Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1857 หินวิญญาณเร้นฟ้าใส

ฟ้าเพิ่งสางก็มีเงาร่างของผู้ฝึกปราณมากมายจากทั่วสารทิศ รวมตัวมุ่งตรงไปที่หอสมบัติทุ่งบูรพาแล้ว

หอสมบัติทุ่งบูรพาเป็นกิจการที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ‘สำนักยุทธ์ทุ่งบูรพา’ สำนักอันดับหนึ่งแห่งแคว้นเขียว กระจายอยู่ทั่วทุกเมืองในแคว้นเขียว

และครั้งนี้สมบัติที่ใกล้จะเปิดประมูลในหอสมบัติทุ่งบูรพาของเมืองหลินอันก็เรียกได้ว่าหายาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีเจตวัตถุที่มาจากแดนแห่งปริศนาก้อนหนึ่งด้วย ย่อมดึงดูดผู้ฝึกปราณมากมายเป็นธรรมดา

ถึงขั้นที่ว่ามีผู้ฝึกปราณไม่น้อยรีบเร่งมาจากที่อื่นก่อนล่วงหน้า

เมื่อหลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยออกเดินทาง ตลอดทางยังเจอบุคคลระดับอริยะมากมาย ทั้งอริยะแท้ มหาอริยะ ราชันอริยะ…

ภายในนั้นยังมีพวกร้ายกาจที่เหยียบย่างในมกุฎบางส่วนด้วย!

นี่ทำให้หลินสวินไม่อาจไม่ทอดถอนใจ โลกใหญ่หงเหมิงสมเป็นโลกใหญ่อันดับหนึ่งของทางเดินโบราณฟ้าดาราจริงๆ

เมืองหลินอันนี้เป็นแค่หนึ่งในเมืองเรือนหมื่นของแคว้นเขียวเท่านั้น แต่ยังรวบรวมบุคคลระดับอริยะไว้มากเช่นนี้ เหตุการณ์นี้ในโลกอื่นคงไม่อาจพบเห็นได้อย่างสิ้นเชิง

‘คุณชาย ข้าก็สังเกตเห็นว่าตั้งแต่พวกเราก้าวออกจากโรงเตี๊ยมจนถึงตอนนี้ ตลอดทางมีคนไม่น้อยลอบจับจ้องพวกเราอยู่’

ข้างๆ จินเทียนเสวียนเยวี่ยสื่อจิตเสียงเบา

นางอยู่ในชุดเรียบง่าย ร่างระหงและสูงโปร่งเป็นอย่างยิ่ง มวยผมยาวดุจสีหมึกทั้งศีรษะเอาไว้ ลำคอระหงขาวดุจหิมะ ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา มีเพียงใบหน้างามดั่งเซียนที่ผ่านการปลอมตัว ดูไปแล้วก็เพียงแค่ชดช้อย ไม่อาจพูดได้ว่าชวนตะลึง

แต่กลิ่นอายสูงส่งที่แผ่ออกมายามนางเคลื่อนไหว ยังคงดึงดูดความสนใจไม่น้อยตลอดทาง

นี่ก็คือท่วงท่าสง่างามของหญิงงามแห่งยุค ไม่ได้งามแค่เรือนร่าง ยังมีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์และบุคลิกเฉพาะตัวแผ่ออกมาด้วย

หลินสวินขานรับว่าอืมคำหนึ่งแล้วกล่าว ‘ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ’

เมื่อมาถึงหอสมบัติทุ่งบูรพา ก็มีคนเยอะมากจนคึกคักเป็นพิเศษอยู่ก่อนแล้ว

ทว่ายามจินเทียนเสวียนเยวี่ยหยิบป้ายผ่านประตูสองแผ่นออกมา ทั้งสองคนก็เข้าไปข้างในได้อย่างราบรื่น

ภายในลานประมูลกว้างใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ปกคลุมด้วยกระบวนผนึกทบเป็นชั้นๆ ราวกับชามยักษ์ที่คว่ำลงมา

“แขกพิเศษทั้งสองเชิญตามข้ามา”

หญิงรับใช้งามงดคนหนึ่งนำทางอยู่ข้างหน้า

หลินสวินเพิ่งรู้ว่าป้ายผ่านประตูสองแผ่นที่จินเทียนเสวียนเยวี่ยซื้อมาก็คือที่นั่งของแขกพิเศษ มีห้องส่วนตัวโดยเฉพาะ สามารถตัดขาดการตรวจสอบของจิตรับรู้ได้

และแค่ป้ายผ่านประตูสองแผ่นนี้ก็มีมูลค่าถึงสองหมื่นผลึกมรรคแล้ว!

ราคานี้สามารถซื้อสมบัติอริยะที่มีคุณภาพค่อนข้างดีชิ้นหนึ่งได้เลยทีเดียว

ไม่ทันไรทั้งลานงานประมูลก็มีผู้ฝึกปราณนั่งจนเต็ม ตามการประเมินโดยคร่าวของหลินสวิน เพียงแค่ขายป้ายผ่านประตูก็ทำให้หอสมบัติทุ่งบูรพาได้เงินเกือบสามล้านผลึกมรรคแล้ว!

ผ่านไปอีกประมาณครึ่งเค่อหลังจากหลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยเข้าไปนั่งในห้องรับรองแล้ว

หญิงสาวงามงดที่แต่งกายเหมาะเจาะ อากัปกิริยาคล่องแคล่วคนหนึ่งเดินขึ้นไปบนแท่นประมูล ริมฝีปากแดงเม้มเบาๆ นัยน์ตายิ้ม

“ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่หอสมบัติทุ่งบูรพา ผู้น้อยผูหลันจือ เป็นผู้ดูแลงานประมูลในครั้งนี้”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง ในที่นั้นก็มีเสียงร้องอุทานดังขึ้น

“ที่แท้ก็เป็นนาง ผู้อาวุโสผูหลันจือแห่งสำนักยุทธ์ทุ่งบูรพา มกุฎราชันอริยะคนหนึ่งที่ชื่อเสียงโด่งดังทั่วแคว้นเขียว”

ใครต่างไม่คาดคิดว่าแค่งานประมูลเท่านั้น แต่ถึงกับเชิญมกุฎราชันอริยะคนหนึ่งมาทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลงานประมูล! เพียงแค่นี้ก็ชวนตะลึงมากเกินไปแล้ว

แต่ก็ด้วยเหตุนี้ที่ทำให้ผู้คนเฝ้ารอการประมูลที่ใกล้จะเริ่มหลังจากนี้ยิ่งกว่าเดิม

“งานประมูลครั้งนี้จะมีสมบัติสามสิบเจ็ดชิ้นเปิดประมูลทีละอัน แม้ว่าจำนวนจะน้อยไปบ้าง แต่ผู้น้อยกล้ารับรองว่าสมบัติแต่ละอย่างจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง”

“เอาเถิด ขอไม่พูดพร่ำทำเพลง ตอนนี้ก็เริ่มนำสมบัติชิ้นแรกขึ้นมาได้”

เมื่อเสียงของผูหลันจือดังขึ้น สาวใช้คนหนึ่งก็ประคองกล่องสำริดใบหนึ่งไว้ด้วยสองมือและก้าวขึ้นมาบนแท่นประมูล

ทั้งที่นั้นเปลี่ยนเป็นเงียบสงบลง ทุกสายตาต่างมองตามไป

หอสมบัติทุ่งบูรพาไม่ทำให้คนผิดหวังดังคาด แค่เพียงเริ่มต้นก็จุดชนวนความกระตือรือร้นของผู้ฝึกปราณในที่นั้นจนนำมาซึ่งความปั่นป่วนแล้ว

“ดาบหงส์มังกรตะวันจันทรา สมบัติหายากแห่งบรรพกาล ระดับคุณภาพเหนือกว่าสมบัติอริยะทั่วไป สิ่งที่หาได้ยากคือนี่เป็นสมบัติล้ำค่าคู่หนึ่งที่ส่งเสริมกันอย่างเด่นชัด ได้รับการกล่าวขานว่าทลายปราการของห้วงอากาศว่างเปล่าได้ พลานุภาพเกินคาดเดา”

เสียงของผูหลันจือเพิ่งแผ่วลงก็ชักนำมาซึ่งความฮือฮา ทุกคนล้วนไหวสะท้าน แววตาต่างเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นมา

ต้องรู้ว่าสิ่งใดที่ถูกเรียกว่าสมบัติหายากแห่งบรรพกาล ย่อมผ่านการตกตะกอนของกาลเวลามาแสนปีขึ้นไปทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสมบัติล้ำค่าคู่หนึ่งที่เสริมส่งกันและกันด้วย!

สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดกลับเป็นอานุภาพของมันที่ทลายปราการของห้วงอากาศว่างเปล่าได้ นี่ก็หมายความว่าต่อให้ติดอยู่ในสภาพสิ้นหวังบางอย่าง ก็ใช้สมบัตินี้แหวกหนทางรอดออกมาได้ นี่จะไม่ให้ผู้คนใจเต้นได้อย่างไร

ยามผูหลันจือเปิดกล่องสำริดนั่นออกก็เผยให้เห็นดาบคู่หนึ่งที่มีแสงศักดิ์สิทธิ์งามตระการไหลวน วิวัฒน์ออกมาเป็นลักษณ์แห่งตะวันจันทรา มีเสียงมังกรคำรนหงส์คำรามดังก้องอยู่รางๆ เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ

เห็นดังนี้หลายคนต่างเผยความรู้สึกหลงใหล เสียงลมหายใจที่กระชั้นถี่ก็ดังขึ้นต่อเนื่องเป็นระลอก

แม้แต่คนใหญ่คนโตบางคนก็ยังเผยความรู้สึกสนใจ

นี่เป็นสมบัติชั้นดีคู่หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย!

ผูหลันจือยิ้มเล็กน้อย นางพอใจกับการตอบสนองเช่นนี้มาก “ราคาประมูลเริ่มต้นที่สามแสนห้าหมื่นผลึกมรรค ทุกครั้งที่เพิ่มราคาต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นผลึกมรรค”

“สี่แสน!”

เสียงเพิ่งสิ้นสุดก็มีคนกล่าวอย่างร้อนอกร้อนใจ ทั้งยังเพิ่มราคาอีกห้าหมื่นในชั่วขณะเดียว ชักนำมาซึ่งความอึกทึกทันที

“สมบัติคู่นี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่ข้าต้องการในตอนนี้พอดี ห้าแสน!”

“ขออภัย สมบัติคู่นี้ข้าต้องเอามาให้ได้ หกแสน!”

ในลานงานประมูล เสียงประชันราคาดังต่อเนื่องเป็นระลอก แค่ชั่วขณะเดียวก็ดันราคาของดาบหงส์มังกรตะวันจันทราคู่นี้จนสูงลิ่ว คึกคักหาใดเปรียบ

สุดท้ายสมบัติคู่นี้ก็ถูกคนใหญ่คนโตที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งประมูลไปได้ ค่าตอบแทนที่จ่ายคือหนึ่งล้านสามแสนผลึกมรรค

หลินสวินเพิ่งเข้าร่วมงานประมูลเป็นครั้งแรก พอเห็นกระบวนการทั้งหมดที่สมบัติชิ้นแรกนี้ถูกประมูลไปกับตาก็รู้สึกแปลกใหม่เป็นอย่างยิ่ง

แม้ว่าดาบหงส์มังกรตะวันจันทรานั้นจะอัศจรรย์ แต่ยังไม่เข้าตาเขา ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ต้นจนจบจึงไม่เคยประชันราคา

จินเทียนเสวียนเยวี่ยก็สงบผ่อนคลายอยู่ตลอด นางมีความรู้ที่กว้างขวาง ยังอธิบายเคล็ดลับยามประมูลบางอย่างแก่หลินสวินเป็นครั้งคราวด้วย

“ของร่วมประมูลชิ้นที่สอง เป็นคราบของอริยบุคคลบรรพกาลที่สมบูรณ์”

ไม่นานผูหลันจือก็นำสมบัติชิ้นที่สองออกมา

“คราบอริยบุคคลบรรพกาล! นี่ไม่ใช่ซ่อนนัยเร้นลับของการกลายเป็น ‘อริยบุคคล’ ไว้หรอกรึ”

“ในที่สุดก็ไม่ได้มาเสียเที่ยว! มีเพียงกลายเป็นอริยบุคคลจึงจะก้าวสู่ระดับมกุฎราชันอริยะได้ มีคราบนี้แล้วก็เพียงพอจะเพิ่มความสำเร็จบนหนทางสักการะอริยมรรคไปกว่าครึ่ง”

ในลานประมูลมีเสียงเซ็งแซ่ดังขึ้น คึกคักเป็นอย่างยิ่ง ผู้คนไม่น้อยต่างตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นี่เพิ่งเริ่มประมูล สมบัติชิ้นที่สองก็ยากจะได้พบเห็นเช่นนี้แล้ว จินตนาการได้เลยว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร

แต่ก็มีคนลอบทอดถอนใจ ด้วยกำลังทรัพย์ในมือของพวกเขาไม่มีทางเข้าร่วมการประมูลได้แต่แรก

แรกเริ่มหลินสวินยังสนใจเป็นอย่างมาก แต่นานเข้าก็รู้สึกว่าจืดชืดไร้รสชาติอยู่บ้าง

ด้วยสมบัติที่ถูกนำมาประมูลพวกนั้นแทบไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา

ตามเวลาที่ล่วงเลย สมบัติที่ปรากฏก็ชวนตะลึงขึ้นเรื่อยๆ

“หืม?”

ขณะที่หลินสวินรู้สึกว่าเบื่อหน่ายอยู่บ้าง ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นว่าดาบหักที่ถูกหล่อเลี้ยงไว้ในร่างถึงกับส่งเสียงครวญคร่ำ กระเหี้ยนกระหือรือขึ้นมาทันใด

และบนแท่นประมูลตอนนี้ ผูหลันจือได้นำหินแร่ขนาดเท่ากำปั้นออกมา ปรากฏสีฟ้าใสราวภาพฝัน พื้นผิวมีลายมรรคสีเงินสายแล้วสายเล่า แผ่แสงใสเย็นดั่งดวงดาวหลายสายออกมาตามธรรมชาติ

“หินวิญญาณเร้นฟ้าใส ควบรวมลายมรรควิญญาณเร้นเจ็ดสิบสองสาย เป็นเจตวัตถุชั้นหนึ่งที่ใช้หลอมศาสตราอริยะบริสุทธิ์ ราคาประมูลเริ่มต้นที่สี่แสนผลึกมรรค ทุกครั้งที่เพิ่มราคาต้องไม่น้อยกว่าห้าหมื่นผลึกมรรค”

ผูหลันจือกล่าว

“ราคานี้สูงเกินไปแล้ว”

มีคนส่ายหัว

หลายคนต่างคล้อยตาม

ไม่เหมือนสมบัติอริยะทั่วไป เดิมทีศาสตราอริยะบริสุทธิ์ก็ยากจะได้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง มีแค่สำนักโบราณใหญ่บางแห่งที่ถ่ายทอดวิชาลับในการหลอมศาสตราอริยะบริสุทธิ์

อีกทั้งต่อให้มีวิชาหลอม ยามหลอมขึ้นมาก็ยังยากลำบากหาใดเปรียบ ต้องมีวาสนาและจุดเปลี่ยนจึงจะทำให้ศาสตราอริยะบริสุทธิ์แปรสภาพได้ในแต่ละครั้ง

แม้ว่าหินวิญญาณเร้นฟ้าใสนี้จะล้ำค่า แต่ก็เป็นได้แค่เจตวัตถุเท่านั้น ผู้ฝึกปราณทั่วไปย่อมไม่อยากจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อของสิ่งนี้แน่

ทว่าในงานประมูลครั้งนี้ไม่ขาดผู้ยิ่งใหญ่ที่ฐานะมั่งคั่ง ไม่นานก็มีคนเสนอราคา

“สี่แสนห้าหมื่นผลึกมรรค”

“ห้าแสน”

“ห้าแสนห้าหมื่น”

… เพียงแต่เสียงที่ประชันราคากลับดังกระจัดกระจายเป็นจุดๆ ทั้งยามที่ราคาเหินทะยานถึงแปดแสนผลึกมรรคก็ไม่มีใครประชันราคาแล้ว

เมื่อเห็นว่าสมบัตินี้จะถูกประมูลไป ในที่สุดหลินสวินก็เอ่ยปาก “แปดแสนห้าหมื่น”

“ฮึ!”

คนที่ประชันราคาก่อนหน้านี้ก็เป็นผู้ฝึกปราณที่นั่งอยู่ในห้องรับรองเช่นกัน เสียงหยาบกระด้างทรงพลัง พอเห็นว่าหลินสวินสอดมือเข้ามายุ่งในช่วงสำคัญที่สุดก็เผยความไม่พอใจออกมาทันที

“เก้าแสน” คนผู้นี้เสนอราคาอีกครั้ง

หลินสวินกล่าวโดยไม่ลังเล “หนึ่งล้าน”

เพิ่มราคาหนึ่งแสนผลึกมรรคในครั้งเดียว!

ในลานประมูลมีเสียงสูดหายใจสะท้านดังขึ้นทันที ล้วนคิดไม่ถึงว่าหินวิญญาณเร้นฟ้าใสก้อนหนึ่งจะมีค่าถึงหนึ่งล้านผลึกมรรค นี่คือการใช้เงินเป็นเบี้ยจริงๆ

ต้องรู้ว่าหนึ่งล้านผลึกมรรคสามารถซื้อสมบัติอริยะชั้นยอดชิ้นหนึ่งได้เลย!

“สหาย เจ้าจะช่วงชิงกับข้าจริงหรือ”

เสียงที่หยาบเถื่อนทรงพลังนั้นดูโมโหเดือดดาล

“แค่ประชันราคาเท่านั้น ถ้าเจ้าสู้ไม่ไหวก็ยอมถอยไป ถ้าสู้ไหวก็เสนอราคาต่อ ข้าพร้อมสู้ด้วยถึงที่สุด”

หลินสวินพูดเรียบๆ

ผู้ฝึกปราณในลานประมูลส่งเสียงตื่นเต้น แค่ช่วงชิงหินวิญญาณเร้นฟ้าใสก้อนหนึ่งเท่านั้น ถึงกับต้องยั่วโมโหกันเช่นนี้หรือ

“ฮ่าๆ สู้ไม่ไหวรึ ข้าฝึกปราณมาถึงตอนนี้ ยังไม่เคยมีใครกล้าพูดกับข้าเช่นนี้มาก่อน ถ้าเจ้าอยากสู้ ข้าจะเล่นเป็นเพื่อน!”

เสียงที่หยาบกระด้างนั้นโกรธจัดจนกลายเป็นหัวเราะ “หนึ่งล้านสองแสน!”

ในที่นั้นบังเกิดความปั่นป่วนทันที

มุมปากของผูหลันจือที่ยืนอยู่บนแท่นประมูลยกขึ้นเล็กน้อย คนที่ชอบปรากฏตัวในงานประมูลมากที่สุดก็คือแขกจำพวกนี้ ไม่ว่าจะทำเพื่อหน้าตาหรือใช้อารมณ์ แน่นอนว่าต้องเสนอราคาที่สูงที่สุดออกมา

“คุณชาย ราคานี้มากเกินไปแล้ว ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง”

ในห้องรับรอง จินเทียนเสวียนเยวี่ยก็เตือนหลินสวิน ก่อนหน้านี้นางยังผิดคาดมาก ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าเหตุใดหลินสวินถึงสู้สุดตัวเพื่อเจตวัตถุก้อนหนึ่งเช่นนี้

กลับเห็นหลินสวินยิ้มกล่าว “เจ้าคอยดูไปเถิด”

จากนั้นเขาก็เสนอราคาต่อ “หนึ่งล้านห้าแสน”

ถ้อยคำลอยๆ ทำให้ทั้งลานประมูลเงียบสงัดในพริบตา ผู้ฝึกปราณทั้งหมดต่างมึนงงทันที เกือบจะแคลงใจว่าตนหูฝาดแล้ว

นี่บ้าไปแล้วหรือ

หนึ่งล้านห้าแสนผลึกมรรค สำหรับบุคคลระดับอริยะทั่วไปล้วนเรียกได้ว่าเป็นจำนวนเหลือคณาแล้ว ต่อให้เป็นราชันอริยะก็เกรงว่าคงไม่จ่ายผลึกมรรคมากเช่นนี้ออกมาในชั่วขณะเดียว

แต่ตอนนี้เพียงเพื่อเจตวัตถุก้อนหนึ่งก็ทุ่มเงินไปถึงหนึ่งล้านห้าแสน นี่ทำให้ผู้คนแทบเป็นบ้าจริงๆ มีความรู้สึกงงงวย

เป็นพวกเขาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเกินไป หรือเป็นโลกนี้ที่บ้าคลั่งเกินไปกันแน่

……………..

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset