Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1729 กลียุคสังหารมาร

บรรยากาศ ณ ที่นั้นตึงเครียดขึ้นมา อากาศประหนึ่งแข็งทื่อหยุดชะงัก

ราชันเผิงปีกทองน้อยกับหยวนฝ่าเทียนต่างเงียบเชียบไร้คำพูด สะท้านกับวิธีอันนองเลือดแข็งกร้าวของหลินสวิน ในใจทั้งซาบซึ้งและเป็นกังวล

ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป หลินสวินก็รังแต่จะถูกผู้สืบทอดที่มาจากทางเดินโบราณฟ้าดาราเหล่านี้แค้นเข้ากระดูก ผลลัพธ์ไม่อาจคาดคิดได้!

พวกกู่ฉางซินสีหน้าแปรผันไม่ว่างเว้น

ในใจพวกเขาเจ็บปวด โกรธเคืองยากทานทน ถูกหลินสวินใช้ผู้แข็งแกร่งในขุมอำนาจของพวกเขามาข่มขู่ให้ลำบากใจ ทำให้พวกเขาต่างอัดอั้นจนอยากกระอักเลือด

เดิมทีสถานการณ์นี้ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาตั้งใจเตรียมขึ้น แต่ยังไม่ทันเปิดฉาก หลินสวินก็แข็งกร้าวเช่นนี้แล้ว

“หรือในสายตาพวกเจ้าแล้ว ชีวิตของคนที่ถูกข้าจับพวกนี้ก็ไม่สลักสำคัญเช่นนี้หรือ”

หลินสวินเอ่ยปากแล้ว เสียงเจือความเยาะเย้ย

พวกกู่ฉางซินหน้าเปลี่ยนสี คำพูดนี้ของหลินสวินร้ายกาจไปแล้ว หากแพร่กลับไปยังขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา จะต้องมีผลกระทบไม่ดีต่อพวกเขาแน่

“ปล่อยพวกเขา แล้วข้าจะปล่อยสองคนนี้ไปเหมือนกัน”

เถาเจี้ยนสิงเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ เสียงเหมือนรอดไรฟันออกมา

เชลยเหล่านั้นต่างลอบถอนหายใจโล่งอก มดตัวจ้อยยังรักตัวกลัวตาย นับประสาอะไรกับผู้ฝึกปราณที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าพึงพอใจในมหามรรคมานานแล้วอย่างพวกเขา

เผชิญหน้ากับความตายที่แท้จริง พวกเขารังแต่จะยิ่งกลัวตาย!

“ไม่ได้ พวกเจ้าปล่อยพวกเขาออกมาก่อน”

หลินสวินยื่นคำขาด

“เจ้า…”

เถาเจี้ยนสิงโกรธเกรี้ยว

ไม่ทันรอให้เขาพูดจบ เสียงปึงดังขึ้น ข้างหลังหลินสวินก็มีเชลยจากเผ่านักรบเถาอู้อีกคนตายฉับพลัน เลือดสาดกระเซ็น

ภาพนี้กระตุ้นให้เถาเจี้ยนสิงตาแทบถลน ใกล้จะคลุ้มคลั่ง

หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบว่า “ข้าบอกแล้ว พวกเจ้าปล่อยพวกเขาออกมาก่อน อีกอย่างข้าก็อยู่ที่นี่ หรือพวกเจ้ายังกังวลว่าข้าจะหนีไป”

พวกกู่ฉางซินสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ

ในที่สุดพวกเขาก็ปรึกษากันลับๆ แล้วได้ข้อสรุปเป็นเอกฉันท์ ปล่อยพวกเขา!

นี่ทำให้คนอื่นในที่นั้น รวมถึงผู้แข็งแกร่งที่เป็นเชลยของหลินสวินเหล่านั้นต่างถอนหายใจยาวโล่งอก

ชีวิตของผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณสองคนต่ำต้อยปานไหน จะสำคัญเทียบได้กับชีวิตของผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่อย่างพวกเขาได้อย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ปล่อยสองคนนี้ไป เขาหลินสวินคิดว่าวันนี้จะพาพวกพ้องของตนจากไปด้วยกันได้จริงๆ หรือ

ละเมอเพ้อพก!

ฟุบ!

เหล็กหมาดที่เสียบเข้าไปในร่างของราชันเผิงปีกทองน้อยถูกถอนออก ในขณะเดียวกันสายโซ่ที่เจาะเข้าไปตรงกระดูกสะบักของหยวนฝ่าเทียนก็ถูกดึงออกมา

ทั้งสองโซเซลุกขึ้นยืน สีหน้างุนงง ความรู้สึกรอดชีวิตหลังพบเคราะห์เช่นนี้ทำเอาพวกเขาแทบกังขาว่ากำลังฝันไป

เดิมทีพวกเขาต่างคิดว่าจะไม่มีทางรอดอีกแล้ว…

“พี่หลิน ขอบคุณมาก…”

หยวนฝ่าเทียนริมฝีปากสั่นระริก เสียงแหบแห้ง ซาบซึ้งใจหมายจะพูดอะไรแต่ก็หยุดลง

ราชันเผิงปีกทองน้อยเดินไปข้างหน้า ตบไหล่หลินสวิน ไม่ได้พูดสักประโยค แต่ขอบตาเขากลับมีความรู้สึกที่เกินกว่าคำพูดจะบรรยายได้ผุดขึ้นมา

“ไม่เป็นไร มีข้าอยู่ ฟ้าไม่ถล่มลงมาหรอก! รอฆ่าเจ้าพวกเกะกะลูกตาพวกนี้แล้ว ข้าค่อยร่วมดื่มกับทั้งสองคน”

หลินสวินพูดพลางรับทั้งสองเข้าไปในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด มีพวกเจ้าคางคกกับอาหลู่ช่วยรักษาบาดแผลให้พวกเขาอยู่แล้ว

“ตอนนี้เจ้าควรปล่อยพวกเขาได้แล้ว!”

กู่ฉางซินตะคอกลั่น

สายตาคนอื่นในที่นั้นต่างจับจ้องหลินสวิน ถ้าเขากล้ามีทีท่าหลบหนีใดๆ พวกเขาจะจู่โจมเต็มกำลังทันที

แต่ที่เหนือความคาดหมายของพวกเขาก็คือ ตอนนี้หลินสวินดูเบิกบานใจนัก สะบัดมือครั้งหนึ่ง เชือกที่มัดตัวเชลยเหล่านั้นก็ถูกเก็บกลับไป

เชลยเหล่านั้นรอดตายมาได้ ต่างยินดีปรีดาเหมือนบ้าคลั่ง ถลากลับไปข้างกายพวกกู่ฉางซินอย่างรีบร้อน

จนกระทั่งตอนนี้พวกกู่ฉางซินยังไม่อาจถอนหายใจโล่งอกได้

“ฮ่าๆๆ หลินสวินเจ้าโง่นี่ คิดจริงๆ หรือว่าข้าจะปล่อยพวกนั้นไปง่ายๆ แบบนี้”

ทันใดนั้นเถาเจี้ยนสิงก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา สีหน้าเจือความลำพอง

“ในร่างเพื่อนทั้งสองของเจ้าต่างถูกข้าวางหมื่นพิษร้ายเอาไว้ ขอเพียงข้าคิดครั้งเดียว พวกเขาก็จะตายทันที!”

เมื่อพูดคำนี้ดังออกมา ทุกคนในที่นั้นต่างรู้สึกฮึกเหิม ความโกรธเคืองและอัดอั้นที่สั่งสมในใจก่อนหน้านี้ถูกกวาดออกไปจนสิ้น

ใครก็คิดไม่ถึงว่าเถาเจี้ยนสิงยังเตรียมทางหนีทีไล่เช่นนี้ไว้อีก!

“จะดีใจจะเร็วไปหรือเปล่า”

เพียงแต่หลินสวินกลับดูสงบนิ่งไม่กระวนกระวายแต่อย่างใด สีหน้ากลับเผยยิ้มเหี้ยมออกมา

ปัง!

เสียงพูดยังไม่ทันเงียบลง ในหมู่เชลยที่หนีตายเหล่านั้น ร่างผู้แข็งแกร่งเผ่านักรบเถาอู้คนหนึ่งแข็งทื่อในทันใด จากนั้นก็ล้มลงไปกับพื้นอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง

กายหยาบยังอยู่ แต่ดวงวิญญาณถูกกำจัดไปแล้ว!

ภาพที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้รอยยิ้มของเถาเจี้ยนสิงแข็งทื่อทันที คนอื่นที่อยู่ตรงนั้นก็ต่างใจเต้นตุบ ขนลุกไปทั้งตัว

“นี่…”

รูม่านตาพวกกู่ฉางซินก็หดรัดตามไปด้วย

ไม่ต้องสงสัย เถาเจี้ยนสิงเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ แล้วหลินสวินจะไม่เตรียมไว้ได้อย่างไร

นี่ทำเอาทุกคนทั้งตกตะลึงทั้งโกรธเกรี้ยว

“ตอนนี้ก็ส่งยาถอนพิษมา ถ้ายังกล้าเล่นตุกติกอะไรอีก ข้ารับรองได้ว่าเชลยพวกนั้นจะต้องศพไม่สวยกันหมดแน่”

หลินสวินเอ่ยปากเย็นชา

ใบหน้าเถาเจี้ยนสิงอัดอั้นจนคล้ำเขียว ดวงตาทั้งสองอยากจะพ่นไฟออกมา ในการต่อกรกันก่อนหน้านี้ หลินสวินครองโอกาสได้เปรียบไปหมด ทำเอาพวกเขาโมโหจะแย่

“พี่เถา รับปากเขาไป ประเดี๋ยวใช้กำลังคนพรั่งพร้อมฆ่าเขาก็พอ!”

กู่ฉางซินเอ่ย

“ได้!”

ในที่สุดเถาเจี้ยนสิงก็รับปาก เอารังไหมสีเขียวออกมาสองอันแล้วโยนให้หลินสวินกลางอากาศ

หลินสวินตรวจสอบเล็กน้อย พบว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติ จึงส่งให้หยวนฝ่าเทียนกับราชันเผิงปีกทองน้อยที่อยู่ในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด

จนกระทั่งทั้งสองคนแน่ใจโดยสมบูรณ์ว่าไม่มีภัยซ่อนเร้นอีก หลินสวินถึงวางใจได้

“เสี่ยวอิ๋น กลับมาเถอะ”

หลินสวินเอ่ยปาก เสียงฉึบดังขึ้น แสงเงินสายหนึ่งก็เคลื่อนออกมาจากร่างผู้แข็งแกร่งที่เดิมถูกจับเป็นเชลยคนหนึ่ง กลับไปอยู่ข้างหลินสวิน

เป็นเสี่ยวอิ๋น

เมื่อเห็นภาพนี้เข้า ผู้แข็งแกร่งที่ถูกเสี่ยวอิ๋นซ่อนอยู่ในตัวก็ตกใจจนอ่อนยวบไปทั้งตัว ใจนึกกลัวไม่หยุด

พวกกู่ฉางซินเห็นดังนี้ก็ต่างเลิกคิ้ว ลอบโห่ร้องยินดี

จากนั้นสีหน้าของพวกเขาต่างเย็นชาขึ้นมา สายตาที่มองไปยังหลินสวินไม่ปิดบังไอสังหารเข้มข้นใดๆ

“หลินสวิน ตอนนี้เจ้ายังมีลูกไม้อะไรจะสำแดงอีกไหม”

เถาเจี้ยนสิงยิ้มเหี้ยม

“ไม่รู้จักหลาบจำหรือ”

หลินสวินชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง ทำเอาเถาเจี้ยนสิงสงสัยขึ้นมา หรือว่า… เจ้าหมอนี่ยังมีอะไรซ่อนไว้อยู่อีก

ครู่ต่องมาหลินสวินก็ยิ้ม “ตกใจหรือ วางใจเถอะ ข้าคนแซ่หลินไม่ได้เลวทรามต่ำช้าอย่างพวกเจ้า”

“เจ้า…”

เถาเจี้ยนสิงอับอายจนโกรธ รู้ว่าถูกหลินสวินหยอกล้อ จึงออกจะไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

ไกลออกไปที่ทางขึ้นเขาด้านล่าง ผู้ฝึกปราณที่ตามมามากมายได้เห็นภาพที่เกิดขึ้นบนยอดเขาแต่ละภาพ จวบจนตอนนี้จิตใจยังไหวหวั่นอย่างห้ามไม่ได้

หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่น หากเผชิญหน้ากับขุมอำนาจยิ่งใหญ่เช่นนี้ เกรงว่าคงหมดอาลัยตายอยาก ทิ้งอาวุธยอมแพ้ไปแล้ว

แต่หลินสวินเผชิญหน้ากับเหล่าศัตรูเพียงลำพัง ยังมีท่าทางโอหังเยือกเย็นประหนึ่งเทพเทวา ทำให้คนไหวหวั่นนัก!

เพียงแต่สถานการณ์ตรงหน้าชัดแจ้งแล้ว

ผู้ชมการต่อสู้เหล่านี้ต่างวิตกกังวลแทนหลินสวิน หรือเขาจะไปห้ำหั่นกับศัตรูรอบทิศด้วยตัวคนเดียวจริงๆ

นี่น่าเหลือเชื่อนัก!

“หลินสวิน เจ้าฆ่าเยี่ยนฉุนจวินผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลของข้า ความแค้นนี้วันนี้จะต้องสะสาง!”

กู่ฉางซินเก็บกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว ตวาดออกมา

สถานการณ์ก่อนหน้านี้ แม้ถูกหลินสวินควบคุม แต่ทางพวกเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร

แต่ตอนนี้ต่างออกไปแล้ว ที่ยอดเขาพญามังกรแห่งนี้หลินสวินยืนอยู่ลำพัง เป็นโอกาสงามที่สุดที่จะฆ่าเขา!

เถาหยวนสิงก็เอ่ยปากเย็นชา “ถ้าเจ้ายอมทิ้งป้ายคำสั่งเซียนเหิน คุกเข่าขอรับผิดเอง ข้าจะออกหน้าชี้แนะทางรอดให้เจ้า”

“หึ! ทางรอดหรือ อย่าได้คิด วันนี้เจ้าหมอนี่ต้องตาย!”

คุนจิ่วหลินสีหน้าอึมครึม

คนอื่นก็พากันเอ่ยปากต่อเนื่อง ล้วนไอสังหารพลุ่งพล่าน มองหลินสวินเป็นเนื้อปลาบนเขียง บ้างคิดถึงป้ายคำสั่งเซียนเหิน บ้างต้องการเอาชีวิตเขา

และยังมีคนที่จับจ้องสมบัติที่อยู่กับตัวเขา เพราะต่างรู้ดีว่าตอนเขาอยู่แถวภูเขากลับหัวที่แดนหลอมสมบัติ เคยเรียกเจดีย์สมบัติและขวดหยกที่ลึกลับสุดหยั่งออกมา พลานุภาพมหาศาลหาใดเทียบ รับการโจมตีพร้อมกันของผู้แข็งแกร่งหลายคนได้

พอเห็นภาพนี้เข้า ผู้ที่ดูการต่อสู้อยู่ไกลออกไปต่างตระหนกใจ หลินสวินอันตรายแล้ว!

“พูดจบแล้วหรือ”

จู่ๆ หลินสวินก็เอ่ยปาก รอยยิ้มดูถูกปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา “ข้ามาคราวนี้มีความต้องการเพียงอย่างเดียว พวกเจ้า… ต้องตายทั้งหมด!”

เมื่อคำพูดนี้ดังออกมา ทั้งที่นั้นก็เงียบเชียบลง

ทุกคนต่างแสดงสีหน้าเหลือเชื่ออย่างกับมองดูคนบ้าคนหนึ่งอยู่!

“ฮ่าๆๆ ชัดเจนนักว่าเจ้าหมอนี่ยังไม่รับรู้สถานการณ์ของตัวเอง ถึงกล้าคุยโวเช่นนี้!”

กู่ฉางซินหัวเราะร่า

ทั้งกายเขามีเจตกระบี่สีดำเป็นริ้วๆ ว่ายวน ดุดันทะลวงเมฆา ประหนึ่งเทพดุร้ายแห่งบรรพกาล

“ลงมือ!”

ในขณะเดียวกันเถาเจี้ยนสิงก็ตะคอกออกมา

ตูม!

ยอดเขาพญามังกรแห่งนี้พลันมีแสงเทพถั่งโถม แปลงเป็นสัญลักษณ์ปริศนาแน่นขนัด ถักทอกันไปทั่วห้วงอากาศ วิวัฒน์เป็นค่ายกลใหญ่บดบังฟ้าดินทั้งแถบ

พอสร้างกระบวนค่ายกลนี้เสร็จ พายุอัสนีซัดสาด แปดทิศเปลี่ยนสี มีเสียงเทพมารคำราม อริยะเมธีท่องมนต์ดังขึ้น มีกฎเกณฑ์มหามรรคแปลงเป็นภาพกลียุค ถาโถมปกคลุม

ค่ายกลกลียุคสังหารมาร!

กระบวนค่ายกลอริยะโบราณที่สืบทอดมาในเรือนมรรคจักรวาล ลือกันว่าในอดีตกาลเคยมีบุคคลระดับจักรพรรดิอนุมานกระบวนค่ายกลนี้ด้วยตัวเอง พลังสังหารตะลึงโลก

นี่ก็คือไพ่ตายที่พวกกู่ฉางซินตั้งใจวางไว้อย่างดี

ชั่วพริบตาเดียวเงาร่างของหลินสวินก็ถูกกลบมิดอยู่ภายใน มองไม่เห็นอีก

ตรงทางขึ้นเขา ผู้ที่ดูการต่อสู้ต่างสีหน้าตกตะลึง กระบวนค่ายกลนี้ปรากฏขึ้นฉับพลัน ก่อนหน้านี้สังเกตร่องรอยไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

และกลิ่นอายที่กระบวนค่ายกลนี้แผ่ออกมาก็น่ากลัวยิ่ง ทำเอามกุฎมหาอริยะไม่น้อยต่างอกสั่นขวัญแขวน ขนลุกเกรียว

‘หลินสวินชะล่าใจไปแล้ว นี่เดิมทีก็เป็นการวางกับดักสังหาร เห็นได้ชัดว่าพวกกู่ฉางซินเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้วเพื่อสังหารเขา…’

หลายคนลอบถอนใจในใจ

ส่วนพวกกู่ฉางซินต่างเผยสีหน้าเย็นชาเหี้ยมเกรียม เจ้าโง่คนหนึ่ง ยังใจกล้ามารนหาที่ตายคนเดียว คิดว่าหลายวันนี้พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวจริงหรือ

“โคจรค่ายกล สังหารเจ้านี่ซะ!”

กู่ฉางซินออกคำสั่ง ไม่ร่ำไรสักนิด

ตั้งแต่เริ่มจนจบพวกเขาก็ไม่ได้ดูเบาหลินสวินสักนิด และเพราะมองหลินสวินเป็นบุคคลอันตราย พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะร่วมมือกัน ทั้งไม่ลังเลที่จะทุ่มเทกำลังและจิตใจ วางกระบวนค่ายกลกลียุคสังหารมารที่มีพลังสังหารสะท้านฟ้าเช่นนี้

เป้าหมายก็เพื่อมอบการโจมตีถึงแก่ชีวิตให้หลินสวิน

และตอนนี้ ก็ถึงเวลาเก็บแหฆ่าศัตรู!

ลมเมฆในที่นั้นแปรเปลี่ยนรุนแรง มีเพียงอาหูซึ่งซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนที่ดูการต่อสู้เท่านั้นที่มุมปากยกยิ้มนึกสนุก

ปฐมาจารย์สลักลายมรรคคนหนึ่ง ที่ด้วยพลังของตนคนเดียวก็สามารถสร้างเมืองอารักษ์มรรคที่ไม่เสื่อมสลายชั่วกาลได้ ถ้าถูกกระบวนค่ายกลใหญ่เช่นนี้กักขังสังหาร…

นั่นจึงจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ในใต้หล้า!

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset