Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1844 ด่านแรกของระดับจักรพรรดิ ไร้ผูกมัด

กึ่งจักรพรรดิฮว่าเตี่ยนถูกฆ่า!

จักรพรรดิกระบี่วายุและเหลียงชวนผู้อาวุโสชั้นสูงของหอเสียงสวรรค์ต่างแสดงจุดยืน ปกป้องอวี่เสวียนด้วยตนเอง!

ผู้ฝึกปราณทุกคนที่รู้เรื่องนี้ต่างมีอาการปากอ้าตาค้าง ราวกับได้ยินเรื่องพิลึกพิลั่นที่สุดในปฐพีเรื่องหนึ่ง

อวี่เสวียนเจ้าคนที่เรียกคลื่นลมมากมาย ถูกมองเป็นต้นตอแห่งหายนะคนนี้ ไม่เพียงแต่รอดชีวิต หนำซ้ำยังรอดแบบดีกว่าที่ใครก็ตามคาดการณ์ไว้อีกด้วย!

อย่างน้อยนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บนยานลมกรดแห่งนี้ก็ไม่มีใครกล้าไม่หวังดีต่อเขาอีก!

“ตอนนั้นเกิดเรื่องอะไรกันแน่ เหตุใดถึงทำให้จักรพรรดิกระบี่วายุกับผู้อาวุโสเหลียงชวนกลับลำเปลี่ยนท่าทีกันหมด”

“บนตัวอวี่เสวียนนี่จะต้องมีความลับที่ไม่อาจให้ใครรู้เป็นแน่!”

เกิดเสียงวิพากวิจารณ์มากมายไปชั่วขณะ

ขณะเดียวกันหลินสวินก็สีหน้าจนปัญญา

หลังจากหลิ่วชิงเยียนรับรู้ข่าวสารต่างๆ ที่แพร่สะพัดในภายนอกก็เหมือนถูกสาปไม่ปาน หลังจากอึ้งงันไปเนิ่นนานก็เริ่มเอ่ยถามคำถามสารพัด

มีอาการเหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็น

ที่พออธิบายได้หลินสวินล้วนอธิบายหมดแล้ว แต่เรื่องเกี่ยวกับศิษย์พี่สิบเอ็ดผู่เจินและสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น กลับไม่สามารถเล่าให้หลิ่วชิงเยียนฟังโดยละเอียด

หลิ่วชิงเยียนเห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ เริ่มตะล่อมหว่านล้อม ขาดแค่ไม่ได้กระเซ้ากระซี้ออดอ้อนแล้ว

ทว่าหลินสวินก็ได้แต่พูดวกวนกำกวมอย่างจนปัญญา ปิดปากแนบแน่น

ตอนนี้สถานะของเขายังเป็นอวี่เสวียน แม้จะเปิดเผยพลังมากมาย สร้างข้อสงสัยไม่น้อยแล้ว แต่อย่างน้อยก็ยังไม่มีใครล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเขา

สุดท้ายหลิ่วชิงเยียนก็ไม่ได้ถามถึงที่สุด

ทว่าสายตาที่นางมองหลินสวินแตกต่างออกไปแล้ว ทำหน้าประมาณว่าช้าเร็วข้าก็ต้องล่วงรู้ความลับของท่านให้แน่ชัดให้ได้ ทำเอาหลินสวินขยับตัวลำบากไปพักหนึ่ง

นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชีวิตของหลินสวินก็เปลี่ยนเป็นสงบสุขหาใดเปรียบ

นอกจากฝึกปราณ ก็ใคร่ครวญเรื่องหลังจากไปถึงโลกใหญ่หงเหมิง

บางครั้งเขาก็จะออกไปข้างนอก แต่ไม่ว่าเขาปรากฏตัวที่ไหน ล้วนพบเจอสายตาเจือแววแปลกๆ มากมายตลอดทาง

มีทั้งเคารพยำเกรง มีทั้งสงสัยใคร่รู้ และมีทั้งกังขาไม่เข้าใจ

รสชาตินั้นทำเอาเขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวประหลาด

ก็แม้แต่เด็กหนุ่มชุดป่านที่เรียกตัวเองว่าเสวียนจิ่วอิ้นยังนอนฟุบบนกำแพง งึมงำพร่ำบ่นข้อสงสัยมากมายออกมา อย่างเช่น…

“พี่ชาย เจ้าเป็นผู้สืบทอดของผู้ยิ่งใหญ่คนใดกันแน่”

“พี่ชาย ผู้อาวุโสที่ชอบพูดถึงเหตุผลคนนั้นเป็นศิษย์พี่ของเจ้าจริงๆ หรือ”

“พี่ชาย เจ้าจะโทษว่าข้าเห็นคนตายแล้วไม่ช่วยไม่ได้เชียว ข้าน่ะมีใจแต่ไร้กำลังจริงๆ แต่จะว่าไปแล้ว เจ้าไม่อาจเผยความลับกับข้าว่าเป็นทายาทของเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่หรือไม่กันแน่หรือ”

“พี่ชาย…”

หลินสวินย่อมไม่สามารถตอบคำถามได้ จึงหมกตัวอยู่ในเรือนพักดื้อๆ ไม่ออกไปข้างนอกอีก ทุ่มเทแรงกายแรงใจฝึกปราณ

ช่วงระหว่างนี้จวงอวิ้นจื้อก็เคยมาหา บอกหลินสวินว่าทางฝั่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์อย่างไรก็ยังเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย

หลังจากไปถึงโลกใหญ่หงเหมิง ข่งอวี้ผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ย่อมไม่อาจจบเรื่องง่ายๆ เป็นแน่

สำหรับเรื่องนี้หลินสวินไม่ได้พูดมากความอะไร

ข่งอวี้นี่ไม่เพียงเป็นผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ ยังเป็นทายาทเลือดบริสุทธิ์เผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งอีกด้วย สถานะไม่ธรรมดาถึงที่สุด

แต่หลินสวินไม่แยแสสักนิด

ควรรู้ว่าจักรพรรดิอสูรมารตู๋เทียนบรรพบุรุษของข่งอวี้ ถูกศิษย์พี่เก้าเก่ออวี้ผูกำราบไว้ไม่รู้กี่ชั่วนาตาปี!

ยามนี้พลังจิตของจักรพรรดิอสูรมารตู๋เทียนยังถูกกำราบอยู่ในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด ไม่พ้นสิบปีก็จะถูกหลอมสิ้น!

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีหรือหลินสวินจะสนใจการคุกคามของข่งอวี้

จักรพรรดิกระบี่วายุเองก็เคยมาหาเช่นกัน ท่าทีสุภาพยิ่ง ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้ปฏิบัติต่อหลินสวินเหมือนคนด้อยอาวุโสคนหนึ่ง

เขาตั้งใจจะชดเชยบางอย่างให้หลินสวิน

ถึงแม้ศิษย์พี่สิบเอ็ดผู่เจินจะไว้ชีวิตเขา แต่กลับเอ่ยว่าต้องชดเชยให้หลินสวิน

จักรพรรดิกระบี่วายุไม่กล้าไม่เห็นสำคัญ

แต่สำหรับเรื่องนี้หลินสวินกลับส่ายหน้า บอกว่าเขาไม่ต้องการการชดเชยอะไร

สิ่งนี้ทำให้จักรพรรดิกระบี่วายุจนปัญญาไปพักหนึ่ง

ไม่ชดเชย?

นี่ได้ที่ไหน!

หมู่นี้ปัญหาเกี่ยวกับการชดเชยแทบจะกลายเป็นปัญหากวนใจอย่างหนึ่งของจักรพรรดิกระบี่วายุ ชดเชยน่ะต้องชดเชยอยู่แล้ว แต่ควรชดเชยอย่างไร เขากลับสรุปไม่ได้

เหมือนอย่างตอนแรกที่เขาไปฆ่าฮว่าเตี่ยน แสดงท่าทีปกป้องที่มีต่อหลินสวิน อันที่จริงก็คือการเริ่มชดเชยให้หลินสวินแล้ว

แต่เห็นได้ชัดยิ่งว่าสิ่งเหล่านั้นยังไม่พออีกหลายโข!

“ควรชดเชยอะไรกันแน่ วิชายุทธ์? เกรงว่าเขาคงไม่ขัดสนสักนิด สมบัติ? มีศิษย์พี่ระดับจักรพรรดิแบบนั้นอยู่ทั้งคน ในมือเจ้าหมอนั่นมีหรือจะขาดสมบัติ”

กลางเรือนพัก จักรพรรดิกระบี่วายุกลัดกลุ้มยิ่ง

“ผู้อาวุโส ศิษย์พี่ของอวี่เสวียนคนนั้นจากไปนานแล้ว เหตุใดท่านกลับสาละวนอยู่กับเรื่องชดเชยนี่”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยไม่เข้าใจยิ่ง

ผู้อาวุโสตระกูลตนเป็นถึงจักรพรรดิกระบี่วายุที่ชื่อเสียงสะท้านฟ้าดารา อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายชาวนาคนนั้น แต่ถึงอย่างไรก็เป็นระดับจักรพรรดิแท้จริงคนหนึ่ง!

ตอนนี้ชายชาวนาก็จากไปแล้ว เรื่องชดเชยไยต้องจริงจังและขมักขะเม้นเช่นนี้ด้วย

“นางหนู เจ้าไม่เข้าใจ”

จักรพรรดิกระบี่วายุทอดถอนใจเบาๆ “เส้นทางแห่งระดับจักรพรรดิอุปสรรคหนักหนา หาได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด ข้าแจ้งมรรคเป็นจักรพรรดิมาสามหมื่นปี ทว่าจนกระทั่งยามนี้ก็เพิ่งสัมผัสบานประตูแห่ง ‘ไร้ตัวข้า ไร้ฟ้าดิน’ เท่านั้น”

“นี่เป็นเพียงด่านแรกของเส้นทางแห่งระดับจักรพรรดิเท่านั้น นามว่า ‘ไร้ผูกมัด’ นับแต่อดีตสืบมา ไม่ว่าผู้เหยียบย่างระดับจักรพรรดิคนใดก็ตามในใต้หล้า มีคนเกินกว่าครึ่งถูกขวางอยู่หน้าด่านแรกนี้”

ฟังถึงตรงนี้จินเทียนเสวียนเยวี่ยยังอึ้งไป

แจ้งมรรคเป็นจักรพรรดิสามหมื่นปี กลับสัมผัสได้เพียงบานประตูด่านแรกของระดับจักรพรรดิเท่านั้น?

เช่นนี้เส้นทางแห่งระดับจักรพรรดินี้จะตรากตรำปานใดกัน

เสียงของจักรพรรดิกระบี่วายุต่ำลึก “เหมือนอย่างภิกษุเฒ่าตู้คงนั่น อย่ามองว่าครอบครองสองร่างฌานสว่างมืดมิด และฝึกฝนวิชาหมื่นพันร่างแปลงที่สืบทอดมาจากบรรพจารย์พุทธกษิติครรภ์ แต่บนเส้นทางแห่งระดับจักรพรรดิก็ยังอยู่ในขั้นที่ไม่ต่างจากข้า”

“ส่วนหญิงชราที่อยู่ข้างกายเด็กหนุ่มแซ่เสวียนนั่นอาจจะร้ายกาจกว่าหน่อย แต่อย่างมากที่สุดก็อยู่แค่ในด่านที่หนึ่งของระดับจักรพรรดินี่เท่านั้น”

“แต่ชายชาวนานั่นต่างออกไป”

กล่าวถึงตรงนี้นัยน์ตาจักรพรรดิกระบี่วายุฉายแววสะท้านไหวอย่างยากสังเกต จมสู่ความเงียบงัน

รอเนิ่นนานก็ยังไม่ได้คำตอบ จินเทียนเสวียนเยวี่ยจึงอดเอ่ยถามไม่ได้ “ผู้อาวุโส หรือว่าเขาก้าวข้ามด่านที่หนึ่งของระดับจักรพรรดินี้ไปแล้ว”

จักรพรรดิกระบี่วายุส่ายหน้า “ผู้ที่ก้าวข้ามด่านหนึ่งระดับจักรพรรดิ ไม่สามารถซัดสามหมัดก็กำราบภิกษุเฒ่าตู้คงได้อย่างง่ายดายหรอก”

ประโยคเดียวทำเอาจินเทียนเสวียนเยวี่ยสูดหายใจเฮือก “หรือว่าระดับขั้นของเขาสูงยิ่งกว่า”

จักรพรรดิกระบี่วายุกล่าว “ใช่ สูงยิ่งกว่า ส่วนสูงถึงขั้นไหนนั้น จากระดับของข้าไม่สามารถมองออก”

กล่าวถึงตรงนี้ในใจจักรพรรดิกระบี่วายุก็ทอดถอนใจไปพักหนึ่ง

ตอนนั้นที่เขาเป็นฝ่ายก้มหัวยอมแพ้ก็เพราะเหตุนี้ ไม่มีวิธีต่อต้านเลยสักนิด หาไม่ก็ต้องตาย!

ระดับจักรพรรดิดูเหมือนยิ่งใหญ่ผ่าเผย อันที่จริงในสายตา ‘คนร่วมมรรค’ ระดับเดียวกัน ระดับนี้… กลับเป็นความยากในความยาก!

หากบอกว่าระดับจักรพรรดิเป็นยอดเขาที่อันตรายหาใดเปรียบ เช่นนั้นจักรพรรดิกระบี่วายุอย่างเขา สามหมื่นปีมานี้ก็แค่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวเชิงเขามาโดยตลอด

ส่วนชายชาวนานั่นเกรงว่าคงไต่ขึ้นบนภูเขาลูกนี้แล้ว ส่วนจะอยู่ตำแหน่งไหนนั้น จักรพรรดิกระบี่วายุเองก็ไม่อาจมองเห็นได้

จินเทียนเสวียนเยวี่ยเอ่ยถาม “ผู้อาวุโส แต่ต่อให้คนผู้นั้นแข็งแกร่งแค่ไหน สุดท้ายก็ไม่ได้ทำให้พวกเราลำบากเกินไปไม่ใช่หรือ”

“เจ้าไม่เข้าใจ”

จักรพรรดิกระบี่วายุกล่าว “ข้ากล้ามั่นใจว่าตอนนั้นเขามีความคิดจะฆ่าข้า แต่กลับเปลี่ยนใจในตอนสุดท้าย หากข้าเดาไม่ผิด ต้องเป็นเพราะบรรพบุรุษของพวกเราแน่”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยอึ้งไป นางจำได้ชัดว่าชายชาวนาคนนั้นเคยกล่าวว่า ‘เจ้ามีบรรพบุรุษที่ดีคนหนึ่ง’

“คงไม่ใช่ว่า… อีกฝ่ายยังรู้จักบรรพบุรุษด้วยกระมัง”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยท่าทางสะท้านสะเทือน

บรรพบุรุษตระกูลจินเทียน ก็คือจักรพรรดิขาวดึกดำบรรพ์ บุคคลเทียมฟ้าที่เรียกได้ว่าอยู่เหนือสุดคนหนึ่ง เป็นตำนานผู้สร้างเมืองจักรพรรดิขาวกับมือ!

ต่อหน้าเขา จักรพรรดิกระบี่วายุก็เป็นได้เพียงทายาทรุ่นที่สิบหกของตระกูลจินเทียนเท่านั้น ลำดับอาวุโสห่างกันลิบลับ

“ต่อให้ไม่รู้จัก ก็ต้องเป็นเพราะเห็นแก่หน้าของบรรพบุรุษเรา”

จักรพรรดิกระบี่วายุกล่าว “ภายใต้สถานการณ์ระดับนี้ มีหรือข้าจะไม่เก็บเอาคำพูดของอีกฝ่ายมาใส่ใจ”

กล่าวถึงตรงนี้ก็มองจินเทียนเสวียนเยวี่ยที่มีมาดสง่าผ่าเผย ผิวพรรณเนียนผ่องซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าตน จู่ๆ หัวใจของจักรพรรดิกระบี่วายุก็ไหวกระตุก

“เสวียนเยวี่ย เจ้าเคยต่อสู้กับอวี่เสวียนคนนี้ คิดว่าความแข็งแกร่งของเขาเป็นอย่างไร”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยใคร่ครวญแล้วกล่าว “ได้แต่ใช้คำว่าลึกล้ำสุดหยั่งมาบรรยาย ข้าถึงขั้นสงสัยว่าเขาสามารถขึ้นสู่สามสิบอันดับแรกของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เขายังอยู่แค่ระดับมกุฎราชันอริยะขั้นต้น ภายหน้าหากปราณทะยานสูง ความแข็งแกร่งของเขามีแต่จะยิ่งน่ากลัวขึ้นเท่านั้น!”

กล่าวถึงตรงนี้นางทอดถอนใจเบาๆ “ถึงแม้ข้าจะถูกเขาโจมตีพ่ายแพ้ แต่กลับไม่อาจไม่ยอมรับ ความสำเร็จของเขาในระดับมกุฎราชันอริยะอยู่เหนือกว่าข้าช่างหนึ่ง”

จักรพรรดิกระบี่วายุนิ่งเงียบครู่หนึ่งค่อยกล่าวว่า “เสวียนเยวี่ย บางครั้งเรื่องร้ายก็สามารถกลายเป็นวาสนาอย่างหนึ่งได้เหมือนกัน ตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้ เจ้า… ยินดีจะลองสู้ดูสักตั้งหรือไม่”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยอึ้งไป กล่าวว่า “ผู้อาวุโสโปรดชี้แนะ”

และในวันนั้นเอง ยานลมกรดที่เดิมทีค่อยๆ กลับสู่ความเงียบสงบ ก็เกิดเสียงฮือฮานับไม่ถ้วนอีกครั้งเพราะข่าวหนึ่ง…

“จินเทียนเสวียนเยวี่ย เทพธิดาแห่งยุคของตระกูลจินเทียนอยากจะติดตามฝึกปราณอยู่ข้างกายอวี่เสวียน เฝ้ารออยู่หน้าประตูของอวี่เสวียนเพื่อการนี้อย่างไม่ย่อท้อ!”

ทันทีที่ข่าวกระจายออกไป ทุกคนต่างทึ่มทื่อ

เผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนยิ่งใหญ่ปานใด ทอดสายตามองทั่วทางเดินโบราณฟ้าดารา ก็ยังเป็นตระกูลใหญ่เก่าแก่ชั้นหนึ่ง ให้กำเนิดระดับจักรพรรดิออกมาหลายคน!

และจินเทียนเสวียนเยวี่ยก็เป็นดาวจรัสแสงที่พราวตาที่สุดในรุ่นปัจจุบัน อย่างการเดินทางครั้งนี้ของนาง ข้างกายถึงขั้นมีจักรพรรดิกระบี่วายุคอยติดตาม คอยปกป้องคุ้มครองนาง

แต่ยามนี้นางถึงกับต้องการติดตามอยู่ข้างกายอวี่เสวียน ทำหน้าที่เป็น ‘ผู้ติดตาม’ คนหนึ่ง!

นี่น่าตกใจเกินไป!

“เทพธิดาเสวียนเยวี่ยนาง… เหตุใดนางถึงเป็นเช่นนี้…”

ผู้ฝึกปราณที่เทิดทูนบูชาและลุ่มหลงนางมาโดยตลอดไม่รู้เท่าไหร่ต่างใจสลายกับเรื่องนี้

“อวี่เสวียนนี่ช่างโชคดีเป็นบ้า!”

และมีเสียงริษยาอิจฉามากมายดังขึ้นเช่นกัน

จินเทียนเสวียนเยวี่ยไม่เพียงแต่สง่าโดดเด่น ดุจดั่งเทพธิดาตำหนักจันทรา ชาติกำเนิดของนางก็สูงส่งหาใดเปรียบ หากได้รับการชายตาแลจากนาง ล้วนสามารถทำให้ผู้คนปลาบปลื้มสุดขีด

แต่ยามนี้นางถึงกับเป็นฝ่ายอยากติดตามฝึกปราณอยู่ข้างกายอวี่เสวียนคนนั้น เรื่องนี้จะให้ใครยอมรับในทันทีได้กัน

“ไม่ ข้าไม่ยอม!”

คนบางส่วนยิ่งตะโกนลั่นกัดฟันกรอด คิดว่าอวี่เสวียนไม่คู่ควรให้จินเทียนเสวียนเยวี่ยทำเช่นนี้ด้วยสักนิด

แต่ไม่นานก็มีคนมากมายโจมตีอย่างไม่เกรงใจ “ไม่เห็นหรือ ผู้อาวุโสจักรพรรดิกระบี่วายุยังไม่ปฏิเสธ เจ้านับเป็นตัวอะไร มีสิทธิ์อะไรถึงไม่ยอม”

สรุปแล้วการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของจินเทียนเสวียนเยวี่ยเรียกเสียงฮือฮาขึ้นมากมาย คนนับไม่ถ้วนตกตะลึง ยากจะทำใจเชื่อ

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนต่างตะลึงอึ้งค้างคือ…

อวี่เสวียนถึงกับปฏิเสธ!

ว่ากันว่าแม้แต่ประตูใหญ่ของเรือนพักก็ยังไม่ได้เปิดออก ปล่อยให้สาวงามแห่งยุคอย่างจินเทียนเสวียนเยวี่ยยืนโดดเดี่ยวอยู่นอกประตู…

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset