Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1705 ลายสมบัติบริสุทธิ์

แดนหลอมสมบัติ

ระหว่างทางที่ทะยานไป ไอมรรคหลอมสมบัติที่แปลงเป็นรูปปักษาเพลิงแปรสภาพเป็นละอองแสง หลอมรวมเข้าไปในดาบหักที่ขาวเปล่งปลั่งดุจหิมะ

วิ้ง!

เสียงวิ้งอัศจรรย์ที่ดาบหักแผ่ออกมาราวกับเสียงร้องกังวานอันตื่นเต้นดีใจ

ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตา ท่ามกลางสายตาจับจ้องของหลินสวิน คุณลักษณะของดาบหักก็เพิ่มขึ้นอีกช่วงใหญ่!

ละอองแสงดั่งมายาดุจภาพฝันเป็นสายๆ หลั่งรินอยู่กลางคมดาบ กลิ่นอายที่แผ่ออกมากลับดุร้ายท่วมฟ้า!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไอมรรคหลอมสมบัตินี้ไม่ธรรมดายิ่ง ผลลัพธ์ในการเพิ่มพูนคุณลักษณะของดาบหักน่าตกตะลึงนัก

 หืม? 

หลินสวินสังเกตได้ว่าพื้นผิวของดาบหักถึงกับมีลายมรรคสีทองลายหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง ราวกับมังกรใหญ่สีเหลืองทองจำศีลอยู่ภายในนั้น อบอวลไปด้วยกลิ่นอายกฎเกณฑ์น่ากลัวปะทะเข้ามา

 ลายสมบัติบริสุทธิ์! 

อาหูตกตะลึง หน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด  ตามคำร่ำลือ มีเพียงกำราบสิ่งของฟ้าประทานหลอมเป็นศาสตราอริยะบริสุทธิ์เท่านั้น ถึงมีโอกาสบ่มเพาะ ‘ลายสมบัติบริสุทธิ์’ ได้ นี่หมายความว่าสมบัตินี้มีศักยภาพแฝงที่จะให้กำเนิดวิญญาณอาวุธได้แล้ว! 

 อย่างนี้นี่เอง 

หลินสวินสีหน้าเข้าใจฉับพลัน

เขาก็เคยได้ยินเรื่องลายสมบัติบริสุทธิ์มาก่อน

สมบัติอริยะบนโลกแบ่งคร่าวๆ เป็นสองประเภทใหญ่ ประเภทหนึ่งคือสมบัติอริยะธรรมดา อีกประเภทหนึ่งคือศาสตราอริยะบริสุทธิ์

สมบัติอริยะธรรมดาพบเห็นได้ทั่วไป ผู้มีระดับอริยะแท้ทั่วไปต่างครอบครองสมบัติอริยะชั้นนี้ไม่มากก็น้อย อานุภาพจะมากหรือน้อยเกี่ยวข้องกับคุณลักษณะของตัวสมบัติอริยะเอง

ความยอดเยี่ยมในอานุภาพของสมบัติอริยะพิเศษบางชิ้นก็แข็งแกร่งเกินจินตนาการ

เช่นกระบี่อเวจีกับกระบี่ยอดสังหารที่อยู่ในมือหลินสวินก็ถือเป็นสมบัติอริยะฟ้าประทาน มีอานุภาพน่าเหลือเชื่อ

แต่ศาสตราอริยะบริสุทธิ์พิถีพิถันนัก ไม่เพียงหายาก ตอนหลอมยังยุ่งยากหาใดเทียบ จำเป็นต้องมีวาสนาและจุดเปลี่ยน

ปกติแล้วอานุภาพของศาสตราอริยะบริสุทธิ์แข็งแกร่งยิ่งกว่าสมบัติอริยะทั่วไปในระดับเดียวกันมาก อีกทั้งยังสอดรับกับการปลดปล่อยศักยภาพแฝงทั้งหมดของตัวผู้ฝึกปราณออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ

จุดนี้เป็นสิ่งที่สมบัติอริยะชิ้นอื่นไม่อาจเทียบเคียงได้อย่างยิ่ง

ที่สำคัญที่สุดก็คือขอเพียงหลอมและฟูมฟักไม่หยุด อานุภาพกับคุณลักษณะของศาสตราอริยะบริสุทธิ์จะเพิ่มสูงขึ้นทีละน้อยไปด้วย

เมื่อควบรวมลายสมบัติบริสุทธิ์ออกมาได้ อานุภาพของมันก็จะแปรสภาพถึงแก่น อานุภาพเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าดินไปด้วย!

เมื่อควบรวมลายสมบัติบริสุทธิ์ได้ลายหนึ่ง ยามใช้ศาสตราอริยะบริสุทธิ์ในการต่อสู้ ก็จะทำให้พลังต่อสู้ของผู้ฝึกปราณเพิ่มสูงขึ้นราวหนึ่งในร้อยส่วน

อย่ามองว่าเพียงแค่หนึ่งในร้อยส่วน อย่างไรพลังต่อสู้ของผู้ฝึกปราณเดิมทีก็มีขีดจำกัด ต่อให้เพิ่มสูงขึ้นมาเพียงนิดเดียวยังเป็นไปได้สูงยิ่งที่จะพลิกสถานการณ์ชี้เป็นชี้ตายได้!

เมื่อควบรวมลายสมบัติบริสุทธิ์ได้สิบลาย พลังต่อสู้ของศาสตราอริยะบริสุทธิ์ก็จะแปรสภาพอีกครั้ง สามารถทำให้พลังต่อสู้ของผู้ฝึกปราณเพิ่มสูงขึ้นหนึ่งในสิบส่วน

เมื่อควบรวมลายสมบัติบริสุทธิ์ได้หนึ่งร้อยลาย พลังต่อสู้ของศาสตราอริยะบริสุทธิ์ก็จะแปรสภาพเป็นระดับใหม่ เริ่มก่อกำเนิด ‘ครรภ์วิญญาณอาวุธ’ สามารถทำให้พลังต่อสู้ของผู้ฝึกปราณเพิ่มสูงขึ้นหนึ่งเท่า!

ความจริงเรื่องนี้คล้ายกับการทะลวงระดับของผู้ฝึกปราณ เพียงแต่การเลื่อนระดับของศาสตราอริยะบริสุทธิ์ใช้ลายสมบัติบริสุทธิ์เป็นระดับขั้น เป้าหมายสุดท้ายคือการควบรวม ‘วิญญาณอาวุธ’!

วิญญาณอาวุธมีสติปัญญา สภาวะจิต พลังปราณ และพลังต่อสู้ แทบจะไม่ต่างกับผู้ฝึกปราณจริงๆ คนหนึ่ง

แต่วิญญาณอาวุธพบเห็นได้ยากยิ่งนัก ในบรรดาศาสตราอริยะบริสุทธิ์นับพัน ยากจะมีสักชิ้นที่ฟูมฟักวิญญาณอาวุธออกมาได้

แต่ขอเพียงมีวิญญาณอาวุธ อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมายามต่อสู้ย่อมน่ากลัวเกินจินตนาการ!

อย่างวิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสารนามว่าอู้เชวีย สมัยอยู่ที่หุบเขาตะวันคล้อย สังหารราชันอริยะได้ง่ายดายเหมือนเชือดไก่ ดุร้ายหาใดเทียบ

หรืออย่าง ‘เฟยหลัน’ ที่กลายร่างมาจากผีเสื้อราตรีสีเลือด ตามคำพูดของอู้เชวีย เดิมทีก็เป็นวิญญาณอาวุธของ ‘ระฆังมหามรรครวมศูนย์’

และเฟยหลันก็กำลังเสาะหาจุดเปลี่ยนแจ้งมรรคบรรลุจักรพรรดิ!

นี่ก็คือความน่ากลัวของวิญญาณอาวุธ

 พี่หลิน ดาบหักของเจ้าเล่มนี้ได้มาจากไหน 

อาหูอดไม่ได้เอ่ยปากถาม

ในใจหลินสวินไหววูบ ตอนทดสอบด่านที่เก้าของทางเดินเมฆาหยกในห้องโถงมรรคาสวรรค์ที่จักรวรรดิจื่อเย่า เขาเคยถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปเคี่ยวกรำในสถานที่ที่เรียกว่าแดนวิญญาณโบราณ

สมบัติในมืออย่างดาบหัก น้ำเต้าหลอมวิญญาณที่ผนึกโลหิตม่วงหนึ่งหยด หนอนกินเทพเสี่ยวอิ๋น เขาราหู ล้วนได้มาจาก ‘แดนวิญญาณโบราณ’

ด้วยประสบการณ์ที่เพิ่มพูนขึ้นในหลายปีมานี้ หลินสวินกล้าตัดสินแล้วว่าแดนวิญญาณโบราณนั้นต้องไม่อยู่ในดินแดนรกร้างโบราณ!

แต่แดนวิญญาณโบราณอยู่ที่ไหนกันแน่ แม้แต่หลินสวินเองยังไม่อาจชี้ชัดได้

เพราะห้องโถงมรรคาสวรรค์เป็นสิ่งที่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ลั่วทงเทียนเหลือทิ้งไว้ และลั่วทงเทียนก็เป็นผู้ไร้เทียมทานที่มาจากฟากฝั่งฟ้าดาราคนหนึ่ง!

ตอนนั้นลั่วทงเทียนก็เคยเข้าไปใน ‘แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์’ เพียงแต่ ‘แดนวิญญาณโบราณ’ แห่งนี้อยู่ที่ฟากฝั่งฟ้าดารา หรือเป็นสถานที่สักแห่งในโลกหล้าของทางเดินโบราณฟ้าดารา แม้แต่หลินสวินยังไม่กล้าคาดเดาสุ่มสี่สุ่มห้า

 อาหูเจ้าดูอะไรออกไหม 

หลินสวินเอ่ยถาม

 สมบัตินี้ไม่สมบูรณ์ เหลือเพียงคมดาบท่อนหนึ่ง เดิมทีปลายดาบของมันเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุด แต่กลับหายไป ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ยังมีกลิ่นอายอัศจรรย์น่าเหลือเชื่อเพียงนี้ แค่คิดก็รู้ว่าหากสมบัตินี้สมบูรณ์จะต้องไม่ธรรมดาแน่ 

ดวงตางดงามของอาหูปรากฏแววครุ่นคิด  อีกอย่าง ที่ประหลาดที่สุดคือสมบัตินี้ไม่สมบูรณ์ชัดๆ แต่ความรู้สึกที่มอบให้ข้ากลับมี ‘ความสมบูรณ์’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ลายสมบัติบริสุทธิ์’ ลายนี้ 

ในที่สุดสายตาของนางก็มองไปที่หลินสวิน แล้วสันนิษฐานออกมาว่า

 ข้าสงสัยว่าสมบัตินี้แปรสภาพเป็นวิญญาณอาวุธนานแล้ว เพียงแต่เพราะเหตุผลบางอย่าง ลายสมบัติบริสุทธิ์ของสมบัตินี้จึงถูกผนึกไว้มาตลอด มีเพียงดูดซับพลังของไอมรรคหลอมสมบัติ ถึงได้เผยให้เห็นลายสมบัติบริสุทธิ์ที่ถูกผนึกไว้เหล่านั้นทีละลาย 

หลินสวินแววตาวูบไหว จมสู่ภวังค์ความคิด

ดาบหักไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เดิมตัวมันก็ประทับด้วยรอยประทับมรดกอย่าง ‘ปฐม’ ‘ยอด’ ‘สังหาร’ อานุภาพมหาศาลหาใดเทียบ

ก่อนหน้านี้เขาคิดมาตลอดว่าดาบหักไม่สมบูรณ์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า… ตนจะเข้าใจผิดมาตลอดเสียแล้ว

‘ถ้าลายสมบัติบริสุทธิ์ถูกผนึกไว้ ส่วนที่ขาดหายไปของดาบหักจะไม่ได้สูญหายไปจริงๆ แต่อยู่ในผนึกด้วยหรือไม่’

หลินสวินคิดถึงตรงนี้ พอมองดูดาบหักอีกครั้ง สายตาก็เจือความซับซ้อนเล็กน้อย

 ผู้สืบทอดสำนักใหญ่ที่เข้ามาในแดนหลอมสมบัติพวกนั้น ก็มาเพื่อยกระดับอานุภาพของศาสตราอริยะบริสุทธิ์เช่นกัน เจ้าจะถือโอกาสนี้ลองดูก็ได้ 

อาหูเอ่ยเสนอแนะ

หลินสวินพยักหน้า

ในช่วงเวลาต่อมาทั้งสองท่องไปในแดนหลอมสมบัติ เสาะหาไอมรรคหลอมสมบัติ สถานการณ์สงบราบเรียบ ไม่มีเหตุไม่คาดฝันตลอดทาง

และในขณะเดียวกัน ข่าวที่หลินสวินสังหารผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลเยี่ยนฉุนจวินก็เริ่มกระจายไปในแดนหลอมสมบัติ

ก่อให้เกิดเสียงฮือฮาและความตื่นเต้นไม่รู้เท่าไรในทันใด

 เจ้าหมอนี่พลังต่อสู้น่ากลัวปานนี้เชียวหรือ 

 ต้องระวังแล้ว ถ้าเจอเจ้าหมอนี่หลบได้ให้หลบ เลี่ยงไม่ปะทะกับเขาอย่างเต็มที่ 

 ไหนจะผู้หญิงที่ชื่ออาหูซึ่งอยู่ข้างๆ เขาคนนั้นอีก โจมตีเบาๆ ด้วยดาบเดียวก็สังหารผู้สืบทอดเขากระบี่ต้าหลัวเว่ยจื่อหยาได้ น่ากลัวถึงนี่สุด ไม่อาจดูเบาได้ 

คำวิพากษ์วิจารณ์ทำนองนี้เริ่มดังขึ้นในหมู่ผู้แข็งแกร่งที่มาจากขุมอำนาจต่างๆ ของทางเดินโบราณฟ้าดาราเหล่านั้น

 เยี่ยนฉุนจวินกับเว่ยจื่อหยาตายหมดแล้ว แม้แต่เหวินฉิงเสวี่ยยังไม่ได้รั้งเขาไว้… 

เมื่อได้รู้ข่าวเหล่านี้ จีเฉียนผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจีก็ชะงักไปทันที ความหนาวสะท้านที่ไม่อาจข่มลงปรากฏขึ้นในใจ

 ศิษยพี่ใหญ่ นี่… เป็นความจริงหรือ 

ดวงตาวาววามทั้งสองของเจียงเหิงก็เบิกกว้าง รู้สึกตื่นตะลึงและประหลาดใจ

 ข่าวกระจายมาจากศิษย์เรือนมรรคยุทธจักร ย่อมไม่มีทางเป็นเท็จไปได้ 

จีเฉียนขมวดคิ้วแน่น  คราวนี้ยุ่งยากแล้ว ด้วยพลังต่อสู้ของข้า อย่างมากก็เทียบได้กับเยี่ยนฉุนจวินเท่านั้น ต่อให้ใช้ไพ่ตายก็เกรงว่าจะไม่ไหว ควรรู้ว่าในมือของคนอย่างเยี่ยนฉุนจวินจะไม่มีไพ่ตายน่ากลัวได้อย่างไร แต่สุดท้ายเขาก็ยังตายไป 

เขารู้สึกกลัดกลุ้มอยู่บ้าง

ตอนแรกเขาก็มองหลินสวินเป็นเหยื่อล่า ไม่เพียงเพื่อระบายแค้นแทนเจียงเหิง ยังหมายปองเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดกับป้ายคำสั่งเซียนเหินในมืออีกฝ่าย

แต่ตอนนี้…

เขากลับรู้สึกว่าต่อกรได้ยากเสียแล้ว!

ในใจเจียงเหิงกลับไม่พอใจมาก กัดฟันเข่นเขี้ยวเอ่ยว่า  น่าชังนัก เจ้าหัวขโมยที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง เหตุใดถึงแข็งแกรงปานนี้ได้! 

เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบ คิ้วกระบี่เนตรดารา หล่อเหลาสง่างาม ที่เอวเสียบบรรทัดหยกไผ่เขียวเล่มหนึ่งไว้ ราวกับนักพรตหนุ่มที่อ่านตำราปราชญ์เมธีคนหนึ่ง

 พี่เมิ่ง! 

จีเฉียนอึ้งไป จากนั้นพลันกุมมือคารวะ

ในขณะเดียวกันก็รีบร้อนสื่อจิตให้เจียงเหิง ‘ศิษย์น้อง ท่านนี้คือเมิ่งอี้ ทายาทเลือดบริสุทธิ์เผ่านักรบฉงฉี’

เนตรกระจ่างของเจียงเหิงหดเกร็ง

เผ่านักรบฉงฉี หนึ่งในสิบเผ่านักรบใหญ่ฟ้าดารา นิสัยใจคอของคนเผ่านี้ล้วนขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม กระหายเลือด ชื่นชอบการต่อสู้ ภูมิหลังเก่าแก่ทรงอำนาจเป็นที่สุด

แต่เมิ่งอี้คนนี้กลับแตกต่าง เขานิสัยใจคอรักสงบ ทรงภูมิดั่งหยกประหนึ่งนักปราชญ์

บนทางเดินโบราณฟ้าดารา น้อยคนนักที่จะเคยเห็นเมิ่งอี้ลงมือ ทั้งยังไม่มีใครรู้ว่าพลังต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ชื่อของเขาครองตำแหน่งที่หกสิบหกบนกระดานมหาอริยะฟ้าดาราไว้มั่นมาตลอด สะดุดตาหาใดเทียบ

เพราะอันดับนี้ยังเคยทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายในทางเดินโบราณฟ้าดารากังขา

สำหรับเรื่องนี้ คนใหญ่คนโตของเรือนมรรคโลกาสวรรค์คนหนึ่งตอบกลับมาประโยคเดียวว่า ‘เมิ่งอี้คนนี้เหมือนกระบี่ในหีบ ยามคมกระบี่ออกจากฝักต้องสะท้านฟ้าดาราได้แน่!’

และจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าสงสัยอีก

เพราะทุกถ้อยคำที่เรือนมรรคโลกาสวรรค์เอ่ยออกมา ล้วนเป็นตัวแทนแห่งอำนาจสูงสุด

เมื่อได้รู้ว่าคนตรงหน้าก็คือเมิ่งอี้ ‘คนผ่าเหล่าผ่ากอ’ ของเผ่านักรบฉงฉี ในใจเจียงเหิงก็ไหวกระเพื่อมไปครู่หนึ่ง นางคิดไม่ถึงว่าคนลึกลับเช่นนี้จะถึงกับมาที่แหล่งสถานคุนหลุนด้วย!

 พี่จี ไม่ได้พบกันนานเลย 

เมิ่งอี้เอ่ยปากพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นก็หันไปพยักหน้าให้เจียงเหิงเป็นการทักทาย

เขาหยุดไปครู่แล้วเอ่ยต่อว่า  ที่มาเองโดยไม่ได้เชิญ เพียงต้องการทราบเรื่องผู้ร่วมมรรคนามหลินสวินผู้นั้นจากพี่จี 

 หรือพี่เมิ่งก็ทำเพื่อป้ายคำสั่งเซียนเหินในมือเจ้าหมอนี่เหมือนกัน 

จีเฉียนเอ่ยอย่างประหลาดใจ

เมิ่งอี้พยักหน้าพูดว่า  ข้ามาแหล่งสถานคุนหลุนคราวนี้ ต้องการไปสถานที่ผนึกแห่งหนึ่ง เพียงแต่ที่นั่นอันตรายเกินไป ต้องมีป้ายคำสั่งเซียนเหินถึงจะเปลี่ยนร้ายกลายเป็นดีได้ 

 ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ 

จีเฉียนพยักหน้า เขาลังเลเล็กน้อยแล้วพูดว่า  พวกเราก็หมายตาเจ้าหมอนี่พอดี พี่เมิ่งมาเคลื่อนไหวกับพวกเราดีไหม 

เมิ่งอี้เอ่ยอย่างพอใจว่า  ถ้าเป็นเช่นนี้ได้จะดียิ่งนัก 

อีกด้านหนึ่งเจียงเหิงเห็นภาพเช่นนี้เข้ายังรู้สึกเหมือนฝันไป

ชายหนุ่มที่สง่างามทรงภูมินุ่มนวลเช่นนี้ เป็นลูกหลานเผ่านักรบฉงฉีที่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมกระหายเลือด และชอบการต่อสู้จริงหรือ

ผ่าเหล่าผ่ากอเกินไปแล้ว

——

 

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset