เขาพยับคราม หลี่เสวียนเวย ขวดมหามรรคไร้ขอบเขต ระฆังมหามรรคไร้กฎ…
ยามนี้หลินสวินเพิ่งจะพบว่า วาสนาที่ตนได้มาจากเทศกาลโคมกถามรรคในปีนั้น ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ด้วยหลี่เสวียนเวยเดิมก็เป็นผู้สืบทอดของคีรีดวงกมล ขวดมหามรรคไร้ขอบเขตที่เขาเหลือทิ้งไว้ เดิมทีก็เป็นสิ่งที่เหลือไว้ให้ ‘ศิษย์น้อง’ อย่างตน!
และขวดมหามรรคไร้ขอบเขตก็เป็นศาสตราจักรพรรดิชิ้นหนึ่งที่เกิดจากแหล่งสถานคุนหลุน เป็นสิ่งที่ศิษย์พี่หลี่เสวียนเวยนำออกจากแหล่งสถานคุนหลุนไปในปีนั้น
‘นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไหร่’
หลินสวินเอ่ยถามในใจ
‘นานมากแล้ว ราวแสนปีก่อนกระมัง ข้าก็ไม่แน่ใจ’
เจตจำนงของระฆังมหามรรคไร้กฎกล่าว
‘ที่แท้ก็นานขนาดนี้แล้ว…’
หลินสวินมึนงงอยู่บ้าง
ไม่นานเขาก็พลันตระหนักบางอย่างขึ้นได้ ‘ข้าจำได้ว่าในเหล่าศาสตราจักรพรรดิเก้าชิ้นที่เกิดจากเตามารดาหลอมสมบัตินั้น ไม่มีระฆังมรรค เจ้าเป็นใครกันแน่’
เสียงนั้นดังขึ้นในใจของหลินสวิน ‘ข้าคือระฆังมหามรรคไร้กฎ ก่อนที่เก้าศาสตราจักรพรรดิจะเกิด ข้าก็คงอยู่ในแหล่งสถานคุนหลุนแล้ว สหายน้อยเจ้ารู้จัก ‘แดนสามผนึก’ ไหม’
หลินสวินพยักหน้า ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินอาหูเล่าให้ฟังแล้ว
‘เตามารดาหลอมสมบัติเกิดจาก ‘แท่นสักการะ’ หนึ่งในแดนสามผนึก ส่วนข้าเกิดจาก ‘ผาสยบมรรค’ หนึ่งในแดนสามผนึก’
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ‘และดินแดนที่เจ้ายืนอยู่ตอนนี้ เดิมทีก็ซ่อนขวดมหามรรคไร้ขอบเขตไว้ ปีนั้นหลี่เสวียนเวยก็นำสมบัตินี้ไปจากที่นี่’
คราวนี้หลินสวินถึงได้เข้าใจ แต่ไม่ทันไรก็มุ่นคิ้ว ‘ไม่ใช่ว่าระฆังมหามรรคไร้กฎหลอมขึ้นมาจากเลือดหัวใจทั้งชีวิตของอริยบุคคลมากมายหรือ ทำไมถึงพูดว่ามันกำเนิดจากผาสยบมรรคเล่า’
เขาเคยได้ยินอาหูบอกว่า ผาสยบมรรคเป็นหนึ่งในแดนสามผนึกของแหล่งสถานคุนหลุน ที่นั่นกำราบพลังต้นกำเนิดของหมื่นมรรคทั่วหล้าไว้!
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ‘ไม่ผิด อริยบุคคลพวกนั้นเคยมาที่แหล่งสถานคุนหลุนนี้ พวกเขาเป็นอริยบุคคลกลุ่มแรกในช่วงต้นดึกดำบรรพ์ เคยเข้าไปในผาสยบมรรคพร้อมกัน ด้วยปรารถนาจะยืมพลังต้นกำเนิดของหมื่นมรรคทั่วหล้ามาหลอมศาสตราอริยะดึกดำบรรพ์ชิ้นแรก’
‘แต่พวกเขาประเมินความอันตรายของผาสยบมรรคต่ำไป ถึงตอนท้ายพวกเขาจึงต้องสละชีวิตของตัวเองด้วยเหตุนี้ แต่แม้ว่าพวกเขาจะตายจาก สุดท้ายก็ยังทำได้สำเร็จ’
‘ผ่านการหล่อเลี้ยงจากพลังต้นกำเนิดของหมื่นมรรคทั่วหล้าในกาลเวลาไร้สิ้นสุด ระฆังมหามรรคไร้กฎร่างต้นของข้าจึงถือกำเนิดขึ้น’
เมื่อฟังจบหลินสวินถึงได้รู้ว่า ที่แท้ความจริงก็เป็นเช่นนี้!
ระฆังมหามรรคไร้กฎเป็นก้อนผลึกที่อริยบุคคลมากมายใช้เลือดหัวใจหลอมออกมาจริงๆ แต่ก็เป็นเพราะสมบัตินี้ อริยบุคคลมากมายจึงต้องสละชีวิตของตนเอง!
หลินสวินอดใคร่รู้ไม่ได้ ‘ศาสตราจักรพรรดิเก้าชิ้นนั้น นอกจากขวดมหามรรคไร้ขอบเขตแล้ว แปดชิ้นอื่นมีชื่อว่าอะไรหรือ’
เสียงนั้นกล่าวตอบ ‘ศาสตราจักรพรรดิแปดชิ้นอื่น ล้วนขึ้นต้นด้วยคำว่ามหามรรค แบ่งเป็น ‘ประทับไร้ชีพ’ ‘กระบี่ไร้รูป’ ‘จานไร้ตัวตน’ ‘ธงไร้ระเบียบ’ ‘ทวนไร้สวรรค์’ ‘ดาบไร้วิชา’ ‘เกราะไร้บกพร่อง’ ‘โคมไร้มลทิน’ ’
เมื่อได้ยินคำว่า ‘โคมไร้มลทิน’ ในใจหลินสวินพลันกระตุก โคมมหามรรคไร้มลทินหรือ
ปีนั้นที่เขตต้องห้ามแม่น้ำนรกในแดนมกุฎ หลินสวินเคยข้ามทะเลโลหิตผืนหนึ่ง มีฝีพายโครงกระดูกตนหนึ่งมอบโคมมหามรรคไร้มลทินดวงหนึ่งให้
โคมนี้เป็นสีสำริดธรรมดา มีแสงสลัวดั่งภาพมายาลอยล่อง สามารถชี้นำวิญญาณของผู้แข็งแกร่งที่หลงทางอยู่ในใต้หล้ากลับสู่ทางเดิมได้!
ปีนั้นในป่าต้นหม่อน หลินสวินก็อาศัยโคมนี้จนได้ผู้ติดตามเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่น่ากลัวมากมาย กระทั่งต่อมาชายหนุ่มจักจั่นทองได้ใช้โคมนี้นำทางกลับบ้านให้สัตว์ประหลาดเฒ่าที่น่ากลัวพวกนี้ทีละคน ทำให้พวกเขาได้รับการปลดปล่อยทั้งหมด
ก่อนที่สัตว์ประหลาดเฒ่าน่ากลัวพวกนี้จะจากไป ยังมอบของตอบแทนให้หลินสวินคนละชิ้น
อย่างเช่นผู้อาวุโสคนหนึ่งที่มาจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ เป็นเพื่อนสนิทกับมหาจักรพรรดิหมื่นเคราะห์ ก่อนจากไปได้มอบป้ายคำสั่งอักษร ‘อวี่’ ป้ายหนึ่งแก่หลินสวิน
หรืออย่างหงส์เซียนกระดูกขาวตัวหนึ่ง ก่อนจากไปได้มอบ ‘ขนปีก’ หนึ่งแก่หลินสวิน
นอกจากนี้ยังมี ‘ฝักกระบี่สีเขียวเจ็ดชุ่น’ ที่ ‘ยักษ์กระดูกขาว’ ตนหนึ่งจากเผ่ามหัตหลวงซึ่งพาดกระบี่หักมอบให้
มี ‘ใบไม้เพลิง’ ที่ ‘ต้นไม้ใหญ่แห้งเกรียม’ ซึ่งร่างเดิมเป็นต้นมรรคหมื่นเพลิงมอบให้
มี ‘กระพรวนหยกเขียว’ ที่ ‘จิ้งจอกกระดูกขาว’ ซึ่งร่างเดิมเป็นเผ่าจิ้งจอกเทพเก้าทวารมอบให้
มี ‘เขี้ยว’ ที่ ‘พญางูกระดูกขาว’ ซึ่งร่างเดิมเป็นเผ่างูสวรรค์ปีกนิลมอบให้
มี ‘กระดองเต่าสีขาว’ ที่ ‘ตะพาบกระดูกขาว’ ซึ่งร่างเดิมเป็นเผ่าตะพาบมังกรมหามายามอบให้!
ของตอบแทนพวกนี้ จนถึงปัจจุบันยังเก็บรักษาไว้ในมือของหลินสวิน
ว่ากันตามจริง สาเหตุที่มีวาสนาเช่นนี้ ล้วนเป็นเพราะโคมมหามรรคไร้มลทินดวงนั้น
แต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึงเลยว่า โคมมหามรรคไร้มลทินจะเป็นหนึ่งในเก้าศาสตราจักรพรรดิของโบราณสถานคุนหลุน!
เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้ เสียงนั้นก็พลันกล่าว ‘ไม่ผิด โคมมหามรรคไร้มลทินเป็นหนึ่งในเก้าศาสตราจักรพรรดิ’
เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจน หลินสวินก็มีความรู้สึกเหมือนถูกบางสิ่งลิขิตไว้อย่างยากควบคุมทันที
ขวดมหามรรคไร้ขอบเขตและโคมมหามรรคไร้มลทินในมือตน ล้วนเป็นหนึ่งในเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุน ใครเล่าจะคาดคิด
‘สหายน้อย ภายหน้าเมื่อเจ้าออกจากแหล่งสถานคุนหลุนไป หากได้เจอผู้แข็งแกร่งคนอื่นที่ถือครอง ‘เก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุน’ ย่อมเกิดสัมผัสที่แปลกประหลาด’
เสียงนั้นกล่าวเตือน ‘เช่นเดียวกัน เจ้าก็จะถูกอีกฝ่ายสัมผัสได้ตั้งแต่พริบตาแรกทันที จะเป็นโชคหรือภัยก็ไม่อาจแน่ใจได้แล้ว’
หลินสวินผงะในใจวูบหนึ่ง
ยามนี้ในมือเขามีสมบัติที่จัดอยู่ใน ‘เก้าศาสตราจักรพรรดิ’ สองชิ้น เมื่อถูกผู้แข็งแกร่งคนอื่นที่มีสมบัติจากเก้าศาสตราจักรพรรดิพบเข้า จะเป็นโชคหรือภัยก็ยากคาดเดาได้จริงๆ!
‘สหายน้อย พลังของข้ากำลังหายไปอย่างรวดเร็ว เวลาเหลือไม่มาก ข้าแค่อยากบอกเจ้าว่าในเก้าศาสตราจักรพรรดิ มีเพียงขวดมหามรรคไร้ขอบเขตที่แบกรับ ‘พลังแห่งสรรพชีวิต’ ของที่นี่ได้’
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ‘พลังแห่งสรรพชีวิตพวกนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่อริยบุคคลพวกนั้นสั่งสมผ่านกาลเวลาไร้สิ้นสุดมาในตอนนั้น หวังว่าเจ้าจะสืบทอดต่อไป รักษาก้อนผลึกเลือดหัวใจที่อริยบุคคลพวกนั้นเหลือไว้ด้วย’
‘สักวันหนึ่งเจ้าก็จะสามารถอาศัยพลังแห่งสรรพชีวิตนี้อุทิศตนเป็นอริยบุคคล ถึงขั้นใช้พลังนี้ไปควบคุมร่างต้นของข้าได้…’
ถึงตอนนี้เสียงพลันหยุดลง หายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
จากนั้น…
ตูม!
ภาพหมื่นวิญญาณเซ่นไหว้บนกำแพงพลันส่องประกาย กลายเป็นกระแสน้ำหลากทรงพลานุภาพดั่งทะเลหมอกพุ่งทะยานออกมา
สิ่งเหล่านี้ก็คือแรงปรารถนาของสรรพชีวิต!
คือศุภโชคชั้นยอดที่ก่อนหน้านี้ลู่เสวียนจีพยายามทำทุกวิถีทางก็ไม่อาจได้มาครอง!
หลินสวินนึกถึงคำพูดที่เจตจำนงของระฆังมหามรรคไร้กฎบอกไว้ เขาแทบจะหยิบขวดมหามรรคไร้ขอบเขตออกมาโดยพลัน
วู้ม…
ขวดมหามรรคไร้ขอบเขตเกิดคลื่นประหลาด แรงปรารถนาของสรรพชีวิตที่ยิ่งใหญ่ไพศาลนั้นเปลี่ยนเป็นกระแสน้ำหลาก ไหลเข้าไปในขวดอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
เหมือนน้ำตกที่ส่องประกายกว้างใหญ่ไพศาลสายหนึ่งไหลหลั่งลงไปในขวด!
กระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่ แรงปรารถนาของสรรพชีวิตพวกนี้จึงถูกดูดไปจนเกลี้ยง
และภาพหมื่นวิญญาณเซ่นไหว้บนกำแพงหินนั้นก็หายไปอย่างสมบูรณ์
หลินสวินชั่งน้ำหนักของขวดมหามรรคไร้ขอบเขตในมือ ไม่พบว่ามีอะไรผิดแปลก แต่เมื่อแผ่จิตรับรู้เข้าไปในนั้น กลับสังเกตเห็นกลิ่นอายแห่งแรงปรารถนาของสรรพชีวิตที่หนักแน่นเกรียงไกรอบอวลอยู่ภายใน
ฮู่ว…
หลินสวินสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ หลายรอบ พยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง
เขากำลังจัดการกับความคิดเงียบๆ
ภาพหมื่นวิญญาณเซ่นไหว้กลับทำให้เขารู้ความลับมากมายอย่างคาดไม่ถึง
เรื่องแรกคือความเป็นมาของเตามารดาหลอมสมบัติ ระฆังมหามรรคไร้กฎ ฝ่ายแรกถือกำเนิดจากแท่นสักการะ หนึ่งในแดนสามผนึก ฝ่ายหลังเกิดจากผาสยบมรรคหนึ่งในแดนสามผนึกเช่นกัน
เรื่องที่สองคือความลับของเก้าศาสตราจักรพรรดิที่รวมถึงขวดมหามรรคไร้ขอบเขต โคมมหามรรคไร้มลทิน พวกมันล้วนเกิดจากเตามารดาหลอมสมบัติ
เรื่องที่สามคือเรื่องในอดีตบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับศิษย์พี่หลี่เสวียนเวยแห่งคีรีดวงกมล เช่นวาสนาของเทศกาลโคมกถามรรคบนเขาพยับคราม
เรื่องที่สี่เกี่ยวข้องกับพลังแห่งสรรพชีวิต เกี่ยวข้องถึงความแตกต่างของอริยะและอริยบุคคล!
สรุปคือ… เรื่องพวกนี้ทำให้หลินสวินเข้าใจเรื่องราวบางส่วนได้อย่างสมบูรณ์ และตระหนักถึงเรื่องในอดีตบางอย่าง ทั้งยังได้รับ ‘พลังแห่งสรรพชีวิต’ ด้วย พูดได้ว่าได้ประโยชน์มหาศาล
ขณะเดียวกันข้อสงสัยบางอย่างก็ผุดขึ้นในใจของหลินสวิน
ในแดนลับป่าท้อ วาสนาของต้นท้อแบนเกี่ยวข้องกับ ‘ศิษย์พี่’ ที่แข็งกร้าวทะลุเมฆคนนั้น
ในเขาพญามังกรหนึ่งในแดนเก้าลับนี้ ขวดมหามรรคไร้ขอบเขตก็เกี่ยวข้องกับศิษย์พี่หลี่เสวียนเวยที่เป็นผู้สืบทอดของคีรีดวงกมลเช่นกัน
ก่อนที่จะมาแหล่งสถานคุนหลุน อาหูก็เคยมอบ ‘ไหมแส้หางม้า’ แก่เขา ของสิ่งนี้ก็เกี่ยวข้องกับศุภโชคอย่างหนึ่งของสำนักคีรีดวงกมลด้วย!
หลินสวินไม่มีวันลืมว่าในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดของเขา ยังมีมรรคคาถาบทหนึ่งที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลเหลือไว้ ประโยคแรกก็คือ
‘ยาตรานภสินธุ์ ย่ำแดนดินคุนหลุนผา!’
เมื่อเชื่อมรายละเอียดเข้าด้วยกันก็ทำให้หลินสวินอดแคลงใจไม่ได้ ในแหล่งสถานคุนหลุนนี้ ซ่อนความลับที่เกี่ยวข้องกับสำนักคีรีดวงกมลไว้เท่าไหร่กันแน่
…
“พี่หลิน!”
เสียงหนึ่งปลุกหลินสวินให้ตื่นจากห้วงความคิดทันใด
เขาเงยหน้ามองออกไป ก็เห็นพวกหมีเหิงเจิน เย่หมัวเฮอ ชื่อหลิงเซียวถูกปลดโซ่บนตัว ได้สติกลับมาแล้ว
บนหน้าทุกคนล้วนเจือความยินดีและซาบซึ้งใจที่รอดพ้นเคราะห์ร้าย
เห็นชัดว่าอาหูบอกข่าวที่หลินสวินมาช่วยพวกเขาให้ฟังแล้ว
“ทุกท่าน ไม่เจอกันนานเลย”
หลินสวินยิ้มเดินเข้าไปหา
การได้เจอสหายคือเรื่องน่ายินดีที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย
หลินสวินปล่อยตัวราชันเผิงปีกทองน้อยและหยวนฝ่าเทียนที่ช่วยไว้ก่อนหน้านี้ออกมา เมื่อทุกคนรวมตัวก็พากันทอดถอนใจและรำพึง
สุดท้ายหลินสวินก็ตัดสินใจให้พวกหมีเหิงเจินพักฟื้นอยู่ที่นี่ชั่วคราว พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หากจากไปตอนนี้มีแต่จะเจออันตรายมากขึ้น
และอาณาเขตหนึ่งในแดนเก้าลับนี้ก็มีแค่คนที่ครองป้ายคำสั่งเซียนเหินที่เข้ามาได้ นี่เป็นการตัดโอกาสที่คนอื่นจะบุกเข้ามาที่นี่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ปลอดภัยอย่างยิ่ง
ทุกคนย่อมไม่คัดค้านเป็นธรรมดา
คิดไปคิดมาหลินสวินก็ให้พวกเสี่ยวอิ๋น เสี่ยวเทียน เจ้าคางคก อาหลู่ เจ้านกดำอยู่ที่นี่ด้วย กำชับพวกเขาว่าให้เริ่มเตรียมตัวทะลวงปราณระดับมหามกุฎอริยะ
พวกเสี่ยวอิ๋นต่างได้รับท้อแบนคนละลูก อาศัยความอัศจรรย์ของท้อแบน สามารถช่วยประคองเส้นทางทะลวงปราณของพวกเขาได้
ตอนนี้หลินสวินรู้สึกผ่อนคลายลงไม่น้อย
แหล่งสถานคุนหลุนนี้มีอันตรายรอบด้าน ทำให้เขาอดเป็นห่วงไม่ได้ ในหนทางต่อจากนี้ หากพาพวกเสี่ยวอิ๋นออกเคลื่อนไหวพร้อมกัน ถ้าตนประสบเคราะห์จะต้องกระเทือนถึงพวกเสี่ยวอิ๋นแน่
ทั้งพวกเสี่ยวอิ๋นก็ถึงเวลาที่ควรทะลวงปราณแล้ว ไม่ควรมีสิ่งใดมารบกวน ให้พวกเขาฝึกปราณอยู่ที่นี่น่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
เมื่อเตรียมเรื่องพวกนี้เสร็จหลินสวินก็ตัดสินใจจากไป ในใจเขามีข้อสงสัยมากมาย อยากจะสำรวจแหล่งสถานคุนหลุนเข้าไปอีกขั้น!
…………………………