Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1832 อวี่เสวียน เจ้าคอยดู

นอกจากหญิงชรานั่น ยังมีระดับจักรพรรดิเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนคนหนึ่งอยู่บนยาน นี่ทำให้ตู้คงมีความกลัวเกรงในระดับหนึ่ง

ก่อนจะสืบสถานการณ์ให้ชัด หากลงมือโดยพลการ กลับจะทำให้ ‘คนรุ่นเดียวกัน’ ระแวงและต่อต้าน ไม่แน่ว่าอาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร

ที่สำคัญที่สุดคือ หากพวกเขารู้ฐานะของเจ้านอกรีตนั่น…

นั่นจะกลายเป็นเหมือนคลื่นยักษ์!

ถึงอย่างไรในมือเจ้านอกรีตนั่นก็ครอบครองศุภโชคชั้นยอด ที่มีความเกี่ยวข้องกับการบรรลุจักรพรรดิกลายเป็นบรรพจารย์ที่มาจากแหล่งสถานคุนหลุน!

……

ไฟล่เขาเขารับแขก น้ำพุไหลเชี่ยว ระหว่างไม้ไผ่ที่บดบังมีเรือนเรียบง่ายสง่างามหลังหนึ่งตั้งอยู่

หน้าเรือน

ชายชราในชุดคลุมคนหนึ่งกำลังถือเหล้ากาดื่มเพียงลำพัง

ข้างกายเขา ทายาทสูงศักดิ์ของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ แต่ละคนสวมชุดหรูหรา ชายหล่อหญิงงาม บุคลิกไม่ธรรมดา

ในสายตาคนนอก พวกเขาก็คือดวงดาวบนท้องฟ้า ทำได้เพียงชื่นชม สูงศักดิ์หาที่เปรียบไม่ได้

ทว่าตอนนี้ชายหญิงรุ่นเยาว์เหล่านี้แต่ละคนต่างนอบน้อม ไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ ความเย่อหยิ่งและความประกายคมบนร่างล้วนเก็บไปทั้งหมด

เหตุผลอยู่ที่ว่า ชายชราในชุดคลุมคนนั้นคือผู้อาวุโสของพวกเขา ระดับจักรพรรดิที่อยู่มาไม่รู้นานเท่าไหร่คนหนึ่ง!

ทั้งเขตแดนดาราจักรพรรดิขาว รวมถึงบนทางเดินโบราณฟ้าดารา ชายชราในชุดคลุมเองก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง

คนผู้นี้นามว่าจินเทียนหง คนบนโลกเรียกเขาว่า ‘จักรพรรดิกระบี่วายุ’!

“ที่นี่ไม่ใช่โลกใหญ่จินเทียนและไม่ใช่เขตแดนดาราจักรพรรดิขาว พวกเจ้าเก็บตัวหน่อยจะดีที่สุด อย่าก่อเรื่องโดยใช่เหตุ”

ชายชราในชุดคลุมพูดเรื่อยๆ “เจ้าตัวจ้อยอย่างพวกเจ้า แต่ละคนเป็นเช่นไรในใจข้ารู้ดีว่า หากถูกฆ่า ก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัว ต่อให้ตายหมดข้าก็ไม่ปวดใจ”

“แต่ถึงอย่างไรพวกเจ้าก็แซ่จินเทียน เลือดของตระกูลจินเทียนไหลอยู่ในกาย หากพวกเจ้าตาย ข้าสามารถช่วยแก้แค้นให้พวกเจ้าได้ แต่อย่าคิดจะให้ข้าลงมือช่วยเหลือ”

เสียงพูดราบเรียบ กลับไม่เกรงใจเลยสักนิด ในคำพูดยิ่งเผยความเย็นชาไร้ปรานี

ชายหญิงทั้งกลุ่มมองหน้ากันไปมา

“ผู้อาวุโส ยานลมกรดลำเดียวเท่านั้น มีคนที่พวกเราล่วงเกินไม่ได้ด้วยหรือ”

มีคนอดพูดไม่ได้

ชายชราในชุดคลุมเหลือบมองคนผู้นั้นแวบหนึ่ง อีกฝ่ายตกใจจนหน้าซีด เกือบคุกเข่าลงพื้น ร่างกายถูกเหงื่อซึมชุ่มตัว

ชายชราในชุดคลุมเก็บสายตา ดื่มเหล้าอีกจอกแล้วกล่าวว่า “ตระกูลจินเทียนของพวกเรา ก็เพราะมีพวกไร้ประโยชน์อย่างพวกเจ้ามากเกินไปจึงแย่ลงทุกรุ่น”

พูดถึงตรงนี้เขาก็ยิ้มขึ้นมา “โชคดีที่สวรรค์เมตตา ทำให้ตระกูลจินเทียนในยุคนี้มีอัจฉริยะชั้นยอดอย่างเสวียนเยวี่ยเพิ่มมาสองสามคน”

ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ

ชายหญิงในที่นั้นต่างอดอิจฉาไม่ได้

จินเทียนเสวียนเยวี่ย!

คนรุ่นเดียวกันในตระกูลที่ทำให้พวกเขาอิจฉาและหวาดหวั่น ผู้กล้าหญิงที่ฝึกปราณมาหนึ่งร้อยแปดสิบปี ก็สามารถขึ้นไปอยู่ในอันดับสี่สิบเก้าของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ได้แล้ว!

แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสในตระกูลยังต้องก้มหัวต่อหน้านาง ละอายใจที่ตนสู้ไม่ได้!

“ไปเถอะ จำคำพูดข้าไว้ หากมีเรื่องแล้วถูกฆ่าก็อย่าโทษใคร สิ่งที่ข้าทำได้ ก็เพียงแค่ช่วยพวกเจ้าแก้แค้นเท่านั้น”

ชายชราในชุดคลุมโบกมือให้ทุกคนแยกย้ายไป

คนรุ่นหลังในตระกูลจินเทียนเหล่านี้ไม่ได้เป็นคนไม่เอาไหนเสียทั้งหมด ตรงกันข้าม หลายคนได้ก้าวสู่ระดับมกุฎราชันอริยะแล้ว

ทว่าอุปนิสัยของพวกเขากลับใช้ไม่ได้ มีทั้งยโสโอหัง เย่อหยิ่งเอาแต่ใจ ทั้งยังมีพวกจิตใจคดโกง ทำเรื่องเลวทรามสารพัด

กับคนรุ่นหลังเช่นนี้ ในใจชายชราชุดคลุมมีเพียงความเหยียดหยามและรังเกียจ

มีเพียงพวกจินเทียนเสวียนเยวี่ยไม่กี่คนจึงจะเข้าตาของชายชราในชุดคลุม

ดังนั้นครั้งนี้ เมื่อได้ยินว่าจินเทียนเสวียนเยวี่ยจะไปโลกใหญ่หงเหมิงเพื่อเข้าร่วม ‘งานชุมนุมถกมรรค’ ที่หกเรือนมรรคใหญ่ร่วมกันจัดขึ้น เขาจึงไปส่งด้วยตัวเอง

“แดนกษิติครรภ์ หญิงชรา… บนยานลมกรดเล็กๆ นี่ดูไม่ธรรมดานัก…”

ยามชายชราในชุดคลุมใคร่ครวญก็ดื่มเหล้าไปอีกจอกหนึ่ง

……

โถงใหญ่หอเสียงสวรรค์

สีหน้าของเหลียงชวนเคร่งเครียดอย่างยากจะเห็น

เขามองเหล่าคนใหญ่คนโตหอเสียงสวรรค์ในโถงพร้อมพูดเสียงขรึม “แขกสูงศักดิ์อย่างเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนขึ้นยานเดินทางไกล นับเป็นเกียรติของหอเสียงสวรรค์ แต่ก็เป็นแรงกดดันใหญ่ยิ่ง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าแขกเหล่านี้ต้องการอะไร สิ่งที่หอเสียงสวรรค์ของพวกเราสามารถมอบให้ได้ก็จะมอบให้ทั้งหมด ละเลยหรือล่วงเกินไม่ได้เด็ดขาด! เข้าใจไหม”

ทุกคนในโถงพยักหน้าโดยพร้อมเพรียง

ก่อนหน้านี้เหล่าผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เพิ่งจะถูกฆ่า ตอนนี้ใครจะกล้าไปล่วงเกินผู้ยิ่งใหญ่อย่างเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนอีก

เหลียงชวนถึงได้พยักหน้า ลอบถอนหายใจในใจ

การเดินทางไปยังโลกใหญ่หงเหมิงครั้งนี้ดันเกิดการพลิกผันมากมายขนาดนี้ นี่ทำให้เหลียงชวนเองยังรู้สึกถึงความกดดันยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง

ไม่ว่าจะเป็นเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนหรือหญิงชราที่อยู่ข้างกายเด็กหนุ่มเสี่ยวจิ่วนั่น รวมถึงการตายของผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ ก็เหมือนภูเขาใหญ่ลูกแล้วลูกเล่ากดทับในใจเหลียงชวน

ทำให้ระดับกึ่งจักรพรรดิอย่างเขารู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอย่างไม่อาจเลี่ยง

“สถานการณ์ไม่มั่นคง…”

เหลียงชวนถอนหายใจ

……

“นายน้อย แดนกษิติครรภ์ เผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนล้วนอยู่บนยาน ท่านไม่ใช่ชอบดูความครึกครื้นหรือ หากไม่ผิดจากที่คาด อีกไม่นานจะต้องเกิดความวุ่นวายแน่”

ในเรือนพักหญิงชรายิ้มตาหยีพูด

เด็กหนุ่มชุดป่านกำลังนอนเหม่ออยู่ในเก้าอี้โยกอย่างเศร้าซึม ได้ยินเช่นนี้พลันลุกพรึ่บขึ้น สองตาเป็นประกายพูดอย่างตื่นเต้น “แดนกษิติครรภ์หรือ นี่คือหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่โลกมืดไม่ใช่หรือ ได้ยินว่าพวกเขาเคลื่อนไหวลึกลับ วิธีการไร้ปรานี ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ”

เขาถูมือไปมา พูดน้ำลายกระเด็น “ยังมีเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนนั่น เฮอะๆ ล้วนเป็นทายาทจักรพรรดิขาวดึกดำบรรพ์ ข้าอยากขอคำแนะนำจาก ‘คัมภีร์ลมกรดกระบี่ปั่นป่วน’ มรดกของพวกเขามานานแล้ว ว่าจะเก่งกาจเหมือนที่เล่าลือหรือไม่”

รอยยิ้มของหญิงชราค้างไปทันที อดเตือนไม่ได้ “นายน้อย ดูความครึกครื้นนั้นได้ แต่ถ้าท่านจะเข้าไปร่วมสนุกด้วย ข้าไม่ยอมหรอกนะ”

ประโยคเดียวราวกับสาดน้ำเย็น ทำเอาเด็กหนุ่มชุดป่านเหมือนสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมดไปทันที ทรุดตัวบนเก้าอี้โยกราวกับปลาตาย

เขาถอนหายใจ “ฝึกปราณมหามรรค เส้นทางสงบใจ ไม่ไปเคี่ยวกรำสักหน่อยจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร… ท่านยาย ท่านก็ถือซะว่าสงสารข้าเถอะนะ ให้โอกาสข้าสักครั้งเถอะ”

ทว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรหญิงชราก็ไม่ตอบรับ

เด็กหนุ่มชุดป่านยุกยิกร้อนรน แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้

……

“แม่นางชิงเยียน ตอนนี้บนยานลมกรดมีคลื่นใต้น้ำซุ่มซ่อม สถานการณ์แปลกประหลาด ข้ากังวลว่าปัญหาจะมาถึงกหัวพวกเรา”

หลินสวินนิ่งคิด เขาสงสัยยิ่งว่าผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์เหล่านั้นมาเพื่อเล่นงานเขา จึงไม่อาจไม่เตือนหลิ่วชิงเยียน

“ปัญหาหรือ”

ดวงตาฉ่ำน้ำของหลิ่วชิงเยียนเบิกโต

หลินสวินพยักหน้า “ใช่ แต่ก็เป็นเพียงความรู้สึกของข้า จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ไม่แน่ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าเตรียมใจไว้จะดีที่สุด”

หลิ่วชิงเยียนขานรับว่าอืม

สิ่งที่หลินสวินและหลิ่วชิงเยียนคิดไม่ถึงคือ ในคืนนั้นปัญหาก็มาเยือนถึงที่แล้ว

ท้องฟ้ายามราตรีราวกับหมึก

อวี๋จวิ้นมกุฎราชันอริยะแห่งหอเสียงสวรรค์มาเยือนด้วยตัวเอง

“ชิงเยียน แขกสูงศักดิ์เผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนได้ยินว่าความเชี่ยวชาญในศาสตร์ดนตรีของเจ้ามหัศจรรย์มาก อยากจะเชิญเจ้าไปพบที่ ‘หอเมฆมรกต’”

ประโยคเดียวทำให้หลินสวินและหลิ่วชิงเยียนต่างขมวดคิ้ว

คนของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนจะเคยได้ยินชื่อหลิ่วชิงเยียนได้อย่างไร จะต้องมีคนจงใจพูดถึงหลิ่วชิงเยียนแน่ ถึงได้ดึงดูดความสนใจของแขกเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนเหล่านั้น

“ขอโทษด้วย แม่นางชิงเยียนปิดด่านอยู่ ไม่คิดจะออกไปไหนในช่วงนี้”

หลินสวินปฏิเสธ

อวี๋จวิ้นสีหน้าอึมครึม “คนแซ่อวี่ เจ้าเป็นเพียงผู้คุ้มกันคนหนึ่ง มีคุณสมบัติอะไรมาตัดสินใจแทนผู้สืบทอดหอเสียงสวรรค์ของข้า”

หลินสวินเสียงแข็ง “แม่นางชิงเยียนบอกแล้วว่า ความคิดของข้าก็คือความคิดของนาง”

ในดวงตาอวี๋จวิ้นเผยไอสังหาร “อวี่เสวียน เจ้านี่ช่างเบื่อชีวิตแล้วจริงๆ จะบอกเจ้าให้ หากชิงเยียนไม่ไปหอเมฆมรกต ครั้งนี้แม้จะฆ่าเจ้า ผู้อาวุโสชั้นสูงเหลียงชวนก็ไม่สนใจ”

ตอนนี้เองหลิ่วชิงเยียนเดินออกจากห้องพร้อมเอ่ยว่า “อาจารย์ลุง หากท่านบีบบังคับกันอีก ข้าจะตายให้ท่านดูตอนนี้เลย!”

อวี๋จวิ้นอึ้งไป หากหลิ่วชิงเยียนตาย จะเอาอะไรไปอธิบายกับข่งอวี้แห่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เล่า

เขารีบพูดว่า “ชิงเยียน เชิญเจ้าไปครั้งนี้พวกเราไม่มีจุดประสงค์อื่นแน่ แขกสูงศักดิ์ตระกูลจินเทียนเหล่านั้น พวกเราหอเสียงสวรรค์ล่วงเกินไม่ได้ แม้แต่ผู้อาวุโสชั้นสูงเหลียงชวนยังพูดว่าจะละเลยหรือล่วงเกินแขกสูงศักดิ์เหล่านั้นไม่ได้เด็ดขาด”

หลิ่วชิงเยียนเผยสีหน้ารังเกียจ “เพื่อให้ไม่เป็นการล่วงเกินพวกเขา จึงบีบบังคับให้ข้าไปพบพวกเขาที่หอเมฆมรกตหรือ”

อวี๋จวิ้นถอนหายใจ “ชิงเยียน เพราะเจ้า ผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ประสบเคราะห์ไม่น้อย ทำให้หอเสียงสวรรค์ของพวกเราก็ติดร่างแหไปด้วย ตอนนี้หากล่วงเกินเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนเพราะเจ้าอีก เช่นนั้นผลลัพธ์… แม้แต่จวงอวิ้นจื้ออาจารย์ของเจ้าก็รับไม่ไหว!”

ดวงหน้างามของหลิ่วชิงเยียนเปลี่ยนไป อย่างอื่นนางไม่สนใจ แต่กลับไม่อาจไม่สนใจอาจารย์จวงอวิ้นจื้อ

“แม่นางชิงเยียน ฟังคำข้า ไปครั้งนี้จะต้องเกิดเรื่องแน่ สู้อยู่ที่นี่ยังดีกว่า”

หลินสวินพูดอย่างเด็ดขาด

“อวี่เสวียน เจ้ารนหาที่ตายจริงๆ!”

อวี๋จวิ้นเดือดดาลอย่างสิ้นเชิงแล้ว ยามมาครั้งก่อน เพราะเรื่องที่หลินสวินตบหน้าจั่นปิ่งต่อหน้าเขา ทำให้เขาเกิดความไม่พอใจอยู่แล้ว

ตอนนี้หลินสวินยังมาขวางเช่นนี้ ความโกรธและชิงชังในใจเขาจึงปะทุออกมาโดยตรง

ราชันอริยะคนหนึ่งของเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ กลับกล้าเป็นปฏิปักษ์ต่อเขาเช่นนี้ รนหาที่ตายจริงๆ!

ทว่าเขาเพิ่งคิดจะลงมือ

ฮูม…

หลินสวินกระตุ้นกระบวนผนึกหมู่ดาราทันที ขวางอวี๋จวิ้นไว้นอกเรือน

ไม่ทันไรเสียงตะคอกด้วยความเดือดดาลของอวี๋จวิ้นก็ดังขึ้นนอกเรือน “อวี่เสวียน!! รีบถอนกระบวนผนึก ไม่เช่นนั้นข้าจะหั่นศพเจ้าเป็นหมื่นชิ้น หักกระดูกโปรยเถ้าให้สิ้นซาก!”

เขาโกรธแทบแย่แล้ว ยานลมกรดนี่เป็นถึงอาณาเขตของพวกเขา แต่ตอนนี้กลับดีนัก ราชันอริยะแห่งเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่คนหนึ่งเท่านั้น กลับกล้าต่อต้านเขาเช่นนี้!

หลินสวินมองข้ามทุกอย่าง นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในเรือนอย่างใจเย็น หยิบน้ำเต้าสุราเปลือกเขียวขึ้นมาดื่ม

“อวี่เสวียน เจ้าคอยดูเถอะ!”

ครู่ใหญ่อวี๋จวิ้นถึงพูดทิ้งท้ายเอาไว้ประโยคหนึ่ง แล้วจากไปด้วยความเดือดดาล

ตอนนี้เองหลินสวินจึงมองไปยังหลิ่วชิงเยียน เอ่ยว่า “แม่นางชิงเยียน เจ้ากลัวหรือไม่”

หลิ่วชิงเยียนส่ายหน้า “ข้า… เพียงแค่เป็นห่วงอาจารย์อยู่บ้าง”

หลินสวินกล่าว “ไม่ต้องเป็นห่วง อาจารย์ของเจ้าเป็นถึงมกุฎราชันอริยะคนหนึ่ง หอเสียงสวรรค์ไม่กล้าทำอะไรนางหรอก กลับเป็นพวกเราที่…”

ในใจหลิ่วชิงเยียนเครียดเกร็ง เอ่ยว่า “ผู้อาวุโส ครั้งนี้เกรงว่าจะทำให้ท่านลำบากอีกแล้ว ทำอย่างไรดี”

ในเสียงเต็มไปด้วยความกังวลที่ข่มกลั้นไม่อยู่

หลินสวินยิ้มอย่างราบเรียบนิ่งสงบ

ตอนนี้มีกายมรรคไม้เขียว แม้เจอปัญหาอะไรเขาก็ไม่กลัวที่จะเปิดเผยศักยภาพบางส่วนแล้ว!

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset