นดูน่ามองเท่านั้น แม้แต่บุคลิกทั้งตัวก็เปลี่ยนเป็นสุภาพอ่อนโยนเรียบง่าย

ด้วยสายตาของหลินสวินยังยากจะมอง ‘การพรางตัว’ เช่นนี้ออก

“เท่านี้ก็ไม่ดึงดูดสายตาแล้ว”

อาหูกะพริบตาแวววาว

หลินสวินชี้ไปที่ดวงตาของอาหู “จุดบกพร่องอยู่ในดวงตาคู่นี้ ต่อให้บุคลิกและรูปโฉมธรรมดาแค่ไหน เมื่อรวมกับดวงตาที่เปี่ยมไอวิญญาณเช่นนี้แล้วก็ดูสะดุดตาเป็นอย่างยิ่ง”

อาหูร้องเฮ้อคราหนึ่ง แววตาที่เปล่งประกายเก็บงำลง นิ่งสงบดุจน้ำนิ่ง “แบบนี้เป็นอย่างไร”

หลินสวินยังคงส่ายหัว “น้ำเสียงก็ต้องเปลี่ยน”

อาหูไม่เพียงแต่ไม่โกรธ กลับยังกล่าวอย่างเบิกบาน “พี่หลิน ความหมายของเจ้าคือ ต่อให้ข้าเปลี่ยนเป็นธรรมดาแค่ไหน แต่หากน้ำเสียงไม่เปลี่ยนก็จะดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมายรึ”

หลินสวินกล่าวเปิดเผย “แน่นอน คนโบราณไม่ได้บอกหรือ อะไรเรียกว่าหญิงงาม น้ำเสียง การพูดจา จิตใจ มารยาท รูปลักษณ์ ล้วนต้องโดดเด่นเหนือธรรมดา”

“ได้ แล้วแต่เจ้า”

อาหูหัวเราะคิกคักขึ้นมา ดวงตาโค้งเป็นจันทร์เสี้ยว เหมือนจิ้งจอกน้อยที่เบิกบานใจตัวหนึ่ง

ขณะกล่าวน้ำเสียงได้เปลี่ยนไปแล้ว ท่วงทำนองที่ไพเราะดุจเสียงจากธรรมชาติด้อยลงไปหนึ่งส่วน แต่ยังคงนุ่มนวลน่าฟัง

หลินสวินกลับไม่เลือกที่จะแปลงกาย

อาหูทำเช่นนี้ ด้วยนางเป็นยอดพธูที่งามดั่งบุปผาโชยกลิ่นหอม งดงามแต่กำเนิด ทุกการแสดงออกล้วนมีเสน่ห์เย้ายวนใต้หล้า

ทันทีที่ปรากฏตัว ต้องกลายเป็นศูนย์รวมที่ใครๆ ต่างจับจ้องแน่นอน หากไม่อยากดึงดูดสายตา แน่นอนว่าต้องแปลงโฉมกันหน่อย

ทั้งสองคนปรึกษาหารือกันเล็กน้อยก็ท่องทะยานไปข้างหน้าต่อ

ครืนๆ!

แม่น้ำเซียนเหินไหลลงมาจากฟากฟ้า ราวน้ำตกหลั่งรินจากเก้าฟ้า เสียงดั่งฟ้าคำรามดังกระหึ่ม ฟองคลื่นขาวดุจหิมะนับหมื่นพันม้วนกระเซ็น

เมื่อเข้าใกล้ หลินสวินและอาหูถึงพบว่ามีคนมาถึงอยู่ก่อนแล้ว กำลังรออยู่ที่ริมแม่น้ำเซียนเหินนั่น

พื้นที่ใกล้ริมแม่น้ำกว้างใหญ่ เงาร่างของคนกลุ่มเล็กๆ กระจายกันยืนอยู่ต่างบริเวณ เงาคนระริกไหว มีมากนับร้อยคน

เงาร่างพวกนี้มีทั้งชายและหญิง ไม่มีใครไม่แผ่กลิ่นอายอริยเทพที่น่าตระหนกออกมา!

บ้างขี่ปักษาเซียน สวมกระโปรงขนนก ท่วงท่าสง่างามยิ่งนัก

บ้างนั่งขัดสมาธิบนกลุ่มเมฆ ถูกห้อมล้อมเหมือนดาวล้อมเดือน ท่าทางดูเรื่อยเฉื่อยสบายใจ

บ้างยืนพาดกระบี่ หรี่ตาเล็กน้อย ไอสังหารแผ่ซ่านไปทั้งตัว

บ้าง…

ไม่ว่าชายหญิงล้วนเหมือนเทพไท้บนสวรรค์ กลิ่นอายไม่ธรรมดาเกินไปแล้ว ราวกับดวงดาวที่ส่องประกายกลุ่มหนึ่ง ฉายแววเจิดจรัสอัศจรรย์ ณ ที่นั้นดั่งประชันความงาม

หลินสวินยังอดเครียดขมึงไม่ได้

ผู้คนนับร้อยในที่นั้น ครึ่งหนึ่งล้วนเป็นระดับมหาอริยะ!

มหาอริยะ ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต อยู่เหนือระดับอริยะแท้ หากอยู่ในดินแดนรกร้างโบราณ เมื่อมหาอริยะคนหนึ่งก้าวไปที่ไหน ต้องได้รับการเคารพจากผู้คน มองเขาเป็นเทพไท้ที่สูงส่งเหนือผู้อื่น

ตัวตนเช่นนี้ แน่นอนว่าไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง

แต่ตอนนี้ระดับมหาอริยะที่ปกติยากจะได้พบเห็นราวร้อยกว่าคนกลับรวมตัวอยู่ริมแม่น้ำเซียนเหินสายนี้ ภาพนั้นย่อมเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่เกรียงไกรเป็นธรรมดา

แม้แต่อีกครึ่งก็ยังเป็นบุคคลที่อายุน้อยแต่ก้าวสู่ระดับอริยะแล้ว ฝ่ายชายบุคลิกลักษณะห้าวหาญ ฝ่ายหญิงงดงามสะโอดสะอง เจิดจรัสเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน

เปรียบเทียบกับสัตว์ประหลาดเฒ่าที่อายุมากแต่ยังติดอยู่ในระดับอริยะแท้ที่ดินแดนรกร้างโบราณพวกนั้นแล้ว ต่างกันราวฟ้ากับเหว

หลินสวินถึงขั้นสังเกตเห็นด้วยว่า ภายในนั้นไม่ขาดพวกที่มีกลิ่นอายทรงพลังแข็งแกร่งหาใดเปรียบบางส่วน เห็นได้ชัดว่าล้วนเป็นบุคคลร้ายกาจที่ยืนตระหง่านอยู่บนยอดมกุฎ!

‘ทางเดินโบราณฟ้าดาราไม่ธรรมดาจริงๆ’

หลินสวินลอบทอดถอนใจ

แต่เขาก็รู้ว่าคนที่สามารถมาถึงริมแม่น้ำเซียนเหินนี้ได้ ต้องเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่งในทางเดินโบราณฟ้าดาราแน่นอน

ในใต้หล้านี้อาจไม่เคยขาดระดับอริยะ แต่ส่วนมากก็ยังเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ใต้ระดับอริยะ รวมถึงบนทางเดินโบราณฟ้าดาราก็แน่นอนว่าต้องเป็นเช่นนี้

นี่ก็เหมือนกาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์

บนโลกนี้ไม่ใช่ว่าใครต่างมีสิทธิ์เข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุนได้

ก็เหมือนในดินแดนรกร้างโบราณที่กว้างใหญ่ คนที่มีสิทธิ์ปรากฏตัวอยู่ที่นี่ พูดถึงตอนนี้ก็มีแค่เขา อาหู รวมถึงพวกเจ้าคางคกที่อยู่ในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดเท่านั้น

“ไป พวกเราไปกันเถอะ”

อาหูสีหน้าราบเรียบ พาหลินสวินเข้าไปใกล้แม่น้ำเซียนเหินพร้อมกัน

การปรากฏตัวของพวกเขาก็ดึงดูดความสนใจจากสายตาไม่น้อย แต่ไม่นานก็ถอนสายตากลับ ต่างคนต่างพูดคุยกันเอง

ทุกคนในที่นั้นมาจากสถานที่ต่างๆ บนทางเดินโบราณฟ้าดารา ขุมอำนาจต่างกันไป คนที่รู้จักกันก็มีแค่ส่วนน้อย สำหรับการปรากฏตัวของหนุ่มสาวแปลกหน้าสองคนอย่างหลินสวินและอาหู ก็ไม่รู้สึกว่าเกินคาดหมาย

ช่วยไม่ได้ ทางเดินโบราณฟ้าดารากว้างใหญ่ไพศาลเกินไป หากไม่แนะนำตัว คิดจะรู้ความเป็นมาและฐานะของคนผู้หนึ่งก็ยากเกินไปแล้ว

แน่นอนว่าบุคคลแห่งยุคที่ชื่อเสียงสะเทือนทางเดินโบราณฟ้าดารา ถูกทุกคนในใต้หล้ารู้จักมักคุ้นพวกนั้นเป็นข้อยกเว้น

ในดินแดนรกร้างโบราณหลินสวินมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นที่จับตามองในใต้หล้า แต่ริมแม่น้ำเซียนเหินนี้ ก็เป็นแค่คนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้น

แต่นี่กลับทำให้หลินสวินพอใจยิ่งนัก เมื่อไม่ถูกคนจับตามอง จึงไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดเรื่องผิดคาดและไม่คาดฝันขึ้น

ปิดปากเงียบเก็บผลประโยชน์จึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด!

“พวกเรารอที่นี่เถอะ”

ทั้งสองคนหาจุดยืนที่ผู้คนบางตาได้แห่งหนึ่ง

‘หลังจากนี้สามวัน บนแม่น้ำเซียนเหินนี้จะมีประตูบานหนึ่งปรากฏออกมา เมื่อเข้าไปในนั้นก็จะไปถึงพื้นที่รอบนอกของแหล่งสถานคุนหลุน’

อาหูชี้ไปบนท้องฟ้าเหนือแม่น้ำเซียนเหินที่ทิ้งตัวลงมาจากฟากฟ้า สื่อจิตกล่าว ‘ในช่วงเวลาที่ผ่านมา รูปแบบและวาสนาในพื้นที่รอบนอกของแหล่งสถานคุนหลุนถูกสำรวจจนรู้แน่ชัดนานแล้ว’

‘ตัวอย่างเช่น หลังจากเข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุนจะไปโผล่ในอาณาเขตที่มีชื่อว่า ‘แดนหลอมสมบัติ’ กว้างใหญ่ไพศาลเป็นอย่างยิ่ง ราวกับโลกใบเล็กแห่งหนึ่ง’

‘ในแดนหลอมสมบัติมี ‘ไอมรรคหลอมสมบัติ’ ที่หาไม่ได้ในโลกภายนอก ขอแค่ใช้มันหลอมสมบัติ ก็จะซ่อมแซมและยกระดับคุณภาพของสมบัติได้ มหัศจรรย์หาใดเปรียบ’

‘ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผู้ฝึกปราณที่เข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุนเคยเกิดการปะทะนองเลือดที่ดุเดือดหาใดเปรียบไม่น้อยเพื่อแย่งชิงไอมรรคหลอมสมบัติ’

‘แม้ว่าแดนหลอมสมบัติจะมีวาสนา แต่ก็เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย ภายในนั้นจะปกคลุมด้วยเปลวไฟประหลาดมากมายนับไม่ถ้วน สิ่งที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวที่สุดก็คือ ‘เพลิงวายุดับวิญญาณ’ แค่กวาดผ่านแผ่วเบาก็ทำให้มกุฎมหาอริยะคนหนึ่งวิญญาณแตกซ่านได้’

‘แน่นอนว่าแดนหลอมสมบัติเป็นแค่พื้นที่รอบนอกสุดของแหล่งสถานคุนหลุนเท่านั้น เปรียบเทียบกันแล้ว ที่นั่นยังไม่ถึงขั้นอันตรายมากเท่าไร’

เห็นได้ชัดว่าอาหูทำการบ้านมาดี เตรียมการมาก่อน ทำให้หลินสวินผิดคาดไม่หยุดอย่างอดไม่ได้

ขณะที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน ในที่นั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทันใด…

“ทุกท่าน ขอล่วงเกินถามสักประโยค ทุกท่านเคยเจอพวกเก้าดินแดนถือป้ายคำสั่งเซียนเหินมาที่นี่หรือไม่”

น้ำเสียงมีจังหวะจะโคนดังกระหึ่มอยู่ในที่นั้น

หลินสวินและอาหูผงะในใจพร้อมกันวูบหนึ่ง เงยหน้ามองออกไป

ก็เห็นว่าคนที่พูดเป็นชายหนุ่มชุดดำคนหนึ่ง นั่งอยู่บนหัวมังกรเพลิงแดงตัวหนึ่ง สองแขนกอดอก นัยน์ตาเฉียบคมน่าหวาดกลัวเหมือนดาบกระบี่

ตรงหน้าเข่ามีดาบศึกเขียวมรกตยาวสามฉื่อเล่มหนึ่งวางพาดอยู่ ปลายดาบมีแสงมรรคหลายสายไหลวน แผ่กลิ่นอายดุดันน่ากลัวออกมา

“เผ่านักรบตะวันแดง หลูเป่ยกู้!”

มีคนรู้ฐานะของชายหนุ่มชุดดำคนนั้น นัยน์ตาพลันหดรัด

ในที่นั้นก็พลันแตกตื่น

เผ่านักรบตะวันแดงก็คือหนึ่งในสิบเผ่านักรบใหญ่แห่งฟ้าดารา รากฐานเก่าแก่หาใดเปรียบ ถูกมองเป็น ‘ทายาทเทพอัคคี’

และหลูเป่ยกู้คนนี้ก็เป็นผู้มีหน้ามีตาในหมู่คนรุ่นเยาว์ของเผ่านักรบตะวันแดง อัจฉริยบุคคลแต่กำเนิดคนหนึ่ง มียอดพรสวรรค์ขั้นลึกลับ ‘สุริยเทพเพลิงร่าย’ ชื่อเสียงระบือลั่น

เขาฝึกปราณไม่เกินสามร้อยปี ปัจจุบันเป็นมกุฎมหาอริยะที่สมชื่อ ครอบครองพลังแข็งกร้าวดุดันที่ทะลวงกระดานมหาอริยะฟ้าดาราได้แล้ว

แน่นอนว่าบุคคลร้ายกาจในที่นั้นมีไม่น้อย ยิ่งไม่ขาดแคลนพวกร้ายกาจที่ไม่หวาดกลัวหลูเป่ยกู้ ยามได้ยินคำพูดของหลูเป่ยกู้ พวกเขาก็ต่างเผยความรู้สึกสนใจ

ป้ายคำสั่งเซียนเหิน!

เล่าลือว่าผู้ที่ถือป้ายคำสั่งนี้ หลังจากเข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุนจะสามารถเข้าไปในแดนต้องห้ามบางแห่งที่คนทั่วไปไม่กล้าล่วงล้ำ เพื่อไปเสาะหาวาสนาใหญ่ได้!

“สำนักของพวกเราติดต่อกับดินแดนโบราณต้าหลัว ได้ยินว่าผู้ที่ได้ชัยชนะสุดท้ายของสมรภูมิเก้าดินแดนนั่น เป็นคนของดินแดนรกร้างโบราณที่มีชื่อว่าหลินสวิน ก็ไม่รู้ว่าเจ้าหมอนี่มาแล้วหรือยัง”

มีคนเอ่ยปาก

นี่คือชายคนหนึ่งที่ผิวเหลือบแสงทองอ่อน หน้าผากเกลี้ยงเกลา ที่หลังพาดกระบี่โบราณเล่มหนึ่ง ในดวงตามีคมกระบี่ตวัดสลับไขว้กัน

ผู้สืบทอดเขากระบี่ต้าหลัว เว่ยจื่อหยา!

เมื่อเห็นเว่ยจื่อหยา ผู้คนไม่น้อยในที่นั้นต่างหน้าเปลี่ยนสี

เขากระบี่ต้าหลัวเป็นหนึ่งใน ‘เก้าสำนักกระบี่ใหญ่’ บนทางเดินโบราณฟ้าดารา ศิษย์สืบทอดแท้จริงสามพันคนในสำนักล้วนเป็นอัจฉริยะกระบี่ชั้นยอด

ทั่วทางเดินโบราณฟ้าดารา เขากระบี่ต้าหลัวยังเรียกได้ว่าเป็นยอดขุมอำนาจใหญ่ มีอิทธิพลใหญ่ยิ่ง ถูกมองเป็นหนึ่งใน ‘แดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้ฝึกกระบี่’

และเว่ยจื่อหยาก็คือศิษย์สืบทอดแท้จริงอันดับหนึ่งของเขากระบี่ต้าหลัว ผู้ฝึกกระบี่ระดับมกุฎมหาอริยะคนหนึ่ง จัดอยู่ในอันดับที่สองร้อยเจ็ดสิบเก้าของ ‘กระดานมหาอริยะฟ้าดารา’

อันดับดูเหมือนไม่เท่าไหร่

แต่ต้องรู้ว่าบน ‘กระดานมหาอริยะฟ้าดารา’ ที่บันทึกและรวบรวมโดย ‘เรือนมรรคโลกาสวรรค์’ หนึ่งในหกเรือนมรรคใหญ่นี้ มีอันดับแค่ห้าร้อยตำแหน่งเท่านั้น!

ทางเดินโบราณฟ้าดารากว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด มกุฎมหาอริยะอาจพบเห็นได้น้อยนัก แต่จำนวนก็เรียกได้ว่ามหาศาลแน่นอน

แต่กลับมีมกุฎมหาอริยะที่แข็งแกร่งที่สุดแค่ห้าร้อยคนเท่านั้นที่อยู่ในกระดานนี้ได้

พูดอย่างไม่เกินจริง เว่ยจื่อหยาก้าวขึ้นไปอยู่ในอันดับที่สองร้อยเจ็ดสิบเก้าของกระดานมหาอริยะฟ้าดาราได้ ก็เป็นบุคคลแห่งยุคที่พอจะเกริกก้องสะท้านฟ้าดาราแล้ว!

หลินสวิน!

ยามนี้ด้วยประโยคเดียวของเว่ยจื่อหยา ทำให้คนไม่น้อยในที่นั้นต่างจำชื่อนี้ขึ้นมา

มีเพียงหลินสวินที่หรี่นัยน์ตาดำลงเล็กน้อย สื่อจิตกล่าว ‘ผู้ฝึกกระบี่ที่ชื่อเว่ยจื่อหยาคนนี้ ดูเหมือนจะมีเจตนาเป็นศัตรูกับข้า’

อาหูสื่อจิตตอบ ‘ข้ารู้มาว่าบรรพจารย์ที่เปิดสำนักเขากระบี่ต้าหลัวก็คือจักรพรรดิกระบี่ชิงอวี่ แรกเริ่มเดิมทีจักรพรรดิกระบี่ชิงอวี่แจ้งมรรคที่ดินแดนโบราณต้าหลัว ในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนครั้งแรก เคยได้รับฉายาว่า ‘อันดับหนึ่งของสมรภูมิเก้าดินแดน’’

‘แต่ในสมรภูมิเก้าดินแดนครั้งนี้ ค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัวแพ้ย่อยยับในมือเจ้า ในฐานะที่เว่ยจื่อหยาเป็นผู้สืบทอดของเขากระบี่ต้าหลัว จะไม่รู้จักเจ้าคงยากนัก’

หลินสวินได้ยินดังนี้ก็นึกถึงเจี้ยนชิงเฉินขึ้นมา!

คนผู้นี้เป็นบุคคลระดับผู้นำคนรุ่นเยาว์แห่งค่ายทัพดินแดนโบราณต้าหลัว แต่กลับสิ้นชีพในมือตนในสมรภูมิเก้าดินแดน

หลินสวินยังจำได้ชัดเจน ไพ่ตายของเจี้ยนชิงเฉินก็คือ ‘กระบี่จักรพรรดิอักษรบัญชา’ ลือกันว่าเป็นกระบี่ไม้เล่มหนึ่งที่จักรพรรดิกระบี่ชิงอวี่พกติดตัวยามแจ้งมรรค!

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset