Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1806 ฝ่ามือกำราบทั่วลาน

ฝนเลือดไหลหลั่ง

ราชันอริยะถูกฆ่าอีกคน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือตั้งแต่ต้นจนจบเขาถึงขั้นไม่ทันได้ส่งเสียงร้องเลยด้วยซ้ำ!

หลังจากสังหารคนผู้นี้ เงาร่างของหลินสวินไม่ได้หยุดลง พุ่งปราดต่อไป

ตูม!

ร่างของเขาราวกับเตาหลอมกลียุค สำแดงวิชาแห่งตน ทุกอิริยาบถล้วนแฝงความสามารถเย้ยฟ้า กวาดล้างในที่นั้น

ห้วงอากาศล้วนปั่นป่วน เสียงกึกก้องราวกับฟ้าร้อง

เพียงชั่วพริบตาก็มีมกุฎมหาอริยะสิบกว่าคนถูกฆ่า ราชันอริยะสี่ห้าคนถูกสังหารอย่างไร้ปรานี

ส่วนหลินสวินร่างกายอร่ามเรืองรอง ก้าวเดินอยู่ในที่นั้นประหนึ่งเทพที่มาจากส่วนลึกของหุบเหวใหญ่ ใช้วิธีที่รวดเร็วและง่ายดายเก็บชีวิตไป

นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว!

ภายใต้น้ำมือเขา มกุฎมหาอริยะก็ไร้ค่าเหมือนวัชพืช ราชันอริยะดีกว่าหน่อย แต่ต่อให้ไม่ตายก็บาดเจ็บอยู่ดี

ชั่วขณะเดียวในที่นั้นฝนเลือดลมคาว โกลาหลปั่นป่วน เสียงร้องแหลมเดือดดาลหนาวสะท้านไม่รู้เท่าไหร่ดังขึ้น

ควรรู้ว่าทุกคนในที่นั้นล้วนเป็นบุคคลชั้นยอดที่มาจากเก้าโลกใหญ่ และข้างกายมีราชันอริยะติดตาม ทั้งฐานะ ตำแหน่ง รากฐาน พลังปราณ…

ล้วนเรียกได้ว่าเป็นเลิศในโลกหนึ่ง โดดเด่นในระดับเดียวกัน

ทว่าต่อหน้าหลินสวินกลับเหมือนไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา!

“นี่…”

พวกอวี่อวิ๋นเหออึ้งจนปากอ้าตาค้าง จิตใจสั่นไหว

เกิดการต่อสู้โกลาหลเช่นนี้ พวกเขาจะยังจดจ่อหยั่งรู้ความลับในแผนภาพเก้ากระถางจักรพรรดิอวี่ป้องกันน้ำได้อย่างไร

แม้รู้นานแล้วว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินพลิกฟ้า แต่ตอนนี้พอเห็นเงาร่างสันโดษนั้นของหลินสวินสังหารอย่างไร้สิ่งกีดขวาง พวกอวี่อวิ๋นเหอก็ยังคงสะท้านสะเทือนอย่างหนัก

“ทุกท่าน ขืนยังออมมือใครก็อย่าคิดว่าจะไปช่วงชิงศุภโชคในตำหนักเทพจักรพรรดิอวี่!”

สุ่ยปี้อวิ๋นพูดเสียงเย็น

ด้านหลังนาง เงากระบี่ที่เย็นเยียบเปลี่ยนเป็นระลอกคลื่นเป็นชั้นๆ ปรากฏเงาร่างสูงใหญ่ไร้ที่เปรียบอยู่รางๆ ทำให้กลิ่นอายทั้งตัวนางแข็งแกร่งขึ้นหนึ่งช่วงใหญ่ในทันที

กระบี่มรรครุ้งทมิฬ!

สมบัติโบราณที่ถูกผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเพิ่มพลังชั้นยอดเข้าไป!

ตูม โครม โครม

แทบจะในเวลาเดียวกัน ในทิศทางอื่นๆ บุคคลพลิกฟ้าที่มาจากแต่ละโลกต่างกัดฟัน สำแดงวิชาเด็ดของตนออกมา

ในมือชื่อหลิงจื่อมีค้อนเทพเปลวเพลิงที่พร่างพราวอย่างที่สุดด้ามหนึ่ง มองจากไกลๆ ราวกับถือครองสุริยันดวงหนึ่ง!

ใต้ฝ่าเท้าลี่โยวปรากฏแผนภาพสองลักษณ์เอกอุ หยินหยางหลอมรวม แบ่งเป็นขุ่นใส เลี่ยตงจั้นถือประทับใหญ่กระดูกขาวเก่าแก่ชิ้นหนึ่ง มีเงามารนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นภายใน…

บุคคลพลิกฟ้าเหล่านี้ล้วนเป็นผู้โดดเด่นในโลกหนึ่ง หากไม่ใช่ถือกำเนิดในเผ่าโบราณก็มาจากสำนักใหญ่แห่งยุค ในมือจะไม่มีสมบัติที่เรียกได้ว่าชั้นเลิศได้อย่างไร

พวกเขาถือสมบัติ อานุภาพแต่ละคนล้วนสะท้านฟ้าสะเทือนดิน และใกล้ๆ พวกเขามีระดับราชันอริยะติดตาม ร่วมมือกันกดข่มจากพื้นที่ที่แตกต่างกัน

หลังจากเห็นฝีมืออันน่ากลัวของหลินสวิน พวกเขาต่างเริ่มลงมือเต็มที่ ไม่กล้าออมมือหรือเก็บซ่อนพลังใดๆ

เพียงแต่หลินสวินในตอนนี้ ไม่อาจเทียบได้กับอดีตนานแล้ว

ก็เห็นว่าจู่ๆ เงาร่างของเขาหยุดชะงัก พูดเรียบๆ

“ข้าคนแซ่หลินใกล้จะทะลวงระดับ ฉวยโอกาสนี้ให้พวกเจ้าได้เปิดหูเปิดตา ดูว่าอะไรที่เรียกว่า ‘ไร้ศัตรูในระดับนี้’!”

“กำราบ!”

เงาร่างหลินสวินทะยานอากาศ มองลงมาจากเบื้องสูง จู่ๆ ก็หายใจเข้าลึกคราหนึ่ง เงาร่างเปลี่ยนเป็นหุบเหวใหญ่ไร้สิ้นสุด กลิ่นอายที่น่ากลัวปานกลืนกินฟ้าแผ่ออกมาจากร่างของเขา

ส่วนมือข้างหนึ่งของเขาตบลงในอากาศ

มือข้างเดียวเท่านั้น กลับเปลี่ยนเป็นเตาหลอมใบหนึ่ง ภายในสั่งสมวิชามรรคยิ่งใหญ่ สำแดงวิชามรรคที่ไม่อาจคาดเดามากมาย มอบความรู้สึกหนักหน่วงปานกดข่มอดีตถึงปัจจุบัน

ตูม โครม!

ชั่วขณะนี้ในสายตาของทุกคนต่างปรากฏภาพมหัศจรรย์

เงาร่างนั่นเปลี่ยนเป็นหุบเหวใหญ่บดบังท้องฟ้า ส่วนมือของเขากลับเปลี่ยนเป็นเตาหลอมมหามรรคสะท้อนทั่วหล้า!

แสงมรรครุนแรง เสียงมรรคกึกก้อง อานุภาพทะลวงฟ้า… ล้วนขับให้หลินสวินในชั่วขณะหนึ่งประหนึ่งไร้ศัตรู หมายจะบดขยี้ทุกสิ่งที่กีดขวาง

นี่คือพลังทั้งหมดในระดับมกุฎมหาอริยะของหลินสวินจริงๆ!

หลังจากเคี่ยวกรำอยู่ในฟ้าดาราที่เงียบสงัดนั่นมาหกปี หลังจากมรรคแห่งตนเกิดการเปลี่ยนแปลง นี่เป็นครั้งแรกที่ปลดปล่อยพลังต่อสู้แห่งตนออกมาโดยสมบูรณ์!

พวกสุ่ยปี้อวิ๋น ชื่อหลิงจื่อ ลี่โยว เลี่ยตงจั้นต่างขนพองสยองเกล้า ในใจเกิดความกดดันที่ไม่อาจควบคุม มีความรู้สึกหายใจไม่ออก

พลังระดับนี้ ระดับมกุฎมหาอริยะจะมีได้อย่างไร

ตอนแรกพวกเขามั่นใจในวิชาไพ่ไม้ตายของตน แต่พอเห็นฝ่ามือที่หลินสวินตบออกมาในตอนนี้ก็ลดทอนความมั่นใจลงไปไม่น้อย

ตูมโครม!

ในที่สุดฝ่ามือนี้ของหลินสวินก็กดข่มลงมา

ที่นี่ราวกับฟ้าพลิกดินตลบ สุริยันจันทรากลับด้าน สรรพสิ่งทรุดทลาย

แทบจะไม่สามารถใช้คำพูดเปรียบเทียบฝ่ามือนี้ได้แล้ว แสงมรรคไร้ขอบเขต เหมือนพรั่งพรูออกมาจากมือใหญ่ที่บดบังฟ้าดินประหนึ่งธารดาราเก้าฟ้า พลังฝ่ามือยังไม่ทันมาถึง ห้วงอากาศก็ทรุดถล่มระเบิดแล้ว

ปังๆๆ!

สมบัติโบราณ ศาสตราจิต วิชามรรคมากมายทะยานออกจากมือทุกคนในที่นั้น โจมตีใส่ฝ่ามือนี้ถี่ยิบ แต่ล้วนไม่มีประโยชน์

แม้เป็นสมบัติวิเศษอัศจรรย์อย่างที่สุด แต่ก็ไม่สามารถทลายประทับฝ่ามือที่ปกคลุมลงมาได้

“ฆ่า!”

ยามนี้ทุกคนต่างบ้าคลั่ง สู้สุดชีวิต รู้สึกได้ถึงการคุกคามที่อันตรายถึงชีวิต

แต่ถูกกำหนดให้ไร้ประโยชน์

พลังปราณของหลินสวินน่ากลัวถึงขีดสุดในระดับมหาอริยะอยู่แล้ว สามารถก้าวล้ำเหนืออดีตปัจจุบัน เรียกได้ว่าไร้ศัตรูในระดับเดียวกันทั่วหล้า ตอนนี้ปลดปล่อยถึงสุดขีด พลังระดับนั้นใช่ว่าใครจะสามารถต้านได้ง่ายๆ

ตูม!

หน้าตำหนักเทพจักรพรรดิอวี่พลันสั่นไหวขึ้นมา

พลังผนึกนับไม่ถ้วนพวยพุ่งออกมาราวกับกระแสน้ำ สลายคลื่นพลังที่เกิดขึ้นจากฝ่ามือนี้สุดกำลัง แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ พื้นดินบริเวณนั้นยังแตกเป็นรอยราวกับใยแมงมุม

ยามเมื่อฝุ่นควันสลายไป

ยามเมื่อเสียงกึกก้องค่อยๆ เงียบลง

ในที่นั้นผู้คนล้มนอนกระจัดกระจาย

มกุฎมหาอริยะทั่วไปบางส่วน ตอนที่ฝ่ามือนี้ตบลงไป แม้แต่ร่างกายยังถูกกดจนระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ระดับราชันอริยะบางส่วนที่พุ่งไปอยู่หน้าสุดถูกสังหารไปสิบกว่าคน ที่ไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัสนอนจมกองเลือด กรีดร้องอย่างน่าอนาถ

บุคคลพลิกฟ้าอย่างพวกชื่อหลิงจื่อ สุ่ยปี้อวิ๋น บนร่างพกสมบัติลับปกป้องชีพ จึงไม่ได้ร่วงหล่นทันที ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้พวกเขาแต่ละคนต่างถูกกำราบจนบาดเจ็บสาหัส สะบักสะบอมไม่เหลือสภาพ

“พรวด!”

ชื่อหลิงจื่อกระอักเลือด สีหน้าซีดเซียว ร่างเขาบาดเจ็บ เลือดเนื้อแหลกเละ ไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก

สุ่ยปี้อวิ๋นไออย่างรุนแรง กระโปรงดำบนร่างฉีกขาด เผยให้เห็นผิวขาวผ่องราวกับหิมะ เผ้าผมยุ่งเหยิง สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตื่นตกใจ

คนอื่นๆ เองก็เช่นกัน

ฝ่ามือเดียวของหลินสวิน กลับกำราบพวกเขาได้ทั้งหมด!

ไม่ว่าจะเป็นมกุฎมหาอริยะหรือระดับราชันอริยะล้วนถูกกำราบ บ้างตายบ้างบาดเจ็บ!

ทั้งหมดนี้ คำว่าน่ากลัวอย่างเดียวจะเปรียบได้อย่างไร

เริ่มแรกไม่ว่าจะเป็นชื่อหลิงจื่อ สุ่ยปี้อวิ๋น หรือพวกพลิกฟ้าคนอื่นๆ แม้จะตกใจกับพลังต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาของหลินสวิน แต่แทบจะมองข้ามเขาไปทั้งหมด

เพียงเพราะในกลุ่มของหลินสวินไม่มีราชันอริยะดูแล

ทว่าจนถึงตอนนี้พวกเขาจึงเพิ่งเข้าใจอย่างขมขื่นว่า เหตุใดข้างกายพวกหลินสวินจึงไม่มีราชันอริยะติดตาม

เพราะไม่จำเป็นเลยจริงๆ!

ตอนนี้ทุกคนต่างขวัญหนีดีฝ่อ หวาดกลัวจนยากจะสงบ

พวกอวี่อวิ๋นเหอเองก็อึ้งอยู่กับที่ สีหน้าตกตะลึง

ฝ่ามือเดียวกำราบทั่วลาน!

บนโลกนี้มีคนแบบนี้ได้อย่างไร

“สหายยุทธ์ฝีมือล้ำเลิศ ข้าน้อยสู้ไม่ได้ ขอยอมแพ้ด้วยใจจริง”

สุ่ยปี้อวิ๋นก้มหัวยอมรับความพ่ายแพ้เป็นคนแรก รู้แพ้รู้ชนะ

หลินสวินสายตาเย็นชา เสมองนางแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “ตอนแรกข้าก็เตือนพวกเจ้าแล้วว่าอย่าหาเรื่องใส่ตัว”

ทุกคนสีหน้าชะงัก

ตอนนั้นใครจะรู้ว่าจะเกิดเรื่องน่ากลัวเช่นนี้

และใครจะเคยเห็นมกุฎมหาอริยะคนหนึ่งสังหารราชันอริยะราวกับเชือดไก่ให้ลิงดู

“สหายยุทธ์ พวกข้าล้วนมีตาหามีแวว จึงกระทำความผิดครั้งใหญ่นี้ ขอเจ้าโปรดยั้งมือ ปล่อยพวกเราไปสักครั้ง”

ชื่อหลิงจื่ออดทนข่มกลั้น เอ่ยยากขมขื่น

“พวกข้าล้วนมาจากเก้าโลกใหญ่ หากเป็นอะไรไปเกรงว่าจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อสหายยุทธ์”

คนอื่นๆ ต่างพูดขึ้น

แต่ละคนสีหน้าอดสู เจือความปรารถนาในการเอาชีวิตรอดที่แรงกล้าอย่างที่สุด

ยิ่งเป็นคนที่ฐานะสูงส่ง ยิ่งไม่จำยอมตายไป หากเป็นคนทั่วไปเมื่อโกรธเคืองขึ้นมาย่อมกล้าสู้จนถึงที่สุด

หลินสวินได้ยินเช่นนี้ก็เหลือบมองพวกอวี่อวิ๋นเหอแวบหนึ่งแล้วถอนหายใจในใจ

หากเป็นเขาคนเดียวมีหรือจะสนใจเรื่องพวกนี้ คงรีบสังหารให้สิ้นซากไปนานแล้ว

ทว่าตอนนี้เขาไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ อวี่ชิงหยางมีบุญคุณต่อเขา

หากทำเช่นนี้ตนสามารถสะบัดก้นจากไปได้ ทว่าขุมอำนาจเบื้องหลังทุกคนในที่นี้จะไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวแน่ ถึงตอนนั้นจะต้องพุ่งเป้าไปที่เผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่อย่างแน่นอน

ว่ากันถึงที่สุดก็เพราะครั้งนี้เขาไม่ได้เคลื่อนไหวเพียงลำพัง แต่เคลื่อนไหวพร้อมกับพวกอวี่อวิ๋นเหอ จึงทำให้มีความกังวลและบ่วงรั้ง

ความคิดเหล่านี้แวบผ่านเข้ามาในหัว หลินสวินจึงเอ่ยพูดว่า “ส่งสมบัติบนร่างทั้งหมดมา ข้าจะยกโทษให้ จำไว้ว่า ทั้งหมด ถ้าซ่อนก็ต้องตายเท่านั้น”

การปล้นก็ยังไม่โหดขนาดนี้กระมัง

ทุกคนต่างอึ้งตาค้าง อารมณ์ปั่นป่วน

ฐานะของพวกเขาไม่ธรรมดา พื้นฐานครอบครัวย่อมเฟื่องฟู สมบัติชั้นยอดในตัวแม้แต่ราชันอริยะก็ใช่ว่าจะครอบครองได้

เพราะอนาคตของพวกเขากว้างใหญ่ และความสำเร็จในอนาคตถูกกำหนดให้ไร้จำกัด จึงถูกผู้อาวุโสดูแลเป็นพิเศษ มอบสมบัติสำคัญไว้คุ้มครอง

แต่ถ้าส่งสมบัติทั้งหมดนี้ กลับไปจะต้องโดนลงโทษอย่างหนักแน่

“ไม่ยอมหรือ”

หลินสวินพูดเสียงเรียบ ดวงตาดำลึกล้ำเย็นชา

ทุกคนต่างตัวสั่น มองกองเลือดและศพเต็มพื้น นึกถึงฝีมือโหดเหี้ยมที่หลินสวินเผยออกมาก่อนหน้านี้ สุดท้ายต่างอดทนก้มหัว

ถึงอย่างไรเมื่อเทียบกับชีวิตแล้ว สมบัติอะไรก็เป็นแค่ของนอกกายเท่านั้น

หลังจากนั้นพวกชื่อหลิงจื่อก็ทยอยส่งสมบัติในตัว แต่ละคนมีสีหน้าเชื่อฟัง ทว่าในใจกลับกำลังหลั่งเลือด

ด้วยฐานะของพวกเขา การสั่งสมสมบัติเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทว่าตอนนี้… กลายเป็นทรัพย์หลังศึกของคนอื่นทั้งหมดแล้ว!

‘ตอนนี้ยอมให้เจ้าแผลงฤทธิ์ไปก่อน รอออกจากแดนลับต้าอวี่จะต้องเอาคืนเจ้าเป็นร้อยเท่าพันเท่า!’

ชื่อหลิงจื่อตะโกนอย่างเคียดแค้นในใจ

ในใจคนอื่นๆ เองก็เต็มไปด้วยความเดือดดาล ทว่าภายนอกกลับไม่ได้เผยท่าทีอะไรออกมา

ตูม!

ตอนที่ถึงตาราชันอริยะคนหนึ่งส่งมอบสมบัติ หลินสวินยกมือขึ้นโดยพลัน กำราบเขาให้คุกเข่ากับพื้น กระดูกทั้งร่างล้วนแตกหัก

“เจ้าจะเปลี่ยนใจหรือ”

คนผู้นี้โมโห คนอื่นๆ ต่างตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีเช่นกัน

“ข้าบอกแล้วว่าให้ส่งมอบสมบัติทั้งหมดมา แต่เจ้ากลับไม่ซื่อสัตย์”

หลินสวินว่าแล้วยื่นมือไปคว้า เสียงสวบดังขึ้นคราหนึ่ง เข็มเทพสีเขียวที่บางราวกับขนวัวเล่มหนึ่งพุ่งออกจากเส้นผมของราชันอริยะคนนั้น

หลินสวินพินิจคร่าวๆ นี่เป็นสมบัติเก็บของชิ้นหนึ่ง!

ส่วนราชันอริยะคนนี้เหมือนรับรู้ได้ถึงความไม่เข้าที พูดเสียงสั่น “สหายยุทธ์ไว้ชีวิตด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ…”

ปัง!

ครู่ต่อมาเขาถูกฝ่ามือหนึ่งของหลินสวินตบบนศีรษะ ร่างนอนอยู่บนพื้น ไร้ซึ่งพลังชีวิต

…………………….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset