Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1711 ภูเขากลับหัว

โครม!

ถังซูไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดเช่นไร ทันทีที่เข้าร่วมการต่อสู้ก็ป่าเถื่อนหาใดเทียบ จับดาบเข่นฆ่า อิสระคล่องตัว บีบให้กู่ฉางซินกับฮว่าซิงหลีถอนตัวได้ยากในทันใด

ทั้งสองก็หงุดหงิดอย่างอดไม่ได้แล้ว

“กลัวยายบ้าอย่างเจ้างั้นหรือ”

“ฆ่า”

การชิงชัยอันไร้ใดเทียบครั้งหนึ่งปะทุขึ้น เพราะการมาถึงของถังซูทำให้ทุกอย่างปั่นป่วนเช่นนี้

ไกลออกไปหลินสวินที่ยังไม่จากไปจริงๆ ยังไม่รู้จะขำหรือร้องไห้ดี ผู้หญิงคนนี้… บ้าระห่ำจริงๆ สิน่า!

“ตอนนี้ความเคลื่อนไหวของที่นี่ใหญ่โตเกินไป ต่อไปเกรงว่าจะมีผู้แข็งแกร่งรุดหน้ามามากยิ่งขึ้น ยังอยากจะอยู่ต่อไหม”

อาหูที่อยู่ข้างกันเอ่ยถาม

“ไปกันเถอะ”

หลินสวินครุ่นคิดเล็กน้อยก็ตัดสินใจ

ที่ก่อนหน้านี้ชิงอาหารจากปากเสือได้ก็เพราะจู่โจมตอนพวกเขาไม่ทันตั้งตัว มีโอกาสให้ฉกฉวยได้ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว ในที่นั้นไม่ได้มีแต่กู่ฉางซิน ยังมีฮวาซิงหลีกับถังซูด้วย

ถ้าตอนนี้ไปช่วงชิงวาสนาอีกย่อมไม่ฉลาดอย่างไม่ต้องสงสัย

ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ทั้งสองไม่ลังเล หันกายจากไป

ส่วนการเข่นฆ่าและต่อสู้ที่อยู่ใกล้กับโกรกธารหมอกดำนั้น ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรืออาหูต่างก็คร้านจะใส่ใจ

ระหว่างทางหลินสวินหลอมไอมรรคหลอมสมบัติที่ชิงมาได้เข้าไปในดาบหัก ควบรวมลายสมบัติบริสุทธิ์ลายหนึ่งออกมาอีกครั้ง

หรือพูดได้ว่าบนดาบหักในตอนนี้มีลายสมบัติบริสุทธิ์แล้วแปดลาย เหลืออีกสองสายก็จะแปรสภาพได้อีกครั้ง!

“อีกไม่ถึงเจ็ดวันก็ต้องออกจากแดนหลอมสมบัติแห่งนี้ไปที่ส่วนลึกของแหล่งสถานคุนหลุนแล้ว ถึงตอนนั้นอันตรายที่แท้จริงก็คงมาเยือนแล้ว…”

อาหูเอ่ยปาก “ตั้งแต่โบราณนานมาจนปัจจุบัน ยังไม่เคยมีคนที่สามารถเสาะหาความลับทั้งหมดของแหล่งสถานคุนหลุนได้ รู้แต่ว่ายิ่งเข้าไปลึกก็ยิ่งน่ากลัวและอัศจรรย์ เต็มไปด้วยพลังผนึกมากมาย”

“ข้ามาคราวนี้ก็เพราะได้ยินว่าในแหล่งสถานคุนหลุนมีต้นท้อแบนต้นหนึ่งขึ้นอยู่ ผลที่อยู่บนต้นของมันถูกขนานนามว่าเป็นผลอัศจรรย์มหามรรคหาได้ยากในโลก ได้กินผลเดียวก็เท่ากับการฝึกปราณอย่างยากลำบากเป็นร้อยปี มหัศจรรย์ถึงที่สุด”

หลินสวินประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ “บนโลกนี้ถึงกับมีต้นท้อแบนที่อัศจรรย์เช่นนั้นอยู่จริงหรือ”

อาหูกล่าว “ย่อมมีจริง เพราะในอดีตเคยมีคนได้มาผลหนึ่งโดยบังเอิญ ลือกันว่าต้นท้อแบนต้นนี้ขึ้นใน ‘ดินอัศจรรย์ห้าสี’ ดูดซับพลังมหามรรคทั่วหล้าเป็นอาหาร ถูกมองว่าเป็น ‘ต้นสมบัติมหามรรค’ ที่แท้จริง”

ดินอัศจรรย์ห้าสี!

หลินสวินใจไหวหวั่น

เขานึกถึงสิ่งที่ธนูวิญญาณไร้แก่นสารอู้เชวียกล่าวไว้ บนโลกนี้มีสี่ไม้เทพคือคุนอู๋ ฝูซาง เจี้ยนมู่และชางอู๋ ล้วนถือกำเนิดจากบ่อเกิดแรกกำเนิด มีลายมรรคของบ่อเกิดแรกกำเนิดอยู่ตามธรรมชาติ

ในคำร่ำลือ เพียงรวบรวม ‘รากปฐมจิตวิญญาณ’ ของไม้เทพทั้งสี่ชนิดนี้ให้ครบ ฟูมฟักด้วยเจตวัตถุฟ้าประทานอย่างดินปราณแรกกำเนิด ดินอัศจรรย์ห้าสี ทรายดาราขุ่นใส และวารีแรกปฐม ก็จะให้กำเนิดต้นอ่อนของต้นบ่อเกิดแรกกำเนิดได้ต้นหนึ่ง!

ถึงเวลานั้นนำต้นอ่อนบ่อเกิดแรกกำเนิดไปเลี้ยงในร่างกาย ก็จะมีส่วนช่วยในการฝึกปราณมรรคจักรพรรดิอย่างเหลือคณา!

ยามชิงชัยในระดับจักรพรรดิ ผู้ใดได้ครอบครองต้นบ่อเกิดแรกกำเนิดต้นหนึ่ง ผู้นั้นก็เท่ากับครอบครองรากฐานพลังในการหยั่งรู้ ‘กฎเกณฑ์แรกกำเนิด’ ระดับจักรพรรดิคนอื่นไม่อาจเทียบติด!

แม้สำหรับหลินสวินในตอนนี้ ระดับจักรพรรดิยังยาวไกลนัก แต่ถ้ารวบรวมสมบัติที่จำเป็นในภายหน้าไว้ล่วงหน้าได้บ้างย่อมดีกว่า

อย่างเช่นที่ตัวหลินสวินตอนนี้ ก็มีรากแห่งต้นกำเนิดของต้นฝูซางแล้วรากหนึ่ง!

อู้เชวียเคยพูดเองว่า เมื่อได้ดินอัศจรรย์ห้าสีมาก็สามารถฟูมฟักรากแห่งต้นกำเนิดต้นฝูซางไว้ในนั้นได้ ภายหน้าไม่ช้าก็เร็วจะมี ‘รากปฐมจิตวิญญาณ’ ใหม่งอกออกมา!

เพียงแต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึงว่า ในแหล่งสถานคุนหลุนแห่งนี้ก็มีสมบัติล้ำค่าที่สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิใจเต้นอย่างดินอัศจรรย์ห้าสีอยู่ด้วย

“เมื่อถึงเวลา ข้ากับเจ้าออกเคลื่อนไหวด้วยกัน”

หลินสวินตัดสินใจ

อาหูยิ้มเอ่ย “ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ดียิ่งนัก”

ในช่วงเวลาต่อมาทั้งสองท่องไปในแดนหลอมสมบัติ เสาะหาไอมรรคหลอมสมบัติต่อ

สองชั่วยามผ่านไป

ท้องฟ้าเหนือภูผาธาราอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่ง หลินสวินกับอาหูที่กำลังทะยานอยู่จู่ๆ ก็หยุดชะงัก

ขณะเดียวกันเสียงร้องตกตะลึงระลอกหนึ่งดังอยู่ไกลลิบ

“น่ากลัวเกินไปแล้ว นั่นเป็นไอมรรคหลอมสมบัติขั้นไหนกัน เหตุใดถึงมีเพลิงเทพคุนหลุนน่ากลัวปานนั้นเกิดมาพร้อมกันด้วย”

“เพลิงเทพสีม่วงดั่งมหาสมุทร แปรสภาพเป็นนกปีศาจนับร้อยพันมืดฟ้ามัวดิน มกุฎมหาอริยะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน!”

“จนถึงตอนนี้มีมกุฎมหาอริยะตายไปอย่างน้อยเจ็ดแปดคนแล้ว ล้วนถูกเผาเป็นเถ้าธุลี ดับสิ้นทั้งกายจิต”

พร้อมกับเสียงอื้ออึง เงาร่างกลุ่มหนึ่งเคลื่อนตัวมาจากที่ไกลออกไป แต่ละคนสีหน้าลนลาน ท่าทางตื่นตระหนกเกินเหตุ

“เกิดอะไรขึ้น”

หลินสวินรั้งตัวไว้คนหนึ่งแล้วสอบถาม

ไม่นานนักเขาก็รู้สาเหตุ

ณ สถานที่ไกลโพ้นจากที่ตรงนี้มีเขากลับหัวอยู่ลูกหนึ่ง บนเขากลับหัวมีไอมรรคหลอมสมบัติมากมายกระจายตัวอยู่

ไอมรรคหลอมสมบัติสายหนึ่งในนั้นอัศจรรย์เป็นที่สุด สำแดงปรากฏการณ์ประหลาดอย่าง ‘บทประพันธ์มหามรรค’ ออกมา ศักดิ์สิทธิ์โอฬาร เรียกได้ว่าตะลึงโลก

หลายวันมานี้มีผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไรไปเยือน หมายจะพิชิตไอมรรคหลอมสมบัติ แต่ล้วนล้มเหลวโดยไม่มีข้อยกเว้น

แล้วก็ในวันนี้เอง ไอมรรคหลอมสมบัติที่คล้ายบทประพันธ์มหามรรคนั้นเหมือนถูกยั่วให้โมโห ซัดเพลิงเทพคุนหลุนถาโถมแผ่กระจายออกมาจากภูเขากลับหัวแห่งนั้น

เพลิงเทพเหล่านั้นมีสีม่วงงดงาม แปลงเป็นนกปีศาจเต็มฟ้า เข่นฆ่าจนผู้ฝึกปราณที่อยู่บริเวณนั้นต่างหนีกระเจิง

คนโชคร้ายบางคนก็ถูกเผาตายคาที่!

หลังจากได้รู้เรื่องเหล่านี้ หลินสวินกับอาหูสบตากันครั้งหนึ่ง ปรึกษากันเล็กน้อยก็ตัดสินใจว่าจะไปต่อ

ไอมรรคหลอมสมบัติที่แปลงเป็นบทประพันธ์มหามรรค จะมหัศจรรย์เพียงไหน

ผ่านไปครู่หนึ่ง

ในที่สุดทั้งสองคนก็เห็น ‘ภูเขากลับหัว’ ลูกนั้น

ใต้เวิ้งฟ้า ภูเขาใหญ่สูงตระหง่านลูกหนึ่งกลับหัว ด้านล้างชี้ฟ้า ยอดเขาห้อยลงมา ทั้งภูเขาปกคลุมไปด้วยประกายแสงเพลิงเทพที่พร่างพราวสะดุดตา ฉายส่องให้ฟ้าดินแถบนั้นเจิดจรัสดั่งเพลิงเผา

ขณะนี้ใกล้กับเขากลับหัวลูกนั้น นกปีศาจขนาดหลายสิบจั้งฝูงหนึ่งกำลังกระพือปีกจู่โจมอย่างบ้าคลั่ง

นกปีศาจเหล่านี้ล้วนแปลงมาจากเพลิงเทพสีม่วง ยามกระพือปีก เพลิงเทพอันเชี่ยวกรากดั่งน้ำตกเผาห้วงอากาศจนหมด เกิดเป็นภาพและเสียงน่าตกตะลึง

ผู้ฝึกปราณหลายคนหนีหัวซุกหัวซุน ทะยานออกไปทั่วทิศ ทั้งยังมีเสียงคำรามดาลเดือด หวีดแหลม และโหยหวนดังขึ้นไม่ขาดสาย

สถานการณ์โกลาหลนัก!

แต่หลินสวินกับอาหูก็สังเกตได้ว่ามีเงาร่างสิบกว่าร่างที่ไม่ได้หวาดกลัว กำลังดิ้นรนต่อต้านและห้ำหั่นกับนกปีศาจเพลิงม่วงเหล่านั้นพลางเข้าไปใกล้ภูเขากลับหัว

“เจ้าดูสิ นั่นเหวินฉิงเสวี่ยจากเรือนมรรคยุทธจักรไม่ใช่หรือ”

อาหูพลันชี้ไปไกลๆ

ที่นั่นมีเงาร่างงดงามดั่งเซียน เส้นผมดำดั่งน้ำหมึกปลิวไสว มือถือคทาสมประสงค์หยกสีเงินร่างหนึ่ง มีลายมรรคลี้ลับไหลเวียนออกมา

ลายมรรคลึกลับส่องแสง สลายการโจมตีของนกปีศาจเพลิงม่วงนั้นทีละตัวพร้อมกับการก้าวเดนของนาง ดูอัศจรรย์ถึงที่สุด

“ยังมีเถาเจี้ยนสิงจากเผ่านักรบเถาอู้ด้วย!”

แทบจะในขณะเดียวกันหลินสวินก็สังเกตเห็นเถาเจี้ยนสิงที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ท่วงท่าจองหอง พลานุภาพดุร้าย ถือธงใหญ่สีแดงผืนหนึ่งเดินหน้า

ธงใหญ่สีแดงไหวโบกสะบัดเกิดเสียง สีแดงสดบาดตา บนนั้นมี ‘ภาพเถาอู้เหยียบเทพ’ ประทับอยู่ คลื่นที่แผ่ออกมาทำให้นกปีศาจสีม่วงเหล่านั้นถูกกำราบไว้โดยสิ้นเชิง

นอกจากเหวินฉิงเสวี่ยกับเถาเจี้ยนสิง ที่นั่นยังมีผู้แข็งแกร่งคนอื่นอีกบางส่วนเข้าประชิดภูเขากลับหัวเช่นกัน

เช่นหลิงเคอจื่อจากอารามเก่าแก่ยอดทักษิณ มือถือปลาไม้ ท่องสวดคัมภีร์พุทธ

ยังมีที่บางคนที่ถือประทับหยก บ้างควบคุมกระจกทองแดง บ้างมีม้วนภาพเหนือหัว…

เห็นได้ชัดว่าสมบัติแต่ละชิ้นต่างเป็นของไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง มีคุณประโยชน์มหัศจรรย์ สามารถตั้งรับการโจมตีของเพลิงเทพสีม่วงได้

หากไม่เป็นเช่นนี้ ด้วยอานุภาพที่สามารถปลิดชีพมกุฎมหาอริยะได้ของเพลิงเทพสีม่วงนั้น แม้เป็นพวกเหวินฉิงเสวี่ยก็เกรงว่ายังยากจะต้านไว้ได้!

“ดูสิ พวกเขาต่างทำเพื่อไอมรรคหลอมสมบัตินั่น”

เนตรงามของอาหูเปล่งประกาย ฉายแววตกตะลึง

หลินสวินก็สังเกตเห็นแล้ว บนภูเขากลับหัวลูกนั้นมี ‘บทประพันธ์มหามรรค’ กำลังส่องแสงเจิดจ้า แสงของมันดั่งมรรค สาดส่องทั่วฟ้า!

ดูจากไกลๆ ยังน่าหวาดหวั่นผิดธรรมดา

หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ใครจะกล้าเชื่อว่าเพียงแค่ไอมรรคหลอมสมบัติสายหนึ่งเท่านั้น จะถึงกับฉายปรากฏการณ์ประหลาดยิ่งใหญ่อันน่าเหลือเชื่อปานนี้ได้

ก่อนหน้านี้หลินสวินได้รับไอมรรคหลอมสมบัติสูงค่ามาไม่น้อย แต่เทียบกับบทประพันธ์มหามรรคนี้แล้ว ก็เหมือนกับแสงหิ่งห้อยที่ไม่อาจเทียบรัศมีกับสุริยันจันทราได้

ตอนนี้หลินสวินก็ใจเต้นแล้ว

“โอกาสแบบนี้จะยอมปล่อยให้คนอื่นได้อย่างไร อาหู เจ้าอยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวข้ามา”

หลินสวินเอ่ยรวดเร็ว

ไม่ใช่เพราะผลีผลาม แต่เป็นเพราะเขามีเพลิงมรรคอัศจรรย์ จึงไม่กลัวเพลิงเทพคุนหลุนเหล่านั้นสักนิด

“ได้!”

อาหูพยักหน้ารับ

นางก็ดูออกว่านี่เป็นโอกาสชั้นเลิศครั้งหนึ่ง

สวบ!

หลินสวินเคลื่อนผ่านห้วงอากาศโดยไม่ได้กำบังเงาร่าง พุ่งตัวไปยังภูเขากลับหัว

“เอ๊ะ หลินสวินที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณคนนั้นนี่!”

“เจ้าหมอนี่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง ยังคิดจะไปแก่งแย่งวาสนากับพวกเหวินฉิงเสวี่ยอีก”

ไม่นานนักในบริเวณนั้นก็มีผู้แข็งแกร่งมากมายสังเกตเห็นหลินสวินและจำตัวตนของเขาได้ ต่างงุนงงอย่างห้ามไม่อยู่

ในขณะเดียวกันพวกเหวินฉิงเสวี่ย เถาเจี้ยนสิงก็สังเกตเห็นหลินสวิน มีคู่แข่งเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง คิดจะไม่ดึงดูดสายตาก็คงยาก

แต่ไม่นานนักพวกเขาก็เบนสายตากลับ กระโจนไปข้างหน้าเต็มกำลัง

แม้พวกเขาต่างมีสมบัติที่พึ่งพาได้ แต่เพลิงเทพสีม่วงเหล่านั้นอหังการและน่ากลัวเกินไป ทำให้ถูกขัดขวางถึงที่สุดยามพวกเขาเดินหน้า

ตอนนี้ยังห่างอีกช่วงใหญ่กว่าจะเข้าใกล้ภูเขากลับหัวได้

อีกทั้งยิ่งเข้าประชิด การจู่โจมที่ได้รับก็ยิ่งน่ากลัว ทั้งยังทำให้พวกเขาไม่มีเวลาไปสนใจสิ่งอื่น ทำได้เพียงทุ่มพลังทั้งหมดฝ่าไปข้างหน้า

ซ่า!

ห้วงอากาศสั่นทะเทือน เปลวเพลิงถาโถม นกปีศาจที่กลายร่างมาจากเพลิงเทพสีม่วงตัวหนึ่งทะยานลงมาจากฟ้า เข้าโจมตีหลินสวินที่มุ่งเข้ามา

กระแสเพลิงเชี่ยวกรากน่าหวาดหวั่นเดือดดาล มีอานุภาพเผาฟ้าทลายดิน

วิ้ง!

เหนือหัวหลินสวิน เพลิงมรรคอัศจรรย์ที่เปลี่ยนร่างเป็นกระถางใหญ่ปรากฏขึ้น พอมันหมุนตัวก็กลืนกินการโจมตีทั้งหมดจนไม่เหลือแม้แต่น้อย

นกปีศาจเพลิงม่วงส่งเสียงร้องแหลมคล้ายรับรู้ได้ถึงอันตราย แต่ไม่รอให้มันมีปฏิกิริยาตอบกลับมา เพลิงมรรคอัศจรรย์ก็โฉบพุ่งประหนึ่งกระถางใหญ่บังฟ้า กำราบและเก็บมันเข้าไปในกระถางได้ในคราวเดียว

การเคลื่อนไหวต่อเนื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตา ตั้งแต่เริ่มจนจบง่ายดายหาใดเทียบ!

“นี่…”

ในบริเวณใกล้เคียง เหล่าผู้แข็งแกร่งที่เดิมคิดจะดูหลินสวินกลายเป็นตัวตลกต่างตาเบิกกว้าง สีหน้างุนงงตกตะลึง

“หืม?”

พวกเหวินชิงเสวี่ยกับเถาเจี้ยนสิงก็สังเกตเห็นภาพนี้ ล้วนหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย สังเกตได้อย่างฉับไวว่าเพลิงมรรครูปร่างคล้ายกระถางใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือหัวหลินสวินนั่น ไม่ใช่ของธรรมดา!

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset