Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1790 ทุกคนล้วนชื่นชม

“สำเร็จแล้วหรือ”

หูหมิงงุนงงไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามทันใด “ภารกิจไหนกัน”

คนคุ้มกันรีบพูดว่า “ภารกิจหลอมกระบี่บินของผู้อาวุโสสำนักปราณศิลาเมฆ รางวัลคือผลึกมรรคห้าร้อยก้อนขอรับ”

หูหมิงส่งเสียงอืม

“ฮ่าๆ เจ้าเฒ่า ตอนนี้เจ้ายังมีอะไรจะพูดไหม”

อวี่อวิ๋นเหอร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “เร็วเข้าๆๆ เอาผลึกมรรคห้าร้อยก้อนมา!”

หูหมิงแค่นหัวเราะ “สำเร็จไปแค่ภารกิจเดียวเท่านั้น คุณชายจะดีใจเร็วเกินไปไหม”

ทุกคนที่มุงดูอยู่ใกล้ๆ หัวเราะขึ้น เห็นได้ชัดว่าคิดเช่นกันว่าอวี่อวิ๋นเหอข่มอารมณ์ไม่อยู่ ได้ใจจนลืมตัวไปหน่อย

แต่ครู่ต่อมาก็มีคนคุ้มกันอีกคนพุ่งเข้ามาแล้วร้องว่า “ใต้เท้าหูหมิง สำเร็จแล้วขอรับ คราวนี้ทั้งสามภารกิจสำเร็จหมดเลยขอรับ!”

คนคุ้มกันตื่นเต้นนัก สีหน้าสะท้านสะเทือนไปหมด

“อะไรนะ”

หูหมิงสั่นไปทั้งตัว จิตใจปั่นป่วน

รอยยิ้มของผู้คนที่มุงดูอยู่ใกล้ๆ ก็แข็งค้างขึ้นมา เปลี่ยนเป็นฉงนใจไม่หยุด สำเร็จอีกแล้วหรือ

ควรรู้ว่าในบรรดาภารกิจของห้องภารกิจทั้งหมด ภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการหลอมอาวุธและวางกระบวนค่ายกลเดิมทีก็ยากกว่าภารกิจอื่นอยู่บ้าง

มิเช่นนั้นคนที่ประกาศภารกิจเหล่านี้คงไม่เสนอค่าตอบแทนให้สูงขนาดนั้น

และตอนนี้ หลินสวินที่ทำภารกิจเสร็จได้อย่างรวดเร็วถึงขั้นเรียกได้ว่าสุดยอด ทำสำเร็จไปแล้วสี่ภารกิจ!

นี่สามารถทำให้ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีแล้ว

อวี่อวิ๋นเหอสีหน้าเบิกบาน ท่าทางเหมือนได้รับชัยชนะ เอ่ยว่า “ข้าดีใจเร็วไปไหม ฮ่าๆ เจ้าเฒ่า นี่เป็นเพียงการพิสูจน์ว่าเจ้าไม่รู้ความเกินไปแล้ว”

หูหมิงสีหน้าแข็งทื่อ หัวเราะหยันเอ่ยว่า “อย่าลืมล่ะ จนถึงตอนนี้สหายของท่านทำภารกิจเสร็จไปแล้วหนึ่งร้อยกว่าชิ้น ท่านกล้ารับประกันไหมว่าเขาจะทำสำเร็จทุกชิ้น”

อวี่อวิ๋นเหอหน้าเจื่อน เอ่ยอย่างโมโหว่า “ถ้าสุดท้ายสำเร็จหมดล่ะ”

หูหมิงแสร้งยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านว่าเป็นไปได้ไหมล่ะ”

ล้อเล่นอะไรกัน!

ภารกิจหนึ่งร้อยกว่าชิ้น ต่อให้ปฐมาจารย์สลักลายมรรคมายังไม่กล้ารับรองเลยว่าจะไม่พลาดสักครั้ง!

ด้วยมีฐานะเป็นผู้รับผิดชอบห้องภารกิจ หลายปีมานี้หูหมิงมีโอกาสได้พบปฐมาจารย์สลักลายมรรคหลายคน แต่ตอนพวกเขาทำภารกิจก็มีข้อผิดพลาดอยู่บ้างอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ไปเสียทุกคน

หูหมิงไม่เชื่อว่าหลินสวินจะเก่งกาจกว่าปฐมาจารย์สลักลายมรรค

ที่เหนือความคาดหมายของทุกคนก็คือ อวี่อวิ๋นเหอกัดฟันพูดว่า “เป็นไปได้! เป็นไปได้อย่างแน่นอน!”

หูหมิงหัวเราะ ท่าทางเหมือนคร้านจะโต้เถียงกับเขา

เสียงหัวเราะระลอกหนึ่งก็ลอยมาจากกลุ่มคนที่อยู่ใกล้ๆ กัน การแสดงออกของอวี่อวิ๋นเหอถูกพวกเขามองว่าอีกฝ่ายทั้งโมโหทั้งอายจนกลายเป็นเดือดดาล ขาดความมั่นใจ

แต่ตั้งแต่เริ่มจนจบหลินสวินไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้

เขากำลังตั้งใจทำภารกิจให้เสร็จ และไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจเรื่องพิพาทเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้สักนิด

โดยสรุปแล้ว หาเงินสำคัญที่สุด!

แต่ไม่นานบรรยากาศในบริเวณห้องภารกิจก็อึกทึกครึกโครมขึ้นโดยสมบูรณ์ พร้อมเสียงที่ดังขึ้นระลอกหนึ่ง

“ใต้เท้าหูหมิง ข่าวส่งกลับมาว่าภารกิจวางกระบวนค่ายกลสามอย่างได้รับการยืนยันขอรับ”

“ใต้เท้าหูหมิง ภารกิจหลอมอาวุธห้าอย่างได้รับการยืนยันขอรับ”

“ใต้เท้าหูหมิง…”

เสียงแทบจะดังขึ้นในเวลาเดียวกัน ขณะนี้หูหมิงคล้ายถูกสายฟ้าฟาด แทบกระโดดเหยงขึ้นมาแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น

เขาไม่อาจใจเย็นได้อีก

พร้อมๆ กันนั้นเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทั่วบริเวณ

“นี่จะมหัศจรรย์ไปแล้วกระมัง”

“เหมือนว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานข่าวกลับมาว่าภารกิจล้มเหลวเลย…”

“สวรรค์ คุณชายท่านนี้คงไม่ใช่ปฐมาจารย์สลักลายมรรคหรอกใช่ไหม”

สีหน้าแต่ละคนเจือแววตะลึงพรึงเพริด สายตาที่มองหลินสวินล้วนเปลี่ยนไปแล้ว

อวี่อวิ๋นเหอกลับสีหน้าผ่องใส ยิ้มแย้มเบิกบาน กางแขนออกพลางเอ่ยว่า “เจ้าเฒ่า เจ้าแหกตาดูเสียสิ!”

หูหมิงอ้าปากกำลังจะพูดอะไร

เสียงรายงานเซ็งแซ่ระลอกหนึ่งดังขึ้นอีกครั้ง

“ใต้เท้าหูหมิง ยืนยันภารกิจสองอย่าง”

“ใต้เท้าหูหมิง เจ้าสำนักกระบี่เขาเมฆาบอกว่าภารกิจคราวนี้แก้ปัญหาเรื่องเร่งด่วนของเขาได้ ทั้งยังให้วิธีแก้ไขได้ดีเกินคาด เขายืนยันแล้วและจะให้ค่าตอบแทนสองเท่าเพื่อตอบแทนสหายผู้รับภารกิจ”

“ใต้เท้าหูหมิง มีข่าวรายงานกลับมาอีกแล้วว่า…”

หูหมิงชะงักไปครู่หนึ่ง ถามอย่างอดไม่ได้ว่า “ไม่มีที่ล้มเหลวสักอย่างเลยหรือ”

คนคุ้มกันต่างส่ายหน้า

หูหมิงกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น สีหน้าเหม่อลอย รับตำแหน่งในห้องภารกิจหลายปีขนาดนี้ เขาเพิ่งเคยเห็นเรื่องน่าเหลือเชื่อเช่นนี้เป็นครั้งแรก

เจ้าหมอนั่นเป็นใครกันแน่ หรือจะเป็น… ปฐมาจารย์สลักลายมรรคที่ซ่อนคมในฝักคนหนึ่งจริงๆ

ส่วนผู้คนที่อยู่แถวนั้นต่างสะท้านอย่างต่อเนื่อง แต่ละคนสีหน้าตกตะลึงไปหมด เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่หนักแน่นอย่างกับเหล็ก พวกเขาจะไม่ยอมก็ไม่ได้

ในเวลาต่อมาข่าวที่ส่งกลับมาก็ตามมาติดๆ และมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละภารกิจที่หลินสวินทำเสร็จ สุดท้ายก็ได้รับการยืนยัน ไม่ล้มเหลวสักอย่าง!

หูหมิงอึ้งงันไปหมดแล้ว

ผู้คนที่มองมุงดูบริเวณนั้นก็ยิ่งมีมากขึ้น ต่างมาเพราะได้ยินข่าว เมื่อได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นหน้าห้องภารกิจ แต่ละคนล้วนตกตะลึงไม่หยุด

จวบจนต่อมา ในสายตาทุกคู่ที่มองมายังหลินสวินล้วนเจือแววสะท้านสะเทือน ตื่นตะลึง เคารพและชื่นชมอย่างไม่อาจควบคุมได้

ปฐมาจารย์สลักลายมรรคที่มีความสามารถอย่างแท้จริงผู้หนึ่ง ทำให้ไม่ว่าขุมอำนาจหรือผู้ฝึกปราณคนใดต่างให้ความเคารพอย่างสูงสุดได้

นี่เป็นสิ่งที่รับรู้โดยทั่วกันตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันซึ่งไม่สามารถทำลายได้

และหลินสวินยังอายุน้อยเพียงนี้ หนำซ้ำทำภารกิจที่รับมาทำเสร็จจนถึงตอนนี้ ไม่เพียงว่องไวจนคนอ้าปากตาค้าง ตั้งแต่เริ่มจนจบยังไม่เคยมีภารกิจใดล้มเหลวสักครั้งอีกด้วย

นี่จะไม่ให้ทุกคนสะท้านสะเทือนและชื่นชมเขาได้อย่างไร

จนกระทั่งท้ายที่สุด แม้แต่หูหมิงยังต้องยอมรับโดยสมบูรณ์ โค้งตัวให้อวี่อวิ๋นเหอและกล่าวขอโทษเจือแววละอายว่า “ข้ามีตาหามีแววไม่ ก่อนหน้านี้ทำให้คุณชายทั้งสองเสียเวลา ขอท่านใจกว้างให้อภัยด้วย”

อวี่อวิ๋นเหอยิ้ม รู้สึกสบายใจนัก เอ่ยว่า “ช่างเถอะ ข้าใช่คนไร้เหตุผลที่ไหนกัน”

ทันใดนั้นเขาก็พูดว่า “แต่ว่าค่าตอบแทนที่ควรจ่ายก็ต้องจ่าย ขาดไม่ได้แม้แต่ก้อนเดียว”

หูหมิงบื้อใบ้ไป เอ่ยอย่างหยิ่งทระนงทะลุเมฆาว่า “คุณชายวางใจได้เลย หอสมบัติศิลาเมฆของข้ายังไม่เคยติดค้างค่าตอบแทนลูกค้าแม้แต่คนเดียว”

ตามเวลาที่ผันผ่าน หลินสวินยังรับภารกิจ และเช่นเดียวกัน ภารกิจที่ทำเสร็จทุกอย่างก็ได้รับการยืนยันอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความแตกตื่นเป็นระลอกอยู่ตลอด

ใกล้ๆ กับห้องภารกิจ เงาร่างผู้ฝึกปราณที่มารวมตัวกันมีมากมายยิ่งขึ้น คนยืนกันแน่นขนัดเบียดเสียด ดูเป็นภาพที่อลังการนัก

ถึงท้ายที่สุดแม้แต่อวี่อวิ๋นเหอยังสะท้านไปด้วย คิดไม่ถึงอย่างยิ่ง ว่าที่แท้คนร้ายกาจอย่างหลินสวินจะเป็นปฐมาจารย์สลักลายมรรคที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง

……

เวลาเดียวกัน ในห้องหรูหราห้องหนึ่งของหอสมบัติศิลาเมฆ

“อาจารย์โม่ อีกสามเดือนการฝึกที่ ‘แดนลับต้าอวี่’ ก็จะเปิดขึ้นแล้ว คราวนี้บุคคลชั้นยอดของทั้งเก้าโลกใหญ่ในเขตแดนดาราจื่อเหิงจะเข้าร่วมทั้งหมด”

หลันไฉ่อีในชุดคลุมนกกระเรียนหรูหรา รูปลักษณ์งามเลิศเอ่ยปากเบาๆ “ที่ท่านพ่อของข้าเชิญท่านมา ก็เพราะหวังว่าจะขอแรงจากท่านช่วยเหลือสนับสนุนข้ากับอวิ๋นเจิงในแดนลับต้าอวี่”

ตรงหน้านางมีชายชราชุดเขียวที่มีผมขาวดุจขนกระเรียนแต่ใบหน้าดั่งเด็กน้อยคนหนึ่ง อีกฝ่ายได้ยินก็นิ่งเงียบไม่เอ่ยคำ

หลันไฉ่อีกับอวี่อวิ๋นเจิงสบตากันคราหนึ่ง ก่อนยิ้มพลางเอากล่องหยกกล่องหนึ่งออกมาเปิด แล้ววางไว้ตรงหน้าอาจารย์โม่

จากนั้นนางจึงเอ่ยว่า “ท่านพ่อของข้าเคยกำชับว่าจะไม่ให้อาจารย์โม่เหนื่อยเปล่า นี่เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ หวังว่าอาจารย์โม่จะไม่ปฏิเสธ”

ในกล่องหยกมีโอสถเทพส่องประกายสดใสต้นหนึ่งวางอยู่ เผยละอองแสงดุจภาพมายา กลิ่นหอมบริสุทธิ์เตะจมูก

ชายชราชุดเขียวที่ถูกเรียกว่าอาจารย์โม่ดวงตาเป็นประกายวาบ

โสมสมบัติผานหลง!

นี่เป็นถึงโอสถเทพชั้นเลิศชนิดหนึ่ง ในโลกต้าอวี่เคยมีคนเสนอราคาหนึ่งล้านผลึกมรรค แต่ก็ยังซื้อสมบัตินี้ไม่ได้!

“นี่…”

อาจารย์โม่สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แล้วยิ้มขื่นเอ่ยว่า “สหายน้อยทั้งสอง ข้าคนแซ่โม่แม้ถูกยกย่องให้เป็นปฐมาจารย์สลักลายมรรค แต่ก็ยังไม่เคยเข้าไปในแดนลับต้าอวี่ เกรงว่าถึงตอนนั้นจะช่วยอะไรมากไม่ได้น่ะสิ”

อวี่อวิ๋นเจิงหัวเราะเบิกบานใจ “ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ขอเพียงมีอาจารย์โม่ช่วยเหลือก็พอแล้ว”

“อาจารย์โม่เชิญดู”

หลันไฉ่อีนำหนังสัตว์เก่าแก่ออกมาผืนหนึ่ง บนนั้นมีกระบวนผนึกลายมรรคที่รางเลือนประทับอยู่ภาพแล้วภาพเล่า

“นี่คือภาพกระบวนผนึกที่ปกคลุมอยู่ในพื้นที่วาสนาแห่งหนึ่งภายในแดนลับต้าอวี่ เพียงแต่ไม่สมบูรณ์เท่าไร เชื่อว่าด้วยความสามารถของท่านจะต้องสลายกระบวนผนึกนี้ได้สบายแน่”

อาจารย์โม่หยิบมาดูเล็กน้อย อนุมานเงียบๆ อยู่พักใหญ่ถึงค่อยพยักหน้าเจือยิ้มว่า “ดูท่าจะไม่คณามือข้าคนแซ่โม่จริงๆ”

หลันไฉ่อีกับอวี่อวิ๋นเจิงยิ้มขึ้นทันใด

ต่อมาทั้งแขกทั้งเจ้าภาพก็เบิกบานกลมเกลียว

“คุณหนู”

เสียงเคารพนบนอบเสียงหนึ่งดังขึ้นนอกประตูห้องหรู

“มีอะไร”

หลันไฉ่อีนิ่วหน้า

“วันนี้หอสมบัติศิลาเมฆของพวกเรามีปฐมาจารย์สลักลายมรรคที่เก่งกาจคนหนึ่งมาเยือน ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ท่านกำชับว่าถ้ามีคนเช่นนี้มา จะต้องรายงานท่านทันทีหรือขอรับ”

เสียงเคารพนบนอบนั้นดังขึ้น

หลันไฉ่อีอึ้งไป ทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าก่อนไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์โม่ ตนเคยออกคำสั่งเช่นนี้ไปจริงๆ

แต่ตอนนี้อาจารย์โม่ก็มาแล้ว นางย่อมคร้านจะสนใจปฐมาจารย์สลักลายมรรคคนอื่น

หลันไฉ่อีเอ่ย “เจ้าลงไปเถอะ เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว”

ก็เป็นในตอนนี้เองที่อาจารย์โม่เอ่ยปากด้วยความประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ “ปฐมาจารย์สลักลายมรรคในโลกต้าอวี่ ส่วนมากข้ารู้จักทั้งนั้น ไม่เคยได้ยินว่าวันนี้มีใครมาที่หอสมบัติศิลาเมฆแห่งนี้ แปลกจริงๆ เชียว”

หลันไฉ่อีเห็นดังนี้ก็ใจกระตุกอย่างอดไม่ได้ “ใครก็ได้”

คนคุ้มกันคนหนึ่งผลักประตูเข้ามา ค้อมกายคารวะ “คุณหนูมีคำสั่งอะไรขอรับ”

หลันไฉ่อีพูด “เล่าเรื่องปฐมาจารย์สลักลายมรรคที่ปรากฏตัวในหอสมบัติศิลาเมฆตอนนี้ให้ฟังที”

คนคุ้มกันรีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าห้องภารกิจให้ฟังทั้งหมด สุดท้ายยังเอ่ยเจือความชื่นชมว่า “ตอนนี้แม้แต่ใต้เท้าหูหมิงยังยอมรับ ชื่นชมคุณชายท่านนั้นไม่หยุด”

หลังจากหลันไฉ่อีได้รู้เรื่องเหล่านี้ก็ประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ “ยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ”

“น่าสนใจ”

อาจารย์โม่ยิ้มพลางลุกขึ้นแล้ว “ในฐานะผู้ร่วมมรรค กลับไม่รู้ว่าบนโลกยังมีคนเช่นนี้ ไม่สู้พวกเราไปดูด้วยกันดีไหม ไปพบคุณชายผู้นี้เสียหน่อย”

“ก็ดี”

หลันไฉ่อีกับอวี่อวิ๋นเจิงลุกขึ้นทันที

ทั้งสามออกจากห้อง เดินไปยังห้องภารกิจ

เห็นได้แต่ไกลว่าบริเวณห้องภารกิจมีคนอออยู่เต็มไปหมด เงาร่างเบียดแน่น ครึกครื้นอย่างยิ่ง

นี่ทำให้หลันไฉ่อีอดประหลาดใจไม่ได้ เมื่อก่อนไม่เคยเกิดเรื่องพรรค์นี้ขึ้น

“หืม ทำไมถึงเป็นเจ้าโง่นี่…”

แต่อวี่อวิ๋นเหอสีหน้าแปลกใจ มองปราดเดียวก็เห็นอวี่อวิ๋นเหออยู่ในส่วนลึกของกลุ่มคน รวมถึงหลินสวินที่กำลังทำภารกิจอยู่

“ปฐมาจารย์สลักลายมรรคที่เจ้าว่าคงไม่ใช่เขาใช่ไหม”

อวี่อวิ๋นเหอถามคนคุ้มกันข้างกาย

คนคุ้มกันตอบอย่างซื่อตรงว่า “เรียนคุณชาย เป็นคนผู้นี้ขอรับ”

ในชั่วขณะเดียวอวี่อวิ๋นเหอกับหลันไฉ่อีก็ชะงักไปพร้อมกันแล้ว ข้ารับใช้คนหนึ่งที่อยู่ข้างกายลูกคุณหนูไม่สนใจร่ำเรียนคนนั้น ดันเป็นปฐมาจารย์สลักลายมรรคคนหนึ่งหรือ

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset