Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1720 ต้นท้อแบน

หนอนมากมายมืดฟ้ามัวดินมาเยือน เนืองแน่นแออัด ล้วนแผ่กลิ่นอายเกี้ยวกราดดุกร้าวออกมา ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านทั้งที่ไม่ได้หนาว

“ลงมือ!”

ผู้สืบทอดสำนักวิญญาณหมื่นปฐมเหล่านั้นตกใจจนวิญาณแทบหลุดลอย ล้วนแล้วแต่ออกโจมตีสุดกำลังตามจิตใต้สำนึก

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

ต่อให้สิ่งที่พวกเขาถนัดมากที่สุดจะเป็นวิชาควบคุมหนอน แต่ก็ยังไม่เคยประสบเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงเช่นนี้มาก่อน

ตูมโครม!

พวกเขาต่างเรียกสมบัติของตนออกมา โคจรวิชาอัศจรรย์ออกโจมตี

เสี่ยวอิ๋นที่อยู่ไกลๆ เห็นเช่นนี้ก็โบกมือคราหนึ่งด้วยสีหน้าเลือดเย็น “ฆ่าพวกเขาซะ”

วู้มๆๆ…

กระแสหนอนล้นทะลัก ดุจดั่งระลอกคลื่นสีดำโหมซัดมาเยือน

เพียงไม่กี่อึดใจผู้สืบทอดสำนักวิญญาณหมื่นปฐมเหล่านั้นล้วนไม่เหลือให้เห็น มีเพียงโครงกระดูกที่แตกหักเกลื่อนพื้น เลือดเนื้อและจิตวิญญาณล้วนถูกกัดแทะหมดสิ้น!

หลินสวินและอาหูต่างตกใจ

ความแข็งแกร่งในพลังเข่นฆ่าของหนอนพิษพวกนี้เหนือจินตนาการของพวกเขา ในหมู่ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นล้วนไม่ขาดบุคคลระดับมหาอริยะ แต่กลับรับการโจมตีของพวกมันไม่ได้สักนิด!

จากนั้นเสี่ยวอิ๋นก็ไล่หนอนที่พิษสงร้ายกาจพวกนั้นออกไป หลินสวินและอาหูจึงเดินไปเบื้องหน้า และหยุดอยู่หน้าบานประตูว่างเปล่าที่แสงหลากสีสันไหลเวียนบานนั้น

ที่นี่ก็คือทางเข้าที่เชื่อมสู่แดนลับป่าท้อ

“พวกเจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ หากมีคนเข้าใกล้ ฆ่าตายสถานเดียว!”

เสี่ยวอิ๋นสั่งการลงไป หนอนพิษที่ประหนึ่งกระแสน้ำเหล่านั้นล้วนก้มหัวรับคำสั่ง

“ดูสิ เจ้าตัวน้อยนี่ตอนนี้บารมีมากกว่าเจ้าโขแล้ว”

อาหูแซวหนึ่งประโยค

หลินสวินยิ้มขื่นระลอกหนึ่ง ความจริงแล้วในใจก็ค่อนข้างภาคภูมิใจในตัวเสี่ยวอิ๋นอยู่เหมือนกัน ครั้งนี้เจ้าหนูนี่สร้างความชอบครั้งใหญ่แล้ว!

พวกเขาไม่มัวอืดอาด เข้าไปในบานประตูว่างเปล่าบานนั้นด้วยกัน

วู้ม…

ดุจดั่งจันทร์เคลื่อนดาราคล้อย เบื้องหน้าสายตาผันแปรทันใด

“งามยิ่งนัก!”

อาหูเผยสีหน้าตรึงใจออกมา ในครรลองสายตาเป็นป่าดอกท้อที่ทอดยาวไร้ขอบเขตผืนหนึ่ง ดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง ประดับเต็มกิ่งก้าน เกสรดอกไม้ชมพูใสวาวมีแสงระเรื่อรินไหล

ท้องามแย้มพรายพราวสะพรั่ง ดอกแดงปลั่งงามฉูดฉาดวิลาศหรู กลางห้วงอากาศล้วนคละคลุ้งด้วยกลิ่นหอมสดชื่นจรรโลงใจ

ลำธารใสแวววาวสายหนึ่งไหลคดเคี้ยวกลางป่าท้อ ที่น่าตกใจคือลำธารที่ใสแวววาวนั่นถึงกับควบรวมมาจากไอวิญญาณเข้มข้น!

“ไอวิญญาณแน่นเกินไปแล้ว นี่เป็นแดนมงคลเปี่ยมโชคที่น่าทึ่งแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน!”

หลินสวินก็ตกใจเช่นกัน ภายในแดนลับแห่งนี้นอกจากต้นท้อที่แผ่ทั่วป่าแล้ว ยังมีหินโบราณ ต้นไม้ใบหญ้าจำนวนหนึ่ง ต่างไม่ธรรมดาถึงขีดสุด ล้วนเป็นของวิเศษมหัศจรรย์

หนำซ้ำกลิ่นอายมหามรรคกลางฟ้าดินพร้อมพรั่งดั่งกระแสน้ำ ไหลเวียนไม่หยุดหย่อน ให้ความรู้สึกอยู่ใกล้แค่เอื้อม เพียงแตะสัมผัสก็คว้ามาได้แก่ผู้คน

“ตามคำเล่าลือ บริเวณที่ต้นท้อแบนหยั่งราก เป็นแหล่งรวมสายแร่วิเศษชั้นหนึ่งในโบราณสถานคุนหลุน ตอนนี้ได้เห็นแล้ว ชื่อเสียงสมคำเล่าลือจริงๆ”

อาหูกล่าวพลาง กลางฝ่ามือกำกิ่งท้อแบนกิ่งนั้น และสัมผัสโดยละเอียด

ครู่ต่อมานางเงยหน้าขวับ มองไปทางส่วนลึกของป่าท้อ “อยู่ทางนั้น ไป”

พวกเขามุ่งหน้าไปตลอดทาง หลังจากเข้าสู่ป่าดอกท้อรู้สึกเพียงว่าทั่วร่างเหมือนแช่อยู่ท่ามในน้ำแร่ไอวิญญาณ สิ่งที่สูดหายใจเข้าไปล้วนเป็นพลังชีวิตมหามรรคที่เข้มข้น จิตใจปลอดโปร่ง เบาเนื้อเบาตัว

มองอย่างละเอียด ต้นท้อแต่ละต้นนั้นล้วนแข็งแกร่งเป็นพิเศษ กิ่งใบเขียวชอุ่ม ราวแกะสลักออกมาจากหยกมรกต มีประกายแสงสีเขียวไหลเวียน แปลกมหัศจรรย์หาใดเปรียบ

น่าเสียดาย พวกมันหาใช่ต้นท้อแบนของแท้ เป็นเพียงพืชวิญญาณทั่วไปเท่านั้น แต่เหนือชั้นกว่าต้นไม้โบราณจำนวนหนึ่งของโลกภายนอกหลายโข

“หยุดนะ!”

ทันใดนั้นเบื้องหน้าปรากฏเงาร่างหลายสายขึ้นมา แต่ละคนล้วนอานุภาพไม่ธรรมดา โดยเฉพาะชายหนุ่มเกราะทองที่เป็นผู้นำ ยามลืมตามีลำแสงเทพวาบผ่าน ชวนสยองถึงขีดสุด

เมื่อมองอย่างถี่ถ้วน คนพวกนี้ไม่มีใครไม่ใช่มกุฎมหาอริยะ!

หลินสวินและอาหูสีหน้ารายเรียบ ไม่ได้แปลกใจอะไร

ก่อนหน้านี้ตอนเข้าสู่ที่นี่ ก็มีผู้ฝึกปราณกลุ่มหนึ่งคุ้มกันอยู่หน้าทางเข้าแดนลับ เห็นชัดว่ามีคนเข้ามาในนี้อยู่ก่อนแล้ว

“พวกเจ้าเข้ามาได้อย่างไร”

ชายหนุ่มเกราะทองบีบคั้นดุดัน นัยน์ตาเย็นเยียบดุจมีด กวาดมองหลินสวินและอาหู

นี่กลับทำให้หลินสวินค่อนข้างแปลกใจขึ้นมา

เห็นชัดว่าอีกฝ่ายไม่รู้จักตัวตนของเขา

อาหูสื่อจิตกล่าว ‘หากข้าเดาไม่ผิด พวกเขาน่าจะเข้ามาแหล่งสถานคุนหลุนจากทางเข้าอื่น เลยไม่รู้จักตัวตนของเจ้ากับข้า’

หลินสวินถึงเข้าใจในทันที

แรกสุดตอนอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำเซียนเหิน เขาก็เคยรู้มาแล้วว่าทางเข้าของแหล่งสถานคุนหลุนไม่ได้มีเพียงแค่ทางเดียว

“ต้องเดินเข้ามาอยู่แล้วสิ”

หลินสวินกล่าวสบายๆ

ชายหนุ่มเกราะทองสีหน้าขรึมลง กล่าวสั่งการตรงๆ “เช่นนั้นก็เชิญพวกเจ้าเดินกลับไปอีกรอบ ถ้าไม่ไป ตาย!”

ตูม!

หลินสวินย่างเท้าก้าวไปเบื้องหน้าทันควัน พลังปราณรอบกายก้องกระหึ่ม กดฝ่ามือหนึ่งออกมา

เขาคร้านจะพูดมากความอย่างสิ้นเชิง!

วิธีลงมือเผด็จการและตรงไปตรงมาเช่นนี้ของเขา ทำเอาชายหนุ่มเกราะทองยัวะจัด ตบฝ่ามือออกมาโดยไม่ลังเลเช่นกัน ซ้ำยังใส่เต็มกำลัง

ทว่าครู่ต่อมาทั้งตัวเขาก็ถูกฝ่ามือหลินสวินกดข่มลงกับพื้น

ตูม!

พื้นดินล้วนสั่นสะเทือนครู่หนึ่ง ต้นท้อบริเวณใกล้เคียงสั่นไหวครืดคราด ใบหล่นร่วงเกรียว

“ความสามารถแค่นี้ก็ฝันหวานอยากครอบครองที่นี่ นี่เรียกว่าไม่รู้จักเป็นตายกระมัง”

หลินสวินเอ่ยปากเรียบๆ

คนร่วมขบวนของชายหนุ่มเกราะทองตกใจ จากนั้นก็ต่างเดือดดาล ลงมือพร้อมกัน

ปึงๆๆ!

เสียงระเบิดระลอกหนึ่งดังขึ้น หลินสวินลงมือเฉียบขาด สยบกำราบผู้แข็งแกร่งพวกนี้ให้คุกเข่าลงกับพื้นทีละคน

ตั้งแต่ต้นจนจบอาหูเอาแต่มองดูพลางยิ้มชอบใจ

เจ้าโง่พวกนี้ คิดจริงๆ หรือว่าบรรลุมกุฎมหาอริยะแล้วจะทำตัวไร้ขื่อไร้แปได้ ไม่หัดดูเสียบ้างว่าเยี่ยนฉุนจวิน ลู่อ๋างตายอย่างไร!

“พวกเจ้าเป็นใคร”

ชายหนุ่มเกราะทองสีหน้าหวาดผวาไม่หาย

เพียงสะบัดมือง่ายๆ ก็กำราบพวกเขาได้ทีละคน นี่ทำให้เขาตระหนักได้ว่าครั้งนี้เตะโดนแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว!

แต่ต่อให้ทุบหัวจนแตกชายหนุ่มเกราะทองก็คิดไม่ออก ว่าทางเดินโบราณฟ้าดารามีคนร้ายกาจยิ่งยวดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ใบหน้านั่นก็แปลกตาเกินไปแล้ว

“พวกเราเป็นใครสำคัญมากหรือ”

นัยน์ตาหลินสวินมีไอสังหารทะลักขึ้นมา

เมื่อสังเกตเห็นภาพนี้ ร่างของชายหนุ่มเกราะทองก็สั่นเทา กล่าวว่า “สหาย พวกเราคือผู้สืบทอดสำนักวิญญาณหมื่นปฐม เมื่อครู่เป็นเพียงการเข้าใจผิดกัน หวังว่าสหายจะใจกว้างยกโทษให้ด้วย”

“สำนักวิญญาณหมื่นปฐม?”

หลินสวินเลิกคิ้ว

พวกชายหนุ่มเกราะทองรีบพยักหน้าเป็นพัลวัน

“ขออภัย ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน”

หลินสวินส่ายหน้า

ประโยคเดียวทำเอาพวกชายหนุ่มเกราะทองต่างอึ้งไป หากเป็นผู้ฝึกปราณบนทางเดินโบราณฟ้าดารา เป็นไปได้หรือที่จะไม่เคยได้ยินชื่อสำนักวิญญาณหมื่นปฐมมาก่อน

เจ้าหมอนี่ต้องเสแสร้ง จงใจทำมึนแน่ๆ!

พวกเขาปรักปรำหลินสวินเข้าให้แล้วจริงๆ แต่หลินสวินไม่มีทางไปอธิบายอยู่แล้ว

จากนั้นเสียงอู้อี้สายหนึ่งดังก้องขึ้น และไม่นานที่แห่งนี้ก็เงียบสงบลง บนพื้นมีซากศพนอนแผ่กองหนึ่ง

พบศัตรูบนทางแคบ ผู้กล้าหาญย่อมชนะ!

ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะหลินสวินแข็งแกร่งมากพอ จุดจบย่อมต้องเป็นเช่นนี้เหมือนกัน

หลินสวินและอาหูไม่ได้อืดอาด มุ่งหน้าต่อไป

หนึ่งก้านธูปผ่านไป

ทัศนียภาพเบื้องหน้าพลันเปิดกว้าง ต้นท้อที่ขึ้นทั่วป่าไม่มีให้เห็นแล้ว แต่ปรากฏพื้นที่ราบที่เปล่งแสงระเรื่อห้าสี

ประกายศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียน แสงเรื่อมงคลหลั่งไหล ฟ้าดินล้วนอาบชโลมอยู่ท่ามกลางกลิ่นอายวิเศษศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่ง

“ดู!”

อาหูสายตาเป็นประกาย

ตำแหน่งใจกลางที่ราบมีต้นไม้โบราณที่เสมือนค้ำฟ้าต้นหนึ่ง กิ่งก้านราวกับร่ม ปกฟ้าคลุมตะวัน ลำต้นหยาบหนาใหญ่เหมือนมังกร ชูชันสูงเสียดฟ้า

แสงระเรื่อสายแล้วสายเล่าสาดพรมจากต้นไม้ ประดุจรุ้งหลากสีมากมาย ซ้ำยังเหมือนธารดาราไหลย้อย พิสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์หาใดเปรียบ

กลางห้วงอากาศแถบนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งก็เหมือนดื่มน้ำค้างหยกมรกต รูขุมขนทั่วร่างล้วนเปิดกว้าง เบาสบายไปทั้งตัว

หลินสวินสูดหายใจหนาวเยือกอย่างอดไม่ได้ รู้สึกสะท้านสะเทือน

สถานที่นี้ไม่เหมือนจริง ดุจดั่งตำนานชัดๆ วิเศษศักดิ์สิทธิ์และเหมือนฝันมายามากเกินไป

ทั้งคู่เดินไปข้างหน้าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่นานก็มองเห็นสภาพความเป็นจริงของต้นไม้วิเศษต้นนี้ถนัดตา

มันแน่นทนทานหาใดเปรียบ ลวดลายบนลำต้นกิ่งก้านเหมือนงูมังกรตัวแล้วตัวเล่า ผุดแสงระเรื่อที่คล้ายหยกแต่ไม่ใช่หยกออกมา แวววาวโปร่งใส แต่ใบไม้กลับเขียวชุ่มฉ่ำ แสงมงคลเบ่งบาน

ยิ่งเข้าใกล้ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเล็กจ้อยมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะต้นไม้วิเศษต้นนี้สูงใหญ่มากเกินไป ดุจดั่งกระดูกสันหลังที่ค้ำยันฟ้าดิน

“ต้นท้อแบน!”

ริมฝีปากอาหูพ่นสามคำนี้ออกมาเบาๆ นางมองเห็นผลบนกิ่งไม้นั่น เจิดจ้าเหมือนอาทิตย์ดวงแล้วดวงเล่า กลิ่นหอมสดชื่นลอยฟุ้ง โผล่ให้เห็นผ่านใบไม้สีเขียวมรกต

ต้นไม้โบราณนั่นมีแสงมรรคไหลริน ก่อตัวเป็นพลังไร้รูปอย่างหนึ่ง สกัดกั้นกลิ่นหอมไม่ให้รั่วไหล ทว่ากลางอากาศก็ยังมีกลิ่นหอมตลบเป็นสายๆ อยู่ ซึมแทรกเข้าสู่จิตใจผู้คน ทำให้ผู้คนเคลิบเคลิ้ม

นั่นคือท้อแบน!

ขนาดประมาณกำปั้น แวววาวหยดย้อย พิสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์เรืองรอง บ้างแดงชาดดุจแสงยามสายัณห์ บ้างก็ขาวหิมะดุจหยก บ้างก็เขียวมรกตชุ่มฉ่ำ

บางผลถึงขั้นมีประกายม่วงไหลรินออกมา สาดพรมประกายมรรคนับพันหมื่น!

หลินสวินและอาหูต่างอึ้งงัน ราวกับเห็นปาฏิหาริย์ หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเองเกรงว่าใครก็ไม่กล้าเชื่อ ว่าบนโลกใบนี้จะมีของล้ำค่าที่แปลกอัศจรรย์เช่นนี้ด้วย

“ไม่ถูกสิ!”

ทันใดนั้นหลินสวินก็สะดุ้งตื่นจากสภาพอารมณ์ตกใจนั่น นัยน์ตาดำลุ่มลึก มองไปทางส่วนล่างของต้นท้อแบน

ตรงนั้นถูกประกายแสงมงคลเจิดจ้าสว่างไสวปิดครอบ

แต่หากมองโดยละเอียดแล้ว กลับมีโครงกระดูกศพแล้วศพเล่ากองสุมอยู่บนพื้น บ้างก็เป็นรูปร่างมนุษย์ บ้างก็เป็นโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่น

โครงกระดูกเหล่านี้ถูกประกายแสงวิเศษบดบัง หากถูกผลวิเศษบนต้นไม้ดึงความสนใจไปหมด ก็ไม่สามารถสังเกตเห็นได้เลยสักนิด!

อาหูก็สะท้านไปทั่วร่างเช่นกัน ได้สติขึ้นมา

“พวกนี้คงไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่มุ่งหน้ามาค้นหาท้อแบนในกาลเวลาที่ผ่านมา แต่กลับร่วงหล่นอยู่ที่นี่หรอกกระมัง”

หลินสวินเอ่ยปากเสียงเข้ม สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เริ่มระวังตัวขึ้นมา

ยิ่งเป็นมหาศุภโชคที่น่าเหลือเชื่อ ก็ยิ่งมาพร้อมกับมหันตภัยที่ไม่อาจคาดเดา หากเมื่อครู่จมอยู่ในภาพที่วิเศษศักดิ์สิทธิ์ล่อใจเช่นนั้นจนละเลยอันตรายของที่นี่ เช่นนั้นก็อาจประสบเคราะห์ได้ง่ายดายยิ่ง

“คงจะเป็นเช่นนั้น”

อาหูมองสำรวจคร่าวๆ พบว่าโครงกระดูกเหล่านั้นล้วนมีสภาพสมบูรณ์ ไม่ได้เสียหาย ทว่าล้วนแต่แผ่กลิ่นอายที่ถูกกาลเวลากัดกร่อน เห็นชัดว่าผ่านยุคสมัยมาเนิ่นนาน

“หืม?”

อาหูเดินอ้อมดูลาดเลารอบต้นไม้วิเศษต้นนั้น ตอนที่เดินมาถึงด้านหลังต้นไม้วิเศษก็พลันอึ้งค้าง รีบสื่อจิตอย่างรวดเร็ว ‘พี่หลิน เจ้ารีบมาดูเร็วเข้า’

หลินสวินเดินเข้าไปและมองตามสายตาของอาหู ก็เห็นเบื้องล่างต้นไม้วิเศษฝั่งนี้มีเงาร่างสามสายยืนอยู่

เป็นบุรุษเสื้อฟ้าที่สะพายกระบี่โบราณคนหนึ่ง หญิงมวยผมสวมชุดคลุมหงส์คนหนึ่ง และนักพรตชุดผ้าป่านที่หน้าตาคล้ายเด็กหนุ่ม มีผมขาวทั่วศีรษะคนหนึ่ง

พวกเขาต่างหลับตาสนิท กลิ่นอายคล้ายมีแต่ไม่มี เงียบสงบไม่ไหวติง ดุจดั่งภิกษุเฒ่านั่งวิปัสสนา เห็นชัดว่าแปลกพิสดารหาใดเปรียบ

และบริเวณไม่ไกลออกไป มีศิลาไม้เขียวแผ่นหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ บนนั้นใช้อักษรมรรคโบราณสลักอักษรไว้หนึ่งแถว

‘ชีวิตเลื่อนลอยราวฝันมายา ชะตามนุษย์กี่วสันตสารท’

นอกจากนี้ก็ไม่มีจารึกใดๆ อีก

หลินสวินอึ้งไป กล่าวใคร่ครวญ “นี่หมายความว่าอย่างไร อย่าบอกนะว่าในนี้ซ่อนนัยปริศนาอะไรไว้”

ส่วนอาหูที่อยู่ข้างกันคล้ายเดาอะไรบางอย่างออก ท่องอักษรจารึกประโยคนี้เบาๆ เมื่อเสียงดังขึ้น ภาพน่าเหลือเชื่อก็ปรากฏ

แสงมงคลที่แวววาวสายหนึ่งไหลรินจากต้นท้อแบนต้นนั้น อาบชโลมเงาร่างอาหูไว้ภายใน!

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset