Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1791 แก้กระบวนผนึก

อวี่อวิ๋นเหอ ทายาทสายตรงของผู้นำตระกูลคนปัจจุบันแห่งเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ ลูกคุณหนูคนหนึ่งที่เลื่องชื่อลือนามในโลกต้าอวี่

หลันไฉ่อีจะไม่รู้จักคนผู้นี้ได้อย่างไร

ด้วยรู้ดี ยามพบกันครั้งแรกนางจึงมีท่าทีเย็นชากับอวี่อวิ๋นเหอเช่นนั้น

แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าข้ารับใช้ที่อวี่อวิ๋นเหอพามาด้วย ถึงกับเป็นปฐมาจารย์สลักลายมรรคคนหนึ่งที่เก็บซ่อนตัวตนได้แนบเนียน!

นี่ทำให้นางแทบไม่กล้าเชื่อ

ปฐมาจารย์สลักลายมรรคคนหนึ่ง ทำไมถึงไปคลุกคลีกับลูกคุณหนูไม่เอาการเอางาน ไร้ความสามารถคนหนึ่งได้

หลันไฉ่อีมุ่นคิ้วกล่าว “อวิ๋นเจิง ทำไมข้าถึงรู้สึกไม่ชอบมาพากลอยู่บ้าง น้องหกคนนี้ของเจ้าคงไม่คิดจะเข้าไปในแดนลับต้าอวี่ด้วยกระมัง”

อวี่อวิ๋นเจิงใจหดเกร็ง เขาก็รู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อ ในเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ ฐานะของอวี่อวิ๋นเหอไม่ธรรมดามากก็จริง แต่ใครต่างก็รู้ว่าบุตรชายของผู้นำตระกูลคนนี้เป็นแค่ลูกคุณหนูที่สวยแต่รูปจูบไม่หอม ทำอะไรไม่ได้เรื่อง

อวี่อวิ๋นเหอกลายเป็นมกุฎมหาอริยะได้ ก็ด้วยพึ่งพาพรสวรรค์สายเลือดและทรัพย์สมบัติกองพะเนินนับไม่ถ้วนที่ต่างจากคนทั่วไปทั้งสิ้น!

แม้แต่การที่เขากราบเป็นศิษย์ในสำนักยุทธ์เตาโอสถได้ ก็ด้วยบิดาของเขาออกหน้าให้ ไม่ง่ายเลยกว่าจะลงแรงทำให้สำเร็จ

‘น้องชาย’ ที่แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยถูกอวี่อวิ๋นเจิงเห็นอยู่ในสายตาคนนี้ ยามนี้กลับพาปฐมาจารย์สลักลายมรรคคนหนึ่งมาด้วย นี่ดูน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

‘หรือเขาก็รู้ว่าหากไม่แย่งชิงโอกาสอีก หลังจากการทดสอบประจำตระกูล เขาจะสูญเสียอำนาจสืบทอดในตำแหน่งผู้นำตระกูลไป’

อวี่อวิ๋นเจิงสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด

“เยี่ยม!”

“ร้ายกาจเกินไปแล้ว!”

ใกล้ห้องภารกิจที่อยู่ห่างออกไปมีเสียงอัศจรรย์ใจ ฮือฮาดังขึ้นไม่หยุด

หลันไฉ่อีเอ่ยถาม “ผู้เฒ่าโม่ ท่านมองระดับความเชี่ยวชาญด้านลายมรรคของเจ้าหนุ่มนั่นออกหรือไม่”

ผู้เฒ่าโม่กล่าวเสียงขรึม “หากให้ข้าลองหยั่งเชิงดูหน่อย บางทีอาจมองเค้าลางบางอย่างออก”

หลันไฉ่อีแววตาพราวระยับ “เช่นนั้นก็ต้องรบกวนผู้เฒ่าโม่ลงมือสักครั้งแล้ว”

ผู้เฒ่าโม่ก็อยากรู้ว่าโลกต้าอวี่มีปฐมาจารย์สลักลายมรรคที่ยังหนุ่มเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อได้ยินดังนั้นก็ตกปากรับคำอย่างยินดีทันที

เขาใคร่ครวญเล็กน้อย ค่อยนำม้วนหยกที่แผ่กลิ่นอายของกาลเวลาม้วนหนึ่งออกมา ส่งมอบให้หลันไฉ่อีที่อยู่ข้างกาย

“ภายในนี้คือกระบวนผนึกลึกลับที่ข้าเคยเจอ ตอนออกเดินทางไปยังโลกเล็กใบหนึ่งแล้วเข้าไปในโบราณสถานบรรพกาลแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ ด้วยความสามารถของข้าก็ได้แต่คัดลอกกระบวนผนึกนี้มาเท่านั้น แต่กลับไม่อาจมองทะลุปริศนาภายในนั้นได้”

ผู้เฒ่าโม่ทอดถอนใจ “หลายปีมานี้ไม่มียามใดที่ข้าไม่อยากอนุมานกระบวนผนึกนี้ แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่อาจเข้าใจ หากเจ้าหนุ่มนี่ตีความได้ ก็พอจะพิสูจน์ว่าระดับความเชี่ยวชาญบนวิถีสลักลายมรรคของเขาเหนือกว่าข้า”

“จะเป็นไปได้อย่างไร”

อวี่อวิ๋นเจิงหัวเราะขึ้นมาทันที

ในโลกต้าอวี่มีปฐมาจารย์สลักลายมรรคน้อยมาก และผู้เฒ่าโม่ก็เป็นคนหนึ่งที่มากประสบการณ์ที่สุดในนั้น หลายปีก่อนก็ชื่อเสียงสะเทือนใต้หล้า ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน ‘สี่ยอดปฐมาจารย์สลักลายมรรค’

แม้แต่ผู้เฒ่าโม่ยังตีความผนึกมรรคบรรพกาลนี้ไม่ได้ แล้วคนทั่วไปจะตีความได้อย่างไร

“เช่นนั้นก็ดี ถือโอกาสนี้ทำลายความหยิ่งทะนงของอีกฝ่ายซะเลย!”

หลันไฉ่อีแววตาเยียบเย็น

ในฝูงชนที่ห่างออกไป อวี่อวิ๋นเหอยินดีปรีดาท่าทางลำพอง ท่าทางนั้นทำให้หลันไฉ่อีรู้สึกไม่ชอบใจ

นางนำม้วนหยกที่ผู้เฒ่าโม่มอบให้ส่งต่อแก่ผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างกายแล้วกล่าว “ไป นำไปให้หูหมิง บอกว่านี่เป็นภารกิจที่เพิ่งประกาศ หากใครแก้ได้จะให้รางวัลหนึ่งแสนผลึกมรรค”

“หนึ่งแสนหรือ”

อวี่อวิ๋นเจิงประหลาดใจ

หลันไฉ่อียิ้มกล่าว “ทำไมต้องแปลกใจด้วย เจ้าคิดว่าเจ้าหมอนั่นจะตีความผนึกมรรคที่อยู่ในนี้ได้หรือ ตั้งรางวัลผลึกมรรคไว้มากเช่นนี้ ก็แค่ใช้เป็นเหยื่อล่อเท่านั้น”

“ได้ผลึกมรรคมาเท่าไหร่แล้ว”

หลังจากหลินสวินทำภารกิจสุดท้ายในมือเสร็จก็เอ่ยถามลอยๆ

ใบหน้าอวี่อวิ๋นเหอเปล่งประกาย กล่าวอย่างตื่นเต้น “ตอนนี้ภารกิจที่ได้รับการยืนยันมีสามร้อยเก้าสิบสามภารกิจ รวมทั้งหมดจะได้ค่าตอบแทนสามแสนสองหมื่นสามพันหกร้อยผลึกมรรค!”

สามแสนสองหมื่นกว่าผลึกมรรค!

สำหรับลูกคุณหนูเจ้าสำราญอย่างเขายังเรียกได้ว่าเป็นทรัพย์มหาศาล

‘หากอยู่ในระดับมกุฎมหาอริยะ ผลึกมรรคพวกนี้คงใช้ฝึกปราณได้ไม่ถึงหนึ่งปี…’

หลินสวินมุ่นคิ้วเล็กน้อย เขาขาดแค่จุดเปลี่ยนเดียวก็จะทะลวงระดับราชันอริยะ ถึงตอนนั้นระยะเวลาที่สามารถใช้ผลึกมรรคพวกนี้มาสนับสนุนการฝึกปราณคงสั้นลง

กล่าวกันถึงที่สุดแล้ว ก็ยังต้องหาเงินอีก!

ผลึกมรรคไม่เพียงแต่นำมาใช้ฝึกปราณเท่านั้น ยังเป็นสกุลเงินอย่างหนึ่งด้วย ไม่ว่าจะซื้อของ นั่งยานข้ามโลก ล้วนไม่พ้นต้องใช้ของพวกนี้

“ต่อเลย”

หลินสวินไม่แม้แต่จะเงยหน้า ตัดสินใจฉวยโอกาสนี้หาเงินเต็มที่ ภายหน้าจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อีก

หูหมิงก้าวเข้ามา กล่าวด้วยความเคารพ “คุณชาย นี่คือภารกิจที่เพิ่งติดประกาศ เกี่ยวข้องกับการแก้กระบวนผนึกลายมรรค รางวัลคือหนึ่งแสนผลึกมรรค ไม่ทราบว่าท่านสนใจหรือไม่”

หนึ่งแสน!

ในที่นั้นพลันมีเสียงสูดหายใจเย็นเยียบดังขึ้นทันที แตกตื่นกันอย่างสมบูรณ์แล้ว

ภารกิจหนึ่งตั้งรางวัลอยู่ที่แสนผลึกมรรค อย่าว่าแต่หอสมบัติศิลาเมฆนี้ ต่อให้เป็นทั่วโลกต้าอวี่ก็ยังพบเห็นได้น้อยมาก

น่าตื่นตาตื่นใจเกินไปแล้ว!

แต่เช่นเดียวกัน ความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนในที่นั้นได้ถูกกระตุกต่อมขึ้นมาหมดในชั่วขณะเดียว

เป็นภารกิจแบบไหนกันแน่ ถึงกับทำให้ผู้ประกาศภารกิจทุ่มค่าตอบแทนชวนตะลึงโดยไม่คำนึงถึงอะไรเช่นนี้

สิ่งเดียวที่แน่ใจได้คือ ภารกิจนี้ต้องตึงมือหาใดเปรียบและยากลำบากหาใดเทียบ เกรงว่าปฐมาจารย์สลักลายมรรคทั่วไปคงจัดการไม่ได้!

เวลานี้อวี่อวิ๋นเหอยังกล่าวอย่างแปลกใจ “คนที่ประกาศภารกิจคงไม่ได้น้ำเข้าสมองกระมัง”

เดิมทีหลันไฉ่อีที่อยู่ห่างออกไปพอใจเป็นอย่างยิ่งที่เปิดฉากอึกทึกครึกโครมเช่นนี้ได้ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของอวี่อวิ๋นเหอ ใบหน้างามของนางก็ทะมึนลง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเยียบเย็น

เจ้าสวะนี่วอนหาเรื่องซะจริง!

อวี่อวิ๋นเจิงรีบร้อนกล่าว “ไฉ่อีใจเย็นก่อน ภายหน้าข้าจะช่วยเจ้าลงโทษเขาเอง”

ยามนี้หลินสวินก็ตกตะลึง รู้สึกผิดคาดอยู่บ้าง รับม้วนหยกมาไว้ในมือแล้วเริ่มพิจารณา

บรรยากาศในที่นั้นก็เปลี่ยนเป็นเงียบสงัดไร้สุ้มเสียง ทุกสายตาล้วนมองไปทางหลินสวินกันพรึ่บพรั่บ

รวมถึงหลันไฉ่อี อวี่อวิ๋นเจิง ผู้เฒ่าโม่ก็ต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด

เขา…

จะรับภารกิจนี้หรือไม่

ผ่านไปครู่ใหญ่หลินสวินจึงกล่าว “รับไว้”

เพียงสองคำราวกับฟ้าผ่า ทำให้ทุกคนในที่นั้นต่างพลุ่งพล่านขึ้นมาแล้ว เหมือนกำลังจะได้ดูละครชิ้นเอกที่ใกล้เปิดฉากด้วยตาตนเอง

ภารกิจหนึ่งแสนผลึกมรรคเชียวนะ อีกฝ่ายถึงกับกล้ารับไว้!

หลันไฉ่อีและอวี่อวิ๋นเจิงมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จากนั้นก็มองไปทางผู้เฒ่าโม่

ผู้เฒ่าโม่เองก็กล่าวอย่างตกตะลึงอยู่บ้าง “เจ้าหนุ่มนี่รับไว้จริงด้วย หรือเขาจะมองความร้ายกาจของผนึกมรรคบรรพกาลนั้นไม่ออก”

หลันไฉ่อีสูดหายใจลึกกล่าว “หลังจากนี้ก็ใช่ว่าเขาจะทำสำเร็จ คอยดูไปก่อนเถอะ”

อวี่อวิ๋นเจิงพยักหน้า รู้สึกแบบเดียวกัน

เขามั่นใจในความสามารถของผู้เฒ่าโม่อย่างหาใดเปรียบ ไม่มีทางเชื่อว่าหลินสวินจะทำภารกิจที่แม้แต่ผู้เฒ่าโม่ยังแก้ไม่ได้นี้สำเร็จ!

หลินสวินเริ่มลงมือแล้ว

เขาสีหน้าราบเรียบ ไม่ตื่นตระหนกตกใจ แค่มองจากภายนอกคงดูไม่ออกว่าเขาประหม่าและกดดันแค่ไหน

จิตรับรู้ถาโถมเข้าไปในม้วนหยกดั่งกระแสน้ำ ลวดลายของกระบวนผนึกบรรพกาลนั้นสะท้อนปรากฏเป็นจุดเล็กๆ ให้เห็นในสมอง

เขาเริ่มอนุมาน…

เวลาล่วงเลยไปทีละน้อย บรรยากาศในห้องภารกิจก็เปลี่ยนเป็นตึงเครียดและกดดันอย่างไม่อาจอธิบายได้ ทุกคนต่างกลั้นหายใจจดจ่อ เกรงแต่จะรบกวนหลินสวิน

ยามนี้ผู้เฒ่าโม่ก็จ้องมองหลินสวินตาไม่กะพริบ

เขาต่างจากหลันไฉ่อีและอวี่อวิ๋นเจิง ด้วยถึงปฐมาจารย์สลักลายมรรค ไม่มีอคติหรือรู้สึกเกลียดชังหลินสวินแต่อย่างใด

เขาแค่อยากรู้ว่าในโลกต้าอวี่มีปฐมาจารย์สลักลายมรรคที่ยังหนุ่มเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนหน้านี้ทำไมเขาถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน

อวี่อวิ๋นเหอก็เริ่มประหม่าขึ้นมา

ก่อนหน้านี้ไม่ว่าหลินสวินจะรับภารกิจอะไร ล้วนทำสำเร็จได้ในเวลาอันสั้น ไม่เคยเจออุปสรรคอะไร

แต่ครั้งนี้ผ่านไปครึ่งเค่อแล้ว หลินสวินยังไม่ตอบสนองสักนิด นี่จะไม่ให้ในใจอวี่อวิ๋นเหอประหม่าได้อย่างไร

คนอื่นในที่นั้นก็สังเกตเห็นภาพนี้ ล้วนแอบกังวลใจแทนหลินสวิน

“ดูท่าว่าเขาคงไม่ไหว”

อวี่อวิ๋นเจิงยิ้มกล่าวเหมือนยกภูเขาออกจากอก

หลันไฉ่อีกล่าวอย่างมั่นใจ “ข้าบอกแล้ว ผนึกมรรคที่ผู้เฒ่าโม่ยังแก้ไม่ได้ จะเป็นสิ่งที่เจ้าคนที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนแก้สำเร็จได้อย่างไร”

ผู้เฒ่าโม่กลับกล่าวอธิบาย “กระบวนผนึกนี้ลึกลับหาใดเปรียบ หากคิดจะแก้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ เห็นชัดว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ข้าติดอยู่ในสถานการณ์นี้มากี่ปี ถึงตอนนี้ก็ยังแก้ไม่ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ”

เขาเว้นช่วงไปก่อนกล่าวต่อ “ข้ากลับคิดว่าต่อให้เจ้าหนุ่มนี่แก้กระบวนผนึกนี้ไม่ได้ ก็ไม่ใช่สิ่งบุคคลทั่วไปจะเทียบได้แล้ว”

อวี่อวิ๋นเจิงไม่ชอบใจอยู่บ้าง แต่ริมฝีปากกลับยิ้มกล่าว “จากมุมมองข้า ผู้เฒ่าโม่ประเมินเจ้าหนุ่มนี่สูงเกินไปแล้ว เขาคลุกคลีอยู่กับน้องหกที่ไม่เอาอ่าวคนนั้นของข้าได้ เดิมทีก็คงไม่ใช่คนดีเด่อะไรแน่”

ผู้เฒ่าโม่ขมวดคิ้วมุ่น ไม่รับคำ

เวลานี้เองหลินสวินที่ไม่ขยับมาตลอดเก็บจิตรับรู้ลงไป ส่งมอบม้วนหยกให้หูหมิง

ทุกคนในที่นั้นอึ้งไปทันที

ทำสำเร็จหรือไม่กันแน่

“คุณชาย ได้ไหมขอรับ”

หูหมิงอดถามไม่ได้

“แก้ได้แล้ว วิธีแก้ก็บันทึกอยู่ในนี้”

หลินสวินกล่าวลอยๆ

ประโยคเดียวทำให้ความรู้สึกที่กดดันมานานของทุกคนในที่นั้นปั่นป่วน แตกตื่นกันขึ้นมาอย่างสมบูรณ์

อวี่อวิ๋นเหอตื่นเต้นไปหมด ดวงตาทั้งสองเปล่งประกายเหมือนมองเทพเซียน นี่ไม่ใช่ว่าได้หนึ่งแสนผลึกมรรคมาไว้ในมือแล้วหรือ

“นี่เป็นไปไม่ได้!”

มีคนตะโกนออกมาทันใด

จากนั้นอวี่อวิ๋นเหอก็เห็นพวกอวี่อวิ๋นเจิงกับหลันไฉ่อีเดินมาทางนี้ สีหน้าของแต่ละคนไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง

“หลันไฉ่อี!”

“ดูสิ ยังมีอาจารย์โม่ด้วย!”

“คิดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสอย่างเขาจะมาที่เมืองศิลาเมฆของพวกเราด้วย”

ในที่นั้นพลันแตกตื่น ผู้คนมากมายต่างรู้ฐานะของหลันไฉ่อีและอาจารย์โม่

อวี่อวิ๋นเหอไม่พอใจมาก กล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “พี่สาม อะไรที่เรียกว่าเป็นไปไม่ได้ ข้าจำได้ว่าท่านเหมือนจะไม่เข้าใจวิถีสลักวิญญาณกระมัง”

อวี่อวิ๋นเจิงแค่นเสียงเย็นชา “ข้าไม่เข้าใจก็ย่อมมีคนเข้าใจ อาจารย์โม่ เชิญท่านลองดูว่าเจ้าหนุ่มนี่แก้กระบวนผนึกนี้ได้จริงหรือไม่!”

อวี่อวิ๋นเหอชะงักไปก่อน ไม่นานก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง “อะไรกัน ภารกิจนี้คงไม่ใช่สิ่งที่ท่านประกาศออกมาเองกระมัง”

“น้องหก เจ้าฉลาดขึ้นแล้ว”

อวี่อวิ๋นเจิงกล่าวเย็นชา ทั้งไม่ปฏิเสธ

อวี่อวิ๋นเหอสีหน้าไม่น่าดู กล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นตอนที่ประกาศภารกิจนี้ ท่านก็จงใจทำให้พวกเราลำบาก อยากเห็นพวกเราเป็นตัวตลกหรือ”

อวี่อวิ๋นเจิงไม่ปฏิเสธ สายตามองไปทางอาจารย์โม่

อาจารย์โม่ในยามนี้ก็สีหน้าสงสัย ทั้งประหลาดใจ กระตือรือร้นและใคร่รู้ เขาไม่สนใจเรื่องอื่น สิ่งที่เขาสนใจคือหลินสวินแก้กระบวนผนึกนี้ได้จริงหรือไม่

ต้องรู้ว่าปริศนานี้เกือบกลายเป็นปมในใจของเขาแล้ว!

……..

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset