Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1742 ยอดเขากักเทพสวรรค์

ศพคลั่งฝังวิญญาณนับร้อยพันทยอยแตกซ่าน กลายเป็นควันดำเข้าปกคลุมฟ้าดิน

โคมมหามรรคไร้มลทินลอยเด่น ไส้ตะเกียงพลิ้วไหว เงาโคมเหลืองสลัวพร่างพร้อย ส่องแสงสว่างขับไล่ศัตรูทั้งมวล!

เงาร่างหลินสวินอาบไล้ด้วยเงาตะเกียงเหลืองสลัว เสริมกลิ่นอายที่ดูลึกลับอยู่รางๆ

พวกเมิ่งอี้ต่างอึ้งงันอย่างสมบูรณ์

นับแต่โบราณมา ผู้แข็งแกร่งที่มาแดนผนึกแท่นสักการะไม่รู้เท่าไหร่ ได้แต่หยุดอยู่หน้าต้นมรณะฝังวิญญาณ

อันที่จริงก่อนหน้านี้พวกจีเฉียนและเจียงเหิงเองยังรู้สึกสิ้นหวัง จิตใจดับสิ้นดั่งเถ้าธุลี

แต่ใครจะคิดว่าหลินสวินที่เดิมถูกพวกเขามองข้าม จะใช้โคมสำริดดวงหนึ่งคลี่คลายหายนะแห่งการทำลายล้างนี้!

โดยเฉพาะตอนที่เห็นซากศพมากมายที่สามารถฆ่าบุคคลระดับอริยะได้อย่างง่ายดาย สลายกลายเป็นธุลีราวกับวัชพืช พวกเขาก็ถูกทำให้ตกตะลึงแล้ว

ซ่า…

ควันดำม้วนซัด ไอมรณะทบเป็นชั้นๆ ปกฟ้าคลุมตะวัน ในที่นั้นไม่มีศพคลั่งฝังวิญญาณพุ่งเข้ามาอีกแล้ว

เมื่อกวาดสายตามองไปโดยรอบ ก็เต็มไปด้วยสีดำไร้ขอบเขต

หลินสวินและอาหูเก็บป้ายคำสั่งเซียนเหินลงไปพร้อมกัน

เกือบจะเวลาเดียวกัน ควันดำไอมรณะที่ปกคลุมฟ้าดินนั้น ถาโถมเข้าไปในโคมมหามรรคไร้มลทินราวเขื่อนแตก

มองจากไกลๆ เหมือนวาฬยักษ์กลืนวารี!

หลินสวินยังอดผิดคาดไม่ได้ ไม่นานก็สังเกตเห็นว่าไอมรณะที่เข้มข้นหาใดเปรียบพวกนี้ ถึงกับกลายเป็นน้ำมันตะเกียงสีดำสนิทแทรกเข้าไปในโคมไร้มลทินทีละน้อย

สมบัติเก่าแก่ที่อัศจรรย์เกินคาดเดาซึ่งเป็นหนึ่งใน ‘เก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุน’ ดวงนี้ ยามนี้ได้แผ่กลิ่นอายมหัศจรรย์อย่างบอกไม่ถูกออกมา

ก็เหมือนมีพลังเจตะไร้รูปสายหนึ่งแผ่ออกมา!

กระทั่งไอมรณะที่ปกคลุมทั่วพื้นที่แถบนั้นถูกรวบรวมมาจนหมด ในโคมมหามรรคไร้มลทินจึงปรากฏน้ำมันตะเกียงดำสนิทที่หนาราวข้อนิ้วชั้นหนึ่ง

เมื่อมองไปอีกครั้งก็ไม่เห็นร่องรอยของ ‘ต้นมรณะฝังวิญญาณ’ ต้นนั้นแล้ว มีเพียงจันทร์เพ็ญสีเลือดเก้าดวงบนเวิ้งฟ้าสาดแสงโลหิตมืดสลัวลงมา

พวกจีเฉียน เจียงเหิงต่างถอนหายใจยาวเหมือนรอดจากความตาย สีหน้าดูดีใจและตื่นเต้นอย่างยากปกปิด

เมิ่งอี้ก็ทำหน้าไม่ถูก เหมือนทอดถอนใจ คล้ายตกตะลึง ทั้งเหมือนยกภูเขาออกจากอก

อาหูเม้มปากอมยิ้ม นัยน์ตาคู่งามใสกระจ่างดั่งวารี

หลินสวินกลับเหมือนไม่รับรู้ทุกอย่างนี้ ยืนนิ่งอยู่จุดเดิม

เมื่อโคมมหามรรคไร้มลทินดูดน้ำมันตะเกียงสีดำได้ชั้นหนึ่ง ในสมองของเขาก็เกิดการหยั่งรู้มรดกอย่างเงียบเชียบ ราวกับสัทครรลองมหามรรคดังก้องอยู่ในใจ

‘ไร้มลทินเป็นสื่อนำ แสงโคมส่องสว่างนิรันดร์ กลับไปถิ่นที่มาเถิด วิญญาณข้ามพ้นการหลงทาง…’

สุดท้ายการหยั่งรู้พวกนี้ก็กลายเป็นอักษรปริศนาบทหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘พาวิญญาณกลับ’ ประทับอยู่ในใจของหลินสวิน เมื่อลองสัมผัสดูเล็กน้อย นี่ถึงกับเป็นวิชาอย่างหนึ่งที่มีไว้ควบคุมโคมมหามรรคไร้มลทิน!

นี่ทำให้หลินสวินรู้สึกผิดคาด คิดไม่ถึงเลยว่าด้วยวาสนาบังเอิญจะทำให้ตนได้เคล็ดวิชาควบคุมโคมไร้มลทินมา

“พี่หลิน ครั้งนี้โชคดีเหลือเกินที่มีเจ้า”

จีเฉียนเผยสีหน้าละอายใจ “ข้าขอโทษสำหรับการกระทำที่มองเจ้าเป็นศัตรูก่อนหน้านี้ด้วย และจากนี้ไปจะชดเชยให้พี่หลินแน่”

เจียงเหิงที่อยู่ข้างๆ ก็พยักหน้า

ครั้งนี้หากหลินสวินไม่ลงมือ เกรงว่าพวกเขาคงประสบเคราะห์ตายไปแล้ว บุญคุณใหญ่หลวงที่ช่วยชีวิตนี้ พวกเขาจะไม่รับไว้ได้อย่างไร

“เรื่องชดเชยไม่จำเป็นแล้ว ถือว่าไม่ต่อยตีไม่รู้จักเถอะ”

หลินสวินพูดง่ายๆ

เมิ่งอี้ยิ้มกล่าว “ครั้งนี้พวกเราล้วนติดหนี้น้ำใจของพี่หลินอย่างใหญ่หลวง เอาอย่างนี้ รอเมื่อเข้าไปในแท่นสักการะแล้ว หากชิงวาสนาและศุภโชคอะไรได้จะให้พี่หลินเป็นคนแรก”

จีเฉียนและเจียงเหิงพยักหน้ารับปากพร้อมกัน

หลินสวินไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

พวกเขาหยุดพักกันครู่หนึ่งก็เดินทางต่อ

บนทุ่งรกร้างจันทร์โลหิตอ้างว้างและเปล่าเปลี่ยว ฟ้าดินไร้ขอบเขต ความมืดเข้ากดดัน ก้าวเดินอยู่ในนั้นก็เหมือนเดินอยู่กลางนรกที่มืดมน พาให้ผู้คนอึดอัดใจ

ตลอดทางนี้ไม่สันติ ถึงขั้นอันตรายอย่างที่สุด ไอสังหารทบเป็นชั้นๆ

มีกระแสลมเย็นประหลาดที่กลายเป็นพายุหิมะน้ำแข็งโหมกระหน่ำ น้ำแข็งผนึกฟ้าดิน ลมหนาวเสียดกระดูก มีพลังทำลายล้างน่ากลัวต่อจิตวิญญาณของผู้ฝึกปราณ

กระแสลมเย็นนี้ยังถูกมองเป็น ‘ลมเป่าวิญญาณ’ แค่พัดผ่านแผ่วเบาก็ทำให้บุคคลระดับอริยะขวัญหนีดีฝ่อ

มีธุลีทรายสีเงินลอยอยู่บนฟ้า แต่ละเม็ดล้วนละเอียดเป็นประกาย แจ่มจรัสลานตา ดูเหมือนเล็กจ้อย แต่กลับแหวกผ่านอากาศ ซัดสะเก็ดดาวให้แตกได้!

และมีสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ซุ่มซ่อมอยู่กลางอากาศ ลักษณะคล้ายลิงขนดำ แต่กลับหน้าตาน่ากลัว ปากใหญ่มหึมาโดยกำเนิด

สัตว์ร้ายพวกนี้ถูกเรียกว่า ‘ลิงน้ำหน้าผี’ เคลื่อนแหวกห้วงอากาศ ไปมาไร้ร่องรอย ไม่อาจปัดป้องได้

เสียงร้องของมันก็สะเทือนสภาวะจิตของผู้ฝึกปราณจนพังทลายได้เช่นกัน ทำให้มรรควิถีทั้งร่างถูกทำลายด้วยสิ่งนี้ แปลกประหลาดและน่ากลัว

ตลอดทางหากไม่มีป้ายคำสั่งเซียนเหินอยู่ ก็ไม่รู้ว่าพวกหลินสวินจะประสบเคราะห์ไปกี่ครั้ง!

กระทั่งผ่านไปสองสามชั่วยาม

ยอดเขาที่สูงใหญ่เด่นตระหง่านลูกหนึ่งปรากฏอยู่บนเส้นขอบฟ้าอย่างไม่คาดฝัน

บนยอดเขานั้นมีโซ่ดำสนิทหลายสายทิ้งตัวลงมาดั่งพญามังกร มากมายแน่นขนัด พันรอบด้วยแสงโลหิตประหลาดหลายสาย

แค่มองจากไกลๆ พวกหลินสวินก็รู้สึกว่ามีไอเย็นถาโถมเข้าใส่ทันที ขนพองสยองเกล้า ทั้งตัวราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง ความรู้สึกอันตรายรุนแรงแล่นปราดไปทั่วร่าง

“ยอดเขากักเทพสวรรค์!?”

จีเฉียนร้องเสียงหลงออกมาพร้อมกับตัวสั่น คล้ายเห็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดบนโลกด้วยตาตนเอง

เขาจีเฉียนเป็นถึงผู้สืบทอดแท้จริงอันดับหนึ่งของสำนักยุทธ์เสวียนจี ทายาทแกนหลักแห่งเผ่าจักรพรรดิตระกูลจี มกุฎมหาอริยะที่โด่งดังคนหนึ่ง

แต่ตั้งแต่เข้ามาในแดนผนึกแท่นสักการะ ตลอดทางกลับเสียอาการไม่หยุด ถูกทำให้ตกใจไม่ใช่แค่ครั้งเดียว

ไม่ใช่แค่เขา เจียงเหิงก็ไม่ต่างกัน

พวกเมิ่งอี้ หลินสวิน อาหูดีกว่าหน่อย แต่ก็ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าไร ด้วยแดนผนึกนี้น่ากลัวเกินไปจริงๆ

อันตรายและสิ่งลี้ลับมากมายที่คงอยู่ ล้วนสามารถคร่าชีวิตของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย!

เดินทางอยู่ในนั้นก็เหมือนร่ายรำอยู่บนปลายดาบ วนเวียนอยู่บนเส้นความตาย ไม่เพียงวิตกหวาดกลัว ยังต้องรับแรงกดดันในการเอาตัวรอดอย่างมาก

แต่ตลอดทางมานี้จีเฉียนยังไม่เคยหวาดผวาเหมือนครั้งนี้เลยสักครั้ง

“นี่… ยอดเขาในตำนานลูกนี้… มีอยู่จริงหรือ” เจียงเหิงกัดฟันจนเกิดเสียง ใบหน้างามซีดเผือด

ตามตำนาน แดนผนึกแท่นสักการะมียอดเขาประหลาดอยู่ลูกหนึ่ง ราวกับปราการธรรมชาติขวางกั้น มีโซ่เทพที่อัศจรรย์หาใดเปรียบหนึ่งพันแปดร้อยสายทิ้งตัวลงมา โซ่เทพแต่ละสายล้วนมีพลังประหลาดที่พันธนาการเทพ สังหารอริยบุคคลได้

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือในช่วงเวลาที่ผ่านมา ขอแค่เป็นผู้ที่เจอเขาลูกนี้ก็แทบไม่มีใครรอดกลับไป!

ภูเขานี้ก็คือ ‘ยอดเขากักเทพสวรรค์’!

แม้แต่จีเฉียนและเจียงเหิงก็ยังคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะโชคร้ายเช่นนี้ ระหว่างทางถึงกับเจอภูเขาที่ร้ายกาจเช่นนี้ได้!

ชั่วขณะเดียวทั้งสองคนก็เหมือนสูญเสียเรี่ยวแรงไปทั้งตัว สีหน้าซีดเผือด

“จบกัน ครั้งนี้ไม่มีทางรอดแล้ว… ป้ายคำสั่งเซียนเหินล้วนไร้ประโยชน์ ยอดเขากักเทพสวรรค์นั่นก็คือเค้าลางของความตาย ขอแค่เจอมัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต่างถูกลิขิตให้หนีความตายไม่พ้น…”

จีเฉียนสีหน้าเศร้าหมอง พึมพำเสียงหลง

“ตลอดทางมานี้โชคของพวกเราจะแย่เกินไปแล้ว เท่าที่ข้ารู้ ในอดีตที่ผ่านมาผู้แข็งแกร่งที่มายังแดนผนึกแท่นสักการะ ส่วนใหญ่ภายในสามชั่วยามก็ไปถึงหน้าแท่นสักการะได้อย่างปลอดภัยแล้ว”

เจียงเหิงดูไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง “ทั้งอันตรายที่พวกเขาเจอตลอดทางก็ไม่ได้มาบ่อยๆ เหมือนพวกเรา นี่… นี่สวรรค์จงใจแกล้งพวกเราเล่น ให้พวกเราเดินไปหาความตายรึ”

เมิ่งอี้สีหน้าคร่ำเคร่ง

หลินสวินและอาหูสบตากันวูบหนึ่ง สีหน้าล้วนอึมครึมขึ้นมา

เมื่อคิดดูอย่างละเอียด อันตรายและเคราะห์สังหารที่พวกเขาเจอตลอดทางนี้ก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งไปหน่อยจริงๆ

ทันทีที่เข้ามาก็เจอ ‘กระแสน้ำหลากแห่งกาลเวลา’ จากนั้นไม่ทันไรก็เจอ ‘ต้นมรณะฝังวิญญาณ’ ทั้งยังถูกศพคลั่งฝังวิญญาณนับไม่ถ้วนปิดล้อมด้วย

ไม่ง่ายเลยกว่าจะหนีเคราะห์สังหารมาได้ ตลอดทางมานี้ยังทยอยเจอ ‘ลมเป่าวิญญาณ’ ‘ทรายแสงเงิน’ ‘ลิงน้ำหน้าผี’ และภัยพิบัติประหลาดอันโหดร้ายอื่นอีก

เดิมทีนี่ก็ดูผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง ทำให้คนกดดันและใจสั่นระรัว เปลี่ยนเป็นผู้ฝึกปราณทั่วไป เกรงว่าคงพังทลายไปนานแล้ว ไม่อาจยืนหยัดมาได้ถึงตอนนี้แน่

แต่ตอนนี้เป็นอย่างไร ยังมาเจอ ‘ยอดเขากักเทพสวรรค์’ ในตำนานอีก!

‘พี่หลิน เจ้าสังเกตไหมว่าตลอดทางมานี้พวกเรายังไม่เจอผู้ฝึกปราณสักคน ที่เจอทั้งหมดล้วนเป็นเคราะห์สังหารและภัยพิบัตินานัปการ’

อาหูสื่อจิตอย่างรวดเร็ว สีหน้าท่าทางของนางดูแปลกไปอยู่บ้าง ‘นี่ได้แต่พิสูจน์ว่า หากไม่ใช่โชคของพวกเราแย่เกินไปจริงๆ เช่นนั้นเส้นทางที่พวกเราเดินมาก็ผิดแล้ว!’

‘เจ้าสงสัยว่า…’

หลินสวินใจกระตุกเล็กน้อย กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

ตูม!

พลังที่น่ากลัวพุ่งสังหารมาจากด้านหลังของหลินสวินและอาหู

เร็วเกินไปแล้ว!

ด้วยไม่ทันตั้งตัว หลินสวินและอาหูจึงได้แต่หลีกหลบตามสัญชาตญาณ

ท่ามกลางเสียงปะทะอึกทึกสนั่นหู เงาร่างหลินสวินซวนเซ ถอยหลังกลางอากาศไปหลายก้าว แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับถูกกระเทือนจนเสื้อผ้าด้านหลังขาดวิ่น ผิวหนังปวดแสบปวดร้อน

บ่าของอาหูก็ถูกโจมตีโดนถากๆ ส่งเสียงอึดอัดในคอ ใบหน้างามพลันซีดขาว

“เป็นเจ้า!?”

เกือบจะเวลาเดียวกัน หลินสวินและอาหูมองไปทางเมิ่งอี้พร้อมกัน แววตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง คนที่ลอบโจมตีกะทันหันเมื่อครู่ก็คือเมิ่งอี้

หากไม่เป็นเช่นนี้ มีหรือจะทำให้ทั้งสองคนไม่ทันแม้แต่จะตั้งรับ

“ขออภัยที่ตลอดทางมานี้ต้องหลอกท่านทั้งสอง ข้าผู้แซ่เมิ่งปวดใจจริงๆ แต่กลับไม่อาจไม่ทำเช่นนี้”

เมิ่งอี้เอ่ยปาก คำพูดแม้กล่าวเช่นนั้น แต่บนใบหน้างามสุขุมลุ่มลึกของเขากลับไม่มีความรู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย กลับเป็นว่ามีรอยยิ้มที่คล้ายมีคล้ายไม่มี

ยามนี้มือซ้ายของเขาหิ้วจีเฉียน มือขวาคว้าเจียงเหิง ยืนห่างออกไปพันจั้ง

“เพราะอะไร”

อาหูกล่าวเย็นชา

จีเฉียนและเจียงเหิงก็เบิกตากว้าง หน้าตาตื่นตะลึง ล้วนคิดไม่ถึงว่าทำไมถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ในเวลานี้

ทั้งสองคนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับพบว่าพลังถูกพันธนาการ แม้แต่จะส่งเสียงสักแอะก็ยังไม่ได้ นี่ทำให้ทั้งสองคนทั้งตกใจทั้งงุนงง

เมิ่งอี้เขา… คิดจะทำอะไรกันแน่

“เพราะข้าทำการแลกเปลี่ยนกับคนผู้หนึ่งไว้”

เมิ่งอี้ถอนหายใจเบาๆ “การแลกเปลี่ยนนี้ล่อใจข้ามากเกินไป ทำให้ข้าได้แต่ละทิ้งความร่วมมือกับพวกเจ้าสองคน มาจัดการพวกเจ้าอย่างไร้น้ำใจ”

“แต่ดูท่าว่าเจ้าจะทำไม่สำเร็จ”

นัยน์ตาดำของหลินสวินเยียบเย็น ไอสังหารห้อมล้อม

เมิ่งอี้ยิ้มแล้ว น้ำเสียงเจือความเด็ดเดี่ยวอย่างไม่ยอมให้กังขา “ไม่ ครั้งนี้พวกเจ้าต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

สายตาของเขามองไปยังยอดเขากักเทพสวรรค์ที่อยู่ห่างออกไป “เห็นไหม ภายในเวลาไม่กี่นาน โซ่เทพประหลาดบนเขาลูกนี้จะมัดตัวพวกเจ้าสองคนไปขังใต้ภูเขา จากนั้นก็จะกำจัดเลือดเนื้อและจิตวิญญาณของพวกเจ้าไปทีละน้อย กระทั่งพวกเจ้าจิตสิ้นวิญญาณสลาย…”

กล่าวถึงตอนท้ายเขาเหลือบสายตามองไปยังหลินสวินและอาหูอย่างเจือความเวทนา “จะบอกพวกเจ้าให้ ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว ใต้ภูเขาลูกนี้เคยกำจัดบุคคลระดับจักรพรรดิแท้มาก่อน พวกเจ้าคิดว่ายังจะหนีพ้นเคราะห์ร้ายนี้ไปได้ไหม”

……..

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset